ตกเย็น แคลร์ได้ทำการเผาปลาที่แซคผู้เป็นลูกชายจับมาเมื่อตอนบ่ายเป็นอาหารเย็น “แซค เอาปลาเผานี่ไปให้พี่ซูด้วยสิลูก ของชอบพี่เขาน่ะ” “คร้าบบบบ องค์ราชินี” “ฮาฮ่าฮ่า แซคนี่ชอบล้อน้าแคลร์อยู่เรื่อยเลย” “นี่เจ้าตัวเล็ก อย่าเพิ่งรีบกินล่ะ รอข้าด้วย” แซครีบจัดการห่อปลาที่แม่เผาใส่ย่าม เพื่อเตรียมนำไปให้ซูซานผู้เป็นแฝดผู้พี่ของตนที่บ้าน “ข้าไม่รับปากนะ ขืนชักช้า จะกินให้หมดเลย” แซครีบวิ่งออกจากบ้านของอลิซมุ่งตรงไปยังบ้านของตน พร้อมทั้งตะโกนบอกอลิซเสียงดังว่า “ไม่ทางหรอกเจ้าตัวเล็ก จะรีบไปรีบกลับ” “เฮ้อ!!! ลูกคนนี้หนิ” แคลร์ถอนหายใจกับความทะโมนของลูกชายตนเอง “เรามากินกันดีกว่าจ้า หนูอลิซ” เธอรีบตอบตกลงเพื่อนสนิทของพ่ออย่างไว “ค่ะ น้าแคลร์”
ไฟตะเกียงดับลง เสียงใบไม้ใบหญ้าเสียดสีกันไปตามลม เสียงแมลงดังประสานขับขานเป็นดนตรีกล่อมให้ผู้คนหลับไหลยามราตรี “แม่!!!” เสียงของอลิซที่เปร่งออกมาพร้อมกับอาการของคนที่สับสน ใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ทำให้แคลร์ที่นอนอยู่ใกล้รีบลุกขึ้นมาปลอบเธอ “ฝันร้ายเหรอจ๊ะ หนูอลิซ” เธอส่ายหน้าพร้อมกับคำถามที่ทำให้แคลร์ถึงกับชะงัก “น้าแคลร์คะ แม่ของหนูคือใครคะ น้าเคยเจอรึเปล่า หนูเคยถามพ่อหลายครั้งแล้ว พ่อบอกแค่ว่า แม่คือผู้หญิงแกร่งที่พยายามปกป้องลูก สักวันนึงลูกจะเข้าใจ มันหมายความว่าไงคะน้าแคลร์” “เอ่อคือ….พ่อหนูพูดถูก แม่ของหนูเป็นหญิงแกร่งที่สวยงามมาก เธอพยายามปกป้องหนู และไม่มีใครทำร้ายหนูได้ แม้ว่าความจริงอาจทำให้หนูตกใจ แต่หนูต้องจำไว้นะอลิซ ว่าไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร ไม่ว่าใครจะมองหนูยังไง จงเชื่อมั่นในตัวแม่ของหนู เพราะแม่ของหนูรักหนูมากนะจ๊ะอลิซ และแม่ของหนูก็ปกป้องหนูมาตลอด เพียงแต่…มันยังไม่ถึงเวลาที่หนูจะต้องรู้ว่าใครคือแม่ของหนู อีกไม่นานเกินรอ หนูจะรู้ว่าใครคือแม่ของหนูจ๊ะ” “หนูต้องเชื่อมั่นในตัวของแม่ใช่มั้ยคะ” “ใช่แล้วจ๊ะ หนูต้องเชื่อมั่นในตัวพ่อกับแม่ของหนูไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เพราะท่านทั้งสอง รักหนูมากนะจ๊ะ” “ค่ะ น้าแคลร์” “นอนต่อเถอะจ๊ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะได้ตื่นมาเตรียมงานพิธีล้างอาถรรพ์และคัดเลือกอัศวินศักดิ์สิทธิ์กัน”
แสงตะวันแตะขอบฟ้า ผู้คนในหมู่บ้านต่างออกมาต้อนรับคณะของพรานป่าประจำหมู่บ้านที่ใจกลางลานหมู่บ้าน เสียงพูดคุยเอะอะดังก้องไปทั่วด้วยความดีใจ ผู้คนต่างมาช่วยกันแบ่งและแจกจ่ายเสบียงที่บรรดาพรานของหมู่บ้านไปหามาได้ไปเก็บรักษาและถนอมมันเอาไว้เพื่อใช้เป็นสเบียงยามหน้าหนาว “สุขสันต์วันเกิดจ๊ะลูกรักของพ่อ” เธอสวมกอดพ่ออย่างแนบแน่น “ขอบคุณค่ะพ่อ หนูรักพ่อนะคะ” “พ่อก็รักลูกจ๊ะ เมื่อคืนหลับสบายดีมั้ย?” “ก็ไม่เชิงค่ะพ่อ มันแปลกกว่าทุกครั้ง หนูฝันเห็นผู้หญิงคนนึง หนูเห็นหน้าเธอไม่ชัดแต่ที่แน่ๆคือ เธอมีดวงตาข้างซ้ายสีฟ้าและข้างขวาสีแดง แล้วเธอก็เรียกหนูว่าลูก มันหมายความว่าอะไรคะพ่อ” “เราค่อยกลับไปคุยกันที่บ้าน จริงสิ! พ่อมีอะไรจะให้ลูกด้วย ป่ะ! เรากลับบ้านกัน” “ค่ะพ่อ” สองพ่อลูกเดินนำสเบียงที่แจกจ่ายกลับบ้านที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ติดริมลำธารที่แบ่งเขตระหว่างหุบเขารุ่งอรุณและหุบเขาป่าต้องห้าม
แสงทองค่อยๆลับขอบฟ้า สองพ่อลูกเดินจูงมือกันไปกลางลานหมู่บ้านเพื่อทำพิธีล้างอาถรรพ์ประจำปี ซึ่งทุกๆปีก็ตรงกับวันเกิดของอลิซด้วย ผู้คนในหมู่บ้านจะช่วยกันทำอาหารมากินเลี้ยงกันก่อนทำพิธีและอวยพรเธอหลังจบพิธีทุกครั้ง พิธีล้างอาถรรพ์ในคืนพระจันทร์สีเลือด เป็นพิธีโบราณอันศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นเพื่อล้างอาถรรพ์จากป่าต้องห้าม และคัดเลือกอัศวินศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่จะปกป้องหมู่บ้านจากคำสาปและสิ่งชั่วร้ายจากป่าต้องห้าม ซึ่งพิธีนี้จะทำตรงบ่อน้ำกลางลานหมู่บ้าน โดยจะมีหญิงสาวพรหมจรรย์ 9 คน จะเป็นคนจุดไฟตะเกียงทั้ง 9 จุดล้อมรอบผู้คนกลางลานหมู่บ้าน เมื่อพระจันทร์สีเลือดขึ้นไปอยู่ตรงกลางท้องฟ้าและสะท้อนเงาลงไปในบ่อน้ำ หญิงพรหมจรรย์ทั้ง 9 จะตักน้ำมาให้ผู้คนในหมู่บ้านดื่มและอาบคนละ 1 ขัน เมื่อครบทุกคนแล้ว ชายหนุ่มที่มีอายุครบ 18 ปี จะทำการหยดเลือดของคนเองลงไปในตะเกียงหินทั้ง 9 ที่หญิงพรหมจรรย์เป็นผู้ถืออยู่ หากชายหนุ่มคนใดได้รับเลือกให้เป็นอัศวิน ตะเกียงหินจะเปล่งแสงสีทองออกมาจากตะเกียงทั้ง 9 และจะมีสัญลักษณ์รูปเปลวเพลิงและหยดน้ำปรากฎขึ้นในวงกลมที่มีเส้นกั้นกลางระหว่างกันที่หน้าผากของผู้ที่ถูกเลือก
เมื่อผู้คนในหมู่บ้านทำพิธีครบหมดทุกคนแล้ว บรรดาหนุ่มอายุ 18 ต่างเดินออกมาเพื่อทำพิธีคัดเลือกอัศวินศักดิ์สิทธิ์ทีละคนจนกระทั่งครบ ซึ่งปีนี้มีเพียงแค่ 3 คนเท่านั้นที่ได้รับคัดเลือกคือ เลโอ ทิม และแซค เลโอเป็นชายหนุ่มที่สุขุมและดุดันเหมือนดั่งสิงโตเจ้าป่า เป็นชายหนุ่มที่มุทะลุไม่ต่างจากแซค ซึ่งต่างจากทิมที่เป็นชายชาตรีหน้าหวาน เรียบร้อย สุภาพ แต่หนักแน่น ทั้งสามคนเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว นั่นทำให้ทั้งสามคนยิ่งสนิทแนบแน่นและเชื่อใจในกันและกันมากยิ่งขึ้น
เมื่อพิธีอันศักดิ์สิทธิ์จบลง ทุกคนต่างเดินมาอวยพรวันเกิดให้กับอลิซ แต่เมื่อทั้งสามอัศวินศักดิ์สิทธิ์ผู้ได้รับคัดเลือกมาหมาดๆเดินเข้ามาล้อมรอบตัวของอลิซเพื่ออวยพรวันเกิดให้เธอพร้อมกันนั้น จู่ๆสร้อยคอที่พ่อของเธอบอกว่าเป็นของแม่เธอมอบเอาไว้ให้เธอสวมในวันที่เธออายุครบ 12ปีนั้น ซึ่งเธอสวมก่อนออกมาจากบ้าน จู่ๆก็สว่างขึ้นมาโดยที่ตรงกลางเป็นสีฟ้าและรอบๆนั้นเป็นสีแดง แล้วไฟตะเกียงทั้ง 9ที่เพิ่งจะดับลงไปก็สว่างขึ้นมาอีกครั้งราวกับว่ายังไม่ได้ดับมัน นั่นทำให้ทุกคนประหลาดใจ และในตอนนั้นเองเมื่อสร้อยคอที่เธอสวมอยู่นั่นส่องสว่างขึ้นมา ดวงตาของเธอทั้งสองข้างค่อยๆเปลี่ยนสีไป ดวงตาข้างซ้ายกลายเป็นสีฟ้า และดวงตาข้างขวากลายเป็นสีแดง ทำให้สัญลักษณ์ของอัศวินศักดิ์สิทธิ์ทุกคนในหมู่บ้านส่องสว่างออกมาเช่นกัน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments