พญาหงส์ทวงบัลลังก์
*นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลหรือสถานที่ใดๆทั้งสิ้น
*นี่เป็นนิยายจีนเรื่องแรกของไรท์ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะเจ้าคะ
จักจองล้าง...จองผลาญ...ให้ดับสิ้น
ตราบเศษดิน...สูญสิ้น...มิเหลือหลาย
ให้ทนทุกข์...ทรมาน...จนตัวตาย
จนขวนขวาย...นรก..ในโลกันต์
'เธอ'ผู้ที่สูญเสียทุกสิ่ง ในชีวิตไปตั้งแต่เยาว์วัย
ทั้งครอบครัว,เพื่อนฝูง,ที่อยู่อาศัย ได้หวนกลับมาอีกครั้งในกาลเวลาที่แตกต่างจากที่ๆเธอเคยอยู่
และเป็นการกลับมาโดยอาศัยร่างของผู้อื่น!! อย่างนี้เรียกผีร้ายได้หรอไม่... แต่การกลับมาครั้งนี้
' เธอกลับมาเพื่อปกป้องคนที่เธอรัก'
'เธอกลับมาเพื่อแก้แค้นคนที่เธอชัง'
และ
'เธอกลับมาเพื่อให้โอกาสแก่คนบางคน'
บทที่ 1 จันทร์สีโลหิต
คืนนี้ดวงจันทร์สุกสว่างกว่าเคย
ทว่ากลับมีเมฆหมอกสีโลหิตปกคลุมรางๆไปทั่วน่านฟ้า ทำให้แสงสว่างนวลตาถูกบดบัง เปลี่ยนทัศนียภาพเป็นอึมครึม บรรยากาศในยามนี้จึงเต็มไปด้วยกลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวจนยากจะบรรยาย
เข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาตีสาม ทุกบ้านดับไฟมืด ภายนอกมีเพียงความเงียบสงัด
ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีผู้ใดให้ความสนใจกับปรากฏการณ์หมอกสีเลือดอันแสนประหลาด
แต่ไม่ใช่กับเธอ 'เว่ย อิง' นี่คือชื่อของฉัน หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการลับพิเศษ ซึ่งเป้าหมายในวันนี้ คือ จับเป็นพ่อค้ายารายใหญ่
ณ โกดังร้างนอกเมือง
"อาหลานกับเสี่ยวซี ไปดักรอด้านหลังโกดัง" เว่ยอิงพูดเสียงเบาแต่ทว่าเวลานี้มีเพียงความเงียบสงบทำให้เสียงของเธอดังเพียงพอที่ทุกคนจะได้ยิน
"รับทราบครับ " ทั้งคู่ตอบรับออกมา
"ที่เหลือตามฉันมา" เสียงหวานดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
คนหลายคนเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วจนใกล้ถึงเป้าหมาย หญิงสาวหนึ่งเดียวในกองยกมือขึ้นทำให้ทหารนายกองทั้งหลายต่างหยุดชะงักเพื่อรอสัญญาณ..
'ปัง' "ใครอยู่ตรงนั้น!!" เสียงตะโกนดังออกมา
"โถ่เว้ย ทุกคนบุก!! " หัวหน้าคนสวยสบถออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เกิดเสียงยิงปืนดังสนั่นหวั่นไหวในคืนที่มืดสนิท
" หัวหน้ามันหนีออกไปแล้ว!! " เสียงทหารหน่วยรบพิเศษคนหนึ่งดังขึ้นแข่งกับเสียงปืน
"นายมากับฉัน พวกนายเรียกกำลังเสริมและจัดการคนที่เหลือ"
เว่ยอิงและทหารคนสนิท 'หลงเสีย' วิ่งตามพ่อค้ายาโดยที่ไม่รู้เลยว่านั้นคือกับดักของพวกเขา
'ปัง' กระสุนเม็ดแรกเจาะเข้าที่ท้องของ หลงเสีย เขาทรุดตัวลงและกอบกุมท้องพร้อมร้องโอดโอยในทันที
"หลงเสีย!! " เสียงหวานตะโกนออกมา
" ทำอย่างนี้ไม่ดีเลยนะ อิงอิง" เสียงทุ้มลึกที่แฝงไปด้วยความลึกลับเอ่ยขึ้น
เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองทำให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบที่แสนจะคุ้นตา
" ฉินหราน! นา..นาย ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ !!" ใช่แล้ว ผู้ชายตรงหน้าคือ คู่หมั้น ของเธอ!!
"หืม ทำไมล่ะ วันนี้ฉันก็มาทำธุระนะสิเป็นเธอเองนะที่หาเรื่องใส่ตัว"
กล่าวจบก็ยิงปืนเข้าที่หน้าอกของเธอ
'ปัง' เว่ยอิงทรุดลงกับพื้นทันที เปลือกตาแทบจะปิดอยู่ร่อมร่อ
เสียงสุดท้ายที่เธอได้ยินคือเสียง สบถอย่างหัวเสียของคนรักของเธอและเสียงดังวุ่นวายก่อนที่ตาเธอจะปิดลง
'อึก ทำไมล่ะ 3 ปีที่ผ่านมานั้นมันไม่มีความหมายอะไรกับนายเลยใช่มั้ย'
สิ่งที่เจ็บที่สุดตอนนี้ไม่ใช่บาดแผลหรอก.. มันคือใจที่แตกสลายเมื่อรู้ว่าคนที่ฆ่าตนเองคือคนที่เธอรักที่สุด คนที่เธอมอบให้เขาไปทั้งกายและใจ..
"อืมมมม" เว่ยอิงค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก
'ทำไมปวดเนื้อปวดตัวขนาดนี้นะ '
"ฮือออ คุณหนูของบ่าวฟื้นแล้วใช่มั้ยเจ้าค่ะ" เสียงใครกัน
"นะ..น้ำ"
"นี่เจ้าค่ะ คุณหนู"
'อ่าา ค่อยดีขึ้นหน่อย เอ๊ะเดี๋ยวนะที่นี่ที่ไหนกันทำไมช่างโบราณย้อนยุค '
ยังไม่ทันได้ถามว่าที่นี่คือ กองถ่ายละครย้อนยุคหรือเปล่า ฉับพลันความทรงจำแปลกประหลาดมากมายก็พรั่งพรูเข้ามาในสมอง จนนางต้องยกมือขึ้นกุมขมับ หยดเหงื่อไหลซึมไปทั่ว แผ่นหลังเล็กสั่นระริก ความทรงจำทั้งหมดนี้ตอบคำถามในใจนางได้หมดสิ้น
'จ้าว เว่ยอิง' บุตรสาวเพียงคนเดียวของอดีตฮูหยินเอกแห่งจวน เสนาบดี ที่เกิดมาได้เพียง 4 ปีมารดาก็จากไปทิ้งให้นางอยู่กับน้องชายเพียงลำพังส่วนบิดาก็ไม่เคยมาดูดำดูดีพวกนางเลยสักครั้ง
หึ ตอนที่นางอายุได้ 10 ปีนางก็ถูกขับออกจากจวนมาอยู่ที่หมู่บ้านแถบชนบท
เพียงเพราะนางทำแจกันราคาแพงของตระกูลแตกและบาดโดนน้องสาวที่อายุห่างกันเพียงแค่ 2เดือน ผู้เป็นแก้วตาดวงใจของบ้านสายหลักทุกคน
เมื่อนางจะถูกขับไล่ออกจากจวนไม่มีผู้ใดช่วยค้านเลย จะมีก็เพียงแต่น้องชายของนาง
'จ้าว เฟยหลง' ที่ค้านอย่างถึงที่สุดแต่ว่าแค่เสียงของเด็กอายุ 7 ขวบคนหนึ่งจะสามารถเปลี่ยนความคิดของผู้ใหญ่ทั้งบ้านได้หรอ
คำตอบคือ ไม่
หลังจากนั้นนางก็ได้ข่าวว่าในวันที่นางถูกขับออกจากจวนน้องชายของนางก็ล้มป่วยลง ทำให้ผู้คนในบ้านยิ่งรังเกียจขึ้นไปอีก หลังจากนั้นนางก็ไม่ได้ยินข่าวคราวของน้องชายอีกเลย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง
พอได้เวลาคิดเช่นนี้ก็ทำให้รู้ว่าที่ผ่านมา ชีวิตของนางไม่มีอะไรเลย ไม่สามารถปกป้องใครได้เลยแม้กระทั่งน้องชายตนเอง
.
.
.
"คุณหนูเจ้าคะ คุณหนู!!" เสียงดังเรียกให้สติของเว่ยอิงกลับมาทันที
"จิ้นเหอ เจ้าจะเสียงดังไปทำไม" เสียงหวานติดแหบเอ่ยอย่างไร้เรี่ยวแรง
จิ้นเหอปีนี้ก็จะย่างเข้า 16 หนาวแล้วแต่ยังคงมีนิสัยราวกับเด็ก
"ก็บ่าวเรียกคุณหนูหลายครั้งแล้วแต่คุณหนูไม่สนใจบ่าวเลยหนิเจ้าคะ" จิ้นเหอเอ่ยเสียงแผ่ว
"เจ้ามีเรื่องอะไรงั้นหรอ"
"บ่าวเห็นว่า..."
'ปัง'
"นังเว่ยอิง!! ฟื้นแล้วก็อย่ามัวแต่นอนเล่น! ไปกวาดลานบ้านแล้วปักผ้าต่อให้เสร็จซะ!!"
เสียงเล็กแหลมนี่คือเสียงของ บุตรคนที่2ของ
ฮูหยินสกุลเจี่ยง 'เจี่ยงกุ้ยฮวา'
"แต่..แต่คุณหนูพึ่งจะฟื้น"
"งั้นเจ้าก็ไปทำแทน..!! "
ไม่ทันให้เจี่ยงกุ้ยฮวาพูดจบ ไป๋เว่ยอิงก็ลุกขึ้นยืนและตบหน้าเจี่ยงกุ้ยยฮวาทันที
'เพี๊ยะ'
ความเจ็บแล่นผ่านทำให้เจี่ยงกุ้ยฮวา ยกมือขึ้นกุมใบหน้าของตนทันที
"นี่เจ้า..เจ้า.." เสียงแหลมเอ่ยอย่างไม่เชื่อสายตา
'ยัยขี้ขลาดเนี่ยหรือ กล้าตบนาง! '
ในความทรงจำของเว่ยอิง นางโดนผู้คนในเรือนหลังนี้ข่มเหงรังแกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
'หึ ถ้าไม่มีคนสั่งลงมา บ่าวเช่นพวกนางหรือจะกล้าข่มเหงรังแก บุตรีของท่านเสนาบดีอย่างข้า!! '
"บ่าวไพร่กำเริบเสิบสาน ข้าผู้เป็นนายคงต้องสั่งสอนเสียหน่อย จิ้นเหอ ตบปากนาง"
จิ้นเหอได้ยินก็ลงมือทันที เดิมทีจิ้นเหอก็เป็นคนมือหนักอยู่แล้วตบได้ไม่กี่ทีเจี่ยงกุ้ยฮวาก็ปากแตก
แต่ว่าคุณหนูของนางยังไม่ได้สั่งให้หยุดนางจึงตบไปเรื่อยๆจนหน้าของเจี่ยงกุ้ยฮวาบวมเหมือนหัวหมู ไป๋เว่ยอิงจึงสั่งให้หยุด
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments