ในเงามืดของแสงดาว
ในอนาคตอันไกลโพ้น มนุษยชาติได้ขยายอาณานิคมสู่อวกาศลึก แต่กลับพบกับปรากฏการณ์ประหลาด—ดาวฤกษ์หลายดวงดับลงอย่างไร้สาเหตุ และในเงามืดของจักรวาลนั้นเอง พวกเขาได้ค้นพบการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตระดับจักรวาลที่สามารถ “กินดาว” ได้ด้วยตัวเอง
สิ่งนั้นมีชื่อว่า “แซ็ค”—สิ่งมีชีวิตโบราณที่ไร้ผู้ใดเข้าใจ เขาดำรงอยู่เหนือกาลเวลา กลืนกินแสงสว่างและชีวิตของดวงดาวมาแล้วนับล้าน แต่ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้ว แซ็คคือ “จิตสำนึก” อันโดดเดี่ยว ที่มีอยู่เพียงเพื่อรอวันจบสิ้นจักรวาลตามชะตาลิขิต
กระทั่งเขาได้พบกับเธอ—ลูมิน่า นักดาราศาสตร์สาวผู้ถูกส่งไปสำรวจบริเวณที่ดาวลับดับ เธอคือมนุษย์คนแรกที่เขาเลือกจะไม่ทำลาย และแทนที่จะกลืนกินยานของเธอ เขากลับเปิดสื่อจิตตรงถึงเธอ—เพราะเขา “ได้ยินเสียงเธอในความเงียบ” นับครั้งแรกในชีวิตอมตะ
แม้จะต่างสายพันธุ์และดำรงอยู่คนละระดับของเวลา—แต่ความผูกพันค่อย ๆ ก่อตัวผ่านบทสนทนาและความเข้าใจที่เกินคำพูด
แต่ความรักของเขาคืออันตรายต่อเธอ เพราะการอยู่ใกล้เขาคือการเผชิญหน้ากับแรงโน้มถ่วงของความตาย จักรวาลเองก็เริ่มต่อต้านการมีอยู่ของ “แมงกินดาวที่รู้จักความรัก” และมนุษย์ก็กำลังใช้ความรู้จากลูมิน่าเป็นอาวุธ
เมื่อต้องเลือกระหว่างการจากไปเพื่อปกป้องเธอ หรืออยู่ต่อและเสี่ยงทำลายทุกสิ่งที่เธอรัก—แซ็คจะเลือกเป็น “จุดจบของจักรวาล” หรือ “แสงสุดท้ายที่เหลืออยู่ในหัวใจของเขา”?
ในยุคหลังการปฏิวัติดาวเคราะห์ มนุษยชาติได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของระบบสุริยะ อาณานิคมถูกสร้างขึ้นบนดาวเคราะห์หลายดวงในกาแล็กซีใกล้เคียง แต่การขยายตัวสู่จักรวาลกว้างไกลก็พาไปสู่คำถามที่น่ากลัวยิ่งกว่า—มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่โดดเดี่ยวในจักรวาลหรือไม่
เมื่อกลุ่มนักวิทยาศาสตร์แห่งศูนย์อวกาศกลางโลก (GSO) ตรวจพบปรากฏการณ์ดาวฤกษ์จำนวนมากดับไปอย่างไร้สาเหตุในแนวระนาบกาแล็กซีทางชั้นนอก พวกเขาส่งยานสำรวจชื่อ "อาเธร่า VII" ไปสืบหาความจริงโดยหวังว่าอาจเป็นโอกาสในการค้นพบชีวิตต่างดาว หรืออย่างน้อยก็เข้าใจการทำงานของเอกภพมากขึ้น
ดร.ลูมิน่า เวล นักดาราศาสตร์อายุ 27 ปี หญิงสาวที่เติบโตมาใต้ท้องฟ้าที่มืดมิดจากมลภาวะของโลก กลับหลงใหลในแสงของดวงดาวมาตั้งแต่เด็ก เธอเชื่อว่าทุกดาวมีชีวิต ทุกจุดแสงคือข้อความจากจักรวาล ลูมิน่าเป็นหนึ่งในนักวิจัยหลักที่ขึ้นไปกับยานอาเธร่า และเป็นคนแรกที่ได้เห็นกับตา—สิ่งมีชีวิตที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่กล้าเรียกว่า "ชีวิต"
พวกเขาเรียกมันว่า "แมงกินดาว" จากการที่มันปรากฏตัวขึ้นใกล้กับดาวฤกษ์ก่อนที่มันจะดับลง ร่างของมันดูเหมือนไม่มีรูปร่างแน่นอน เป็นเงาดำในมิติที่เบียดเบี้ยวแสงและแรงโน้มถ่วง เสียงของมันไม่สามารถได้ยินด้วยหูธรรมดา แต่สื่อสารโดยตรงผ่านความรู้สึก ความคิด และภาพในจิต
และนั่นคือครั้งแรกที่ลูมิน่าได้ “เห็น” เขา—แซ็ค
ไม่ใช่ด้วยตา แต่ด้วยหัวใจ
---
แซ็ค ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตตามความเข้าใจของมนุษย์ เขาไม่มีเซลล์ ไม่มีเลือด ไม่มีหัวใจ หากแต่มี "สำนึก" ที่ตื่นอยู่ตลอดเวลา นานนับพันล้านปี แซ็คบอกว่าเขาเกิดมาพร้อมกับแสงแรกของเอกภพ และหน้าที่ของเขาคือกลืนกินแสงเหล่านั้นคืนไปช้า ๆ—เพื่อเตรียมเอกภพสำหรับ “การนอนหลับครั้งต่อไป”
เขาไม่เคยตั้งคำถามกับการมีอยู่ของตนเอง
จนกระทั่งลูมิน่าเริ่มถาม
“ทำไมต้องจบทุกอย่าง?”
“คุณเหงาไหม?”
“คุณเคยมองแสงดาวแล้วรู้สึกว่าสวยไหม?”
---
คำถามเหล่านั้น เริ่มปลุกสิ่งที่แปลกประหลาดในจิตของแซ็ค—อารมณ์
เขาเริ่มเก็บภาพความทรงจำของเธอไว้ในตนเองเหมือนกลุ่มดาวที่ส่องในความมืด ลูมิน่ากลายเป็นสิ่งเดียวที่เขาไม่อาจ “กลืนกิน” ได้
และลูมิน่าเองก็เริ่มหลงใหลในความเงียบสงบของเขา แม้เธอจะรู้ว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ ไม่เคยสัมผัส ไม่เคยหายใจ แต่ทุกการสื่อสารผ่านจิตของแซ็คกลับอบอุ่น ลึกซึ้ง และจริงใจยิ่งกว่าคำพูดใด ๆ ที่มนุษย์เคยเอื้อนเอ่ย
ความรักของทั้งสองค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นท่ามกลางห้วงอวกาศที่ว่างเปล่า
เงียบงัน
แต่สว่างไสวในแบบที่ไม่มีใครเข้าใจ
---
แต่จักรวาลไม่ใช่ที่สำหรับความรักแบบนั้น
ข่าวการมีอยู่ของแซ็คแพร่กลับมายังโลก GSO และสภาโลกมีมติฉุกเฉิน—แมงกินดาวต้องถูกทำลาย ไม่ใช่แค่เพราะมันเป็นภัยต่อดาวฤกษ์ แต่มนุษย์เริ่มหวาดกลัวว่าพลังของเขาอาจถูกใช้ทำลายทุกอารยธรรมได้ในพริบตา
กองยานอาวุธพิเศษถูกส่งออกไปพร้อมอุปกรณ์ควบคุมพลังงานระดับคอสมิค
ลูมิน่าถูกตัดขาดจากการสื่อสาร ถูกกักบริเวณในยานอาเธร่า
แต่เธอไม่ยอม
ด้วยการดัดแปลงสัญญาณควอนตัม ลูมิน่าสื่อสารกับแซ็คครั้งสุดท้าย
เธอบอกให้เขาหนี
แต่แซ็คไม่ขยับ
เขาแค่ถามกลับเบา ๆ ด้วยเสียงในใจ:
“ถ้าฉันคือจุดจบ... แล้วเธอจะยังรักฉันอยู่ไหม”
---
ยามกองยานเข้าสู่พิกัดดาวฤกษ์ที่เขาอาศัยอยู่ พวกเขาไม่พบการต่อต้าน
แต่พวกเขากลับเห็นแสง...
แสงที่ไม่ควรอยู่ในตัวของสิ่งมีชีวิตที่กินแสงเป็นอาหาร
แซ็คไม่หนี ไม่สู้ แต่เลือก “เปิดตัวเอง” ให้มองเห็นชัดเจน เพื่อให้มนุษย์ได้รู้ว่าเขาไม่ใช่ศัตรู
เขาเปล่งแสงสุดท้ายออกมา—แสงที่ได้จากทุกดาวที่เขาเคยกิน แสงที่เขาเก็บไว้ไม่ใช่เพราะพลัง... แต่เพราะมันคือความทรงจำ
ในแสงสุดท้ายนี้ ลูมิน่ามองเห็นภาพของเธอสะท้อนอยู่ในใจเขา—พร้อมรอยยิ้มที่ไม่เคยมีในจักรวาลใดมาก่อน
---
แต่การเสียสละของเขากลับกลายเป็นสิ่งที่จุดชนวนความคิดใหม่ในหมู่นักวิทยาศาสตร์ พวกเขาเริ่มตั้งคำถามว่า "พลัง" ไม่ได้แปลว่า "ภัย" เสมอไป และ "จุดจบ" อาจเป็นอีกด้านของ "จุดเริ่มต้น"
ลูมิน่า กลับสู่โลกในฐานะ “
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments