จะนำเรื่องราวที่อยู่ชั้นหนังสือในจิตนาการมาเล่าให้ทุกคนได้อ่านกันเพื่อความบันเทิง
เด็กหนุ่ม เติบโตมากับพ่อที่เป็นนักสะสมของเก่า โดยเฉพาะของที่เชื่อว่ามีอาถรรพ์ ทั้งหน้ากากเก่า, ตุ๊กตาโบราณ, และเครื่องรางแปลกๆ ทุกอย่างถูกเก็บอย่างระมัดระวังในห้องสะสม แต่สิ่งที่ลูกสงสัยมากที่สุดคือ “กล่องไม้สีดำเล็กๆ ในตู้กระจก” ซึ่งพ่อไม่เคยให้แตะต้อง
วันหนึ่ง ลูกถามพ่ออย่างจริงจังว่า กล่องนั้นคืออะไร พ่อจึงนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องที่เก็บงำมานาน ว่ากล่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงของสะสม แต่เป็นสิ่งที่ เขาไม่ควรจะไปแตะต้องมันตั้งแต่เเรก มันเป็นความโง่เขลาของพ่อตอนสมัยหนุ่มนั้นแหละ
"ยังไงครับพ่อ" เด็กหนุ่มถาม
พ่อก็เลยเริ่มเล่าเรื่องราวของกล่องใบนั้น
“…พ่อไม่ได้เริ่มสะสมของพวกนี้เพราะชอบหรอกนะลูก แต่ตอนหนุ่มๆ พ่อเป็นคนใจร้อน อยากรู้อยากลองเกินไป วันหนึ่งสมัยที่พ่อยังเป็นนักศึกษา พ่อได้ข่าวว่ามีการประมูลของเก่าที่ต่างประเทศ ของหลายชิ้นไม่มีใครกล้าแตะต้องเพราะว่ามีตำนานเล่าติดมาด้วย แต่พ่อกลับรู้สึกท้าทาย ยิ่งมีคนห้าม พ่อยิ่งอยากลอง
ตอนนั้นมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเอากล่องไม้นั่นออกมาวางกลางห้อง พ่อจำได้ดี มันเป็นกล่องไม้สีดำด้านๆ ขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่ แต่พอเห็นครั้งแรกเหมือนมัน ‘มีชีวิต’ อยู่ข้างใน ทุกคนในห้องประมูลเงียบกริบ ไม่มีใครกล้าเสนอราคา เพราะต่างก็รู้เรื่องเล่าขานกันมาว่า กล่องนี้ถูกใช้ในพิธีโบราณเพื่อขังเสียงสุดท้ายของผู้ตาย ถ้าใครเปิด กล่องจะคืนสิ่งที่มันเก็บเอาไว้…ไม่ว่ามันจะเป็นเสียง ความทรงจำ หรือแม้แต่ความแค้น
พ่อหัวเราะในตอนนั้น คิดว่ามันก็เป็นแค่เรื่องเล่าหลอกนักท่องเที่ยว เลยยกมือประมูลมาในราคาต่ำๆ… และพ่อก็ได้มันมา ท่ามกลางสายตาหวาดกลัวของชาวบ้าน เขามองพ่อเหมือนคนที่กำลังแบกหายนะติดตัวกลับไป
คืนแรกที่พ่อเก็บกล่องไว้ในที่พัก พ่อก็ฝันร้าย ฝันเห็นเงาคนจำนวนมากยืนอยู่รอบเตียง ร้องไห้บ้าง กรีดร้องบ้าง ราวกับพยายามจะบอกอะไร แต่ฟังไม่ออก พอตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงเคาะเบาๆ ดังจากกล่องนั้นเหมือน ‘ข้างในมีใครอยู่’
พ่อพยายามไม่สนใจ แต่ความอยากรู้อยากลองมันก็กัดกินหัวใจ พ่อจึงลองเปิดฝาเพียงแค่รอยแง้ม…แค่เสี้ยววินาที พ่อได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิงก้องเข้ามาในหู เป็นเสียงสุดท้ายก่อนที่เธอจะตาย มันดังจนพ่อหูอื้อไปหลายชั่วโมง และในกระจกบานเล็กในห้องพัก พ่อเห็นใบหน้าผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลัง…ทั้งที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย
หลังจากวันนั้น พ่อไม่กล้าแตะมันอีก เสียงกระซิบยังคงดังเป็นบางคืน เสียงฝีเท้าบนพื้นไม้ ทั้งที่พ่ออยู่คนเดียว พ่อถึงรีบหาตู้กระจกหนาๆ มาเก็บมันไว้ เพราะเชื่อว่าถ้าเก็บมันแยกออกจากเราได้สักชั้นสองชั้น มันคงจะสงบลงบ้าง…แต่ไม่เคยเลย มันแค่เงียบไปชั่วคราว
พ่อแบกมันติดตัวกลับบ้านพร้อมคำสาปนั้นเองแหละ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมพ่อไม่อยากให้ลูกเข้าใกล้มัน กล่องนี่ไม่ใช่ของสะสมที่น่าภูมิใจ แต่เป็นตราบาปที่พ่อเอามาติดบ้าน…และวันหนึ่งมันอาจไม่ยอมอยู่นิ่งๆ อีกต่อไป”-----
แล้ว…พ่อยังเห็น “ผู้หญิงคนนั้น” อยู่มั้ยครับ? เด็กชายถาม
พ่อ : (นิ่งไปครู่หนึ่ง ก้มมองมือตัวเองที่สั่นเบาๆ) …ใช่…พ่อยังเห็นอยู่บ้าง บางคืนเวลาพ่อตื่นมากลางดึก ก็เหมือนมีเงาผู้หญิงยืนอยู่ตรงหัวเตียง หรือบางครั้งตอนพ่อลงไปในห้องสะสม เห็นเธอสะท้อนในตู้กระจก…แต่พอหันไปจริงๆ กลับไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย
ลูก : เธอต้องการอะไรครับ?
พ่อ : นั่นแหละที่พ่อไม่เคยเข้าใจ เธอไม่เคยพูดชัดเจน มีแต่เสียงร้อง เสียงคราง เสียงที่เหมือนขอความช่วยเหลือ แต่บางครั้งก็เหมือนเสียงโกรธเกรี้ยว แค้นเคือง… พ่อไม่รู้ว่าเธออยากให้ช่วย หรือเธอแค่อยากลากพ่อเข้าไปอยู่ข้างในกล่องนั่นด้วยกัน
ลูก : …พ่อกลัวเหรอครับ
พ่อ : (ถอนหายใจหนัก) ลูกเอ๊ย…ทุกคืนพ่อก็กลัว แต่พ่อก็ต้องทนอยู่กับมัน เพราะนี่คือผลของความโง่เขลาที่พ่อก่อขึ้นเอง และพ่อก็ไม่อยากให้ลูกต้องรับเคราะห์จากมัน
จบบบบบบ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments