หลังจากคืนนั้น มิวใช้เวลานั่งนิ่งอยู่หน้าจอมือถือ เธอลังเลอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจกดเข้าไปที่แชทของเซน
เธอลบคำหลายรอบ กว่าจะพิมพ์ข้อความสุดท้ายออกมาได้
> เซน เราต้องทำงานด้วยกันอีก… ขอโทษเรื่องเมื่อวานนะ
ถ้าว่าง เดี๋ยวชวนไปกินข้าวเที่ยงเป็นการขอโทษก็ได้ จะได้จบกันแบบดีๆ
ไม่นานนัก เซนตอบกลับมาสั้นๆ
> โอเค
มิวอ่านแค่คำนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ เธอไม่คาดหวังอะไรไปมากกว่านี้แล้ว
---
มื้อเที่ยงวันถัดมา ทั้งคู่ไปนั่งที่ร้านอาหารข้างทาง ไม่ไกลจากออฟฟิศ เป็นร้านเรียบง่ายที่มิวชอบมานั่งบ่อยๆ เวลาอยากหนีความวุ่นวาย
เธอสั่งอาหารง่ายๆ สองจาน แล้วนั่งรอเงียบๆ ข้างๆ เขา
เซนยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ก่อนจะพูดขึ้นเสียงเรียบ
“เลี้ยงข้าวฉัน… ที่ร้านข้างทาง?”
มิวชะงักไปนิด ก่อนจะยิ้มบางๆ
“ก็...ร้านนี้อร่อยนะ ราคาก็ไม่แพง”
เซนไม่ได้ตอบอะไรต่อ แต่เพียงแค่คำพูดนั้น ก็เหมือนแทงลงในใจเธออีกครั้ง
ในอดีต เขาไม่เคยพูดแบบนี้ ไม่เคยดูถูกความธรรมดาแบบที่เธอเป็น
เขาเคยกินบะหมี่รถเข็นกับเธอ เคยนั่งปิ้งลูกชิ้นข้างโรงเรียนด้วยกัน เคยหัวเราะกับรสชาติที่ไม่ได้เรื่อง… แต่ตอนนี้ เขากลับมองทุกอย่างว่า “ต่ำไป” สำหรับเขา
มิวไม่ได้เถียง ไม่ได้อธิบายอะไร
แค่ยิ้มให้ และตอบเบาๆ
“ขอโทษนะ ถ้าร้านมันไม่ดีพอสำหรับนาย”
เธอก้มหน้าลง ใช้ช้อนคนข้าวไปมา
“แค่อยากให้มันจบแบบที่...ไม่ต้องอึดอัดอีก”
เซนไม่ได้พูดอะไรอีก แต่เขามองเธอเงียบๆ
แววตาแข็งกระด้างค่อยๆ คลายลงเล็กน้อย
อาหารมาเสิร์ฟ ทั้งคู่เริ่มลงมือกิน แต่ไม่มีรสชาติอะไรในปากของมิวเลย
บางที... ความเจ็บปวดที่สุด อาจไม่ใช่การเลิกรัก
แต่คือการที่ต้องฝืนยิ้มให้คนที่เคยรักเรา... เหมือนไม่เคยรักกันมาก่อน
เซนนั่งเงียบอยู่ตรงนั้น ในร้านข้างทางที่เขาเคยไม่คิดจะนั่ง
ข้าวในจานเหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง แต่เขากลับไม่รู้สึกหิว
หลังจากมิวขอตัวกลับไปก่อน โดยบอกเพียงสั้นๆ ว่า "มีงานต้องทำ"
เขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม มองถนนที่รถวิ่งผ่านด้วยสายตาว่างเปล่า
คำพูดที่เขาเคยคิดว่าแค่พูดไปตามความรู้สึกเย็นชา
กลับย้อนกลับมาจี้ตรงกลางอกแบบไม่ทันตั้งตัว
“เลี้ยงข้าวฉันที่ร้านข้างทาง?”
ทำไมเขาต้องพูดแบบนั้น
ทั้งที่เมื่อก่อน... เขาเคยหัวเราะกับเธอในร้านบะหมี่แบบนี้
เคยนั่งข้างๆ กันในร้านแบบนี้ แล้วพูดว่า
“อยู่ที่ไหนก็อร่อย ถ้ามีเธอกินด้วย”
เซนกัดฟันแน่นเล็กน้อย พลันได้ยินเสียงใสๆ ดังมาจากด้านหลัง
“พี่เซน!”
เขาหันไปมองตามเสียง เห็นหญิงสาวร่างบาง หน้าตาน่ารักสดใสในชุดนักศึกษาเดินตรงเข้ามา
“มีน่า?”
เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย
มีน่าเป็นลูกสาวของเพื่อนแม่เขา และมักจะเรียกเขาว่า “พี่ชาย” ด้วยความเคารพและสนิทสนมแบบครอบครัว
“บังเอิญจังเลยค่ะ นี่... พี่นั่งอยู่ตรงนี้เหรอ?”
เธอมองไปรอบๆ ก่อนจะหันไปมองเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามที่ยังว่างอยู่
เห็นจานอาหารที่เพิ่งถูกวางไว้ และร่องรอยคนเพิ่งลุกไป
มีน่าเลิกคิ้ว
“แล้ว… เมื่อกี้ พี่นั่งกับใครเหรอคะ?”
เซนเงียบไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบเสียงเรียบ
“คนรู้จักเก่า”
“เหรอ…” มีน่าพยักหน้าเบาๆ แต่สีหน้าดูสงสัย
เธอไม่เคยเห็นเซนอยู่ในที่แบบนี้
ยิ่งไม่เคยเห็นเขานั่งกินข้าวข้างทางกับใคร
แต่เธอก็ไม่ได้ถามต่อ
เพียงแค่ยิ้มให้ แล้วพูดเบาๆ
“งั้นไว้คุยกันใหม่นะคะ หนูมีเรียนต่อ”
เธอโบกมือนิดๆ แล้วเดินจากไป พร้อมความสงสัยในใจ
เซนมองตามแผ่นหลังเล็กๆ ของมีน่าที่ค่อยๆ ลับตาไป
ในหัวเขายังคงวนเวียนกับภาพของมิว… และคำพูดของเธอ
“ขอโทษนะ ถ้าร้านมันไม่ดีพอสำหรับนาย”
เสียงนั้นเบา… แต่ชัดเจน
และตอนนี้ มันกลับดังก้องในใจของเขา
ดังเกินกว่าที่เขาจะเมินเฉยได้อีกต่อไป
เสียงแจ้งเตือนจากมือถือดังขึ้นในช่วงหัวค่ำ ขณะที่มิวกำลังเก็บของที่โต๊ะทำงาน
> "ตอนค่ำเลี้ยงเหล้าฉันด้วย จะถือว่าเป็นการขอโทษคนเย็นชาใจร้ายแบบฉันก็แล้วกัน"
ข้อความสั้นๆ จากเซน ทำให้เธอหยุดนิ่งไปพักหนึ่ง
เขา...พูดแบบนี้จริงๆ ใช่ไหม?
ไม่รู้ว่าควรรู้สึกขำหรือหงุดหงิด แต่มิวก็ยอมตอบตกลงไป
บางที...มันอาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะทำให้เรื่องทุกอย่างจบลงแบบไม่ฝังใจ
---
ร้านเหล้ามีระดับใจกลางเมือง บรรยากาศหรูหรา ไฟสลัวอบอุ่น เสียงเพลงเบาๆ คลอไปกับบทสนทนาเงียบๆ ของผู้คนในร้าน
มิวเดินตามเซนเข้ามา ก่อนจะโดนเขาหันมาถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ร้านเหล้าหรูขนาดนี้…มีเงินเลี้ยงฉันแน่เหรอ?”
มิวไม่ตอบ เธอเพียงแค่ยิ้มจางๆ แล้วเดินนำไปนั่งที่โต๊ะมุมเงียบๆ
เหล้าถูกสั่งมา เซนไม่แตะมันเลย
เขานั่งกอดอกพิงเก้าอี้ สายตานิ่งเย็น มองเธออย่างนิ่งเฉย
มิวจิบไปแค่คำเดียว รสชาติแรงจนเธอแทบสำลัก
เหล้าราคาแพงในแก้วกลับไม่มีรสอะไรเลย...นอกจากความฝืน
บรรยากาศเงียบจนเหมือนจะกลืนทุกเสียงรอบตัว
ก่อนจะถูกทำลายลงด้วยเสียงหวานๆ ที่ดังขึ้น
“พี่เซน!”
ทั้งคู่หันไปพร้อมกัน
มีน่าในชุดเดรสรัดรูป เดินเซๆ เข้ามาในร้าน ใบหน้าแดงเล็กน้อยจากแอลกอฮอล์
“บังเอิญจังเลย เจอกันที่นี่อีกแล้ว”
เธอยิ้ม ก่อนจะหันไปมองมิว
“แล้วนี่…ใครเหรอคะ?”
มิวหันไปสบตาเธอเล็กน้อย แล้วยิ้มสุภาพ
มีน่าไม่ได้รอฟังคำตอบ เธอเดินเข้ามาแนบตัวซบลงที่ไหล่ของเซนหน้าตาเฉย
“วันนี้หนูเมาเลย...คืนนี้ไปส่งหนูที่บ้านหน่อยได้ไหมคะ?”
มิวเบือนหน้าหนีทันที
ไม่ใช่เพราะหึง...แต่เพราะไม่เข้าใจว่ากำลังนั่งอยู่ในสถานการณ์แบบไหน
เซนปรายตามองมิว
และพูดขึ้นเสียงเรียบจนน่าหงุดหงิด
“ได้ เดี๋ยวฉันไปส่ง”
มิวเม้มปากแน่น
หัวใจเธอเงียบงันไปหมด เธอลุกขึ้นจากโต๊ะทันที ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
---
ค่ำคืนนั้น มิวกลับมาถึงห้องด้วยความรู้สึกเคว้งคว้าง
เธอถอดรองเท้าอย่างเหนื่อยล้า ปล่อยตัวลงบนเตียง แล้วหลับตาแน่น
“นี่มันคืออะไร… เรากำลังเล่นอะไรกันอยู่?”
เธอพูดเบาๆ กับตัวเอง ในห้องเงียบๆ ที่ไร้เสียงของใคร
ความรู้สึกที่ควรถูกลืมไปนานแล้ว
กลับตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
ในรูปแบบที่เจ็บยิ่งกว่าเดิม...
เซนพามีน่าไปที่บ้านของเธอ แต่เมื่อถึงที่นั่น มีน่ากลับพูดขึ้นมา
“พี่เซนค่ะ… บ้านหนูไกลมากจริงๆ ถ้าจะให้พี่ไปส่งถึงบ้านคงลำบาก เราไปโรงแรมกันดีกว่าค่ะ”
เซนหันมองไปที่มีน่า สับสนเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้าอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
“อืม” เขาตอบสั้นๆ
---
ในห้องของโรงแรม
มีน่าพูดขึ้นด้วยท่าทางที่ดูมีเสน่ห์ แต่ก็ชัดเจนในความหมาย
“พี่เซน... หนูรู้สึกไม่ค่อยสบาย อยากให้พี่อยู่ข้างๆ ในคืนนี้ เรามาทำกันเถอะนะคะ”
เซนตกใจและรีบตอบกลับไปทันที
“นี่เธอกำลังพูดอะไรอยู่นะ? อย่าทำแบบนี้เลย”
เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เพราะสิ่งที่มีน่ากำลังทำมันไม่เหมาะสมและเกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้
เซนยืนขึ้นและเดินไปที่ประตูพร้อมกับพูดออกมา
“ขอโทษครับ ฉันไม่สามารถทำแบบนี้ได้”
มีน่ารีบวิ่งไปที่ประตูและปิดมันทันที ป้องกันไม่ให้เขาออกไป
“พี่เซน… ฉันแค่... แค่ต้องการให้พี่อยู่ข้างๆ เท่านั้นเอง”
นางถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมดโชว์เรือนร่างที่น่าพิศวาสอันเย้ายวนออกมา
แต่เซนรีบผลักประตูออกไป พร้อมพูดเสียงเครียด
“ไม่ใช่แบบนี้! นี่มันไม่ถูกต้อง”
มีน่ากำลังก้มตัวไปถอดกางเกงของพี่เซน...
---
ขณะที่มิวอยู่ในห้องพักของเธอ
มิวนั่งเหม่อลอยบนเตียง คิดถึงเซนและสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนก่อนๆ รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เข้าใจว่าจะทำอย่างไรดี
เธอหยิบเบียร์กระป๋องขึ้นมาจากโต๊ะข้างเตียงและดื่มเข้าไป
“ป่านนี้... เซนคงอยู่กับเธอแล้ว เเละทำกับเธอ…” มิวพึมพำกับตัวเอง
ความรู้สึกแปลกๆ ที่ยังคงตีกันในใจของเธอทำให้มิวยิ่งรู้สึกห่างไกลจากทุกสิ่งรอบตัว
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments