^^^บทที่ 3^^^
^^^ผมโหวตชนิตรา^^^
^^^[มุมมองบุคคลที่สาม]^^^
"เดินเร็วๆ ดิ๊ ถ้านิภาหักคะแนนกูจะโทษมึงคนเดียว"
น้ำเสียงของทิชาเต็มไปด้วยความหงุดหงิดในขณะที่มือเล็กๆ ทั้งสองข้างกำลังจับลำแขนของร่างสูงและฉุดกระชากลากเข่นให้เขาก้าวเร็วๆ
เมื่อทั้งคู่ถึงห้องเรียนเด็กทั้งสองก้มโค้งตัวลงให้เตี้ยที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อที่จะได้เข้าห้องเรียนโดยที่ครูไม่สังเกตเห็น
แต่เหมือนโชคจะไม่เข้าข้างทั้งคู่เมื่อให้คนขายาวมาเดินย่อจนแทบจะติดพื้นแบบนี้
"เบาๆ สิอีส-"
โครมม!!
"ฉิบหาย"คือคำคำเดียวที่พุดขึ้นมาในหัวของทั้งคู่ในเวลานี้ โต๊ะที่ตั้งของมันอยู่เฉยๆ เธียรมันก็ล้มไปโดนมันจะเกิดเสียงดังสนั่นลั่นห้อง
เพื่อนทั้งห้องและครูต่างพากันหันหลังมามองหลังห้องด้วยความสงสัยและสุดท้ายทั้งคู่ก็เกม
"อะไรกันเนี่ยพวกเธอ เข้าห้องสายและยังทำเสียงดังอีก พวกเธอชื่ออะไร"
ครูสาวตัวใหญ่กับผมสั้นติ่งหูกล่าวเสียงดังเพื่อตำหนิเด็กทั้งสองที่เข้าคาบเรียนของเธอสายและทำสีหน้าไม่พอใจในขณะที่เธอถามชื่อของพวกเขา
"หนูชื่อชนิตราค่ะ"
"ผมรัชชานนท์ไงครู จำผมไม่ได้หรอ"
ความกวนตีนของมันทำให้เพื่อนหลายต่อหลายคนหันไปซุบซิบและหัวเราะกันเบาๆแต่นั่นไม่รวมทิชาที่ตอนนี้พร้อมจะเตะเพื่อนชายให้ตายลงไปเสียตรงนี้
"หัก2คะแนนทั้งคู่ ไปนั่งที่ได้แล้ว!"
'โอ้ยไอ้เวรรร คะแนนที่เหลือน้อยนิดของกู'
ทิชาใช้ขาเตะที่หน้าแข้งของเธียรทีสองทีก่อนจะเดินไปนั่งที่ของตัวเองพร้อมกับเพื่อนเจ้าปัญหาคนนี้
การเรียนในคาบสังคมผ่านไปได้ด้วยดีจนใกล้หมดคาบ นักเรียนต่างพากันเก็บกระเป๋าเตรียมออกจากห้องกันเป็นแถวๆ แต่ทุกคนต้องหยุดชะงักเพื่อเห็นว่าครูกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง
"อีก2อาทิตย์ ทางโรงเรียนของเราจะจัดงานครบรอบ90ปีของโรงเรียนและมอบหน้าที่ให้คุณครูประจำรายวิชาสัมคมคัดเลือกตัวแทนนักเรียนหญิงห้องละสองคนเพื่อมารำในวันงานค่ะ"
คุณครูนิภาร่ายยาวตามที่กระดาษประชาสัมพันธ์ที่เธอติดมาด้วยได้เขียนไว้ เพื่อนในห้องต่างพากันฮือฮาและสงสัยว่าใครจะเป็นคนได้รับเลือก
"เดี๋ยวครูจะให้โหวตกันนะว่าจะเลือกใครเป็นตัวแทน"
"หนูโหวตลอออรค่ะ เพื่อนรำเก่ง"
ทิชายกมือขึ้นสูงก่อนจะโหวตให้เพื่อนสาวเป็นตัวแทนห้องเพื่อไปรำในวันงาน เด็กสาวผมสีน้ำตาลเข้มและนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมีท่าทีกระวนกระวายเมื่อตนเองได้รับเลือกอย่างน่าเอ็นดู
"งั้นหนูโหวตชนิตราเป็นตัวแทนกับหนูค่ะ"
'แย่และกู'
ทิชาได้แต่คิดในใจและภาวนาขอให้เพื่อนคนอื่นแย้งไม่ให้เธอเป็นตัวแทน
"ผมโหวตชนิตราเหมือนกันครับ"
เพื่อนที่แสนดียกมือขึ้นและกล่าวเสียงดังเหมือนต้องการให้คนทั้งโลกรู้ เด็กสาวได้แต่นั่งก้มหน้ากุมขมับอยู่บนโต๊ะของตนเองและถอนหายใจอย่างเลี่ยงไม่ได้
"มีใครจะโหวตคนอื่นอีกมั้ยคะ ไม่งั้นจะได้เอาสองคนนี้เลย"
ทั้งห้องต่างพากันเงียบกันอย่างไม่ได้นัดหมาย จนการโหวตเป็นเอกฉันท์ได้อย่างรวดเร็ว
"งั้นก็ตามนี้นะนักเรียน เจอกันคาบหน้า นักเรียนที่เป็นตัวแทนไปฝึกรำเพลงที่ส่งไปให้ในไลน์กลุ่มด้วย"
พูดจบคุณครูก็ออกจากห้องเรียนไป นักเรียนหลายคนต่างพากันลุกออกจากที่เพื่อไปเรียนในวิชาถัดไปที่อาคารหลังโรงเรียน
ในขณะที่ทุกคนเก็บข้าวของและเดินออกไปจากห้อง ทิชาก็ยังคงนั่งกุมขมับอยู่บนโต๊ะตัวเดิมในตอนแรก พร้อมกับทำสีหน้าหมดอาลัยตายอยาก
"ทำกันได้ลงคอนะเพื่อนรัก"
"กูหวังดีนะเว้ย เพื่อนจะได้เฉิดฉายไง"
เธียรพูดขึ้นปนขำก่อนจะเก็บข้าวของของตนเองและเพื่อนสาวเพื่อไปเรียนวิชาต่อไป เขาเก็บเก้าอี้และปิดไฟเสร็จแล้วแต่ทิชาก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
"ไปได้แล้วว อีทิชาาาา"
เด็กชายพยายามยกร่างของเด็กสาวขึ้นอย่างทุลักทุเลในขณะที่เธอไม่ให้ความร่วมมือเลยแม้แต่นิดเดียว
'ปล่อยช้านปายยย อยากอยู่โคนเดวว ฮืออ'
สุดท้ายทั้งคู่ก็เดินไปเรียนวิชาต่อไปจนได้ คาบเรียนวิชาวิทยาศาสตร์เริ่มขึ้นในช่วงบ่ายของวัน คุณครูและนักเรียนหลายต่อหลายคนต่างพากันพกพัดไม่ก็พัดลมขนาดเล็กเพื่อคลายร้อนในฤดูร้อนเดือนมีนาคม
"ทิชาๆ กูถามอะไรมึงหน่อย"
เสียงทุ้มต่ำของเธียรพูดขึ้นในขณะที่เจ้าของชื่อกำลังฟุบหลับสบายในคาบเรียนที่น่าเบื่อ
"มึงค่อยถามไม่ได้รึไง เห็นมั้ยว่ากูนอนอยู่"
ทิชาพูดตอบด้วยน้ำเสียงงัวเงียปนหงุดหงิดและยังคงนอนฟุบกับโต๊ะอยู่อย่างนั้น
"มึงชอบดอกไม้ไรอ่ะ"
"ห้ะ"
คำถามของเธียรทำให้เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะและหันไปมองใบหน้าของคนข้างกาย
"มึงจะอยากรู้ไปทำไมวะ จะจีบกูรึไง"
ทิชาถามด้วยน้ำเสียงปนขำและเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเธียรเธอก็ยอมบอกดีๆ
"กูชอบดอกทิวลิป ถามทำไม"
"กูว่าจะเอาไปให้ณิชา ถ้ามึงชอบณิชาก็อาจจะชอบเหมือนกัน"
คำตอบของเธียรทำให้เธอนิ่งไปสักพักก่อนที่เธอจะก้มตัวลงนอนฟุบกับโต๊ะเหมือนเดิม
'ณิชาโชคดีจัง'
คาบเรียนช่วงบ่ายผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ช่วงเวลาหลังเลิกเรียนเป็นช่วงเวลาที่ครึกครื้นไม่ต่างจากเวลาพักเที่ยงปกติแต่ที่อาจจะต่างกันหน่อยคือเด็กนักเรียนจากโรงเรียนอื่นจะมาหาแฟนหรือเพื่อนของตัวเองกันอย่างมากมาย
"กูกลับแล้วนะโชคดี"
"เออๆ โชคดี"
ทิชาโบกมือลาเพื่อนสนิทก่อนจะเดินขึ้นไปบนรถสองแถวที่ผู้คนต่างแย่งกันขึ้นอย่างแออัด
เมื่อรถสองแถวขับออกไปได้ไม่นานเด็กสาวก็ย้อนไปคิดถึงต้องที่เธียรถามเรื่องดอกไม้ที่เธอชอบและแอบน้อยใจเล็กน้อยที่เขาจะเอาดอกไม้นั้นไม่ให้คนอื่นที่ไม่ใช่เธอ
'มันจะให้ใครก็ไม่เกี่ยวกับเราสักหน่อย'
ผ่านไป2อาทิตย์วันครบรอบ9ปีของโรงเรียนก็มาถึง ผู้คนจากทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียนต่างพากันมารวมที่โรงเรียนนี้โรงเรียนเดียว
เด็กนักเรียนที่ต้องขึ้นรำในวันงานก็ต่างเร่งรีบแต่งหน้าแต่งตัวเพื่อให้ทันพิธีเปิดในอีก30นาที
"แตมมึงแต่งหน้าเสร็จยัง"
"เสร็จแล้วๆ"
เฌอแตมหรือลอออรในตอนแรกพูดตอบเพื่อนในขณะที่เจ้าตัวกำลังทาปากอยู่หน้ากระจกขนาดใหญ่
"ทิชาๆ กูมาแล้ว"
เสียงของเธียรดังขึ้นจากหน้าประตูก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินเข้ามาให้ห้องแต่งหน้าของนางรำ
"มึงง ช่วยกูด้วยตอนนี้กูตื่นเต้นฉิบหายเลยอ่ะ กูจะตายป่าววะ"
"มึงไม่ตายหรอกทิชา หายใจลึกๆ กูอยู่นี่"
ร่างสูงกุมมือทั้งสองข้างของเธอไว้และเขย่าเล็กน้อยเพื่อให้เธอใจเย็นลง
"มึงจะอยู่กับกูจนกว่าจะขึ้นรำใช่ป่ะ"
"ใช่ กูจะอยู่ตรงนี้แหละไม่ไปไหนหรอก"
ทิชาหายใจเข้าลึกมากๆ ก่อนจะปล่อยออกมาและเดินไปหาเฌอแตมที่ตอนนี้กำลังใส่เครื่องหัวของตนเองอยู่
"มาเดี๋ยวกูช่วย"
ทิชาสวมเครื่องหัวสีทองไว้บนหัวของเพื่อนสาวก่อนที่จะเดินไปส่องกระจกพลางหันซ้ายหันขวาอย่างกังวล
"กูสวยยังอ่ะมึง มันดูเป็นไง"
"หน้าเหมือนหมาเลยอ่ะเพื่อน"
ทั้งทีที่เธียรพูดจบกำปั้นขนาดเล็กก็ต่อยเข้าไปที่ไหล่ของเขาอย่างแรงจนเขาเซไปเล็กน้อย
"สวยแล้ว สวยมาก สวยสัสๆ สวยที่สุดในสามโลกเลย"
เธียรพูดปนขำเล็กน้อยก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้สำหรับช่างแต่งหน้าที่ว่างอยู่
"ขณะนี้ก็เป็นเวลาอันสมควรแล้วที่พิธีเปิดจะได้เริ่มขึ้น ขอเชิญนางรำทั้ง10คนขึ้นไปบนเวทีครับ"
เสียงประกาศดังขึ้นทั่วโรงเรียน นางรำทุกคนต่างรีบไปต่อแถวขึ้นเวทีกันอย่างเร่งรีบ
"กูเชื่อว่ามึงทำได้เว้ย สู้ๆ"
เธียรกล่าวให้กำลังใจเพื่อนสาวก่อนที่เธอจะขึ้นไปบนเวที เมื่อเขาเห็นว่าทิชาขึ้นเวทีไปแล้วเขาก็รีบไปที่หน้าเวทีเพื่อดูการแสดงของเพื่อนสนิท
เมื่อเพลงเริ่มบรรเลง แขนขาเรียวยาวของเด็กสาวขยับไปตามจังหวะเพลง ท่าทางอ่อนช้อยที่ไม่ช้าไม่เร็วเกินไป ทุกท่วงท่างดงามเหมือนนางในวรรณคดี
เรือนร่างเล็กห่มสไบสีทองปักสายสวยงามสะท้อนกับแสงตะวัน แม้มีนางรำคนอื่นๆ อยู่รอบข้างแต่ก็ไม่มีผุ้ใดเจิดจรัสได้เท่ากับเด็กหญิงผู้นี้
ทุกการเคลื่อนไหวงดงามจนไม่อาจละสายตาไปมองใครอื่น ใบหน้าที่ประดับรอยยิ้มเล็กๆ ไว้ตลอดเวลาทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นต่างจดจ้องเป็นสายตาเดียวกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
"สวยมาก สวยมากๆ"
เธียรเอ่ยขึ้นเบาๆ กลางฝูงชนที่ยืนอยู่หน้าเวที เพื่อนสาวที่มักจะทำตัวแปลกๆ และดูไม่เป็นผู้หญิงกลับดูน่าหลงใหลและงดงาม
เมื่อเพลงจบลง เสียงปรบมือจากผู้ชมเสียงดังจนกลบเสียงของพิธีกรจนหายไปจนหมด ร่างสูงรีบวิ่งไปที่ห้องแต่งหน้าพร้อมกับของที่อยู่ในมือ
เด็กชายร่างสูงเดินเข้าไปในห้องแต่งหน้าพร้อมกับเอามือทั้งสองข้างไว้ข้างหลัง เด็กสาวรีบเดินมาหาเขาด้วยรอยยิ้มที่สดใส
"เป็นไงบ้างออกมาดูดีมั้ย"
"อืม สวยมาก"
"แล้วนี่เอาอะไรไว้ข้างหลังอ่ะ"
ดอกทิวลิปสีชมพูถูกยื่นออกมาด้านหน้า เมื่อเธอได้เห็นดอกไม้สีสันสดใสตรงหน้า นัยน์ตาสีฟ้าสดใสเป็นประกายขึ้นมาทันทีก่อนที่เจ้าตัวจะเงยหน้าไปมองคนตรงหน้า
"ให้กูหรอ"
เธียรพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบหลังคอและหันหน้าไปทางอื่น
"ตอนกูกำลังจะกลับบ้าน กูเห็นยายคนนึงเขามาซื้อแล้วกูสงสารกูเลยซื้อมาให้มึง"
"ขอบใจนะ"
ทิชารับดอกไม้จากมือของเธียรและก้มมองดูมันด้วยรอยยิ้มเล็กๆ บนใบหน้าละมุน
'จะไม่ให้กูรักมึงได้ยังไงวะไอ้เธียร'
...[1คอมเม้น\=1กำลังใจ]...
...:]...
ตอนนี้มาพิเศษหน่อย งานที่บ้านรัดตัวมาก กลัวไม่มีเวลา สำหรับตอนทิวลิปคงเป็นตอนที่เราชอบตอนนึงเลยเพราะว่าได้บรรยายว่าลูกสาวเพราะสวยแค่ไหน แถมมีซีนหวานด้วยนิดๆ หน่อยๆ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments
Eva Castillo
มีอะไรใหม่เหรอแอด อยากอ่านต่อแบบเร็วๆนี้เลย
2023-10-24
0