2 คุณไม่ได้ทิ้งฉัน เป็นฉันที่อยากอยู่ตรงนี้เอง

   “นี่กระเป๋าของคุณ”

        เธอบอกเป็นภาษาอังกฤษขณะยื่นกระเป๋าส่งคืนเจ้าของ เขารีบรับมันมาเปิดดูของด้านใน เห็นว่าของสำคัญยังคงอยู่ดี จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

        “ขอบคุณมากนะครับ มันสำคัญกับผมมาก” เขาขอบคุณเธอเป็นภาษาอังกฤษกลับเช่นกัน

        “ด้วยความยินดีค่ะ มันคือสิ่งที่ฉันควรทำ” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

        “ว่าแต่คุณไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนใช่มั้ย”

        เมื่อนึกขึ้นมาได้จึงรีบถามหญิงสาวตรงหน้าในทันที ระหว่างที่เขาวิ่งตามเธอมาไม่ทัน คนร้ายได้ทำอะไรกับเธอก่อนที่เขาจะมาถึงหรือไม่

        “ไม่ มันยังไม่ทันได้ทำอะไรฉัน แต่ถ้าคุณตามมาช้ากว่านี้ก็ไม่แน่”

        “อย่างนั้นก็ดีครับ งั้นพวกเราไปจากตรงนี้กันก่อนดีกว่า เผื่อว่ามันจะไปตามพวกแล้วย้อนกลับมา”

        “คุณไปก่อนเลยฉันเดินไม่ไหวแล้ว ฉันใช้พลังงานทั้งหมดไปกับการวิ่ง ตอนนี้ฉันไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นยืน”

           “ถ้างั้นผมจะนั่งรอเป็นเพื่อน จนกว่าคุณจะหายเหนื่อยแล้วเราไปจากที่นี่พร้อมกัน”

        “คุณไปก่อนเถอะฉันขอนั่งพักแป๊บเดียว เดี๋ยวก็จะตามไปแล้ว”

        หญิงสาวตอบโดยไม่หันไปมองหน้าเขาด้วยซ้ำ เธอยังคงนั่งก้มหน้าปล่อยแขนและขาลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก ด้วยความเหนื่อยล้า จนไม่อยากจะเอาอะไรแล้ว หากเป็นไปได้เธออยากจะทิ้งตัวลงนอนมันซะตรงนี้เลย

        จากคำตอบของเธอทำชายหนุ่มยิ้มเจื่อนเธออุตส่าห์ช่วยเขาไว้ แล้วจะให้เขาทิ้งเธอไว้ที่นี่คนเดียวได้อย่างไร

        “จะทำอย่างนั้นได้ยังไงละครับ คุณช่วยผมเอาไว้ จะให้ผมทิ้งคุณไว้ที่นี่คนเดียวได้อย่างไร ถ้าชายคนนั้นมันกลับมาคุณก็จะตกอยู่ในอันตรายน่ะสิ”

        เขาบอกพร้อมกับเดินไปหยิบรองเท้ามาสวมใส่ให้เธออย่างไม่รังเกียจ

        -ฉันจะตายเพราะนายเอาแต่ถามเซ้าซี้ฉันอยู่นี่แหละ ไม่เข้าใจหรือไงว่าคนมันเหนื่อย คนมันหมดแรงหายใจไม่ทันอ่ะ ถามอยู่นั่น -

        แพรไหมส่งยิ้มหวานเจื่อนให้ ก่อนบ่นเป็นภาษาไทยออกมาอีกครั้ง อย่างเหลืออดที่เขาเอาแต่ถามเธออยู่นั่น เธอเพียงอยากจะนั่งพักเพียงเท่านั้น

        -แม้แต่แรงที่จะพูดตอนนี้ยังแทบไม่มีเลย จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนเดินกลับไปที่ป้ายรถเมล์ -

        เธอบ่นกับตัวเองต่อ คิดว่าเขาคงฟังไม่เข้าใจก่อนจะบอกเขาต่อเพื่อให้ชายตรงหน้าสบายใจ

        “คุณไม่ได้ทิ้งฉัน เป็นฉันที่อยากอยู่ตรงนี้เอง คุณไปเถอะฉันไม่เป็นอะไรจริง ๆ ”

        เธอบอกเพื่อปัดความรำคาญ น้ำเสียงและท่าทางของเธอนั้นทำให้เขารู้ได้ในทันทีว่าเธอคงหมดแรงจริง ๆ เมื่อเธอบอกเขาเรียบร้อยก็บ่นกับตัวเองเป็นภาษาไทยต่ออีก

        - ไม่ได้นอนมาทั้งคืนแล้วดันอยากจะมาเป็นคนดีอีกแพรเอ่ยแพร แกจะต้องนอนตายอยู่ตรงนี้นี่แหละ ไม่ไหวแล้ว –

        ชายหนุ่มได้ยินที่เธอบ่นออกมาก็อมยิ้มที่มุมปากเล็ก ๆ นี่ขนาดเหนื่อยขนาดนี้ยังจะไม่ยอมให้เขาอยู่เป็นเพื่อน กลับเลือกที่จะไม่พึ่งพาเขา เขามองคนตัวเล็กที่นั่งทิ้งตัวอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่ที่พื้นอย่างพินิจ ก่อนจะย่อตัวลงนั่งตรงหน้าเธอแล้วจึงหันหลังให้

        “มาครับขึ้นหลังผม ผมจะพาคุณไปส่งที่ป้ายรถเมล์เอง"

        เขาบอกเธอเป็นภาษาไทย เท่านั้นแหละหญิงสาวถึงกับเบิกตาโต รีบเงยหน้ามองชายตรงหน้าใหม่อีกครั้งทันที วินาทีนั้นทำให้เขาได้เห็นใบหน้าของเธออย่างชัดเจน ดวงตาโตกลมสีน้ำตาลเข้มจมูกโด่งได้รูปรับกับปากบางรูปกระจับ

        ใบหน้าที่ไร้การปรุงแต่งจากเครื่องสำอางใดๆ ที่ไม่ค่อยพบเห็นในผู้หญิงยุคสมัยนี้ ผมสีดำยาวของเธอนั้นถูกจับมัดรวบแบบหลวม ๆ ไว้ตอนนี้ดูยุ่งเหยิงเล็กน้อยจากการวิ่งท้าลมหนาวมา ทำให้มีปอยผมบางส่วน หลุดลงมาปกปิดใบหน้าสวยนั้นไว้ อย่างไม่ได้ตั้งใจ หญิงสาวตรงหน้าเธอดูอ่อนกว่าเขามาก ทั้งยังมีความสวยหวานอย่างเป็นธรรมชาติ

        “คุณ…นี่คุณ .เป็นคนไทยเหรอ”

        “ครับผมเป็นคนไทย”

        “ถ้างั้นเมื่อกี้คุณก็....นี่ฉันบ่นกับตัวเองเสียงดังไปมั้ย”

เธอทั้งถามเขาพร้อมกับถามตัวเองไปด้วย ความใสซื่อของหญิงสาวทำให้เขาอดที่จะยกยิ้มกว้างไปด้วยไม่ได้

        “ไม่ดังครับ”

        “เฮ้อ!..ค่อยยังชั่ว”

        หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกโชคดีที่เธอบ่นไม่ดังแต่ดีใจยังไม่เท่าไหร่ชายหนุ่มก็เอ่ยต่อ

        “แต่ผมได้ยินชัดทุกคำ” เขาบอกพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้เธออย่างตั้งใจแทนคำตอบ

        ตอนนั้นแหละที่เธอได้เห็นใบหน้าของเขาเป็นครั้งแรกเช่นกัน หน้าตาของเขาเหมือนพระเอกซีรีส์จีนหรือเกาหลีเสียมากกว่าเป็นคนไทยเสียอีก ทั้งสีผิวที่ขาวอย่างกับหยวกกล้วยบวกกับความหล่อคมเข้มไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ดวงตา จมูก ปาก ยังกะเขาหลุดออกมาจากนิตยสาร แล้วจะไม่ให้เธอเข้าใจผิดได้อย่างไรว่าเขาต้องเป็นคนต่างชาติ เธอคิด

        “คุณก็น่าจะช่วยทำเป็นไม่รู้ไม่ได้หรือไงคะ ไม่เห็นจะต้องบอกความจริงออกมาจนหมด” เธอบ่นเสียงเบา

        เขาเห็นอาการยิ้มเจื่อน ของหญิงสาวจึงได้แต่อมยิ้มไม่อยากแซวต่อ อย่างไรเธอก็เป็นคนที่ช่วยเหลือเขาไว้ในวันนี้

        “มาเถอะครับ”

        “อะไรคะ”

        “ขึ้นขี่หลังผมไง ผมจะพาคุณออกไปจากตรงนี้เอง”

        “ไม่เอาอะ คุณไปเถอะฉันนั่งพักแป๊บเดียวเดี๋ยวค่อยออกไป”

        “อย่าดื้อซิครับ ผมมีธุระสำคัญที่ต้องรีบไปจัดการ ตรงนี้เปลี่ยวเกินไปที่จะให้ผมทิ้งคุณไว้ ถ้าคุณไม่ไปผมก็ไม่ไป แล้วหากผมไปทำธุระไม่ทันนี่ก็ถือเป็นความผิดของคุณนะ”

        ให้ตายสิดูเขาพูดเข้า เธออุตส่าห์มาช่วยยังจะมาให้เธอเป็นคนผิดอีก มันน่าช่วยมั้ยเนี่ย เมื่อเขาพูดจบหญิงสาวก็มองไปรอบ ๆ มันเปลี่ยวอย่างที่เขาว่าจริง ๆ เธอจึงยอมที่จะทำตามที่เขาบอกแต่โดยดี

        “ก็ได้ค่ะแต่ฉันไม่มีแรง ลุกไม่ไหวจริง ๆ ฉันใช้แรงทั้งหมดไปกับการวิ่งเอากระเป๋าคืนมาให้คุณแล้ว”

        หญิงสาวย้ำด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงใบหน้าของเธอตอนนี้ราวกับลูกแมวตกน้ำ พูดแล้วหญิงสาวก็ทิ้งแขนและขาทั้งสองข้างลงกับพื้นอีกครั้งเพื่อเป็นการยืนยันว่าตอนนี้เธอไม่มีแรงขยับตัวแล้วจริง ๆ ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้นจึงถือวิสาสะจับแขนทั้งสองข้างของเธอขึ้นมากอดรอบคอตัวเองเอาไว้ พร้อมกับดึงร่างคนตัวเล็กที่นั่งกองอยู่กับพื้นให้ขึ้นไปขี่หลัง

        “นี่คุณจะทำอะไรน่ะ”

แพรไหมถามด้วยความตกใจไม่คิดว่าเขาจะทำเช่นนี้

        “ก็ช่วยคุณไง ให้ผมทิ้งคุณไว้ที่นี่คนเดียวผมทำไม่ลงหรอกและผมก็ต้องรีบไปพรีเซนต์งานให้ทันบ่ายนี้ด้วย”

        ลำแขนแข็งแรงดึงร่างเล็กที่ไม่มีแรงขัดขืนขึ้นบนหลังอย่างง่ายดายเพราะเธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ตัวเบาอย่างกับอุ้มเด็ก เมื่ออยู่ในท่าที่พร้อมเรียบร้อย จึงพาหญิงสาวเดินกลับทางเดิมที่วิ่งมา

        “ขอบคุณนะคะ”

        “ผมสิต้องเป็นฝ่ายขอบคุณคุณ ขอบคุณมากครับที่ช่วยผมเอาไว้วันนี้ เดี๋ยวผมจะพาคุณไปส่งที่ป้ายรถเมล์ที่เราวิ่งมา”

        เขาบอกพร้อมกับขยับร่างเธอให้สูงขึ้นเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะตก

        “คุณนี่ตัวเล็กแค่นี้วิ่งเร็วและอึดมากเลยนะรู้มั้ย เป็นนักวิ่งหรือไง” เขาถามเพื่อชวนเธอคุยและด้วยความอยากรู้

        “เอาความจริงนะ ฉันว่าสมองของฉันมันคงมีปัญหาหรือเอ๋อไปแล้วแน่ ๆ ที่บ้าวิ่งตามคนร้ายให้คุณแบบนั้นน่ะ ถ้าย้อนกลับไปได้ฉันก็จะไม่ทำ”

        เธอว่าตัวเองจนชายหนุ่มได้แต่อมยิ้มกับคำพูดตรง ๆ แต่ก็เข้าใจในคำพูดนั้น โชคดีที่วันนี้เธอไม่เป็นอะไร อดคิดไม่ได้ว่าหากเขาวิ่งตามไปช้ากว่านี้ หญิงสาวจะเป็นอย่างไร อาจถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บมากกว่าการวิ่งจนเหนื่อยหมดแรงเช่นนี้ก็เป็นได้ เขารู้สึกขอบคุณในความใจกล้าของเธอจริง ๆ

        “ว่าแต่คุณเนี่ยเป็นผู้ชายทำไมให้เขาขโมยของสำคัญไปได้ง่าย ๆ ละคะ แถวนี้โจรเยอะต้องระวังให้ดีเผลอไม่ได้เลย”

        “ผมไม่ทันระวัง รู้ตัวอีกทีก็โดนกระชากกระเป๋าไปแล้ว พอตั้งสติได้คนร้ายก็วิ่งไปไกลแล้วจริง ๆ ในกระเป๋าไม่มีของมีค่าอะไรเลยมีเพียงแฟลชไดรฟ์ที่สำคัญกับผมมากเท่านั้น”

        “ถ้าอย่างนั้นก็คงเป็นโชคดีของผู้ชายคนนั้นที่ไม่ได้กระเป๋าของคุณไป ไม่อย่างงั้นป่านนี้คงได้นั่งร้องไห้อาละวาดเป็นแน่”

        เธอบอกอย่างติดตลกทำเอาเขาอดขำ กับความคิดของเธอไม่ได้

        “ฮ่า ๆ คุณนี่ขนาดไม่มีแรงยังตลกออกเลยนะ ว่าแต่ทำไมคุณถึงหายใจแรงจัง”

        “ก็ฉันเหนื่อยนิ เหนื่อยมากและหิวมากด้วยตอนนี้”

        พูดแล้วหญิงสาวก็กลืนน้ำลายเพื่อยืนยันความหิวโหยของตัวเอง พร้อมกับเสียงท้องที่ร้องดังมายืนยันคำพูดของเธอเมื่อสักครู่อีกเสียง

        “ถ้าอย่างนั้นคุณพักก่อน ถึงแล้วผมจะบอก แล้วจะหาอะไรให้คุณทาน”

        “อืม”

        แพรไหมรับคำด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง เธอที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืนเพราะต้องเฝ้าไข้บิดาที่โรงพยาบาล แถมตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เมื่อคืน ทั้งยังต้องใช้พลังงานเก่าที่มีไปกับการช่วยคนแปลกหน้าทำให้หญิงสาวผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว

        “ถึงแล้วครับ”

        “...”

        “คุณ คุณ นี่หลับหรอกเนี่ยเหลือเชื่อเลย”

        ชายหนุ่มทึ่งกับหญิงสาวร่างเล็กหน้าตาน่ารักที่นอนหลับอยู่บนหลังคนแปลกหน้าได้อย่างสบายใจ เธอคงเหนื่อยมากจริง ๆ เขาคิด

ฮอต

Comments

Setsuna F. Seiei

Setsuna F. Seiei

ชอบเรื่องนี้มาก แอดอัพอย่างเร็วนะ

2024-10-03

0

ทั้งหมด
เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!