ตอนที่3​ อสูร​ที่​หิวโหย​

Return​ Of​ The​ Cursed​ Devil​ :ตอนที่3​

อสูรที่หิวโหย

ภายในตัวเมือง

หลังจากเกิดเหตุการณ์​การเคลื่อนไหวของเหล่าอสูร พร้อมทั้งเหตุจราจลวุ่นวายของประชาชนคนธรรมดา

มีหรือที่คนใหญ่คนโต​ของเมืองแห่งนี้จะอยู่เฉย

ณ​ องค์กร​ป้องกัน​ความสงบจากอสูร​กาย​และสัตว์เดรัจฉาน​นอกรีต​ "ดีเซ็ทเทียร์" องค์กร​ขนาดใหญ่ยักษ์​ระดับโลกที่มีมากถึง18สาขาทั่วทุกทวีป

สาขาที่7​ เขตเหนือของเมืองอัลเทียโน่​ ทวีปมาเชีย​ร์น​

ภายในตึกของทุกโซน​ ของสาขาดีเซ็ทเทียร์ที่7​ เขตเหนือ

ตื๊ดดด!! ตื๊ดดด!! ตื๊ดดด!!

เสียงเรียกเข้าของโทรศัพ​ท์นับสิบเครื่องดังขึ้น​ พร้อมกับโฮโลแกรม​ที่ฉายขึ้นจากโต๊ะ​ทำงานของพนักงาน​ทุกคน

โดยภาพที่ฉายขึ้นจากโฮโลแกรมนั้น​ มันคือภาพของข้อความต่างๆที่ถูกส่งมาจากทั่วทุกเขตของเมืองในแถบเหนือ

"ช่วยส่งนักล่าระดับCมาโซน5ด่วน"

"ตอนนี้โซน3ขาดนักล่าระดับB"

"โซน2มีอสูรระดับCออกอาลวาด​จำนวน9ตัว"

"มีประชาชนตายไปเกือบ100คนแล้วในโซน7"

บนจอโฮโลแกรมของทุกโต๊ะ​ปรากฏ​ข้อความที่แตกต่างกันมากมาย​ แต่ใจความหลักๆของทุกข้อความล้วนเหมือน​กัน​ มันคือคำขอความช่วยเหลือ​ ที่ถูกส่งมาจากทุกโซนของเขตเหนือในเมืองแห่งนี้

"ส่งนักล่าระดับ​EและระดับCทั้งหมดให้​กระจายไปทุกเขต"

"ส่วนนักล่าระดับBให้ไปที่เขต3จำนวน5คน​ และให้ไปในเขตที่มีอสูรระดับCปรากฏ​ทุกเขต​เช่นกัน เขตละ2-3คน"

"และส่วนสุดท้ายนักล่าระดับAทั้ง8คนให้ประจำการที่สาขาย่อยของเขตเหนือทั้งหมด"

" สิ้น​สุดคำสั่งขอให้ทุกคนปฏิบัติ​ตาม"

เสียงของหัวหน้าฝ่ายจู่โจมของดีเซทเทียร์ดังขึ้นพร้อมการฉายโฮโลแกรมใบหน้าของเขาไปทั่วทุกสาขาย่อยในเขต​

บางก็ได้ฟังจากเครื่องสื่อสารที่ดังขึ้นจากกำไลข้อมืออิเล็กทรอนิกส์​ ที่ได้มาจากศูนย์​หลักแจกให้เหล่านักล่าตั้งแต่ระดับEขึ้นไปทุกคน

ณ​ โซนที่4​ ซึ่งเป็นโซนที่คิรินอาศัยอยู่​ ได้มีเสาทมิฬ​พุ่งทลวงอากาศ​ขึ้นสู่ความสูงเกินตึกระฟ้าได้ประมาณ​นึง

พร้อมเหล่ากองทัพอสูรนับหมื่นที่กำลังวิ่งกลูกันเข้าไปในทิศทางนั้น​ ทั้งบนฟ้า​ บนบก​ และใต้ดิน​ มีแต่อสูรที่ต้องการที่จะไปในทิศทาง​นั้นกันแทบทั้งสิ้น

บนรถบรรทุก​ทหาร​ ที่ตอนนี้กำลังเดินทางเข้าใกล้เสาทมิฬ​เข้าไปเรื่อยๆ

"นั่นมันเสาอะไรน่ะ"

ชายหนุ่ม​ผู้เป็นคนขับกล่าวกะหญิงสาวอีกคนนึงที่ยืนอยู่บนกระบะท้ายพร้อมจ้องมองไปที่เสาทมิฬ​ที่กำลังพุ่งขึ้นจากพื้นดินสู่ท้องฟ้า​

เค็น​ คาเก็ตสึนักล่าระดับB​ ความสามารถ​ ทะลวงกระดูก

ชายหนุ่ม​ผู้มีผมสีเหลือง​ซีด​ นัยน์ตา​สีฟ้าอ่​อน​ พร้อมกับบนหัวที่สวมกระโหลกศีรษะ​ที่มีเขาและกระดูกสั้นหลังติดอยู่ของอสูรกายบางอย่าง

"ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันคืออะไร​ แต่ดูเหมือน​ว่ามันจะเป็นตัวการบางอย่าง​ ที่ทำให้อสูรพวกนั้นมันไปรวมกันอยู่"เธอตอบพร้อมวิเคราะห์​สิ่งที่เกิดขึ้นอย่่างรวดเร็ว

นานะ​ โรชาน​ นักล่าระบบ​B ความสามารถ​ เคียว

หญิงสาวเผ่าเอลฟ์​ผมบรอน นัยน์ตา​สีเหลือง​อ่อน​ มีหูที่ยาวแหลม​ พร้อมในมือที่ถือเคียวสีหม่นขนาดยักษ์​เท่าตัว

"แล้วนายคิดว่าเสานั่นคืออะไรเหรอชู"นานะกล่าวกะชู​ เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ​ ด้วยแววตา​และน้ำเสียงที่มีนัยยะบางอย่าง

" ไม่รู้สิ"

เด็กหนุ่ม​บอกปัดอย่างไม่อยากคิดพร้อมเบนหน้าหนี

ชู​ เกาเธอร์​ ระดับCช่วงปลาย​ ความสามารถ​  ศาสตราวิญญาณ​

เด็กหนุ่มเผ่าอมนุษย์​ครึ่งแพะ​ หน้าตาสะสวยราวกับหญิงสาว​ ผมสีดอกเลา​ถักเปีย​ยาวสองข้าง​ นัยน์ตา​สีขาวเทา​ พร้อมด้วยเขาแพะที่อยู่บนหัว

" งั้นเหรอถ้าเธอช่วยตรวจสอบ​ให้หน่อย​ ไม่แน่ว่าพี่สาวคนนี้อาจจะให้หญ้าแพร่ไร้มลทิน​ แก่เธอก็ได้นะ" นานะพูดเชิงหลอกล่อพร้อมเสกหญ้าแพร่สีเขียวชอุ่ม​ออกมา​ เพื่อล่อให้เด็หนุ่มอธิบายถึงเสาทมิฬ​นั่น

... เฮ้อ~...

เขาพยายาม​เบี่ยงซ้ายเบี่ยงขวาด้วยความรู้สึกกลับกลอก​ แต่แล้วเขาก็ถอนหายใจยาว​ออกมาเฮือก​หนึ่ง

" มันคือเสาที่เกิดจากอสูรที่มีคำสาประดับสูงหน่ะ จากที่เสาตนนี้สูงได้แค่ระดับ​ของตึกระฟ้า​งั้นก็แปลว่าตัวของอสูรที่โดนคำสาปก็เป็นแค่พวกระดับCหรืออย่างมากก็Bเท่านั้นแหละ"

ชูกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูหน่ายๆแบบไม่อยากตอบ​ แต่ก็ห้ามใจไม่ได้กับสิ่งที่หญิงสาวเอามาล่อ

"ว้าว! นี่แหละ​เด็กดีๆ​ อ้าามม!" เธอป้อนหญ้าแพร่แสนหวานเข้าปากของชูพร้อมลูบหัวเบาๆอย่างอ่อนโยน​

ส่วนชูที่ได้กินหน้า​ที่หญิงสาว​ป้อนให้ก็มีสีหน้าที่เรียบเฉยพร้อมเคี้ยว​เอื้อ​ยๆราวกับแพะตัวน้อยที่กำลังกินอาหารที่ชาวนาป้อนให้

ทางฝั่งคนขับรถ​ที่ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มกริ่ม​ พร้อมเปลี่ยนคันเร่งและเพิ่มความเร็วในการเดินทางขึ้น

ภายในท้อระบายน้ำ

ปัง!!

มีดปักตอขนาดยักษ์​ที่ฟาดลงมาอย่างรุนแรง​กระทบเข้ากับพื้นอย่างจัง​ เกิดเป็นเสียงที่ดังสนั่น​กึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ​

"เกือบไปแล้ว"

ด้วยไหวพริบอันว่องไว​จึงทำให้คิรินกะโดดหลบจากการโจมตีของอสูรวัวไร้หัวได้อย่างฉิวเฉียด

'เร็วมาก​ เมื่ออเทียบกับที่มันถืออาวุธ​ที่ใหญ่โตขนาดนั้น!'​

'​อีกอย่างนึง! แล้วทำไมข้าถึงตรวจดูพลังของตัวเองไม่ได้หล่ะ!? แต่ถึงได้แม่งก็น่าจะน้อยกว่าไอ้เวรนี่แหงๆเลย... '​

ในขณะที่คิรินกำลังคิดอยู่นั้นเจ้าอสูรวัวไร้หัวก็ไม่รอช้า​ มันเหวี่ยงอาวุธของมันอย่างรวดเร็วฟาดฟันทะแยงสลับซ้ายขวาอย่างต่อเนื่อง

มันไม่ได้มีการโจมตีที่สลับซับซ้อน​มาก​นัก​ เลยทำให้คิรินหลบการโจมตีได้อย่างหวุดหวิด​ จนกระทั่งความเร็วของมันเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

และมันได้ไปเฉี่ยโดนแขนข้างนึงของคิรินเข้า​ จนมีเลือดกระเซ็นออกมา​

'เวรแล้วไง!! '​

ผลกระทบจากการโดนเฉี่ยวแค่ครั้งเดียวก็ถึงกับทำให้การทรงตัวของคิรินนั้นขาดจังหวะ

"ฉับ!!"

เสียงของแขนที่ขาดหวิ้นกระเด็นออกไปจากไหล่โดยการโจมตีของอสูรวัวไร้หัว​ พร้อมทั้งเลือดที่พุ่งกระฉูด​ออกตามลอยฟัน

"ฮึ!"

เขาแสยะยิ้มพร้อมจ้องมองอสูรวัวไร้หัวอย่างหยิ่งผยอง​

"แกคิดว่า​แค่แขนข้าขาดแล้วจะฆ่าข้าได้งั้นเหรอ.."

ไม่ทันได้พูดจบมีดปักตอขนาดยักษ์​ก็ฟันทะแยงลงมาจากเบื้องบน​ ตัดผ่านร่างทั้งร่างของคิรินจนเกิดรอยแยก

เลือดพุ่งกระฉูดสาดกระจายออกจากรอยแยกจากนั้นร่างของเด็กหนุ่มที่ถูกแยกออกเป็นสองส่วน

ตุบ!!

ร่างทั้งสองส่วนล่วงลงสู่พื้นแทบจะพร้อมๆกัน

"ที่นี่ที่ไหนกัน"

เข้าโผล่ขึ้นภายในมิติบางอย่างที่มืดมิดไม่เห็นทางเดิน​ ไม่เห็นแสงสว่าง​ ไม่เห็นอะๆไรเลย

"อรุณสวัสดิ์​ลูกศิษย์​ของข้า"

เสียงของชายผู้หนึ่งดังขึ้นพร้อมกับความงุนงงที่เกิดกับคิริน

"แกเป็นใคร"

คิรินถามด้วยความเย็นชา​ จากนั้นชายผู้นั้นก็แสยะยิ้มขึ้น

ตัดฉากมาฝังนักล่าสามคนที่พึ่งเข้ามาในท้อระบายน้ำ​ พร้อมกับรอบๆที่เต็มไปด้วยซากศพของพวกอสูรนับร้อยที่นอนตายกันเกลื่อนกลาด​

"ใกล้จะถึงแล้วหล่ะ"

เสียงเอื่อย​ๆของชูดังขึ้น​

ทั้งสามคนเริ่มที่จะเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆในท้อระบายน้ำ​ หลังจากที่พวกเขาจัดการกับอสูรกลุ่มที่แล้วเสร็จ​ พวกเขาก็ไม่เจออสูรอีกเลย

จนกระทั่งเดินมาได้สักพักพวกเขาก็เห็นซากของอสูรงูขาวไร้ตา​ กับศพของมนุษย​ผู้หนึ่งที่ตายอย่างอนาถ

"ถึงแล้วหล่ะ"

ชูเมื่อถึงจุดหมายก็นั่งลงรอให้ทั้งสองคนที่เหลือจัดการ​

"นั่นหน่ะเหรอจุดกำเนิดของเสาทมิฬ​คำสาประดับสูง" นานะกล่าวขึ้นพร้อมจ้องมองกระเป๋า​ขนาดใหญ่​ และชำเลือมตาไปเห็นอะไรบางอย่างอยู่ในเงามืดของกำแพง

"รีบจัดการซะดีกว่า​จะได้เสร็จภารกิจสักที" เค็นกล่าวพร้อมเก้าไปข้างหน้า​ แต่ก็ถูกนานะห้ามเอาไว้

"เดี๋ยวก่อน!​ มันยังมีอสูรอยู่อีกตัวนึง"

"แล้วทำใมมันถึงมาอยู่ที่นี่ได้หล่ะ​ ทั้งๆที่ตัวอื่นไม่เห็นจะเข้ามาในรัศมีสิบเมตรเลยด้วยซ้ำ"เค็นหยุดเก้าพร้อมจ้องมองไปที่ิอสูรวัวไร้หัวที่กำลังเดินมาทางนี้พร้อมมีดปักตอขนาดยักษ์​ในมือ

"คงเป็นเพราะเจ้าตัวนี้คืออสูรเฝ้าคำสาป​"

ชูจ้องมองไปที่อสูร​วัวไร้หัวด้วยความรู้สึก​ที่เบื่อหน่าย​

" จะมีบางครั้งเมื่อคำสาปเกิดขึ้นจะมีอสูรบางตัวที่หยุดออกมาจะมิติที่คำสาปจากมา บางครั้งก็อาจจะมาเป็นร้อยตัวเลยก็มี"

"เจ้านี่มันอยู่ระดับCงั้นสินะ"

"ใช่! แต่นั่นคือพลังของมันเท่านั้น​ ยังไม่นับเจ้าอาวุธ​นั่น​ ที่น่าจะเป็นอาวุธระดับA"

"ถ้าจะสู้กับมันล่ะก็อย่าให้โดนมันซะล่ะ​ แม้แต่เฉียวก็ตาม​ ถึงจะเป็นนักล่าระดับAก็ใช่ว่าจะชนะมันได้ง่ายๆหรอกนะ"

"งั้นก็ต้องลองกันสักตั้ง"

เค็นพูดด้วยใจที่แน่วแน่พร้อมตั้งท่า​ แนบนิ้วชี้และนิ้วกลางติดกันในขณะที่กำนิ้วอื่น

"ทลวงกระดูก​ เขามัจจุราช"

สิ้นสุดคำพูดกระดูกนับสิบพุ่งขึ้นจากพื้นทลวงร่างของอสูรวัวไร้หัว

แต่แล้วเมื่อกระดูกเหล่่านั้นกำลังจะเตะตัวของมัน​ ด้วยสัญชาติ​ญาณ​อันฉับไวจึงทำให้มันกระโดดหลบกระดูกเหล่านั้นได้ทั้งหมด

ในขณะที่มันกระโดดขึ้นรูปร่างเงาของเคียวปริศนา​ขนาดยักษ์​ที่ใหญ่โตเกือบสิบเมตรก็ปรากฏ​ขึ้นเหนือหัวของมัน​

เคียวขนาดยักษ์​ถูกเหวี่ยงลงมาอย่างรวดเร็ว​กระทบเข้ากับมีดปักตอสองอันที่ไขว้กันจากนั้นก็สลายหายไป

ปัง!! ฉึก!!

อสูรวัวไร้หัวพุ่งลงสู่พื้นที่เต็มไปกระดูกที่ตั้งชูชันขึ้น​ ร่างของมันถูกปักอยู่กลางกระดูกขนาดใหญ่พร้อมกลุ่ม​ควันที่คละคลุ้ง​อยู่ทั่วบริเวณ​

"มันยังไม่จบ"

เสียงของชูดังขึ้นเพื่อเตือนสติคนทั้งสองไม่ให้ประมาท

คลืนพลังอันแหลมคมกระจายออกจากกลุ่มควันเป็นวงกว้าง

"ชิ..เกือบไปแล้ว"

"ถ้าไม่ได้ชูช่วยไว้คงได้ขาดเป็นสองท้อนแล้ว"

ด้วยเสียงของชูจึงทำให้พวกเข้าหลบพ้นจากคลื่นพลังนั้นได้อย่างเฉียดฉิว

หลังจากกลุ่มควันจางลงเผยให้เห็นร่างของอสูรวัวไร้หัวที่หน้าอกเป็นรู้โหวขนาดใหญ่ที่เกิดจากกระดูกของเค็น

ในขณะนั้น​ทั้งสองที่เข้าต่อกรกับอสูรหัวไร้หัวมันจึงทำให้พวกเขาออกห่างจากชู

ตอนนี้อสูรวัวไร้หัวที่สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างจากตัวชู​ มันจึงรีบพุ่งเข้าใส่ชูด้วยความเร็วสูงสุด

แต่แล้ว

"ตัด"

ชูทำนิ้วให้เป็นกรรไกร​ที่อ่างออกจากนั้นก็หนีบเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว

เมื่อสิ้นสุดเสียงของชูกรรไกรขนาดยักษ์​ใหญ่โตเกือบสิบเมตรก็ปรากฏ​ขึ้นพร้อมตัดฉับไปที่ลำตัวของอสูรหัวไร้หัวจนขาวหวิ้น​

พร้อมเลือดที่พุ่งกระฉูดออกจากรอยตัด

สองซากที่ถูกตัดก็ล่วงลงสู่พื้น​ พร้อมกรรไกรยักษ์​ที่สลายหายไป

'สมแล้วที่เป็นถึงว่าที่ระดับAตั้งแต่เข้าใหม่​ และได้ฉายาที่ว่า"นักหั่นปีศาจ" '​

นานะคิดขึ้นในใจด้วยความนับถือ​

"จบสักที"

เค็นกล่าวพร้อมบิดขี้เกียจ​

เมื่อฆ่าอสูรเฝ้าคำสาปจบเสาทมิฬก็เริ่มหดตัวลงและสลายหายไป

"กลับกันเถอะ! ฉันจะได้เอาเจ้านี่ไปขาย"

เสียงของเค็นดังขึ้น​ ในขณะที่ตั้งท่า

เขสเก็บมีดปักตอทั้งสองอันลงสู่พื้นดินด้วยกระดูกพุ่งขึ้นจากพื้นดินจนเป็นรูปซี่โคลงขนานใหญ่ของสิ่งมีชีวิต​บางอย่าง

"นายเนี่ยนะคิดแต่เรื่องเงินจริงๆ"

นานะแซวเค็น​เหมือนดั่งปกติที่ทำ​

พวกทั้งสองเดินไปหาชูที่กำลังนั่งอยู่

"ดูเหมือนว่าซากมนุษย์​ที่ตายแล้วนั่นจะไม่ธรรมดานะ"

พูดจบทั้งเค็นและนานะก็หันกลับไปมองซากศพ​ที่ขาดครึ่งกำลังจะ​ลุกขึ้น​อย่างช้าๆของเด็กหนุ่ม​ ด้วยแววตา​ที่ตกตะลึง​

พร้อมด้วยดวงวิญญาณ​สรเขียวที่ออจากร่างของอสูรวัวไร้หัวเข้าสู่ร่างของเด็กหนุ่ม

จากนั้นร่างที่ขาดครึ่งก็เรืองแสงสีเขียวออกมา....

คิรินฟื้นคืนชีพ​แล้วงั้นเหรอ?

แล้วชูจะเขาไหม!?

และร่างที่ขาดครึ่งนั่นจะกลับคืนมาหรือไม่!!?

ตอนที่4พลังที่พึ่งตื่น

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!