สัญญาวิวาห์(นิยายสั้น)
ณ คฤหาสน์กลางเมืองหรูแห่งหนึ่ง ร่างเล็กๆของใครบางคนกำลังนั่งรออยู่โต๊ะอาหารใจจดใจจ่ออย่างกับรอใครสักคนมา ใช่แล้วน้ำหว้ากำลังนั่งรอทิศเหนือ สามีของเธอกลับมาฉลองครบรอบ4ปีกัน ปีนี้เป็นปีที่4แล้วที่เธอและทิศเหนือได้แต่งงานกันมา แม้มันจะเป็นแค่สัญญาแต่เธอก็รักเขาหมดหัวใจ อย่างไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น เรื่องมันเริ่มมาตั้งแต่4ปีก่อน
"คุณชาย ฝากดูแลหว้าด้วยนะ เขายังเด็กแค่ก!"
เสียงของน้ำฝน หญิงสาววัยเพียง48ปี ที่ตอนนี้ร่างกายไม่ได้แข็งแรงมากเอ่ยเสียงแผ่ว เธอรู้ว่าถึงเวลาที่เธอต้องไปแล้ว แต่ลูกสาวของเธอยังไม่มีที่พึ่งพิง ถ้าเป็นแบบนี้เธอคงนอนตายตาไม่หลับ มือแห้งกร้านค่อยๆเอื้อมไปกุมมือของทิศเหนือไว้ พลางขอร้องก่อนจะถึงว่าระสุดท้ายของชีวิต
"ช่วยดูแลหว้า จนกว่าน้องจะดูแลตัวเองได้ทีนะ ถือว่าเป็นคำขอสุดท้ายจากป้าคนนี้นะ"
"ครับ ผมสัญญาจะดูแลเธอเองครับ"
สิ้นเสียงของทิศเหนือ จิตของน้ำฝนก็ไม่อยู่แล้ว เธอจากไปแล้วทิ้งไว้แค่ลูกหว้าที่ผ่านแค่วันนี้ไปเธอก็จะอายุครบ18ปีแล้ว เธอยังไม่รู้เรื่องการจากไปของแม่ตัวเองเพราะต้องไปเรียนจนกลับมาไม่ทันวินาทีสุดท้ายที่แม่ของเธออยู่บนโลกใบนี้
ไม่มีการอธิบายอะไรมากมาย งานศพถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายตามคำขอของผู้ตาย แต่กลับมีแขกมาร่วมจำนวนมาก เพราะน้ำฝนเป็นคนที่จิตใจดีมาก แม้แต่ตอนที่ตัวเองลำบากก็ยังช่วยคนอื่นก่อนเสมอ ทำให้ผู้คนมากมายต่างรักและเคารพเธอมาก รวมถึงทิศเหนือ คุณชายใหญ่ของบ้านที่น้ำฝนทำงานอยู่
หลังจากงานศพผ่านไปได้ไม่นานทิศเหนือก็ได้ตกลงคุยและเจรจาเรื่องงานแต่งกับน้ำหว้า ถึงเธอจะยังไม่พร้อมแต่มันก็เป็นวิธีเดียวที่สามารถทำให้เธอได้อยู่ในคฤหาสน์โดยใช้ชีวิตอยู่ได้แบบไม่ต้องโดนกดดันและจับตามองมากเสียเท่าไหร่ ตามคำขอของผู้เป็นแม่ ทำให้เธอต้องแต่งงานตั้งแต่นั้นมา
ปัจจุบัน
23:50
"อีก10นาทีจะเที่ยงคืนแล้ว ทำไมยังไม่มานะ"
หญิงสาวบ่นพึมพำพลางจ้องมองอาหารบนโต๊ะที่เย็นชืดไปหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของคนเป็นสามีว่าจะกลับมาบ้านเสียที
"คุณหญิงคะ รับชาสักหน่อยมั้ยคะ"
สาวใช้ประจำตระกูลเดินเข้ามาถามเพราะเห็นเธอนั่งรอมาจะ3ชั่วโมงแล้ว
"ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ"
เธอตอบปฏิเสธไปเพราะไม่อยากรบกวนป้าแม่บ้าน ตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี่เพื่อนคุยกับเธอก็มีอยู่แค่ไม่กี่คน หนึ่งในนั้นก็คือป้าแม่ล้านหรือป้าแพรนั่นเอง ป้าแพรเป็นคนใจดีและอบอุ่น เธอรักน้ำหว้าเหมือนลูกคนนึง ทุกครั้งที่เห็นน้ำหว้าสีหน้าไม่ดี ก็จะหาอะไรมาทำให้อารมณ์ดีตลอด คร้้งนี้ก็เช่นกัน
สักพักก็มีรถหรูขับเข้ามาจอด น้ำหว้าดีใจมากเพราะเธอมองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นรถของทิศเหนือ
ทิศเหนือเดินเข้าบ้านมาในสภาพที่เนคไทหลุดรุ่ย มีกลิ่นไวน์ติดมาจนกลิ่นตีจมูก ใครมองก็รู้ว่าคงดื่มมาหนักพอสมควร
"พี่เหนือคะ น้ำหว้าเตรียมเค้กครบรอบปีนี้ให้ด้วยนะค-"
น้ำหว้าพูดยังไม่ทันจบมือหน้าก็ปัดเค้กในมือของเธอลงพื้นอย่างไม่ใยดี เหมือนคนอารมณ์ไม่ดีอย่างไรอย่างนั้น น้ำหว้ายิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยออกมา
"หว้าตั้งใจเตรียมมาเลยนะ ทำไมพี่ทำแบบนี้"
"ต้องให้ฉันบอกเธอกี่ครั้งห่ะว่าไม่ต้องทำอะไรไร้สาระแบบนี้ โง่รึไง"
"แต่หว้าเป็นภรรยาพี่ หว้าแค่เตรียมให้สามีมันผิดตรงไหน"
"เหอะ หล้าพูดมาได้เนาะคำว่าภรรยาเนี่ย ไม่กระดากปากหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะป้าฝนฝากเธอไว้ฉันหย่ากับเธอนานแล้ว คิดว่าฉันอยากได้ผู้หญิงร่านๆแบบเธอรึไง"
"...."
"ทำไม พูดไม่ออกเลยดิ ครบ5ปีเมื่อไหร่ฉันเฉดหัวเธอออกจากบ้านแน่ ถ้าอยากหย่าก่อนก็รีบบอกนะ จะเซ็นให้ทันทีเลยใบหย่าน่ะ"
"พ..พี่เหนือ หว้าขอโทษอึก พี่เหนือให้อภัยฟ้านะ ฟ้าสัญญ-"
"หุบปาก!! ร่านแบบมึงใครจะเอา"
พูดจบทิศเหนือก็เดินขึ้นห้องตัวเองไปอย่างรวดเร็วทิ้งไว้เพียงร่างเล็กที่ยืนสั่นเทา น้ำตาคลอเบ้าแทบจะไหลออกมา เธอพยายามกลั้นไว้ไม่ให้มันไหลออกมา ใช่แล้วเธอชินแล้วแหละกับคำพูดแบบนี้ แต่เธอกลับเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้ยินคำพูดพร้อมกับสายตารังเกียจเดียดฉันท์ที่ส่งมา มันเหมือนมีมีดหลายล้านเล่มมาทิ่มแทงที่หัวใจไม่ยั้งแทบจะสลายไปด้วยซ้ำ ถ้าวันนั้นเธอไม่ทำแบบนั้น เขาจะไม่รังเกียจเธอใช่มั้ย เธอจะยังคงได้เห็นสายตาอบอุ่นที่มองเธอด้วยความอ่อนโยนใช่มั้ยนะ
"คุณหญิง ขึ้นไปพักสักหน่อยมั้ยคะ"
ป้าแพรเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเธอเฝ้ามองเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ เธอรู้ดีว่าคุณชายนิสัยเป็นอย่างไร สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือการปลอบปโลมน้ำหว้าทุกครั้งที่เจอกับเหตุการณ์แบบนี้
"ค่ะ วันนี้ฝากเก็บด้วยนะคะคงไม่ได้อยู่ช่วย"
"ไม่เป็นไรค่ะ คุณหญิงขึ้นไปพักเถอะ"
"ขอบคุณค่ะ"
สุดท้ายแล้วน้ำหว้าก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ พอหันหลังเดินขึ้นมาน่ำตาเธอก็ไหลออกมาราวกับสายน้ำเชี่ยวที่หลังไหลออกจากเขื่อนอย่างล้นหลาม หัวใจดวงน้อยๆแตกสลายไปกับคำพูดของคนที่ตัวเองรักสุดหัวใจ เขาไม่เคยทำร้ายร่างกายเธอเลยสักครั้ง แต่คำพูดของเขามันรุนแรงยิ่งกว่าการกระทำเสียอีก แต่ทำไมกันนะ ทำไมเธอยังรักเขาสุดหัวใจ ทำไมเธอยังคงรอให้เขาหันกลับมาหาเธอทั้งๆที่ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ทำไมถึงยังหวังอะไรลมๆแล้งๆทั้งๆที่รู้ยู่แก่ใจว่าไม่มีทางเป็นจริง ถ้าเธอเลิกหวังคงเจ็บน้อยกว่านี้หน่อยแท้ๆ
เป็นอีกวันที่ในห้องที่เงียบสนิทมีเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา ถึงความจริงเธอจะร้องให้แทบทุกวันจนเป็นเรื่องปกติแล้วแต่ก็ยังไม่ชินกับมันเสียที เธอพยายามแล้ว พยายามที่จะเลิกรักผู้ชายคนนั้น พยายามที่จะเดินออกมาจากจุดนั้น แต่ส่วนลึกก้นบึ้งของหัวใจยังคงเรียกร้องว่าจะอยู่ต่อ เธอคงรักเขามากไปจนเขาไม่ต้องการ หรือบางทีเขาอาจจะไม่ต้องการแต่แรก และก็เป็นอีกวันที่ร่างเล็กร้องให้จนหลับไป
เช้าวันต่อมา
*คอลเซ็นเตอร์อัพเกรด*
"ดีจ้าสาวๆ วันนี้ไปช้อปปิ้งกันมั้ยเจ้เหงา"
ออมมี่ สาวสองทักเข้ามาในกลุ่มไลน์ที่ใช้คุยกับสองสาวประจำ เธอเป็นพี่สาวสองที่สวยเริ่ดจนดูไม่ออกว่าเคยเป็นสุภาพบุรุษมาก่อน คอยแนะนำและเตือนสาวๆในเรื่องต่างๆ รวมถึงเรื่องของทิศเหนือด้วย แต่น้ำหว้าเลือกที่จะมองข้าม เจ๊ละเหนื่อยกับมัน
"เอาสิเจ้ เหงาเหมือนกันช่วงนี้เบื่อๆ ไปมั้ยอีหว้า"
"ไปก็ได้ ออกไปเปิดหูเปิดตาหน่อย"
"แหม ก็เล่นหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน ตอนนี้โลกภายนอกเขาเป็นยังไงก็ยังไม่รู้555"
พาขวัญแซวน้ำหว้าเล่นๆ เธอก็เป็นอีกคนที่รู้เรื่องน้ำหว้าอย่างดี อยากจะดีดกะโหลกเพื่อนำตัวเองจริงๆ
รักผู้จนตัวเองพัง
"อย่าไปว่ามันเหอะ เดี๋ยวมันกลับคำอีก เจ้ไม่เห็นมันนาน"
"จ้าๆ"
ทั้ง3ตกลงกันว่าจะออกมาก10โมง แล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปแต่งตัว
10:00
ห้างxxx
"เจ้ มาแล้วๆ"
พาขวัญวิ่งมาหาน้ำหว้าและเจ้ออมมี่อย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันได้แก้ตัวก็โดนเจ้แกบ่นไปยกใหญ่ เพราะเธอดันมาสาย ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกก็เถอะ
"เข้าไปเหอะ หิวแล้ว"
น้ำหว้าตัดบทอย่างรวดเร็วและชวนทั้ง2เข้าไปในห้าง ทั้ง3กิน เที่ยว ช้อปปิ้งกันอยู่นานหลายชั่วโมงเลยมาปิดท้ายที่ร้านแบรนด์เนมแห่งหนึ่ง แต่ในขณะที่เลือกของอยู่พาขวัญดันตาดีหันไปเห็นทิศเหนือมากับนางแบบคนนึงอยู่
"หว้า นั่นพี่เหนือป่ะ"
พาขวัญสะกิดหว้าให้หันไปดูอย่างรวดเร็ว ลูกหว้าที่หันไปมองก็นิ่งไปชั่วครู่
"มากับใครวะน่ะ อีหว้า"
"คงจะมากับลูกค้ามั้ง ช่วงนี้บริษัทกำลังไปได้ดีน่ะ"
ด้วยความที่น้ำหว้าไม่อยากเข้าใจผิดและไม่อยากคิดไปเอง เลยตีความในทางที่ดีไว้ก่อน อาจไม่ใช่สิ่งที่คิดก็ได้
"ลูกค้าต้องจับมือถือแขนกันขนาดนั้นหรอวะ เจ๊ว่ามันไม่ใช่นะ"
ออมมี่เซ้นแรงสุดทันทีที่เห็นว่าทั้งสองจับมือกันอยู่ มองยังไงก็ไม่ใช่ลูกค้าแน่นอน แถมยังดูสนิทกันขนาดนั้นเอง มันไม่ใช่ยังไงก็ไม่ใช่
"คิดมากน่าเจ๊ ยังไงก็ต้องเอาใจลูกค้าไม่ใช่หรอ"
ถึงจะพูดออกไปแบบนั้นแต่ในใจน้ำหว้าก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีอยู่ เธอไม่ใช่คนโง่ถึงขนาดที่จะมองไม่ออกว่าลูกค้าควรใกล้ชิดขนาดไหน ถึงจะรู้ดีแต่เธอก็ยังเลือกที่จะไม่คิดมากและคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ
"ฉันดูก็รู้ว่าแกไม่โอเค"
พาขวัญทักขึ้นมาเพราะสังเกตุท่าทีของน้ำหว้าแล้วคงไม่ใช่อย่างที่เธอพูด อีกอย่างน้ำหว้าคงไม่โง่ขนาดนั้นหรอก ถึงจะรักขนาดไหนก็คงไม่ถึงขั้นแยกความสัมพันธ์ไม่ออกหรอก
"แกไม่ไหวแกก็ออกมาเถอะ ชั้นทนเห็นแกเป็นแบบนี้ไม่ได้จริงๆว่ะ"
"จริง ร้องให้ทีไรก็มาหาพวกกูทำไมพวกกูจะไม่รู้ รักมากแต่ถ้ามึงพังมากแบบนี้มันก็ไม่คุ้มหรอก เชื่อกู ถอยออกมาเถอะ"
ทั้งสองพยายามเกลี้ยกล่อมให้น้ำหว้าอย่า ไม่ใช่เพราะอยากทำลายความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง แต่เธอจนเห็นเพื่อนตัวเองเป็นแบบนี้ไม่ได้จริงๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็เห็นๆกันอยู่ว่าน้ำหว้าไม่ได้มีควาสุขเลยแม้แต่น้อย กับอีแค่เหตุผลที่ว่ารักมันทำได้ขนาดนี้ก็ยอมให้เพื่อนเธอตัดใจออกมาจะดีกว่า
"กูไม่เป็นไรจริงๆมึง กลับกันเถอะ อยากพักแล้ว"
"ชั้นละเหนื่อยกับแกจริงๆ "
ถึงทั้งสองจะพยายามเท่าไหร่น้ำหว้าก็ยังคงยืนกรานที่จะอยู่ในจุดนั้นจนกว่าจะสิ้นสุดสัญญา อย่างน้อยก็ได้อยู่กับคนที่ตัวเองรักนานที่สุด
.
.
.
.
.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments