ผ่านมาหลายสัปดาห์แล้วที่เสี่ยวซิงเฉินนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ในห้อง ช่วงใกล้ค่ำของทุกวันก็มักจะมีใครบางคนเข้ามารบเร้าตนเกี่ยวกับเรื่องนั้นอยู่เสมอทว่าหาได้มีท่าทีคุกคามใด เทพหงส์ขาวจึงวางใจนักหากตัดนิสัยเจ้าอารมณ์ออกเซวียหยางนับว่าเป็นคนดีต่อเขามากเลยทีเดียว ข้าวปลาอาหารอาภรณ์เครื่องนุ่งห่มไม่ขาดพร่อง ดูแลประดุจเขาเป็นธิดาเผ่ามารอย่างไรอย่างนั้น
"ฮูหยิน อาจิงเตรียมน้ำเรียบร้อยแล้วท่านจะอาบเลยหรือไม่เจ้าคะ" ติดตรงนี้อีกข้อ ข้ารับใช้ทุกคนในที่แห่งนี้มักเรียกเทพหงส์ขาวว่า ฮูหยิน เขาไม่ได้ถือสาเอาความเหตุเพราะคงถูกเซวียหยางบังคับให้เรียกเขาเช่นนี้น่ะสิ
เขาพยักหน้าตอบรับคำสาวใช้ตัวน้อย นางมีนามว่าอาจิง หญิงสาวผมดำขลับหน้าตาจิ้มลิ้มที่เซวียหยางส่งมาอยู่ข้างกายเขา อาจิงจึงกลายเป็นเพื่อนคุยเล่นแก้เหงาไปโดยปริยาย จะว่าดีก็ดีไม่สุดเมื่อเสี่ยวซิงเฉินแสดงความสนิทสนมกับอาจิงเยี่ยงพี่น้องรู้ใจเซวียหยางจำต้องมีปากเสียงกับนางทุกครั้งอย่างคนหวงของ
"สบายตัวหรือไม่เจ้าคะ"
เสี่ยวซิงเฉินหลับตาพริ้มในอ่างน้ำที่โปรดด้วยกลีบบุปผานานาชนิดโดยมีอาจิงนวดขมับให้เบา ๆ มือเรียวเอื้อมสัมผัสข้อเท้าขึ้นรอยแดงจากการถูกโซ่รัดมานาน บัดนี้เซวียหยางเริ่มไว้ใจว่าเทพหงส์ขาวจะไม่หนีไปไหนได้หรือคิดหนีก็ไม่พ้นประตูวังมารจึงปลดโซ่ออก
ไม่รู้ว่าท่านปู่กับสหายรักกำลังตามหาเขาอยู่หรือเปล่าหากตามหาจนเจอแล้วเซวียหยางจะยินยอมให้เขากลับไปแต่โดยดีหรือไม่ ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกนานเพียงนี้เสี่ยวซิงเฉินก็อดมีความคิดอยากออกไปเปิดหูเปิดตาไม่ได้
"ท่าน!?" เสี่ยวซิงเฉินอุทานตกใจเมื่อร่างที่ควรเป็นสาวน้อยอาจิงเปลี่ยนเป็นร่างบุรุษไม่เหลือเค้าอ่อนหวานสักนิด เซวียหยางยกยิ้มจนเห็นเขี้ยวซี่เล็ก มือหยาบกร้านบรรจงวักน้ำลูบผิวเนียนละเอียด กลีบบุปผชาติสีแดงแต่งแต้มบนร่องไหปลาร้าขับผิวกายให้สว่างน่าพิศดูขึ้น เสี่ยวซิงเฉินนิ่งค้างแทบหยุดหายใจ ก้มมองร่างกายตนที่มีเพียงเสื้อบาง ๆ และกางเกงส่วนล่างเท่านั้น ความเก้อเขินมียางอายส่งผลให้ใบหน้าหวานแดงระเรื่อมือจับขอบอ่างสะเปะสะปะไม่รู้จักวางไว้ตรงไหน
"จะลุกไปไหน" เซวียหยางเลิกคิ้วถาเมื่อเทพหงส์ขาวตั้งท่าลุกจากอ่างยามเขาก้าวขาลงมานั่งได้ครู่หนึ่ง
"อ่างเล็กนิดเดียว หากท่านอยากอาบท่านก็อาบก่อนเถิด อ๊ะ--"
เสี่ยวซิงเฉินล้มตามแรงดึงคนเอาแต่ใจ ตอนนี้กลายเป็นว่าร่างขาวสะอาดทับบนตักของราชามาร สองแขนแกร่งเกี่ยวรอบเอวให้อยู่ในอาณัติ พอจะขัดขืนก็ถูกกดศีรษะให้แนบอกเสียอย่างนั้น เทพหงส์ขาวคุดคู้อิงแอบในอ้อมกอดอีกฝ่ายอย่างไม่เต็มใจนัก อ่างน้ำก็แคบนิดเดียวอากาศภายนอกก็เริ่มหนาวเย็น เจ้าตัวนี้ยังทำรุ่มร่ามใส่อีก คิ้วงามเริ่มขมวดเข้าหากันบ้างแล้ว
"แค่ข้าอยากอาบด้วยเจ้าก็รังเกียจรึ งั้นข้าจะมาอาบกับเจ้าบ่อย ๆ ละกันคนงาม" ปากที่ชอบยิ้มเจ้าเล่ห์มีเลศนัยประทับจุมพิตลงบนกลุ่มผมดำขลับของเสี่ยวซิงเฉิน
"ข้าหนาว รีบขึ้นจากอ่างกันเถิด"
"หนาว? อยู่ในอ้อมกอดข้าไม่หนาวหรอก ฮ่า ๆ" เสียงกวนประสาทของใครหลายคนกำลังเปล่งหัวเราะข้างหูเขา เซวียหยางกระชับแขนกอดหวังคลายหนาวให้ว่าที่ฮูหยินตน คิ้วขมวดเป็นปมเล็ก ๆ คล้ายคนด่าทอออกเสียงกรีดร้องในใจของเสี่ยวซิงเฉินช่างน่าเอ็นดูในสายตานัก พระโพธิสัตว์ก็ยังมีความอดทนจำกัดอย่างนั้นสินะ
"รีบอาบเสีย เดี๋ยวจะมืดค่ำ"
.
.
.
จื่นเชิน ฝากบอกเทียนจวินและทุกคนด้วยว่า
ข้าสบายดี อยู่ที่นี่มิได้ลำบาก อีกไม่นานก็จะกลับไป
ไม่ต้องห่วง
เทพหงส์ขาวพัดตัวอักษรลอยระยิบระยับขึ้นไปนอกหน้าต่างด้านบนหวังให้คนในจดหมายได้อ่านและหายกังวล ชีวิตอันแสนยาวนานของเขาค่อนข้างน่าเบื่อหน่ายหากมีคนอย่างเซวียหยางเข้ามาก่อความวุ่นวายก็น่าตื่นเต้นไม่น้อย เขาจะยอมอยู่เล่นด้วยสักตั้งติดแต่เพียงว่าราชามารคิดจริงจังอยากได้เขาบำเรอตนนี่สิ ช่างหน้าไม่อายกระไรเยี่ยงนี้
"เสี่ยวซิงเฉิน ใครอนุญาตให้เจ้าส่งจดหมาย" เซวียหยางยืนกอดอกพิงเสาเตียงด้วยสีหน้าแฝงโทสะ
"ข้าเพียงแจ้งสารทุกข์สุกดิบแก่ท่านปู่เท่านั้น มิได้คิดหนี"
"เจ้าไม่หนีแต่มีหรือมันจะปล่อยเจ้าไว้ที่นี่ อย่าคิดน้อยไปหน่อยเลยคนงาม" บุรุษอาภรณ์ทมิฬเข้าใกล้คนนั่งติดหน้าต่าง เส้นผมที่สยายยาวเกือบถึงบั้นท้ายไม่ได้จัดทรงเรียบร้อยเหมือนครั้งอยู่บนสวรรค์ถูกลมโกรกพัดปลิวสัมผัสใบหน้างามดั่งหยก ข้อเท้าเปลือยเปล่าโผล่พ้นชายผ้าขาวออกมายิ่งดูน่าทนุถนอมกว่าสิ่งใดแต่ก็น่าครอบครองในเวลาเดียวกัน
"หากว่า...หากว่าเจ้าเป็นของข้าเสียตอนนี้ พวกมันก็จะปฏิเสธข้าไม่ได้แล้ว"
"ข้าไม่อยากเป็นของท่าน" เสี่ยวซิงเฉินหลบสายตาคมกริบนั้น มุมปากราชามารพลันยกขึ้นก่อนจะระเบิดหัวร่อ มือแกร่งกระชากแขนเทพหงส์ขาวจนถลาตามแรง ร่างสมส่วนขึ้นคร่อมทับกลางตัวคนงามปล่อยไอมารโอบล้อมรอบกายสะกดพลังเทพสวรรค์ เซวียหยางมองคนใต้ร่างที่เอาแต่หันหน้าหนีเขา เมื่อก่อนเขาคงจะไม่แตะต้องหยกขาวให้ร้าวทว่าจิตใจดำมืดถูกกัดกร่อนเกินครึ่งเสียแล้ว
ปากอวบอิ่มโดนมารร้ายช่วงชิงความหอมหวานจนเจ่อบวม ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดซึ่งกันและกันบังเกิดน้ำสีใสเชื่อมระหว่างพวกเขา สองมือกำแน่นหอบหายใจถี่หน่วงมิเคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ปรางแก้มร้อนผ่าวขึ้นสีแดงตำลึงดั่งคนเมาสุราขณะราชามารปลดสายคาดเอวเทพใต้อาณัติออกไม่ไยดี เรียวขาชันเข่าเสียดสีกันเสี่ยวซิงเฉินรู้สึกแปลกประหลาด ร่างกายตอบสนองต่อสัมผัสอย่างน่าประหลาด
"พอก่อน พอ" ใช้ศอกดันหน้าอกอีกคน เซวียหยางกระฟัดกระเฟียดผลักร่างเล็กให้ห่างตน เทพหงส์ขาวยังนอนเสื้อผ้าหลุดรุ่ยค้างอยู่เช่นเดิม มือยังกำไว้แน่นไม่กล้าแม้ขยับตัว ราชามารยันขอบประตูลูบหน้าลูบตาตัวเองคล้ายเรียกสติ
"นอนซะ ข้าจะไปจัดการตัวเอง" เซวียหยางดึงผ้าห่มจากปลายเท้ามาปกคลุมร่างขาว ก่อนจะกลายเป็นกลุ่มควันหายไปในอากาศ เสี่ยวซิงเฉินแตะแผลบนปากตัวเองครั้งหนึ่งกระชับผ้าห่มคลุมตัวอีกครั้งหนึ่ง ไม่สามารถสลัดความรู้สึกแปลกประหลาดนี้ออกไปได้
มันไม่จืดชืดเหมือนความรู้สึกที่ผ่านมา
เขากำลังตื่นเต้น
...- บทที่ ๒ -...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments