ตำรวจบางส่วนที่มาถึงก่อนเดินมุ่งหน้าเข้าไปในป่าเพื่อตามหาคนที่หายไปดูคร่าวๆเพราะว่าพวกเขาเองก็ยังไม่กล้ายืนยันได้อย่างชัดเจนว่าหญิงสาวจะอยู่ในป่านี้จริงมั้ย ใช้เวลาไม่นานมากก็เดินไปเจอบางอย่างตกอยู่มันคือกิ๊ฟหนีบผมของผู้หญิงทำให้พวกเขาพอมีหวังอยู่บ้างว่าจะได้เจอกับคนที่หายไป ตำรวจคนหนึ่งสังเกตเห็นอะไรแปลกๆอยู่ไกลๆจึงรีบบอกให้ทุกคนไป
ชายคนร้ายที่เห็นว่ามีตำรวจหลายคนเดินมาทางตนก็ได้จับผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นตัวประกัน ตำรวจแม้จะมีกันหลายคนแต่ก็ต้องใช้เวลาอยู่สักพักในการจับกุมเพื่อให้หญิงสาวผู้เป็นตัวประกันนั้นปลอดภัย แต่สุดท้ายแล้วก็สามารถจับกุมตัวคนร้ายและช่วยหญิงสาวได้สำเร็จ
หลังจากที่จับกุมตัวคนร้ายได้ก็ยังคงต้องตามหาผู้หญิงที่หายไปอยู่อีกยังดีที่คนร้ายสารถาพและยอมบอกว่าศพของหญิงที่ตนลักพาตัวไปอยู่ที่ไหนบ้าง ตำรวจใช้เวลานานตั้งแต่ตะวันยังขึ้นอยู่เหนือหัวจนตะวันลับขอบฟ้าไป ในเวลาสองทุ่มกว่าๆตำรวจก็ออกมาจากป่าพร้อมกับศพสุดท้าย มีคนรอดเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นศพของหญิงสาวที่เหลือก็หาครบแล้ว
หลังจากผ่านเรื่องราวในวันนั้นมาพันแสงและธารใสยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเข้าป่าแต่ทุกครั้งที่จะไปจันทราก็มักจะไม่เห็นด้วยพร้อมข้ออ้างตลอดและนั้นก็เป็นเพราะว่าเขายังคงฝันร้ายอยู่ตลอดไม่มีคืนไหนที่ไม่ฝันฝันร้ายเลย เจ้าตัวจึงยังไม่พร้อมจะออกไปใหนในตอนนี้
"จันทราเป็นไรไป"ธารใสเอ่ยถามเพื่อนที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ
"ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะฝันร้ายแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่แต่ล่ะคืนแทบจะไม่ได้นอน"
"เอาน่าอย่าคิดมากเลย...เอ่อนี่ไอ้ตะวันไปใหนล่ะเนี้ย"
"หาข้าวกินอยู่ในครัวอ่ะ"
"เวลาอื่นไม่ยอมอยู่คนเดียวแต่พอเป็นเรื่องของกินนี่คนเดียวก็อยู่ได้เนอะ"ออกไปดูเพื่อนอีกคนที่ครัว
จันทราถอนหายใจเบาๆและมองไปที่สมุดบันทึกของตัวเองจันทราชอบเขียนสมุดบันทึกมากไม่ว่าวันนั้นจะเหนื่อยแค่ใหนแต่ก็จะมานั่งเขียนสมุดบันทึกอยู่เสมอตั้งแต่ฝันร้ายจันทราก็เริ่มเขียนบันทึกน้อยลงเพราะในหัวเอาแต่คิดว่าเมื่อไหร่ตนจะได้นอนเต็มอิ่มสักที
นั่งคิดอยู่สักพักแต่ก็เขียนไม่ได้จันทราเริ่มวาดรูปลงไปในสมุดแทน เขาพยายามวาดสิ่งที่จำได้ในความฝัน
หมู่บ้าน ชายผู้นั้น
ร่างเล็กนอนแทบไม่หลับเพราะทุกครั้งที่หลับตานอนฝันเขาจะฝันร้ายอยู่ตลอดเป็นฝันร้ายที่ตอกย้ำปมในใจของเขาตั้งแต่วัยเด็ก 'ต้องฝันร้ายไปถึงเมื่อไหร่'
"อาการน่าเป็นห่วง"
"ฝันร้ายติดต่อกันมาตั้งนานแล้วนิ"
"ที่ฝันร้ายไม่ใช่เพราะว่ามันคิดมากหรอ"
ทั้งสองคนแอบมองจันทราอยู่หน้าห้องด้วยความเป็นห่วงถึงแม้ว่าจะห่วงมากแค่ไหนทั้งสองคนก็ไม่รู้ว่าจะต้องพูดอย่างไรเพื่อนของตนจึงจะสบายใจและไม่คิดมากอีก
รุ่งเช้าวันต่อมาแสงแดงอ่อนๆยามเข้าส่องผ่านเจ้ามาทางหน้าต่างห้องชายหนุ่มร่างเล็กนอนหลับอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือมาทั้งคืน พันแสงและธารใสเพื่อนของเขาเมื่อตื่นแล้งก็ออกมาหาเพื่อนตัวน้อยก่อนเลยด้วยความเป็นห่วง เมื่ออข้ามาแล้วเห็นเพื่อนตัวน้อยยังหลับอยู่จึงช่วยกันปลุกชายหนุ่ม ปลุกอยู่สักพักชายหนุ่มก็ตื่นขึ้นมาไม่พูดอะไรและก้าวขาเดินไปนอนที่เตียงต่อโดยไม่สนใจเพื่อนทั้งสองที่ยืนอยู่
"เอ้าไอ้นี่นิ"
"เอาน่าอย่าถือสาอะไรมันเลยปล่อยมันนอนไปเถอะ"
"กลางคืนได้นอนรึป่าววะนอนน้อยแบบนี้จะไม่มีแรงทำอะไรน่ะสิ"
"ไปหาทำกับข้าวกันเถอะไป"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments