การรวมตัวของเหล่าผู้กล้าทั้งเจ็ดไม่ได้นำมาซึ่งความราบรื่นเสมอไป แม้ทุกคนจะมีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับจอมมาร แต่ความแตกต่างในบุคลิกและแนวทางการต่อสู้ก็ก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นเล็กน้อย ไอเดน "หมาบ้าแห่งนครศักดิ์สิทธิ์" ผู้ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยความแค้นและมักจะลงมือด้วยความรุนแรงและไม่ยั้งคิด มักจะปะทะคารมกับไอน่า "นักบุญแห่งมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์" ผู้ที่เชื่อในความยุติธรรมและวิธีการที่สงบกว่า
"เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่ไอเดน? การโจมตีแบบไม่คิดหน้าคิดหลังแบบนั้นไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย!" ไอน่าตะโกนใส่ไอเดนหลังจากที่เขาพุ่งเข้าไปโจมตีเหล่าอสูรอย่างบ้าระห่ำเพียงลำพังในการต่อสู้ครั้งล่าสุด ซึ่งเกือบจะทำให้เขาและคนอื่นๆ ต้องตกอยู่ในอันตราย ไอเดนหันมามองไอน่าด้วยสายตาเย็นชา "แล้วจะให้ข้ารอให้พวกมันมาฆ่าเราอย่างนั้นรึ? ถ้าไม่รุนแรง พวกมันก็ไม่รู้จักจำ!"
ดีเลีย "แห่งสตรีศักดิ์สิทธิ์" พยายามเข้ามาห้ามปราม "ใจเย็นๆ ก่อนทั้งสองคน พวกเรามาที่นี่เพื่อจุดประสงค์เดียวกัน อย่าให้ความขัดแย้งมาบั่นทอนกำลังของพวกเราเลย" เธอพยายามที่จะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างความขัดแย้ง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้สองขั้วที่แตกต่างกันเข้าใจกัน
ในระหว่างที่พวกเขาพยายามที่จะปรับจูนเข้าหากัน ข่าวร้ายก็มาถึง บาปแห่งความเกียจคร้าน "เบลเฟกอร์" ได้ปรากฏตัวขึ้นที่อาณาจักรเอลวิน บาปตนนี้ไม่ได้โจมตีด้วยกำลัง แต่กลับทำให้ผู้คนรู้สึกไร้เรี่ยวแรงและสิ้นหวัง จนไม่สามารถลุกขึ้นมาต่อสู้ได้ อาณาจักรเอลวินกำลังจะล่มสลายลงด้วยความเฉื่อยชา เหล่า 7 คุณธรรมจึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังเอลวินทันที
เมื่อมาถึงเอลวิน พวกเขาพบว่าเมืองทั้งเมืองตกอยู่ในความเงียบงัน ผู้คนนอนซมอยู่ตามท้องถนน ไม่มีใครมีแม้แต่แรงจะลุกขึ้นยืน ไอเดนรู้สึกโกรธแค้นยิ่งนัก เขาคว้าดาบขึ้นมาและเตรียมที่จะพุ่งเข้าไปหาเบลเฟกอร์ทันที แต่โซมา "จอมเวทย์แห่งหอคอยเวทย์มนต์" ได้เข้ามาขวางไว้ "ใจเย็นก่อนไอเดน! บาปตนนี้ต่างจากบาปตนอื่นๆ การใช้กำลังเพียงอย่างเดียวไม่ได้ผล เราต้องใช้ปัญญา"
โซมาอธิบายว่าพลังของเบลเฟกอร์คือการดูดกลืนเจตจำนงของผู้คน ทำให้พวกเขาสิ้นหวังและไม่มีแรงที่จะทำอะไร การโจมตีโดยตรงอาจจะไม่สามารถทำอะไรมันได้ แต่จะยิ่งทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นด้วยพลังแห่งความสิ้นหวังของผู้ที่โจมตี ดิคาร์ "อัศวินแห่งทัพเหนือ" เสริมขึ้นว่า "เราต้องหาทางปลุกจิตวิญญาณของชาวเมืองให้กลับมา พวกเขาต้องต่อสู้ด้วยตัวเอง"
ไอน่าเสนอแผนการ เธอจะใช้พลังแห่งการเยียวยาของเธอร่วมกับพลังแห่งความเมตตาของโรมัน "แห่งความเมตตา" เพื่อส่งกระแสแห่งความหวังเข้าไปในจิตใจของผู้คน เพื่อให้พวกเขามีแรงลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ในขณะที่อลิซเซีย "แห่งสตรีแกร่ง" และดีเลียจะคุ้มกันพวกเขาจากเงาอสูรที่เบลเฟกอร์สร้างขึ้น ส่วนไอเดนและดิคาร์จะคอยสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของเบลเฟกอร์
แผนการดำเนินไปอย่างยากลำบาก เบลเฟกอร์พยายามที่จะยั่วยุจิตใจของทุกคนให้สิ้นหวัง โดยส่งภาพหลอนของความพ่ายแพ้และความตายเข้ามาในหัวของพวกเขา ไอเดนเองก็รู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังที่เริ่มกัดกินจิตใจ แต่เขาก็นึกถึงภาพของครอบครัวที่จากไป และคำสาบานที่เขาให้ไว้ ความโกรธแค้นและปณิธานอันแรงกล้าทำให้เขาไม่ยอมแพ้ เขาตะโกนก้อง "พวกเราจะไม่มีวันยอมแพ้!" เสียงของเขาดังก้องไปทั่วเมือง ปลุกเร้าจิตใจของชาวเมืองที่กำลังจะดับลง
ด้วยความร่วมมือของทุกคน แผนการก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ไอน่าและโรมันส่งพลังแห่งความหวังเข้าไปในจิตใจของผู้คน อลิซเซียและดีเลียต่อสู้กับเหล่าอสูรอย่างไม่ย่อท้อ ดิคาร์ใช้ความซื่อสัตย์ของเขาในการปกป้องไอน่าและโรมันอย่างสุดชีวิต และไอเดนใช้ปณิธานอันแรงกล้าของเขาในการสกัดกั้นเบลเฟกอร์ การต่อสู้อันดุเดือดดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งชาวเมืองเริ่มที่จะลุกขึ้นยืนช้าๆ ด้วยแรงกายที่อ่อนล้า แต่ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยประกายแห่งความหวังที่กลับมาอีกครั้ง
เบลเฟกอร์เมื่อเห็นว่าพลังของมันไม่สามารถเอาชนะจิตใจของผู้คนได้ ก็เริ่มที่จะอ่อนแรงลง โซมาไม่รอช้า ใช้เวทมนตร์โบราณที่เขาได้เรียนรู้มาโจมตีจุดอ่อนของเบลเฟกอร์อย่างแม่นยำ ในที่สุด บาปแห่งความเกียจคร้านก็สลายไป เหลือเพียงเถ้าถ่าน ชาวเมืองเอลวินรอดพ้นจากหายนะมาได้ด้วยความร่วมมือของ 7 คุณธรรม การต่อสู้ครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับพวกเขา มันแสดงให้เห็นว่าแม้จะมีความแตกต่าง แต่การทำงานร่วมกันด้วยคุณธรรมที่ยึดมั่น จะนำพาพวกเขาไปสู่ชัยชนะได้
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments