วันรุ่งขึ้น..เวลาที่ไทยราวบ่ายแก่ๆ
เราเดินออกมาจากเครื่องบินส่วนตัวของตัวเองและตรงดิ่งเข้าไปประชุมที่บริษัททันทีวันนี้แม้ตารางงานจะเเน่นจริงๆแต่ก็มีนัดสำคัญอยู่ตอนบ่าย
นัดของคนสวยของเรายังไงล่ะ
"วันนี้ประธานยิ้มบ่อยมากเลยนะคะ"
คุณอ้อมเอ่ยขึ้นหลังจากที่เราเดินออกมาจากที่ประชุมด้วยกันเมื่อจบการประชุมอันแสนน่าเบื่อด้วยเวลากินยาวเกือบครึ่งชั่วโมง..
เธอคนนี้เป็นเลขาคนใหม่ของเราอ้ะเพราะคนเก่าเจอเราไล่ออกไปเพราะแอบมีไรกับภัคเข้าและ
ผู้หญิงที่คิดเอาเต้าตัวเองไต่แต่ทำงานไม่เป็นชิ้นเป็นอันไม่มีความจำเป็นต้องเก็บเอาไว้อยู่แล้ว
พอหลังจัดการหย่าขาดกับภัคเสร็จเรียบร้อยดีแล้วเลยยื่นซองขาวให้คุณเมียน้อยหมายเลขสองในคราบเลขาคนขยันเพื่อให้เธอไสหัวออกไปให้พ้นหูพ้นตาเพื่อรับคุณอ้อมหรือพี่อ้อมที่เป็นรุ่นพี่เราสมัยเรียนมหาลัยที่ไทยเธอจบเอกโทบริหารที่อังกฤษประวัติการทำงานก็ดีเยี่ยม
เข้าขากับเราได้ดีเลยไม่ต้องสอนงานอะไรมากก็เป็นเองเพราะมีประสบการณ์ทำงานมาก่อนที่บริษัทอาเตี่ยเรา
อ้อเกือบลืมคุณพี่สาวคนนี้เธอมีคู่สมรสเป็นผู้หญิงด้วยล่ะเป็นลูกครึ่งรัสเซียกับไทยชื่อว่าพี่แคสหรือเคที่คนรู้จักเราอีกนั้นแหละแถมพี่แคสคือเจ้าของหุ้นส่วนใหญ่อีกคนที่ไม่มาทำงานด้วยเพราะขอลาไปทำธุระส่วนตัวซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไรเนื่องจากแต่เดิมที่บริษัทแห่งนี้เราก็บริหารคนเดียวเปิดประชุมคนเดียวหรือแม้กระทั่งไปพบลูกค้าคนเดียวอยู่แล้วอาศัยเพียงมีลูกน้องที่เข้าขากันได้ดีสามคนก็สามารถลุยงานในบริษัทได้เต็มที่
"ลินมีความสุขเราก็ต้องยิ้มสิคะหรือพี่อ้อมจะให้ลินร้องไห้”
“มันก็ใช่นั่นแหละค่ะ”
พอเห็นคนตรงหน้าเริ่มแสดงสีหน้าเพื่อนเพื่อนเราจึงชวนคุยเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศไม่ให้มันเสียเพราะความไม่เอาไหนของตัวเองที่ต่อบทสนทนาข้างต้นไม่ได้ดีเท่าที่ควร
“แล้วพี่แคสภรรยาพี่เป็นยังไงบ้างสบายดีมั้ย”
"ก็สบายดีค่ะ"
พอถึงห้องเธอก็รีบเปิดประตูให้เราเข้าไปและปิดตามหลังอย่างรู้หน้าที่เมื่อเราหุบแขนลงเธอก็เดินมาถอดชุดสูทสีดำอันหนาหนักออกไป
ให้เราเหลือเสื้อแขนกุดสีขาวผ้านุ่นบางใส่สบายเหมาะกับอากาศร้อนราวนรกลงดินของประเทศไทยส่วนผมที่ยาวของเราถูกรวบหางม้าตึงตรงท้ายทอยเรามีแพลนจะย้อมให้มันเป็นสีทองอยู่นะแต่แอบกลัวมาม๊าจะว่าเป็นแหม่มกะปิเข้าเพราะที่บ้านค่อนข้างไปทางหัวอนุรักษ์นิยม
(ยกเว้นอาเตี่ยไว้คนเพราะเตี้ยจะเป็นคนที่คอยให้ทายลูกๆอย่างพวกเราเสมอจนมีอันต้องทะเลาะกันกับอั้มมาม๊าบ่อยๆ…)
"แต่เเคสชอบบ่นว่าอยากมีลูกน่ะค่ะ"
"..."
"แต่พี่ไม่สามารถมีลูกให้เขาได้"
"ทำไมไม่รับอุปการะเด็กกำพร้าสักคน..มีเด็กให้เลี้ยงเยอะไปไม่เห็นต้องทำเองเลย"
"เเคสเค้าไม่ยอมหนอกค่ะ"
"ไม่ยอมแล้วจะให้ทำยังไงพี่เองก็จะไปนอนกับผู้ชายหรือเขาจะไปจ้างผู้ชายมานอนด้วยมันก็ไม่ใช่อ้ะมันไม่ได้เป็นละครไทยอะไรจะได้ง่ายขนาดนั้น"
"...."
"ลินก็ไม่อยากจะยุ่งนะแต่ว่าอยากแนะนำทางที่ดี..ลินรักพี่เหมือนพี่สาวคนนึง"เราเข้าไปจับต้นแขนคุณอ้อมเบาๆพร้อมถอนหายใจออกมา
มีความรู้สึกอยากให้พี่เขารับรู้ว่าเราเป็นห่วงจริงๆนะไม่ได้แสแสร้งแกล้งทำไปตามมารยาทของการเป็นเจ้านายที่ดี..
"พี่รู้ค่ะแต่คงต้องหาทางต่อไปบางทีอาจทำเด็กหลอดแก้วกัน"
"แพงนะค่าใช้จ่ายสูงด้วย"
"มันก็ดีกว่าอยู่กันสองคนอ้ะค่ะเคที่เองเค้าก็แพ้ขนสัตว์ด้วย"
"อื้ม..งั้นเราขอให้ตัวโชคดีนะมีไรปรึษาเราได้อย่าคิดว่าเราเป็นเจ้านายตลอดเพราะหลังงานเราก็คนสนิทกัน"
หลังพูดคุยกับคุณพี่อ้อมพอหอมปากหอมคอเธอก็วกมาหาฉันอีกจนได้
"แล้วประธานล่ะคะ..มีคนที่ชอบหรือยัง"
"มีแล้ว"
"ว้าว.."
"แต่ไม่รู้เขาจะชอบเราหรือเปล่านี่สิ"
"ของแบบนี้มันไม่ตายตัวหรอกค่ะ"
"เราปรึษาอะไรตัวหน่อยสิ"เราขยับไปป้องปากใกล้ๆหูคุณอ้อมเพราะอายเกินกว่าจะพูดดังๆ
“ทำยังไง..เราถึงจะพาผู้หญิงเข้าโรงแรมได้เหรอ?"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 26
Comments