2 ชั่วโมงผ่านไป....
“โคตรเหนื่อยเลย ไอ้นัทแกเหนื่อยไหมวะ” ยัยอุ้มในสภาพที่หมดแรงนอนกองอยู่ที่พื้นถามฉัน
“ก็พอไหว ปิดเทอมนี้มาเล่นทุกวันไหม
ไหนๆฉันก็ต้องมากับแม่อยู่แล้ว” ฉันถามอุ้มที่ลุกขึ้นมานั่งหอบอยู่
ปิดเทอมสำหรับฉันก็เหมือนไม่ได้ปิด เพราะแม่ต้องมาทำงานที่โรงเรียนอยู่ดี ยิ่งช่วงนี้ที่ปิดเทอมแรกๆ
อาจารย์จะรีบทำคะแนนตัดเกรดกัน ยิ่งวุ่นวายกันสุดๆเลยหล่ะ
“เอาดิ อยากออกกำลังกายเหมือนกัน”
หลังจากที่ฉันถามยัยอุ้มก็ตอบฉันอย่างรวดเร็ว แน่ละยัยนี่ชอบออกกำลังกายมาก
“เห้ยพวกมึง จะกลับกันยัง”
เสียงปาล์มที่ดังมาจากฝั่งสนามบาส และเดินมาพร้อมกันกับตี๋
“ตอนนี้กี่โมงแล้วหล่ะ”
อุ้มที่ยังคงนั่งอยู่ไม่ตอบคำถามของปาล์ม แต่ถามคำถามกับปาล์มกลับ
“สามโมงกว่า เกือบสีโมงแล้ว ทำไมอ่ะ”
ปาล์มที่ดูนาฬิกาก่อนที่จะตอบอุ้มออกไป
“ยังไม่กลับหรอกอีกสักพักอ่ะ รอแม่นัทเลิกงานก่อน”
อุ้มที่เอ่ยตอบกับปาล์ม ก่อนจะถามต่อ “แล้วพวกมึงอ่ะ”
“อีกสักพักเหมือนกัน” ตี๋กับปาล์ม
รวมถึงฉันนั่งหันหน้าเข้าหากันโดยที่ฉันนั่งตรงข้ามกับตี๋ ปาล์มนั่งตรงข้ามกับอุ้ม
“...”
พอปาล์มกับอุ้มไม่คุยกันทั้งกลุ่มก็พร้อมใจกันเงียบ
ซึ่งฉันไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย แต่ก็ไม่รู้จะชวนคุยยังไง เลยตัดสินใจหยิบหูฟังกับมือถือคู่ใจออกมา
“ปกตินัทชอบฟังเพลงหรอ” ปาล์มที่ถามฉันขึ้นมา
ก่อนจะมองมือถือที่เสียบสายหูฟัง พร้อมทั้งเปิดแอพฟังเพลง
“อ๋อ อือ ใช่ พอดีเราติดการฟังเพลงหน่ะ”
ฉันที่ตอบปาล์มออกไปอย่างติดๆ ขัดๆ เพราะปกติปาล์มจะคุยแต่กับอุ้ม
นี่เป็นครั้งแรกที่ปาล์มชวนฉันคุย ถ้าไม่นับการขอดูกระดาษคิดเลขของน้อง
“เหมือนกันเลย กูก็ชอบฟังเพลง ปกติฟังเพลงแนวไหนหรอ”
ปาล์มถามพร้อมกับทำท่าตั้งใจฟัง
“เราชอบพวกเพลงป๊อป อาร์แอนบี
แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงที่ฟังสบายๆหน่ะ” ฉันพยายามตอบออกไปอย่างไม่เกร็ง ความจริงแล้วฉันมักจะทำตัวไม่ถูกกับการคุยกับเพื่อนต่างเพศสักเท่าไหร่
“เอ่อ...แล้วปาล์มฟังแนวไหนหรอ”
ฉันถามออกไปเพราะฉันคิดว่าน่าจะเป็นการทำให้เราต่างคนต่างไม่เกร็ง
”กูฟังร็อค กับสากลอ่ะ” ปาล์มตอบฉัน
ก่อนที่จะหันไปถามอุ้ม “ไอ้อุ้มมึงก็ฟังเพลงใช่ป่ะ”
“เออ ก็ฟังบ้าง” อุ้มตอบอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก
“งั้นพวกเรามาเล่นต่อเพลงกันไหม
ไหนๆก็กำลังพักด้วยมาเล่นแก้เบื่อกันเถอะ” ปาล์มก็ชวนเล่นเกมส์ต่อเพลงขึ้น
“เอ่อ...เราร้องเพลงไม่เพราะหน่ะ ไม่เล่นได้ไหม”
ฉันไม่เคยมั่นใจเลยเวลาร้องเพลง ยิ่งกับเพื่อนที่ไม่สนิทด้วย ยิ่งแล้วใหญ่
“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย กูก็ร้องไม่เพราะ เล่นเถอะ”
ปาล์มบอกกับฉัน ก่อนจะหันไปบอกกับตี๋ “มึงด้วยไอตี๋”
“ได้” ไม่รู้ทำไมฉันถึงตอบออกไปแบบนั้น
“มาโอน้อยออกว่าใครจะได้เริ่มก่อนแล้วหมุนขวานะ”
ปาล์มที่บอกกับทุกคน
“โอ...น้อย...ออก !!!! ” ตี๋...คว่ำ ปาล์ม...คว่ำ อุ้ม...คว่ำ
และฉัน...หงาย!!!! แปลว่าฉันเป็นคนเริ่มหรอ
“นัทเริ่มเลย เพลงอะไรก็ได้” ปาล์มบอกฉันพร้อมกับมองหน้า
“เอ่อ...งั้นเพลงนี้แล้วกัน”
ฉันบอกปาล์มพร้อมกับยิ้มออกไป
“อีกไกลแค่ไหน จนกว่าฉันจะใกล้ บอกที
อีกไกลแค่ไหนจนกว่าเธอจะรักฉัน เสียที
มีทางใดที่อาจทำให้เธอสนใจ ได้โปรด
บอกกับฉันให้รู้ที
ว่าสุดท้ายแล้วฉันยังมีความหมาย”
ไกลแค่ไหนคือใกล้ – Getsunova
“ตัว ย.ยักษ์”
พอฉันร้องจบก็บอกกับอุ้มว่าต้องเริ่มเพลงด้วยตัวอะไร
“ยังคงรักเธอไม่เคยเปลี่ยนไป
จะมีทางใดที่เราจะได้พบกันอีกครั้ง
ฉันนั้นยังมีความหวัง
ติดอยู่กับความหลังไม่ไปไหน
ยังรักได้แค่เธอ”
ยัง – lipta
“ตัว ธ.ธง” พออุ้มก็วนไปตี๋ ฉันที่กำลังมองหน้าตี๋เพราะอยากรู้ว่าตี๋จะร้องเพลงอะไร
ซึ่งฉันคิดถึงเพลง ‘เธอ ของ cocktail’ซึ่งนั่นเป็นเพลงที่ฉันชอบมาก
“เธอและฉันไม่เคยต้องไกล
ในวันนี้ฉันต้องเผชิญความไหวสั่นอยู่ภายในใจ
กลัวการที่เราไกลกัน
กลัวว่าใจจะเปลี่ยนผันไป”
เธอ - cocktail
“ป.ปลา” ฉันกำลังอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน
ไม่ใช้เพราะตี๋เสียงเพราะอะไรขนาดนั้นนะ แต่แค่ตกใจที่คิดถึงเพลงเดียวกัน
“เป็นแฟนเธอ แต่ว่าเธอจะเป็นแฟนใคร ฉันก็ไม่ว่า
เดินตามเธอ ต่อให้เธอจะเดินตามใคร ขอเดินข้างๆ
ไม่ว่าเธอจะเดินไปที่ไหน ตามไปตลอด
(ติดใจจริงๆ) ทุ่มไปเธอก็ทุ่มทิ้ง ไม่ชอบไม่ชอบ
(ติดเธอจังๆ) ไม่เป็นไรเพื่อเธอมากกว่านี้ ใจก็ไม่ถอด”
แฟนพันธ์ท้อ - Timethai
และจบด้วยปาล์ม
วนแบบนี้ไปเรื่อยๆ
“กูว่าเราไปเล่นบาสกันไหม พวกมึงเล่นบาสกันเป็นไหม”
ปาล์มเอ่ยชวนทุกคนอย่างกระตือรือล้น
“ไม่ค่อยเป็น แต่พอจะเคยเล่นมาบ้าง”
อุ้มบอกกับปาล์ม
“เอองั้นเดี่ยวกูสอนมึง
แล้วตี๋สอนนัทแล้วกัน” ฉันได้ยินที่ปาล์มบอกก็ตกใจ พอหันไปหาอุ้ม
ยัยนี่ก็ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ เหอะๆ ไม่คิดจะช่วยฉันเลยสินะ เอาล่ะ คงต่างคนต่างเงียบเลยละ
คงจะเป็นการสอนเล่นบาสแบบภาษาใบ้
เพราะตั้งแต่เล่นเกมส์มานอกจากร้องเพลงก็ไม่เห็นพูดอะไรเลย เงียบจนป่าช้ายังอาย
“นัทเคยเล่นมาก่อนไหม” ผิดคาดแฮะ
คิดว่าจะไม่พูดอะไรเลย แต่กลับเดินมาถามฉันว่าเล่นเป็นไหม
“เอ่อ...เคยเล่นมมาบ้างแต่เล่นไม่ค่อยเป็น”
