ผ่านมาสามวันที่ลูซิเฟอร์บุตรแห่งแสงนอนนิ่งอยู่ในห้องนอนนี้ไม่ออกไปเจอใครไม่ออกไปทำอะไรและขาดการตรวจสอบอะไรในหลายอย่างๆก็ว่าได้เขาทั้งนอนคิดและนั่งคิดเรื่อง นรกและคนบาป อยู่เพราะท่านพ่อบอกว่าเรื่องพวกนี้ห้ามแม้แต่จะสงสัยแต่ก็ตามที่เห็นยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุทูตสวรรค์ตัวน้อยนี้
เขาพลางคิดว่าสิ่งที่ห้ามยุ่งหมายความว่าอย่างไร?คนบาปน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ?คนในนรกโหดร้ายขนาดนั้นเชียวหรอ?แต่ก็ไม่ได้ถามใครออกไปได้แต่เก็บเงียบคิดอยู่ในใจเรื่องพวกนี้เพียงคนเดียวแต่ทว่า
ในเมื่อพ่อเขาบอกว่าห้ามคิดสงสัยงั้นเขาก็จะลงไปดูด้วยตาของตัวเองว่ามันเป็นจริงอย่างที่พ่อพูดมั้ยคิดจบก็มุ่งตรงไปที่ประตูลวดลายสวยงามแต่พอเปิดออกกลับพบกับ ราฟาเอลพี่คนที่สองของเขายืนอยู่ด้านหน้าประตูมองหน้าเขาอยู่โดยที่เขาไม่ได้รับรู้เลยสักนิดว่ามีคนมาหา
"ท่านพี่ราฟาเอล...มีอะไรมาหาข้างั้นรึ?"
"....."
"ข้าเห็นเจ้าไม่ออกมาจากห้องสามวันกลัวว่าจะเป็นอะไรไปข้ากับไมเคิลผลัดกันมาหาว่าเจ้าจะออกมารึไม่พวกข้าเป็นห่วงกลัวว่าเจ้าจะเป็นอะไรไป ไม่ได้ทุกข์เศร้าอยู่ใช่รึไม่?"เหตุที่ราฟาเอลแบบนี้เกิดเพราะหากบุตรคนโปรดของพระเจ้าเกิดอาการเศร้าหรือเสียใจนั้นถือเป็นบาปใหญ่ของเหล่าพี่ๆเลยก็ว่าได้เพราะงั้นพวกเขาจึงต้องพยายามที่จะทำให้น้องของพวกเขาอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลาเพราะเขาเองก็ไม่อยากให้น้องๆของเขาต้องมาโศกเศร้าเสียใจ
"ข้าไม่เป็นอะไร ท่านอย่าห่วงเลย"
"เข้าใจแล้วล่ะ แล้วนี่...เจ้าจะไปที่ไหน?"
.....
(ลืมเรื่องนี้ไปเลยแฮะ)
"อ๋อ...คือว่าข้าจะไปที่สวนนิดๆหน่อยๆแล้วก็กลับห้อง ท่านพี่มีอะไรรึเปล่า?"
"...."
"เปล่าหรอก เดี๋ยววันพรุ่งนี้ท่านพ่อมีอะไรจะบอกอย่าลืมไปที่ห้องทำงานท่านล่ะ"เขาไม่ลืมที่จะบอกในสิ่งที่ท่านพ่อฝากส่งสารมาด้วย
"เข้าใจแล้วครับ"ทันทีที่พูดจบราฟาเอลก็พยักหน้ารับทราบจึงเดินออกไปเพื่อไปตรวจงานของตนต่อทางลูซิเฟอร์ที่เห็นแบบนั้นก็เดินออกไปเพื่อหวังไปที่ประตูทองแต่กลับเจอกับ กาเบรียลยืนตรวจสอบอะไรสักอย่างน้อยครั้งที่พี่คนโตของตนจะมาที่ประตูทองหากไม่จำเป็นจริงๆเขาจึงรอไปสักระยะเพื่อรอให้คนตรงหน้าไป ผ่านไปไม่นานกาเบรียลที่เดินออกไปแล้วลูซิเฟอร์ก็รีบพุ่งไปที่ประตูทองใช้ปีก3คู่พุ่งไปก่อนที่ประตูทองนั้นจะปิด
เขาว่าถ้าไปที่ใต้พิภพแล้วจะไปเยี่ยมเยียนลิลิธสักหน่อยตรวจสอบดูว่าเธอได้โดนอดัมบังคับอะไรรึเปล่าถึงแม้อดัมจะมีอีฟแล้วแต่เขาไม่วางใจเรื่องนี้สักเท่าไหร่ขอให้ตาเห็นก่อนที่จะสบายใจแล้วกัน
.
.
มาแล้ว...ภายในนรกนั้นที่ๆเขามามันค่อนข้างต่างจากสวรรค์ลิบลับเลยในนี้มีแต่สีดำแดงไปทั่วบริเวรมีทั้งคนที่รูปร่างที่เขาไม่เคยเจอซึ่งทูตสวรรค์ตัวน้อยนี้ไม่ได้กลัวเลยสักนิดบางตนมีของเหลวสีแดงไหลทะลุออกมาจากเบ้าตาจนดูน่ากลัวบางตัวมีดาบแทงเข้าไปในดวงตาจนลูซิเฟอร์ที่เห็นแบบนั้นเขารีบนำมือมากุมปากแทบจะไม่ทันแต่ทว่ายังไม่ทันจะได้สำรวจรอบๆกับโดนมือหนาของใครบางคนคว้าเอวบางเข้าซอกมุมแออัดจนลูซิเฟอร์ที่โดนคว้าแบบนั้นไปเขาตกใจจนเกือบจะหันไปเอ็ดด่าอีกคนแต่กลับต้องชะงักเพราะมือหนาที่คว้าตัวเขามาปิดปากบางจนนัยน์ตาสีอำพันสวยเบิกกว้างด้วยความตกใจ
คนตรงหน้าที่ปิดปากเขาลักษณะสูงเพรียวทั้งตัวเต็มไปด้วยสีแดงทั้งตัวทรงผมอีกคนเป็นผมบ็อบสีผมสีแดงปลายดำดวงตาของอีกฝ่ายมีตาสีแดงเข้มไอริสสีแดงสดและมีรูม่านตาสีดำบางๆอีกมือไขว้หลังถือไม้เท้าที่รูปลักษณ์เป็นไมค์สีแดงสีตัวของคนนั้นออกไปทางเทาเข้มและมีเท่ากีบสีแดงและนิ้วสีแดง และมีผมสีดำขนาดใหญ่สองกระจุกยื่นออกมาจากด้านบนศีรษะทำให้เขานึกถึงหูของกวางที่สวนเอเเดนและมีเขากวางสีดำเล็กยื่นออกมาจากกระหม่อม บนใบหน้าของคนตรงหน้ามีรอยยิ้มกว้างเต็มไปด้วยฟันสีเหลืองอันแหลมคม
มันทำให้อีกคนดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูกเลย
"ไม่ทราบว่า~ ท่านทูตสวรรค์ผู้สูงส่งมาทำอะไรในนรกนี่งั้นหรอ"หลังจากคนตรงหน้าเห็นว่าพวกนั้นไปกันหมดแล้วก็นำมือออกจากปากบางนั่นพลางนำมือที่มาปิดปากตนเช็ดที่เสื้อของตัวเองจึงทำให้เขาสงสัยว่า คนตรงหน้ารังเกียจการสัมผ้สตัวหรอ?
"อ่า คือเรามาสำรวจอะไรนิดๆหน่อยๆน่ะว่าแต่...เจ้า?"
"ฮ่าๆ~ ขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่เสียมารยาทกับผู้สูงส่งเช่นท่าน ข้าอลาสเตอร์ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รู้จักท่าน!~"อลาสเตอร์พูดพลางจับมือของคนตรงหน้าขึ้นมาแล้วกดจูบอย่างแผ่วเบาแต่ไม่รู้ทำไมทันทีที่อีกฝ่ายทำแบบนี้แล้วเขารู้สึกเหมือนมีหนามแหลมๆมาทิ่มตำจนเขารีบสะบัดแขนอีกคนออกก่อนจะลูบแขนตัวเองไปมาทั้งตัวของทูตสวรรค์ตัวน้อยกำลังสั่นเทาเล็กน้อยเหมือนดั่งนกน้อยที่พลัดพลาดจากแม่นกในวัยแรกเกิด
"ข้าบอกนามข้าไปแล้วตาท่านแล้วที่รัก"
ที่รัก....คืออะไร?
"เรานามว่า ลูซิเฟอร์ มอร์นิ่งสตาร์ บุตรแห่งดวงดาวผู้เป็นแสงสว่างบนสรวงสวรรค์"เขาพูดพลางนำมือทาบไว้ที่อกข้างซ้ายและมือที่ว่างนั้นไขว้หลังแล้วโค้งให้นิดๆหน่อยๆ
"โอ้ว!ฮ่าๆ ยินดีเป็นอย่างยิ่งท่านทูตสวรรค์ผู้สูงส่งท่านลูซิเฟอร์ยินดีอย่างยิ่งเลยครับ~"
"....."
"ว่าแต่...ที่รักนี่คืออะไรงั้นหรอ?"
ทันทีที่พูดแบบนี้ทำเอาปีศาจกวางสีแดงยิ้มหลอนตรงหน้าถึงกับชะงักค้างมองมาทางลูซิเฟอร์ด้วยสายตาแปลกใจนิดๆแต่ใบหน้ายังคง คงที่กับรอยยิ้มแสยะอยู่เหมือนเดิม
"ไม่น่าเชื่อ ว่าท่านจะไม่รู้จักท่านนี่ช่าง ใสซื่อจริงๆใสซื่อจนข้ายังแปลกใจฮ่าๆ"
??
"ไหนๆท่านก็มาที่นี่แล้ว~ สนใจไปรับประทานอาหารกับข้ารึไม่?"
....
"เอาสิ เพราะเราเองก็ไม่รู้จะทำอะไรดีเหมือนกัน"
"งั้นเชิญท่านตามข้ามาเลยท่านทูตสวรรค์ลูซิเฟอร์"เขาพูดพลางผายมือไปด้านหน้าเพื่อเชิญให้อีกฝ่ายตามตนไป
.
.
.
"ที่นี่คือ....?"เขาถามออกมาด้วยความสงสัยและอยากรู้อยากเห็นเพราะเมืองที่อลาสเตอร์พามามันดูสงบสุขเป็นอย่างมากและภายในเมืองแห่งนี้ผู้คนต่างแต่งตัวอย่างลูกผู้ดีของปี1910เป็นอย่างมาก
"ฮ่าๆ!ที่นี่คือ Canibal~! ที่รักกระผมจะพาไปที่ๆหนึ่งรับรองว่าท่านต้องชอบแน่"ว่าจบปีศาจเช่นอลาสเตอร์ก็เดินนำมาที่ร้านๆหนึ่งพลางเปิดประตูให้เขาเข้าไปด้านในก่อนและเจ้าตัวก็เดินตามหลังราวกับเป็นบอร์ดี้การ์ดมาเฝ้าเจ้านาย
กริ่งๆ
"ท่านอยากกินอะไร?"
"...."
"เราไม่รู้...เจ้ามีสิ่งที่แนะนำรึเปล่า?"เขาส่ายหน้าพลางมองบรรยากาศในร้านที่ชวนผ่อนคลายนี่
"งั้นสิ่งนี้ท่านน่าจะชอบ ท่านไปนั่งก่อนเดี๋ยวข้ามา"
.
.
ตึกๆ
".... นี่คือ?"เขามองสิ่งที่อีกคนเอามาวางไว้ตรงหน้าคล้ายเค้กกับชาขาวที่บนสวรรค์เองก็มีเขาเองก็ชอบมากเช่นกัน
"เค้กวานิลลาครีมสดและชาขาว ข้าว่าท่านน่าจะชอบ"
.....
"เจ้าไม่มากินด้วยรึ?"เขามองอีกคนที่เดินมานั่งฝั่งตรงข้ามกับเขาและนั่งมองหน้าเขาอยู่ด้วยรอยยิ้มแสยะจนเขาเห็นมาสองถึงสามครั้งอยากจะถอยหนีไปให้ไกล
"โอ้ว~ ไม่ล่ะขอบคุณพอดีว่าข้าไม่ชอบของหวานน่ะครับ"พูดพลางแสยะยิ้มกว้างตาหยี่เป็นรูปสระอิเขาที่เห็นแบบนั้นรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
ลูซิเฟอร์ไม่ได้พูดต่อแต่เขานำมือเรียวบางไปหยิบซ้อมที่อยู่ข้างโต๊ะด้านซ้ายถัดจากจานเค้กพลางตักเค้กวานิลลาครีมเข้าปากบางความหวานกำลังลงตัวครีมสดที่อีกฝ่ายบอกมันนุ่มละมุนราวกับปุยเมฆที่เพียงแตะก็สลายละลายหายไป เนื้อเค้กกำลังนุ่มละมุนไม่ถึงกับแข็งจนกินไม่ได้ควบคู่กับชาที่อีกฝ่ายเตรียมให้ก็ยกจิบเพียงน้อยนิดนัยน์ตาสีอำพันเบิกกว้างมองชาและขนมเค้กที่เขาไม่เคยกินเอ่ยปากชมกับขนมที่เขาไม่เคยแม้แต่จะชิม
"มันอร่อยมาก! เราว่าเจ้าพลาดของอร่อยแล้วนะ"
"ไม่ล่ะครับผมชอบของเข้มมากกว่าของหวานพวกนี้ ท่านไม่เคยกินหรอ?"
"ไม่เราไม่เคย เพราะทูตสวรรค์อย่างเราไม่จำเป็นต้องกินและไม่รู้สึกหิว"อย่างที่ลูซิเฟอร์ว่าเหล่าทูตสวรรค์ไม่ว่าจะชั้นต่ำหรือสูงไม่จำเป็นต้องกินก็อยู่รอดได้เป็นเดือนเป็นปี เพราะหากรู้สึกหิวนั่นก็กลายเป็นว่าเราไม่ใช่เทพอีกต่อไปเพราะกฎที่5 ห้ามมีความรู้สึกเหมือนมนุษย์ เพราะนั่นสามารถให้ชาวสวรรค์ตกลงมายังนรกได้ซึ่งกฎพวกนี้คนเป็นกาเบรียลพี่คนโตสุดเป็นคนดูแล
"ลำบากน่าดูนะครับ"
"ก็ไม่หรอกเราชินแล้วกับกฎพวกนี้"
'ท่านลูซิเฟอร์มีประชุมค่ะ'
เสียงจากเซร่าที่เอ่ยผ่านจิตเสียงเข้ามาด้านโซนประสาทมา เขาที่ได้ยินแบบนั้นก็ลุกขึ้นก่อนจะขอตัวลาและเดินหายไปจากร้านเพื่อเข้าประตูทองที่ตอนนี้ทุกคนรออยู่ที่ห้องประชุม
.
.
"ช่างเป็นทูตสวรรค์ที่ใสซื่อจริงๆ คราวหน้าหากเจอกันอีกครั้งคงสนุกน่าดู~:)"อลาสเตอร์พูดก่อนจะเดินออกไปจากร้านแล้วเดินไปที่ซอกของมุมแออัดและใช้เงาของตัวเองหายไป และนี่คือจุดที่อลาสเตอร์หานไป7ปี
.
.
.
[จบ]
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 3
Comments