จุมพิตใต้จันทร์สีเลือด(จบ)

"พร้อมหรือไม่" เสียงของเซเลบยังนุ่มนวล แม้จะซ่อนความเจ็บลึกสุดหัวใจ

เธอพยักหน้า น้ำตาร่วงลงมาพร้อมกับรอยยิ้มสุดท้าย เมื่อเธอกล่าวคำปลดคำสาปรอยตาบนแขนของเซเลสเปล่งแสงแดงเข้มก่อนแตกออกเป็นละอองแสงลอยสลายไปในอากาศ

เขาทรุดลงเล็กน้อย ร่างกายที่แบกรับพลังมานับ 10 ปีเหมือนปลดปล่อยพันธะครั้งแรกขณะเดียวกันอิเลนอร์รู้สึกเหมือนบางสิ่งถูกฉีกออกจากจิตใจ

"เจ้าจะจำข้าได้ถึงเมื่อไหร่" เขาถาม

"ถึงลมหายใจสุดท้าย" เธอกระซิบ พร้อมก้าวเข้าหาเขา

แล้วทั้งสองก็แลกจุมพิตใต้แสงจันทร์สีเลือดจูบที่แผ่วเบาอ่อนโยนเต็มไปด้วยคำอำลาและคำสัญญา

เมื่อริมฝีปากผละออกจากกันดวงตาสีแดงของอิเลนอร์ว่างเปล่า เธอมองเขาอย่างไม่เข้าใจ

"...ท่านเป็นใครหรือคะ"

เซเลส ยืนนิ่งดวงตาสีม่วงหม่นแสงกับยิ้มอย่างอ่อนโยนที่สุดในชีวิต

"แค่ชายคนหนึ่ง...ที่โชคดีเคยได้รักเจ้า"

คำสาปถูกคลายอิสรภาพของเขาได้มาแต่เธอกลับกลายเป็นหญิงสาวที่จำเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้เหลือเพียงจี้โลหะในมือและรอยยิ้มลึกลับในหัวใจที่เธอไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร

ผ่านมา 3 วันหลังจากคืนสีเลือดเอเลนอร์กับมาใช้ชีวิตตามปกติในคฤหาสน์ฟอนเทน ไม่มีความทรงจำใดเหลือเกี่ยวกับหลอดเซเลสหรือคำสาปหรือจุมพิตสุดท้ายในคืนนั้น

แต่บางอย่าง...ไม่เหมือนเดิม

ทุกเช้า เธอมักฝันถึงชายแปลกหน้าผมขาวในสวนกุหลาบ ในฝันนั้น เขายิ้มเศร้าและยื่นมือมาแต่ไม่ว่าเธอจะพยายามเอื้อมกลับอย่างไรเขาก็จะหายไปเสมอ

วันหนึ่งเธอผ่านสวนด้านหลังและพบกับแปลงกุหลาบใหม่ที่เพิ่งปลูกเสร็จมีป้ายเล็กๆเขียนไว้ว่า

"แด่ผู้ที่เคยจำ และผู้ที่ยังเฝ้ารอ"

หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างไม่มีเหตุผลน้ำตาไหลโดยไม่รู้ว่าทำไมเธอยกมือขึ้นแตะหน้าอกตัวเองรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่เคยอยู่และยังอยู่

ในคืนนั้นอินทนนท์นั่งมองจี้โลหะเก่าในมือจี้ที่ไม่รู้ว่าเธอเก็บไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ผิดพลาดไม่มีชื่อไม่มีข้อความแต่ยามที่เธอแตะมันใจกับอบอุ่นแปลกประหลาด

อีกฟากหนึ่งของเมือง เซเลสยังคงเดินทางไร้จุดหมายแต่หัวใจเขาเชื่อว่าความทรงจำที่หายไปจากสมองแต่ไม่เคยหายจากหัวใจ

เมื่อโชคชะตาถูกใจ 2 ดวงไว้แน่นพอต่อให้จำกันไม่ได้ต่อให้ภาคกันไปหัวใจยังเรียกหากันในความเงียบและบางทีวันหนึ่งพวกเขาอาจได้พบกันอีกครั้ง

ฤดูใบไม้ผลิเวียนกลับมาอีกครั้งกุหลาบในสวนคฤหาสน์แบลร์วิลล์เริ่มเบ่งบาน เลดี้เอเลนอร์นั่งอ่านหนังสือเงียบๆใต้ร่มไม้ เธอมีสีหน้าเรียบเฉยเหมือนหญิงสาวสูงศักดิ์ทั่วไป แต่ภายในกับรู้สึกเหมือนบางอย่างขาดหายไป

วันนั้น มีคณะนักเดินทางจากแดนไกลแวะมาเยือน ในกลุ่มนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งผมขาวในเสื้อคลุมยาวสีกรม เขาเดินอย่าเงียบขรึมแววตาสีม่วงลึกดุรัตติกาล เมื่อเขาและอิเลนอร์สบตากันทุกอย่างรอบตัวหยุดนิ่ง

ไม่มีคำพูด ไม่มีการทักทาย เพียงความเงียบที่อบอุ่นและเจ็บลึกอย่างประหลาดอิเลนอร์ไม่รู้จักเขาแต่หัวใจของเธอกับเต้นไม่เป็นจังหวะ

"คุณเคย...มาที่นี่ก่อนหรือเปล่า"เธอถามเขาเบาๆ

"ชายหนุ่มยิ้มเพียงนิดเป็นรอยยิ้มเดียวกับในฝันของเธอมาตลอด

"ไม่เคยครับ"เขาตอบสุภาพ "แต่บางอย่าง...ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกลับบ้าน"

ในมือนั้นเขาถือกล่องไม้ใบหนึ่งด้านในคือจี้โลหะอีกชิ้นฝาแฝดกับของที่อีเลนอร์เก็บไว้โดยไม่รู้ว่าได้มายังไง

เมื่อจี้ 2 ชิ้นสัมผัสกันแสงบางเบาส่องออกมาอบอุ่นราวแสงพระอาทิตย์ในวันฝนพรำ

ไม่มีใครจำเรื่องราวได้ทั้งหมดแต่วินาทีนั้นทั้งเขาและเธอ ไม่ต้องพูดคำว่ารัก ไม่ต้องถามว่าเราเคยรู้จักกันไหม

"เพราะหัวใจนั้น...ยังจำได้อยู่เสมอ"

จบแล้วค่าาาาาา เป็นยังไงบ้างสั้นไปหรือเปล่า เม้นได้นะคะเราควรแก้หรือปรับปรุงตรงไหนรึเปล่า ขอบคุณทุกคนมากๆเลยนะคะที่อ่านของเรา ขอบคุณมากๆค่ะเรารู้สึกดีมากๆที่มีคนอ่านของเราไม่นึกว่าจะมีคนอ่าน ขอบคุณมากๆค่ะ ถ้าชอบในการแต่งของเรา รอติดตามเรื่องใหม่ๆของเราได้น้า บัยยยยยย ไว้เจอกันใหม่ค่ะ

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!