ฉันอธิบายเพราะฉันเคยเล่นจริงๆแต่ชู้ตไม่เคยลงเลย
“งั้นมาชู้ตเล่นกันไหม เราเองก็สอนไม่คนอื่นไม่เป็น”
ก็พูดได้นี่หน่าทำไมไม่ค่อยพูดกัน
“อือ” ฉันตอบรับตี๋ก่อนที่จะจับลูกบาสชู้ต
แต่ชู้ตเท่าไหร่ก็ไม่ลงห่วงสักลูก “ทำไมไม่ลงเลยนะ” ฉันได้แต่พูดกับตัวเองแก้เก้อ
“เพราะท่าทางผิด แล้วก็แรงไม่ถึงหน่ะ
มานี่เราช่วยจัดท่าให้” ตี๋เดินมาข้างหลังฉันพร้อมทั้งเอามือซ้าย
มือขวาของเขามาจัดท่าของมือซ้าย มือขวาเรา “เอามือขวาประคองลูกบาสไว้แบบนี้
และมือซ้ายประคองลูกไว้แบบนี้” ตอนนี้ฉันอยู่ในท่าทางแบบที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้ทำ
“หลังจากนี้เอาขาขวาไว้ข้างหน้าเล็กน้อย พอตอนจะชู้ตก็ย่อตัวลง ก่อนที่จะออกแรงกระโดดพร้อมทั้งออกแรงสะบัดข้อมือ” ถามว่าฉันได้ยินไหมฉันได้ยินแต่ฉันฟังไม่รู้เรื่องเลย
เอาเป็นว่าลองดูแล้วกัน ‘ฟรึ่บ’
“เห้ย!!!! ลงแล้ว
เราชู้ตลงแล้ว ขอบคุณนะตี๋” ฉันที่ดีใจจนลืมตัวก็กระโดดโลดเต้น
พร้อมทั้งจับมือของตี๋
“...” ตี๋ไม่พูดอะไร แต่ยิ้มให้พร้อมกับมองฉัน
“เอ่อ...โทษที” ฉันที่ได้สติก็ปล่อยมือตี๋
ให้ตายสิขายหน้าแล้วไหมละ ไปจับมือเขาได้ยังไงกันนะ
ฉันที่หันไปเห็นบรรดาอาจารย์ที่ลงมาจากหอประชุมใหญ่ ก็รู้เลยว่าแม่เลิกงานแล้ว
“พวกแกฉันกลับก่อนนะ” ฉันวิ่งไปเก็บกระเป๋าและไม้แบตของฉัน
“พรุ่งนี้เจอกันนะ” ฉันบอกกับตี๋ด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
ก่อนที่จะวิ่งออกไป
ฉันไม่รู้หรอว่าวันพรุ่งนี้จะเจอกันไหมแต่ฉันก็หวังว่าเขาจะมานะ “อุ้ม ปาล์ม
พรุ่งนี้มาเล่นบาสกันอีกนะ” ฉันบอกลาเพื่อนๆก่อนที่จะวิ่งไปที่รถของแม่
‘ตลอดเวลาสองเดือนเศษที่ปิดเทอมใหญ่
พวกเราสี่คนมาที่โรงเรียนทุกๆวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เพื่อมาเล่นกีฬาด้วยกัน
จนกระทั่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการปิดเทอม’
“วันนี้ปิดเทอมวันสุดท้ายแล้วหรอวะ” ยังไม่ทันจะวางจานข้าวก็ได้ยินเสียงบ่นของอุ้มก็ดังขึ้น
“นั่งก่อนค่อยพูดไหม” ฉันที่บอกกับอุ้ม
พร้อมวางจานข้าวผัดและน้ำกระเจี๊ยบก่อนที่จะนั่งลงนั่งลง
“ก็มันไม่อยากเปิดเทอมนี่หว่า”
ยัยนี่ยังคงบ่นไม่หยุดสินะ “ว่าแต่แกเถอะกับตี๋เป็นไงบ้าง ได้คุยกันบ้างไหม” พอยัยอุ้มบ่นเรื่องของตัวเองจบก็ยังจะวนมาถามเรื่องฉันจนได้
“อะไรเป็นไง ก็คุยกันเท่าที่แกเห็นนั่นแหล่ะ”
ก็อย่างที่ฉันบอกอุ้มนั่นแหล่ะฉันคุยกับตี๋แค่ตอนที่มาโรงเรียนเท่านั้น
เพราะฉันไม่กล้าพอที่จะขอเฟสบุ๊คของตี๋
“เอ้า นี่แปลว่าแกไม่อยากคุยต่อหรอ แค่เป็นเพื่อนกันแกก็ไม่เอาหรอ
ฉันว่ามันก็ดีนะ ถึงจะพูดน้อยไปหน่อยก็เถอะ
แต่ฉันว่าตี๋มันก็เหมือนกันแกที่ฉันรู้จักแรกๆเลยนะ”
ฉันได้แต่ตักข้าวผัดเข้าปากแล้วนั่งฟังมันร่ายยาว
บางทีฉันก็คิดนะว่ามันไม่เหนื่อยบ้างหรอ พูดเยอะขนาดนี้
“แล้วจะให้ฉันทำยังไง ใก้เดินดุ่มๆไปบอกว่าตี๋เราอยากคุยด้วยอ่ะ
ขอเฟสบุ๊คหน่อย แบบนี้หรอ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงประชด
“ใช่ แบบนั้นเลย” แต่ยัยอุ้มมันดันเอาจริงนี่สิ
“ถ้าแกไม่กล้าฉันช่วยเอาไหม” เหอะๆ อีกนิดนึงคงจับฉันใส่พานถวายแล้วมั้ง
“ไม่ต้องยุ่ง ถ้ามันจะได้เดี๋ยวมันก็ได้เอง”
ฉันห้ามมันก่อนที่จะก้มหน้าก้มตากินข้าว
“ไงพวกมึง กินข้าวหรอ”
ปาล์มที่กำลังเดินมาที่โต๊ะที่พวกเรานั่งอยู่ ก็ทักพวกเรา
“ไงมึง” อุ้มทักกลับ
“หวัดดี” ฉันก็ตอบกลับ
พร้อมกับมองร่างสูงงที่อยู่ด้านหลังปาล์ม
“...” ไม่คิดจะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นบ้างเลยหรือไงนะ
เป็นการเงียบที่กวนประสาทจริงๆ
“เออวันนี้ปิดเทอมวันสุดท้ายแล้วนะ กูขอเฟสหน่อยดิ”
ปาล์มเอ่ยขึ้นมา ดีเลยจะได้มีข้ออ้างขอเฟสตี๋ด้วย
“ Aumm Nuanlaphat” อุ้มบอกกับปาล์ม
“ของมึงกูมีแล้วไหม จะบอกอีกทำไมก่อน”
ปาล์มยื่นมือถือมาให้ฉัน “ขอเฟสนัทหน่อยได้ไหม”
ฉันรับโทรศัพท์มาแล้วพิมพ์ชื่อเฟสให้ปาล์ม
“ใครจะไปรู้ละ ก็ไม่ระบุชื่อนี่”
อุ้มบ่นอุบก่อนที่จะกินก๋วยเตี๋ยวไก่ของตัวเอง
“เอ่อ เฟสนี้” ฉันยื่นโทรศัพท์คืนปาล์ม
“งั้นเราขอเฟสของตี๋ด้วยเลยได้ไหม” ฉันถามพร้อมกับมองหน้าตี๋
“เราไม่เล่นโซเชียลอ่ะ”
ตี๋ตอบเสียงนิ่งๆก่อนที่จะลุกไปซื้อข้าว นี่ฉันโดนปฏิเสธแล้วใช่ไหมนะ
“อย่าคิดมากนะ มันก็เป็นแบบนี้แหล่ะ” ปาล์มอธิบายกับฉัน
แต่ฉันไม่ได้รู้สึกแบบนั้นสักนิด เอาเถอะ ไม่ให้ก็ไม่เอา
“วันนี้ฉันกลับเร็วนะ”
ในระหว่างที่กินข้าวฉันก็บอกเพื่อนๆทุกคน “ไว้เจอกันตอนเปิดเทอมนะ”
ฉันเอาจานข้าวที่กินเสร็จแล้วไปเก็บ และกำลังจะเดินกลับโต๊ะเจอกับตี๋พอดี
เหอะคนอะไรขี้เก๊กชะมัด ตี๋ที่กำลังเดินผ่านฉันก็พูดขึ้นมา
“ถ้าได้เจอกันอีกครั้ง เราจะให้เฟสเธอ”
ตาคนนี้ทำไมต้องทำตัวลึกลับด้วยนะ จะให้ก็ให้เลยสิจะมาไว้เจอกันอีกอะไรละ
ฉันบ่นในใจก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะ
“กลับก่อนนะพอดีมีธุระต่อ ไว้เจอกันนะ บาย”
ฉันบอกอุ้มกับปาล์ม พร้อมสะพายกระเป๋าเป้คู่ใจก่อนเดินออกไป
ฉันไม่บอกลาตี๋เพราะคิดว่าฉันจะต้องเจออีตาบ้านี่อีกให้ได้ ชอบเล่นเกมส์นักใช่ไหม
ได้เลย งั้นฉันจะเล่นกับนาย ก็แค่หาทางให้เราเจอกันอีกครั้งเองไม่ใช่หรอคอยดูเถอะ
นายท้าทายผิดคนแล้ว!!!!!!!!
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 3
Comments