วันเวลาผ่านไปเร็วราวกับติดปีก เพียงไม่นานก็ผ่านมาแล้ว 1 เดือน ตั้งแต่ที่สั่งสอน ‘เจี่ยงกุ้ยฮวา’ ไปคราวก่อน ภายในอาณาเขตที่พักของ ‘จ้าว เว่ยอิง’ ก็ได้พบกับความสงบสุขที่ไม่เคยได้พบมาก่อน
“คุณหนูเจ้าขา น้ำสำหรับอาบพร้อมแล้วเจ้าค่ะ” เสียงสาวใช้คนสนิทเพียงคนเดียวเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบสงบ
“รู้เแล้ว” ขานตอบพร้อมกับค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงนอน
ในช่วง1เดือนที่ผ่านมานั้น หาได้สูญเปล่าไม่
นางขยันออกกำลังกาย จนทำให้สภาพร่างกายกลับมาแข็งแรงเหมือนดังเดิมแล้ว และได้รับรู้ว่าที่ที่นางอยู่นะตอนนี้นั้นเปรียบเสมือนโลกคู่ขนานในอีกมิติหนึ่ง และร่างที่นางมาอาศัยอยู่นั้นเคยมีคน?มาอยู่ก่อนแล้วหลายคน ผู้ที่นำพวกเรามาที่นี่นั้นบอกว่า ‘มันเป็นโอกาสที่สอง’ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร...
ช่วง2-3วันแรกที่ฟื้น ความทรงจำทั้งหลายต่างล้นทะลักเข้ามา มันเป็นความทรงจำของ ‘จ้าว เว่ยอิงคนก่อนๆ’ มันมีความทรงจำหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ในอดีตไปจนถึงอนาคตข้างหน้ารวมไปถึงฉากการตายของแต่ละคน นิสัยใจคอของผู้คนในฉางอัน แต่แน่ๆสิ่งหนึ่งคือทุกคนถูกหลอกให้เชื่อใจแล้วก็โดนหักหลัง ต้องตาย อย่างน่าอนาถ เมื่อคนแรกตายเมื่อไร คนที่สองก็จะเข้ามาจนถึงคราวนาง นางเป็นคนที่เก้า..
“หึ ข้าจะแก้แค้นให้พวกเจ้าเอง” ทั้ง8คนแรก รวมถึงเจ้าของร่างนี้ด้วย
‘ตามความทรงจำ อีก1สัปดาห์จะเกิดพายุโหมกระหน่ำทำให้ทำให้เกิดน้ำท่วม อาหารขาดแคลน..’
“คงต้องรีบหาซื้ออาหารแล้วล่ะ” ปัญหาคือเงิน เครื่องประดับเกือบทั้งหมดก็โดน เจี่ยง กุ้ยฮวา เอาไปแล้ว แต่ก็นับว่าอยู่ที่นี่มันไม่ได้ลำบากมากมายขนาดนั้น ฟางฮูหยินยังนับว่ามีเมตตา..
“จิ้นเหอ!!” เสียงของเจ้านายสาวร้องเรียกเสียงดัง
“คุณหนู เรียกบ่าวหรอคะ ” บ่าวเพียงคนเดียวรีบวิ่งเข้ามาหวังรับใช้เจ้านายของตน
“นำเครื่องประดับที่เหลืออยู่ทั้งหมดไปแลกเป็นเงินซะ” เว่ยอิงกล่างเสียงเรียบ จนทำให้จิ้นเหอนึกแปลกใจ
“ทั้งหมดเลยหรือคะ อย่างนี้คุณหนูจะแต่งตัวยังไงล่ะคะ” จิ้นเหอกล่าวอย่างร้อนรน พร้อมกับเหลือบตาขึ้นมาเจ้านายสาว ผู้มีแววว่าจะเป็น โฉมงามล่มเมือง
“อืมม..เก็บปิ่นเงินนี่ไว้ละกัน ข้าจะไปที่เรือนใหญ่หน่อย เจ้ารีบไปเถอะ” กล่าวจบก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกไป ทิ้งจิ้นเหอที่กำลังสับสนไว้เพียงลำพัง
เรือนใหญ่ สกุล เจี่ยง
สกุลเจี่ยงถือว่าเป็นสกุลที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆของที่นี่ มี ฟางฮูหยินเป็นคนคอยดูแล มีลูก3คน ชาย2 หญิง1
ระหว่างทางที่เว่ยอิงเดินผ่านไป ก็จะเกิดเสียงซุบซิบนินทาตามมาเป็นระลอก จนถึงหน้าเรือน
“ยัยบ้า หยุดเดี๋ยวนี้นะ!! ใครใช้ให้เจ้ามารบกวนฮูหยิน!” สิ้นเสียงก็พบกับกลุ่มบ่าวรับใช้หลายคนเดินตรงเข้ามา แต่ละคนมีรูปร่างสูงใหญ่ เว่ยอิงมีความสูงแค่เพียงคอเท่านั้นเอง
เว่ยอิงหยุดเดินและหันไปมองกลุ่มบ่าวรับใช้ด้วยสายตาเรียบเฉย ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกอะไรทั้งนั้น
“นี่เจ้า..เจ้ากล้ามองข้าด้วยสายตาอย่างนี้รึ!!” บ่าวคนหนึ่งรีบเดินเข้ามาอย่างเกรี้ยวกราด
“เจ้ากล้า? หึ บ่าวรับใช้ของฮูหยินอบรมกันมาเยี่ยงนี้หรือ? ช่างไร้มารยาทยิ่งนัก!” เว่ยอิงพูดเสียงดัง หวังจะให้คนในเรือนได้ยินเสียงของนาง
และก็ไม่ผิดคาดมากนักไม่นานฟางฮูหยินก้าวออกมาจากเรือนพร้อมกับสายตาเย็นชา
“เจ้าทำร้ายฮวาเอ๋อร์ของข้าไม่พอแล้วยังจะมาโวยวายอะไรหน้าเรือนข้าอีก”
เว่ยอิงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ
“ข้ามาเอาของของข้าคืน” เว่ยอิงพูดพร้อมกับชูมือขาวผ่องของตนขึ้นมา
“ข้าได้ยินมาว่า เจี่ยง กุ้ยฮวาได้เงิน เดือนละ 1 ตำลึงเงิน” เมื่อเว่ยอิงกล่าวขึ้นมาก็ทำให้สีหน้าของฟางฮูหยินเรียบตึงขึ้นไปอีก
“ข้าอยู่ที่นี่มาก็จะ3ปีแล้วไม่เห็นจะเคยได้เงินประจำเดือนเลย อย่าบอกนะว่าคุณหนูอย่างข้าอยู่ที่นี่มีค่าเทียบไม่ได้แม้แต่กับสาวใช้!”
“เจ้าจะเอาอย่างไรกันแน่!!” ฟางฮูหยินเอ่ยเสียงลอดไรฟัน
“อืมม ข้าเอาเท่ากับเจี่ยงกุ้ยฮวาละกัน”เว่ยอิงยังไม่ทันเอ่ยจบ ฟางฮูหยินก็แทรกขึ้นมาก่อน
“ฉิงซี ไปเอาเงิน1ตำลึงมา”
“ท่านจะให้ข้าแค่นี้งั้นหรอ ข้าอยู่มา3ปี ปีหนึ่งมี12เดือน เดือนละ1 ตำลึงเงิน รวมๆแล้วก็36 ตำลึงเงิน งั้นปัดขึ้นเป็น 4 ตำลึงทองละกัน ฉิงซีเอามาให้ข้า 4 ตำลึงทอง” หลังจากที่เว่ยอิงกล่าวจบ ทั้งฟางฮูหยิน รวมไปถึงบ่าวไพร่ต่างตกตะลึง
เงิน 4 ตำลึงทองนั้น ในจวนเสนาบดีนั้นอาจจะเรียกได้ว่าน้อย แต่ที่ลั่วหยางแห่งนี้นั้นถือได้ว่ามากโข
“จ้าว เว่ยอิง!! อย่ารังแกกันให้มาก!”
“แล้วท่านจะให้ข้าไปตีกลองร้องทุกข์ดีหรือไม่เล่า หลังจากนั้นก็คงมีข่าวลือว่า บุตรีของเสนาบดีกรมยุติธรรม ออกมาตีกลองร้องทุกข์เพื่อเงิน 4 ตำลึง!!”
เสียงใสของเว่ยอิงดังก้องกังวานทั่วทั้งลานบ้าน
“เจ้า!! กล้าขู่ข้างั้นหรอ!”
“5 ตำลึงทอง” ฟางฮูหยินตอนนี้มีสีหน้าบิดเบี้ยว นางไม่เคยพบเจอประสบการณ์อย่างนี้มาก่อน
“เจ้า!” ฟางฮูหยินกำลังจะต่อว่า แต่เมื่อเห็นสีหน้ากึ่งล้อเลียนกึ่งท้าทายของ เว่ยอิง นางก็หยุดพูดทันที ครุ่นคิดได้ครู่หนึ่งก็ออกปากสั่งให้ฉิงซีไปเอาเงินมา4 ตำลึงทอง
“ข้าว่าข้าพูดว่า5ตำลึงทองนะ?” ฉิงซียังไม่ทันได้เดินไปเอาเงินก็ถูกเสียงใสของเว่ยอิงทำให้ตัวหยุดชะงัก
“5 ตำลึงก็5ตำลึง! เสร็จแล้วก็ไสหัวออกไปให้พ้นหน้าข้า!!” ฟางฮูหยินเริ่มจะหมดความอดทนแล้ว
หลังจากที่เว่ยอิงได้เงิน5 ตำลึงไป ในใจก็เต็มไปด้วยความปิติยินดี
“หึ ก้าวแรกของข้า ช่างสวยงามจริงๆ”
เมื่อได้สิ่งที่ต้องการนางก็เดินกับไปที่เรือนหลังเล็กท้ายจวน เพื่อรอจิ้นเหอกลับมา
‘จะได้เริ่มทำตามแผนสักที’
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments