Return of the Cursed Devil ตอนที่1 โชคชะตาแสนอาภัพ
โชคชะตาอันโหดร้ายของเด็กน้อย ผู้ที่ถูกทั้งพ่อและแม่ขายตัวเองให้กับแก๊งมาเฟีย
เพื่อแลกกับเงินไม่กี่หมื่น
ผู้ที่ปกติก็อยู่ไม่เป็นสุขอยู่แล้วจากการโดนกลั่นแกล้งจากนักเลงข้างถนน และแทบจะทุกครั้งที่ถูกกลั่นแกล้งก็มักจะมีเลือดตกยางออกอยู่เสมอ ไม่ก็มีรอยฟกช้ำเป็นประจำ
มันทั้งเจ็บปวดและทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก ทุกๆวันของเขานั้นไม่ได้ไปโรงเรียนและไม่ได้เรียนหนังสือ
มั่วแต่จะต้องมาหาเงินเลี้ยงพวกพ่อแม่ขี้ยา ที่วันๆไม่ได้ทำอะไร เอาแต่เสพยากับดื่มเหล้า
ทุกๆวันของเขานั้นจะต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำอย่างเหน็ดเหนื่อยเพื่อเอาเงินไปให้พ่อแม่ที่ถ้าลูกไม่หาเงินมาให้ก็ถึงกับจะต้องลงไม้ลงมือทุบตีอย่างรุนแรงจนร่างกายมีรอยฟกช้ำไปทั่วทั้งตัว
บางครั้งก็ถูกกดเงินค่าแรงหรือไม่ไม่ได้เงินเลยก็มี เมื่อเป็นอย่างนั้นเขาจึงต้องอาศัยช่วงกลางคืนมาแอบวิ่งราว ไม่ก็โขมยมาจากที่ต่างๆ
พวกเขานั้นไม่เคยสนใจใยดีอะไรลูกของตัวเองเลย แม้จะบาดเจ็บหรือล้มป่วยก็ไม่ทุกข์ร้อนใดๆขอแค่หาเงินมาให้ก็พอ
จนมาวันหนึ่งวันที่แก่งมาเฟียมาขอซื้อลูกของพวกเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเขานั้นรีบตอบทันควันว่าขาย โดยไม่คิดหรือรู้สึกอะไรเลย ต่อหน้าต่อตาของลูกชายของเขา
"พ่อครับแม่ครับ จะขายผมไปจริงๆงั้นเหรอ!!" เด็กน้อยกล่าวอย่างน้ำตาคลอพร้อมกับความรู้สึกที่ไม่อยากจากที่นี่ไป ถึงแม้อยากจะจากไปแค่ไหนก็ตาม
"อย่าขายผมไปเลยนะครับ เดี๋ยวผมจะหาเงินมาให้เยอะกว่านี้ ผมจะตั้งใจทำงานกว่านี้ ผมจะทำทุกอย่างให้ดีมากกว่านี้ ขอร้องหล่ะ! อย่าขายผมขายเลยนะครับ!!" เขาโอดครวญอ้อนวอนต่อผู้เป็นบิดาและมารดาของตนอย่างสิ้นหวังอยู่นาน
แต่สิ่งที่พวกเขาตอบ มันกลับทำให้เด็กน้อยเจ็บปวดใจยิ่งกว่าเดิม
"ใสหัวไปให้พ้นซะ!! ไอ้เด็กเวรนี่!! จากนี้ไปเอ๊งจะได้ไปจากพวกข้าสักที นับแต่นี้ไปพวกข้าจะได้หมดเวรหมดกรรมไม่ต้องมาเลี้ยงดูเอ๊งอีก!! " ชายวัยกลางคนตะคอกใส่เด็กน้อยอย่างรุนแรงด้วยความรู้สึกที่เกรียดชัง
ส่วนหญิงสาวที่อยู่ข้างๆก็ไม่ได้แยแสเด็กคนนี้ที่กำลังอ้อนวอนเขาเลยแม้แต่น้อย ไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำ
แม้นเขาจะบอกว่าเลี้ยงดูแต่จริงๆแล้วเขากลับทุบตีทารุณต่างๆ ข้าวปลาอาหารก็เทลงกับพื้นปล่อยให้กินเยี่ยงหมาจรจัด
ไม่ส่งเสียให้เรียน ไม่ดูแลตอนป่วย ปล่อยให้อยู่รับใช้เยี่ยงทาสในบ้านโทรมๆหลังหนึ่งเท่านั้น
"นี่ผมเป็นตัวอะไรในสายตาของพวกท่านกันแน่!!?" เด็กน้อยตะคอกด้วยน้ำตาที่ไหลรินอย่างเสียขวัญ พร้อมกับกลุ่มคนชุดดำที่พาตัวเขาไป
เขาพยายามดิ้นรนสุดชีวิตเพื่อที่จะหนีไปให้พ้นจากแก๊งมาเฟียและพ่อแม่ที่สุดแสนจะอมหิตของเขา
จนท้ายที่สุดแล้วเขาก็หนีรอด มาแอบซ่อนตัวอยู่ในท้อระบายน้ำแห่งหนึ่งได้สำเร็จ
ส่วนพ่อแม่ของเขาหลังจากที่ขายลูกตัวเองไปแล้ว ก็ไม่เคยหวนรำลึกถึงลูกชายของตนเลย ไม่แม้นจะเป็นห่วงเป็นใย ราวกับว่าไม่มีสายสัมพันธ์หรือเยื่อใยอันดีต่อกันเลย อยู่อย่างสุขสบายกับเงินเล็กๆน้อยๆโดยการขายลูกตัวเอง
ส่วนพวกแก๊งมาเฟียที่เร่งกำลังตามหาเขาอยู่นานมากแล้วนั้น แต่ก็กลับไม่พบร่องรอยอะไรเลย ก็รู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมา
พวกเขานั้นเป็นแก๊งมาเฟียใต้ดินที่มีชื่อเสียงด้านลบอยู่พอสมควรมีหรือจะยอมให้เสียเงินไปกับครอบครัวไร้ค่าครอบครัวนึง
แก๊งมาเฟียที่ไม่ได้ของตามที่ตกลงเลยส่งคนกลับไปฆ่าสองสามีภรรยาคู่นั้นแทนเพื่อคืนหนี้สิ้นและค่าเสียเวลาของพวกเขากลับมา...
ภายในบ้านโทรมๆหลังหนึ่ง
ศพของคู่สามีภรรยาที่เละเทะไม่เป็นท่า ทั้งเครื่องในที่กระจัดกระจายไม่เป็นทิศเป็นทาง ทั้งใบหน้าที่เหวอะหวะไม่เป็นรูปเป็นร่าง และทั้งเลือดที่สาดกระเด็นกระดอนไปทั่วทั้งบ้าน
ซากศพนี้แลดูแล้วไม่น่าจะเป็นฝีมือของมนุษย์อย่างแน่นอนที่ทำมัน ราวกับว่ามีสัตว์อสูรร้ายมาทำการซีกกระชากร่างเสียซะมากกว่า...
ใต้เมือง
เด็กน้อยอาศัยนอนในห้องเก็บขยะเก่าๆภายในท้อระบายน้ำ โดยการหาของกินจากถังขยะรอบๆเมือง ไม่ก็ตระเวณปล้นไปทั่วเพื่อประทังชีวิต มันทั้งยากลำบาก และแสนที่จะทรหด แต่เขาก็ทนกับมันตลอดมา เพื่อมีชีวิตอยู่...
เหตุการณ์เหล่านี้วนเวียนเรื่อยมาตลอดหลายปีจนเขาอายุได้15ปี
ณ ทวีปมาเชียร์น ชายแดนของเมืองแห่งความหลากหลาย อัลเทียโน่ สถานที่อันขึ้นชื่อเรื่องอสูร สัตว์ประหลาด ปีศาจร้าย และภูติผี
แถบชายแดนแทบทั้งหมดของเขตเหนือล้วนเป็นที่ตั้งของเหล่าแก๊งใต้ดิน ไม่ก็เป็นที่หลบหนีของเหล่าอาชญากรผู้ก่อการร้าย
มิหนำซ้ำยังมีตลาดมืดที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลกอีกด้วย
ไร้ซึ่งกฎหมาย ไร้ซึ่งความยุติธรรม ที่นี่ใช้กฎแห่งธรรมชาติปลาใหญ่กินปลาเล็ก ผู้ที่มีอำนาจคือความถูกต้อง
ภายในตัวเมือง ได้มีเหตุการที่ชุลมุนวุ่นวายเกิดขึ้น..
"หนีเร็วพวกเรา!! พวกอสูรมันโผล่มาอีกแล้ว"
ชายวัยกลางคนตะโกนขึ้นเสียงดัง เพื่อเรียกเหล่าพวกพ้องของตนให้หนีจากเหล่าอสูรนับไม่ถ้วน
ที่โผล่ออกมาจากทั่วทุกสารทิศ ใต้ดิน ท้องฟ้า ถนน ตึก ทุกๆที่เต็มไปด้วยเหล่าอสูรหน้าตาแปรกประหลาด
บางก็มีดวงตานับไม่ถ้วนตามร่างกาย บางก็ไร้ดวงตา บางก็มีแขนขานับไม้ถ้วนตามร่างกาย บางก็ไม่มี อวัยวะสะเปะสะปะ กระดูกจัดวางไม่เป็นทิศเป็นทาง
แทบทั้งสิ้นต่างมีองค์ประกอบตามร่างกายที่ไม่สมบูรณ์หรือไม่ก็เกินเลยจนล้นพ้น ทำให้พวกมันดูอัปลักษณ์เป็นอย่างมาก
ไม่นานนักหลังจากเหล่าอสูรปรากฏตัว เหล่าผู้แสวงหาในโชคลาภ ไม่ก็เหล่านักสู้นักล่าหรือแม้กระทั่งเหล่าผู้ต้องการหาอสูรผู้ผูกพันธสัญญากับตนก็ต่างพากันมาที่นี้
การผูกพันธสัญญากับอสูรนั้นก็คือการแลกเปลี่ยนระหว่างกายเนื้อกับอสูรเพื่ิอแลกกับพลังที่จะได้รับ
พลังนั้นขึ้นอยู่กับอสูรว่าแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ และยังขึ้นอยู่กับสิ่งที่แลกเปลี่ยนด้วย
ยิ่งสิ่งแลกเปลี่ยนมีผลต่อความเป็นตายมากเท่าไรยิ่งได้รับสิ่งแลกเปลี่ยนที่มากขึ้นเท่านั้น
แล้วถ้ายอมแลกชีวิตกับพลังล่ะจะเป็นอย่างไร!?
คำถามนี้ยังคงมีอยู่เรื่อยมาทั้งๆที่มีคนเคยทำมันแล้วนับไม่ถ้วนก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครเลยที่สามารถรอดกลับมาจากความตายเพื่อจะเล่าเรื่องนี้ได้..
นี่แหละคือความพิศวงของพันธสัญญา..
ตรงปากท้อระบายน้ำกลางเมือง
"ไอ้พวกอสูรเวรในครั้งนี้แม่งเยอะกว่าครั้งก่อนเสียอีก"
เด็กหนุ่มโผล่ขึ้นมาจากปากท้อระบายน้ำกลางเมือง เพื่อที่จะออกมาสังเกตุสิ่งที่เกิดขึ้นด้านบน
เขาผู้นี้มีชื่อว่าคิริน เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ไร้ที่อยู่อาศัยไร้ซึ่งสังกัดหรือแก่ง อยู่อย่างโดดเดี่ยว...
หลังจากที่ได้สอดส่องดูรอบๆอยู่สักพัก เขาก็พบว่าภายในเมืองเกิดการจราจลขึ้น พร้อมทั้งอสูรที่เดินไปเดินมาอยู่ทั่วทั้งเมือง...
"ข้าหวังว่าข้างล่างนี้คงจะไม่มีพวกอสูรเวรตะไรเหมือนข้างบนหรอกนะ ไม่งั้น.." เขาพูดออกมาด้วยท่าทีที่สบายๆราวกับว่าเรื่องพวกนี้เป็นเหตุการณ์ปกติของเขา
เมื่อลงมาถึงเบื้องล่างเขาก็พบกับอสูรตัวหนึ่งมันมีลักษณะคล้ายงูแต่ไม่มีดวงตา ลำตัวเป็นสีขาวยาวหลายสิบเมตร
" เฮ้อ~สิ่งที่ข้าหวังมันไม่เป็นจริงซะแล้วสิ"
'ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าบางทีเจ้านี่อาจจะเหมาะกับการทำพันธสัญญากับข้าก็ได้'
"เฮ้! ไอ้งูหน้าโง่ แกมาได้พอดิบพอดีเลยนะ อยากลองทำพันธสัญญากับข้าไหมล่ะ!?? "
พูดยังไม่ทันขาดคำเขาก็เจอกับอสูรเขาส่ะแล้ว และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกกลัวแต่อย่างไร แต่กลับดูถูกใจเจ้าอสูรตัวนี้ซะมากกว่า
"ถึงข้าจะไม่อยากให้แกมาอยู่ที่นี่ก็ตามเถอะ แต่จะทำไงได้ล่ะว่างั้นไห..."
ยังไม่ทันได้พูดจบเจ้าอสูรตัวนั้นก็อ้าปากขนาดใหญ่ของมันออก พร้อมเขมือบร่างทั้งร่างของเด็กหนุ่มลงไปภายในคำเดียวอย่างง่ายดาย โดยไม่แม้นจะสนใจคำพูดของเขาเลยแม้แต่น้อย
แต่จู่ๆก็มีบางอย่างเกิดขึ้น เมื่อมีมีดปริศนาพุ่งออกมาจากลำตัวของอสูรตัวนั้น มันตัดผ่านร่างของอสูรไปมาอย่างรวดเร็วจนมองตามแทบไม่ทัน
ต่อมาเหล่าเศษชิ้นส่วนเนื้อของอสูรงูไร้ตาก็กระจุยกระจายออกมาพร้อมกับเลือดที่พุ่งกระฉูดราวกับน้ำพุ...
"จะต้องมีพวกจากองค์นั่นมาตรวจอีกแน่ถ้ามีศพของไอ้พวกนี้ นี่แหละเหตุผลที่ข้าไม่อยากจะพบเจอเจ้าพวกอสูรแถวนี้เลย ถ้าเป็นไปได้ข้าอยากจะเจอพวกภูติผีดีกว่า จะได้ไม่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนั้น แถมยังได้ดวงวิญญาณอีก"
คิรินเดินออกมาจากกองซากศพของอสูรด้วยร่างที่ชโลมไปด้วยเลือด พร้อมบ่นพึมพัมออกมาอย่างยกใหญ่ และในมือที่กำดวงวิญญาณสีฟ้าเอาไว้ เหตุการณ์เหล่านี้คือสิ่งปกติที่เด็กหนุ่มจะต้องเผชิญเป็นประจำทุกวัน..
" เฮ้อ~ ข้าก็อยากจะทำพันธสัญญาบ้างจัง มันจะเป็นยังไงกันน๊า~เมื่อทำพันธสัญญาแล้วเนี่ย เห็นพวกนักล่าเขาก็ทำกันแทบทุกคนเลย น่าอิจฉาชะมัดยาด!"
เขาถอนลมหายใจออกมาเฮือกนึงด้วยความรู้สึกที่เหนื่อยหน่ายอย่างบอกไม่ถูก
ในขณะนั้นนั่นเอง
วูป! ฟิ้วว~
เสียงของบางสิ่งบางอย่างที่ทะลวงผ่านกำแพงออกมา พร้อมเสียงหวีดวิวของลมที่ดังขึ้นเบาๆ
"ข้านั้นได้ยินไม่ผิดสินะ พันธสัญญาใช่ไหม!? ถ้าเจ้าถามข้าล่ะก็ ข้านั้นไม่มีให้เจ้าหรอก แต่ข้านั้นมีของบางอย่างที่น่าสนใจอยากจะมาแลกกับเจ้าหน่ะ"
วิญญาณผีพ่อค้าพร้อมกับสัมภาระที่เป็นกระเป๋าขนาดใหญ่ลอยตามมา โผล่ออกมาจากกำแพง
'วิญญาณผีสินะ'
คิรินแสยะยิ้มอยู่ในใจเมื่อพบกับสิ่งที่เขาต้องการ
"ว่ามา"
คิรินเอ่ยอย่างเย็นชาโดยไม่ทักทาย เขานั้นไม่ได้สนใจในสิ่งที่วิญญาณพ่อค้าต้องการจะแลก แต่เขากลับเกิดความสนใจในสิ่งอื่นมากกว่า...
" ข้านั้นมีอาวุธภูติหายากมาให้ เพื่อแลกกับดวงวิญญาณดวงนั้น" เขาใช้คำพูดที่น่าดึงดูดเพื่อให้เด็กหนุ่มเกิดความสนใจ
แต่
" ไม่อะข้าไม่สนใจอาวุธพวกนั้น และข้าก็หิวแล้วด้วยตอนนี้"
หลังจากพูดจบเด็กหนุ่มก็เขมือนดวงวิญญาณเข้าปากโชว์ไปในทันทีพร้อมกลืนลงท้องอย่างรวดเร็ว
รู้ไว้ก่อนนะว่ามนุษย์นั้นไม่สามารถกลืนกินดวงวิญญาณได้ เพราะถ้าเกิดกลืนกินลงไปแล้วจะเกิดผลสะท้อนของพลังที่กระจายออกมาจากดวงวิญญาณ จนทำให้ร่างกายโป่งพองพร้อมกับบางส่วนที่บิดเบี้ยวอย่างไม่เป็นรูปเป็นร่างจากนั้นก็ระเบิดออกและตายลง...
หลังจากที่เขากลืนดวงวิญญาณนั้นลงไปร่างกายของเขาก็เกิดแสงสีฟ้าอ่อนห่อหุ้มร่างเอาไว้ช่วงขณะ จากนั้นก็จางลงและสลายหายไป
" ห๊า~ นี่เจ้าบ้าไปแล้วเหรอ มนุษย์ที่ไหนกันเข้ากลืนดวงวิญญาณลงไปหน้าตาเฉยขนาดนั้น"
วิญญาณพ่อค้าถึงกับอ้าปากค้างพร้อมเข้าไปเขย่าร่างของเด็กหนุ่มและโวยวายออกมายกใหญ่
"ก็มีที่นี่ไง"
เขาตอบทันทีทันใดอย่างไม่คิดมาก...
'ข้ายังหิวอยู่เลย เจ้าดวงวิญญาณงูนั่นยังไม่ทำให้ข้าอิ่มได้จริงๆด้วย ข้าคงต้อง..'
ในขณะที่วิญญาณพ่อค้ากำลังบ่นเด็กหนุ่มอยู่นั้น เด็กหนุ่มก็เลียริมฝีปากด้วยความหิวโหยพร้อมง้างมีดสั้นที่อยู่ในมือ
"เอ่ะ!! นี่เจ้ากำลังจะทำอะไรของเจ้านะ มันคงไม่ใช่ว่าเจ้าเห็นข้าเป็นอาหารหนอกระมั้ง.. "
เมื่อเห็นดังนั้นพ่อค้าก็ถึงกับผงะก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัวพร้อมความกลัวที่แสดงชัดเจนทางสีหน้า
"โทษทีนะ ตอนนี้ข้าหิวมากแล้ว ข้าคงต้องฆ่าเจ้าแล้วหล่ะ เพื่อสนองความอยากของข้าในตอนนี้ ขอบคุณสำหรับอาหาร"
พูดจบคิรินก็ตั้งท่าและกวัดแกว้งมีดอย่างรวดเร็ว ตัดเฉือนวิญญาณพ่อค้าจนขาดสบั้นออกจากกัน พร้อมเลือดสดๆที่สาดกระเด็นกระดอนไปในทิศทางต่างๆ
"ม้ายยย!!!
เสียงโหยหวนดังอยู่สักพัก ไม่นานนักร่างวิญญาณพร้อมเลือดก็สลายหายไปกับความว่างเปล่า พร้อมกับการปรากฏของดวงวิญญาณสีฟ้าขึ้นในมือของเด็กหนุ่มอีกครั้งและกระเป๋าสัมภาระขนาดใหญ่ที่ตกลงมาจากอากาศสู่พื้น
เขาเขมือบดวงวิญญาณเข้าปากพร้อมกลืนลงท้องในทันทีอย่างรวดเร็วโดยไม่รอท่า
จากนั้นแสงสีฟ้าอ่อนก็ห่อหุ้มร่างของเขาอีกครั้งและจางหายไปเช่นเดิม
และดูเหมือนว่าทุกครั้งที่เขากลืนดวงวิญญาณเขาไป เขาจะไม่รู้สึกถึงแสงที่ห่อหุ้มร่างกายของเขาเลยสักครั้ง
แล้วเจ้าแสงนี่มันคืออะไรกันแน่!?
และทำใมมันถึงห่อหุ้มร่างของเขาด้วย?...
"แหวะ!! ดวงวิญญาณเนี่ยไม่ค่อยอร่อยเลยแฮะ พวกเศษอาหารข้างถนนยังอร่อยกว่านี้อีก"
คิรินบ่นพึมพัมแล้วเดินจากไปพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระขนาดใหญ่ที่ลากมาด้วย โดยที่ทิ้งกองซากอสูรไว้เบื้องหลัง
แต่จู่ๆก็มีบางอย่างเกิดขึ้น
ตึกๆ!! ตึกๆ!!
เสียงของหัวใจที่สั่นแรงผิดปกติพร้อมอาการวิงเวียนที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน
'โอ๊ยยย!! แม่งโครตเจ็บเลย!! นี่มันอะไรกัน'
เขากุมศีรษะด้วยความเจ็บปวด พร้อมร่างกายที่เริ่มโซซัดโซเซอย่างควบคุมไม่อยู่และล้มลงในที่สุด
ตึก!!
ดวงตาเริ่มพร่ามัวภาพเบื้องหน้าเริ่มไม่ชัดเจนพร้อมสติที่เลือนลาง และล้มลงนอนกองลงกับพื้น
'ไม่ไหวแล้ว... '
ความคิดเริ่มวูบดับสติไร้ซึ่งการตอบสนอง หลับลงกับพื้นโดยไม่ทราบสาเหตุ...
มันเกิดอะไรขึ้น!!?
เป็นเพราะดวงวิญญาณนั่นหรือป่าว?
หรือว่ามีพวกอสูรลอบทำร้าย?
ตอนที่2 ผูกพัทธสัญญา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments