ปาฏิหาริย์สายใยรักสองโลก
ตอนที่1 เด็กชายในความฝัน?
แสงแดดยามสายสาดส่องผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาในห้องเรียนแห่งหนึ่ง ภายในห้องมีเด็กสาวร่างบางตัวเล็กคนหนึ่งยืนตัวเกร็งอยู่หน้าชั้นเรียน โดยมีสายตาหลายคู่ของคนในห้องกำลังจับจ้องไปที่ตัวเธออย่างไม่กะพริบตา
“ตอบคำถามครูมาสิ! ทำไมถึงทำร้ายเพื่อนในห้องล่ะ?”
น้ำเสียงดุดันของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะเป็นคุณครูประจำชั้น กำลังตวาดคำถามใส่เด็กสาวที่ยืนตัวสั่นเทาอยู่หน้าห้อง ท่ามกลางสายตาของเด็กทั้งห้องที่จับจ้องอยู่
“ได้ยินที่ครูพูดหรือเปล่า?” ครูสาวยังคงยิงคำถามใส่เด็กคนนั้นอย่างต่อเนื่องเพื่อเค้นคำตอบ
“นะ..หนูไม่ได้ทำนะคะ หนูแค่ปกป้องตัวเอง” เด็กสาวพยายามแย้งว่าตนไม่ได้ทำแต่ด้วยเสียงที่สั่นเครือทำให้สิ่งที่เธอพูดออกมาแทบไม่มีใครได้ยิน เธอถอนหายใจออกมาเป็นระลอกพลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้
ในช่วงเช้าหน้าระเบียงของห้องเรียนแห่งหนึ่ง มีเด็กจำนาวหลายคนกำลังรุมแกล้งเด็กสาวคนหนึ่งอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางเหล่านักเรียนที่เดินผ่านไปมาอย่างไม่ขาดสาย เธอมักจะโดนเด็กกลุ่มนี้แกล้งเป็นประจำทุกเช้า
“ขอร้องล่ะหยุดเถอะ! อย่าทำอะไรเราเลย” เด็กสาวพยายามตะโกนขอร้องเด็กกลุ่มนั้นให้หยุดแกล้งเธอ
“ฮ่าฮ่าฮ่า!!” เเต่ทว่าเสียงหัวเราะที่ดังลั่นกลบเสียงเว้าวอนขอร้องของเด็กสาวคนนั้นจนหมดสิ้น
เมื่อเด็กสาวตระหนักว่าการขอร้องให้เด็กกลุ่มนี้หยุดไม่เป็นผล เธอจึงเริ่มกวาดสายตามองเด็กที่อยู่รอบๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครเลยสักคนที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอ ทุกคนทำเหมือนที่ตรงนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เสียงที่ไม่มีใครได้ยิน ในขณะนั้นเธอก็เริ่มรู้สึกสิ้นหวังกับโลกใบนี้จนตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วครู่
'ลุกขึ้นสู้สิ!' เสียงกระซิบของเด็กชายปริศนาจู่ๆ ก็ดังขึ้นในหัวของเด็กสาวจนเธอสะดุ้งตื่นจากภวังค์
ท่อนแขนที่เรียวบางของเธอโบกสะบัดไปมาอย่างสุดกำลังเพื่อขัดขืน จนทำให้เด็กพวกนั้นล้มระเนระนาดด้วยความตกใจ ทันใดนั้นเองคุณครูที่ควรจะอยู่ดูแลเด็กก็โผล่มาเห็นเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าพอดีจึงรีบเข้ามาห้ามปราม ไม่นานครูสาวก็เรียกเด็กทุกคนเข้าห้องโดยไม่ถามไถ่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เลย
ปัจจุบัน
หลังเรียกทุกคนเข้าห้องมาไม่นาน ครูสาวคนนั้นก็เรียกเด็กสาวออกมาหน้าห้องพร้อมไถ่ถามถึงเรื่องราวเมื่อครู่ แต่เธอตัดสินว่าเด็กสาวเป็นคนผิดเพียงเพราะเธอเห็นแค่เหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า โดยไม่ถามถึงเหตุการณ์โดยรวม ตราหน้าเด็กสาวต่อหน้าเพื่อนทั้งห้องว่ามีความผิดในสิ่งที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อ
เสียงแผ่วเบาของสาวน้อยส่งไปไม่ถึงใครเลยแม้จะเป็นคนที่เธอคิดว่าเชื่อใจได้ที่สุด เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ว่าครูสาวคนนั้นจะตั้งใจหรือไม่ แต่มันก็ได้สร้างบาดแผลที่ฝังลึกลงไปในจิตใจของเด็กสาวอย่างไม่มีวันหวนคืน
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เธอกลับบ้านด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง เด็กสาวผลักประตูเข้าบ้านหลังใหญ่ที่ภายในไม่มีใครคอยอยู่ต้อนรับเธอกลับเฉกเช่นทุกวัน เนื่องจากพ่อแม่ของเธอไปทำงานกว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกดื่น เด็กสาวใช้ชีวิตทำกิจวัตรตามลำพังเหมือนอย่างที่เคยทำ
หลังจากเสร็จภารกิจเธอก็เตรียมเข้านอน โดยที่สีหน้าไม่ต่างกับตอนที่อยู่โรงเรียนเลยแม้แต่น้อย เด็กสาวขึ้นไปบนเตียงนั่งกอดเข่าเหม่อลอยอยู่สักพัก ก่อนจะเหลือบไปเห็นสมุดเล่มหนาสีฟ้าที่ได้รับมาจากหญิงแก่ในความฝัน
“สมุดเล่มนั้น? ..ที่คุณยายให้มานี่” เด็กสาวเดินไปหยิบสมุดเล่มนั้นแล้วกลับมาที่เตียง เธอจ้องมองลวดลายบนปกสมุดเล่มนั้นอย่างไม่กะพริบตาพลางนึกถึงคำพูดที่หญิงแก่พูดไว้
...หนูจะได้เจอกับใครบางคนในความฝัน...
“คืนนี้จะได้เจอหรือเปล่านะ แล้วเสียงกระซิบในตอนเช้านั่นล่ะคือเสียงใครกัน?” เด็กสาวบ่นพึมพำด้วยความสงสัยก่อนจะค่อยๆ เปิดสมุดเล่มนั้นดู
ปกสมุดสีฟ้าเล่มหนาถูกแง้มออก กลิ่นไอความหนาวเย็นแผ่ซ่านออกมาเบาๆ จากสมุดเล่มนั้น จนทำให้เด็กสาวรู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาดใจ เปลือกตาของเธอค่อยๆ ปิดลงก่อนจะล้มตัวลงนอนที่เตียงหลังใหญ่แล้วหลับใหลไปอย่างรวดเร็ว
กลางดึกในคืนเดียวกัน
...ที่นี่ที่ไหนกัน? มืดจังเดี๋ยวนะ..แสงนี่มัน… ดวงตาที่มืดมิดคู่หนึ่งค่อยๆ มองเห็นส่องสว่างพร้อมกับทิวทัศน์ที่อยู่เบื้องหน้า
ต้นไม้ใหญ่ในป่าสีขาวตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางดินแดนขนาดใหญ่ที่ย้อมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ก่อนที่สายตาอันเลือนคู่นั้นจับจ้องไปยังเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งกำลังนอนหลับอยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นนั้น ก่อนไม่นานจะมีเด็กชายอีกคนที่ตัวใหญ่กว่าเขาเล็กน้อยเดินเข้ามาหา
“หนีมาอยู่ที่นี่ประจำเลยนะ..เจ้าน่ะ”
“ข้าชอบที่แห่งนี้..มันทั้งเงียบสงบและอบอุ่นเหมือนอ้อมกอดของท่านแม่” เด็กชายตัวเล็กพูดก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเอื้อมมือไปยังท้องฟ้าด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
“อย่างนั้นเหรอ..อย่าลืมมาฝึกด้วยล่ะท่านอาจารย์รออยู่”
“เข้าใจเเล้ว!”
เด็กชายทั้งสองใช้เวลาพูดคุยกันเพียงไม่นานเด็กชายคนโตก็เดินจากไป โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองทั้งคู่อยู่อย่างไม่กระพริบตา ดวงตาคู่นั้นยังคงจ้องมองไปที่เด็กชายตัวเล็กที่นั่งเหม่อลอยไปพักใหญ่ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากในเสื้อที่เขาสวมใส่
เมื่อจ้องมองไปยังของสิ่งนั้นก็พบว่ามันคือสมุดเล่มหนาสีฟ้า ที่มีลวดลายอันสวยงามของเกล็ดหิมะสีขาวเป็นหน้าปก เด็กชายค่อยๆ สัมผัสสมุดเล่มนั้นอย่างทะนุถนอมราวกับเป็นของสำคัญ
...เดี๋ยวนะสมุดเล่มนั้นมัน เหมือนของเราเลย..นี่มันอะไรกัน? ...
สายตาคู่นั้นยังคงจ้องมองทิวทัศน์ตรงหน้าด้วยความสงสัย ก่อนที่เด็กชายตัวเล็กจะจ้องมองกลับมาหาดวงตาคู่นั้นราวกับรู้ตัวว่าถูกจ้องมองอยู่ นัยน์ตาสีฟ้าครามเปล่งประกายท่ามกลางพื้นที่สีขาวจ้องมองกลับมาอย่างไม่กะพริบตา จนทำให้ตาที่เฝ้ามองดูอยู่คู่นั้นเบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะค่อยๆ หลับใหลลงไปในภวังค์อีกครั้งโดยไม่รู้ตัว
เด็กสาวลืมตาตื่นอีกครั้งในห้องนอนของตัวเอง ท่ามกลางแสงแดดยามเช้าที่ตกกระทบบนใบหน้าและดวงตาของเด็กสาวอย่างอบอุ่น
“นี่มันอะไรกัน..ความฝันเมื่อกี้ สิ่งที่คุณยายคนนั้นพูดมาเป็นความจริงอย่างนั้นเหรอ?” เด็กสาวรู้สึกแปลกใจและรีบจดบันทึกสิ่งที่เห็นในฝันลงในสมุดสีฟ้าเล่มนั้นด้วยความตื่นเต้น
“เรียบร้อย..ตื่นเต้นจังเลย วันนี้จะฝันเห็นอะไรอีกนะ”
หลังจากนั้นเด็กสาวก็ฝันเห็นเด็กชายกับดินแดนสีขาวแห่งนั้นนับครั้งไม่ถ้วนเป็นเวลาสามปี เเต่เมื่อเวลาล่วงเลยเธอก็ไม่เคยฝันถึงเด็กชายคนนั้นอีกเลย ความจริงเหล่านั้นค่อยๆ เลือนลางจนเด็กสาวคิดว่าเป็นเพียงเเค่ความฝันในวัยเด็ก สิ่งที่เธอได้เห็นในฝันแต่ละค่ำคืนถูกร้อยเรียงเป็นเรื่องราวสุดมหัศจรรย์ของนิยายชื่อดังเรื่องหนึ่งในอีกหลายปีต่อมา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments