วุ่นวายใจ

แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านทางหน้าต่างเปลือกตาคู่สวยค่อยๆเปิดออก อันดาในตอนนี้สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาด้วยอาการที่หนักอึ้งอยู่ในหัว

“โอ้ยยย ทำไมปวดหัวอย่างนี้!” หญิงสาวโวยวายออกมา ทั้งที่ตัวก็ยังนอนซมที่เตียงอยู่ พอเริ่มตั้งสติก็นึกคิดอะไรขึ้นมาได้ว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของตัวเอง

เชี่ย! นี่เรานอนอยู่ห้องใครวะ?

อันดารีบยันตัวลุกขึ้นนั่ง สายตามองกวาดไปรอบห้องหันมองซ้ายทีขวาทีอย่างตื่นตระหนก

“ตื่นแล้วเหรอยัยตัวแสบ” มินนี่ที่ได้ยินเสียงเอะอะมาจากข้างในห้องก็รีบเดินเข้ามาหาเพื่อนทันที

“มินนี่?” อันดาเรียกชื่อเพื่อน ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างอย่างโล่งอกเมื่อเธอรู้ว่าที่นี่คือห้องของมินนี่เพื่อนสาวของเธอเอง

“เออฉันเอง แกนึกว่าเป็นใคร?” มินนี่ว่า พรางทำหน้าทำตาเบะปากใส่ ใบหน้าเล็กเริ่มยู่พรางขมวบคิ้วชนกัน เธอพยายามนึกถึงเรื่องเมื่อคืนว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ก็จำได้เพียงเลือนลาง

“เมื่อคืนฉันจำได้ว่ามีผู้ชายคนนึงดื่มกับฉันที่ผับ”

“แล้วไงต่อ...?” มินนี่ที่ยืนอยู่เอ่ยถามออกมา

“แล้วก็จำได้ว่ามีใครสักคนเดินเข้ามาแล้วก็.......ฉันจำไม่ได้แล้วอ่ะ” อันดาว่าออกมาอย่างหงุดหงิด พร้อมกับยกมือขึ้นมาเขกหัวตัวเองหนึ่งทีเพื่อเป็นการทำโทษ

คนที่ได้ฟังเบะปากออกมาอย่างหมั่นไส้ก่อนจะบอกความจริงให้อันดาได้รู้ว่าเมื่อคืนเธอกลับมานอนที่ห้องได้ยังไง

“เมื่อคืนฉันตามแกไปที่ผับเองแหละ” มินนี่ว่าออกมา แต่คนที่ได้ฟังกับมีท่าทางไม่เชื่อในสิ่งที่เพื่อนสาวเล่า

“เดี๋ยวนะ! คนที่เดินเข้ามาฉันจำได้ว่าเขาเป็นผู้ชาย จะเป็นแกได้ยังไง” เธอเถียงมินนี่กลับไปทันควัน

มินนี่ที่ไม่อยากเห็นเพื่อนเป็นบ้าตายก่อน เธอเลยยอมบอกความจริงแต่โดยดี

“โอเคฉันบอกให้ก็ได้ ความจริงคนที่พาแกกลับคือพี่วีเองส่วนฉันนั่งรออยู่ในรถไม่ได้เดินเข้าไป”

พอได้ยินแบบนั้น อันดามองค้อนเพื่อนพร้อมกับโวยวายออกมาอย่างไม่ชอบใจ

“แกทำอย่างนั้นได้ยังไงมินนี่!! แกก็รู้ว่าฉันเกลียดเขา”

“เกลียดเหรอออ เมื่อคืนแกยังอ้อนพี่เขาอยู่เลยจ้าาา แบบนี้เรียกเกลียดเหรอ?” มินนี่ที่เห็นเหตุการณ์เมื่อคืนก็รีบสวนทันที พร้อมกับเบะปากมองบนใส่เพื่อนสาวไปหนึ่งกรุบ

“มินนี่!” หญิงสาวปรามเพื่อนอย่างงอนๆ พรางยกมือขึ้นมาปิดหูทั้งสองข้าง เธอไม่อยากรู้ ไม่อยากได้ยินอะไรที่เกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว ส่วนเรื่องเมื่อคืนที่เธอเผลอทำอะไรลงไป เพราะความเมาล้วนๆ ไม่ใช่เพราะยังรักหรืออะไรทั้งนั้น

“เอาล่ะๆๆ ฉันเลิกแกล้งแกแล้วก็ได้ ว่าแต่นี่จะกลับบ้านป่ะหรือจะนอนพักที่นี่ต่อ”

เพราะยังโกรธพ่ออยู่และเธอยังไม่อยากกลับไปเจอหน้าแม่เลี้ยงเลยเลือกที่จะนอนพักอยู่ที่นี่ต่ออีกสักหน่อย

“ฉันขอนอนต่ออีกสักพัก ยังมึนๆ หัวอยู่เลย” อันดาบอกเพื่อนไป

มินนี่ที่เห็นเพื่อนล้มตัวลงนอน เธอเลยโยนมือถือลงเตียงเพื่อให้เจ้าของของมัน เพราะเห็นว่าเมื่อคืนพ่อของเพื่อนรักโทรหาเป็นร้อยกว่าสายได้แล้ว

“โทรกลับไปบอกป๊าหน่อยก็ดีนะ เขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” มินนี่ว่าอย่างเอือมๆ ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง ปล่อยให้เพื่อนได้นอนต่อ

...*...

“ยังติดต่อหนูอันดาไม่ได้อีกเหรอคะ” จารวีคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียใหม่ เอ่ยถามขึ้นมาทันทีเมื่อเธอเดินมาถึงโต๊ะอาหาร เห็นสามีกำลังนั่งโทรหาลูกสาวอยู่

คนถูกถามรีบหันไปมอง “ยังเลยคุณ ไม่รู้หายหัวไปอยู่ไหน” ตอบออกมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก

จารวีหย่อนก้นนั่งลงไปข้างๆสามี ก่อนจะเอื้อมไปจับมือลูบเบาๆอย่างปลอบใจ “ตอนนี่แกยังโกรธคุณอยู่ อีกไม่นานคงกลับบ้าน คุณใจเย็นๆ นะคะ”

มือหนาลูบตอบ พร้อมกับพยักหน้าเชื่อฟังในสิ่งที่จารวีบอก “ครับคุณ”

“งั้นเรารีบทานข้าวกันดีกว่านะคะ เสร็จจะได้รีบเข้าบริษัท” จารวีว่าออกมาก่อนจะเอื้อมไปตักอาหารมาวางไว้ที่จานของสามี

“ทานเยอะๆ นะคะ”

“ครับ” ชายหนุ่มร่างใหญ่ส่งยิ้มให้ผู้เป็นภรรยาคนโปรด ก่อนจะเอื้อมไปตักอาหารให้เธอเช่นกัน

บรรยากาศในโต๊ะอาหารนั้น ทั้งคู่พูดคุยถึงเรื่องคู่จิ้น ของชาวีกับแอนนาที่กำลังเป็นกระแสกันอยู่ตอนนี้ พรางทานอาหารไปด้วย ส่วนแม่นมและพี่แวว พี่ส้มได้แต่ยืนก้มหน้ากำหมัดแน่นเพราะเกลียดที่นายหญิงคนใหม่กับพ่อไม่สนใจลูกสาวเลยสักนิด หนำซ้ำยังทานอาหารได้ลง ทั้งๆ ที่ลูกสาวหนีออกจากบ้านแท้ๆ

พอทั้งคู่ทานอาหารกันเสร็จ จารวีก็ขอตัวเดินออกไปรอในรถก่อนเหลือแต่นพดลที่ยังนั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร

“เอ่ออแม่นม ถ้าอันดากลับมาบ้านรีบโทรบอกฉันด้วยนะ”

“ค่ะ คุณผู้ชาย” แม่นมรับคำ

จากนั้นคุณผู้ชายของบ้านก็รีบลุกเดินออกจากโต๊ะอาหาร แววรีบถือกระเป๋าตามออกไปติดๆ

“ลูกสาวหายออกไปจากบ้าน ยังกินข้าวได้ลงเนอะป้า” ส้มที่หมั่นไส้มานาน พูดขึ้นมาด้วยความโมโหแทนคุณหนูของเธอ

“ช่างเขาเถอะ เเกรีบเก็บจานเข้าไปในครัวได้แล้ว ส่วนฉันจะไปโทรหาคุณหนูก่อนป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”

แม่นมว่าออกมาด้วยความเป็นห่วงคุณหนูสุดที่รัก

เขาเลี้ยงคุณหนูมาอย่างดี แต่พอเห็นแบบนี้แม่นมก็อดที่จะโทษตัวเองไม่ได้

...ช่วงบ่ายแก่ๆ...

“ไงไอ้คนหล่อ เมื่อคืนมึงหายไปไหนมาครับ” เพทายเอ่ยปากถามคนที่เดินหน้าตึงเข้ามาห้องถ่ายงานทันที เพราะเมื่อคืนพวกเขามีนัดกันแต่ก็โดนใครบางคนเทกลางคันซะดื้อๆ

คนถูกถามเดินเข้ามานั่งแมะทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจเพื่อนที่ต่างพากันจ้องมองเขาอยู่

“เป็นไรของมันวะ” พอไม่ได้คำตอบ เพทายก็หันไปถามมาร์คที่กำลังนั่งเช็ดกล้องเตรียมถ่ายงานอยู่

“กูจะไปรู้กับมันไหมล่ะ” มาร์คตอบ

สีหน้าของชาวีที่กำลังเคร่งเครียดอยู่นั้นทำให้เพื่อนๆ ในห้องพากันสงสัย ว่ามันเป็นอะไรแต่สุดท้ายก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปถาม เพราะรู้แก่ใจว่าถ้าถามชาวีไปแล้ว มันก็คงไม่ตอบหนำซ้ำโดนมันด่ากลับมาว่าเสือกอีก

“เออมึง วันนี้คุณอันดาจะเข้ามาดูพวกเราถ่ายงานไหมวะ” เควินที่พึ่งทำผมเสร็จ เอ่ยถามเพื่อนไป

“เมื่อวานพึ่งทะเลาะกับพ่อไป กูว่าไม่น่าจะมาว่ะ” มาร์คหันไปตอบ

“เออพอพูดถึงเรื่องที่ทะเลาะกัน คุณอันดาเขาไม่ถูกกับคุณจารวีเหรอวะ” เพทายเอ่ยถามอย่างสงสัย

“กูว่าน่าจะไม่ถูกกันนะ เพราะงานแต่งของท่านประธานกูก็ไม่เห็น” มาร์คว่าเสริม

“กูว่าคุณอันดาก็ทำเกินไปนะ งานแต่งของพ่อตัวเองทั้งทีแทนที่จะไปร่วมแสดงความยินดีหน่อย” เพทายตำหนิหญิงสาว

ชาวีที่นั่งฟังอยู่นั้นถึงกับเอ่ยปรามเพื่อนไปทันควัน “กูว่าพวกมึงเลิกยุ่งเรื่องชาวบ้านเถอะ รีบแต่งหน้าถ่ายงานดีกว่าไหม เสร็จจะได้พากันกลับ” ว่าออกมาอย่างหงุดหงิด

“ครับๆ กูหยุดเสือกแล้วครับ” พอเห็นอีกคนทำหน้าไม่สบอารมณ์ เพทาย มาร์คและก็เควินถึงกลับหันหน้าหนีไปทางใครทางมัน

ความจริงเขาไม่ได้อยากยุ่งหรอกนะ แต่เพราะรู้มาจากพ่อว่าการแต่งงานของอานพดลในครั้งนี้ อันดาไม่ได้รู้เรื่องและเธอก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าพ่อของเธอคบหากับคุณจารวี

และอีกอย่างคนเป็นลูกที่ไหนจะดีใจที่พ่อมีเมียใหม่ อันนี้เขาไม่ได้เข้าข้างเธอนะ แต่เพราะสังคมส่วนใหญ่มันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว สิ่งที่อันดาเจอมันหนักหนาเกินไป ยิ่งอยู่ตัวคนเดียวแล้วละก็ ยิ่งหน้าเห็นใจที่สุด

การถ่ายงานเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งสี่คนต่างพากันเดินออกมาพักที่ห้องแต่งตัว

“เสร็จจากนี่พวกมึงจะไปไหนกันต่อ” มาร์คเอ่ยถาม

“กูว่าจะกลับไปเล่นเกมส์ที่คอนโด” เพทายหันมาตอบก่อนจะนั่งลงโซฟาหยิบน้ำขึ้นมาเปิดดื่ม

ส่วนมาร์ครีบหันไปถามอีกคน “แล้วมึงล่ะ?” ชาวีที่กำลังจะอ้าปากตอบ จู่ๆ เพทายก็พูดแทรกขึ้นมา

“มึงไม่ต้องไปถามมันหรอก แฟนมันเดินมานู่นแล้ว”

ชาวีกับเพื่อนๆ หันขวับไปมองอย่างไว ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยๆ

“เป็นไรมึง แฟนมาทั้งทีทำหน้าอย่างกะเห็นผี” เควินที่เห็นสีหน้าของเพื่อนดูไม่ดีใจกระซิบถามเบาๆ

“เปล่า”

ไม่นานแอนนาก็เปิดประตูเข้ามา ก่อนจะเอ่ยคำทักทาย “สวัสดีค่ะ ทุกคน” ทุกคนที่อยู่ในห้องแต่งตัวต่างพากันหันไปมองหน้าเธออย่างตกตะลึง ดาราสาวรีบยื่นขนมให้ทีมงาน ก่อนจะตรงเข้าไปหาชาวีที่นั่งพักอยู่

“วันนี้แอนนาว่างอ่ะค่ะ ก็เลยมาหา” แอนนารีบบอกไปก่อน เพราะกลัวอีกคนจะไม่พอใจที่เธอมาหาโดยที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า ชาวียิ้มแห้งให้กับแฟนสาวก่อนจะเขยับเก้าอี้ออกให้เธอได้นั่งลง

“ผมยังมีงานต่อนะ” ชาวีรีบบอกไป เพราะกลัวว่าแฟนสาวจะรอเก้อ

หญิงสาวฉีกยิ้มกว้าง “ไม่เป็นไรค่ะ แอนนาแค่แวะเอาขนมมาให้เฉยๆ เดี๋ยวก็กลับแล้ว” เธอว่าออกมา จากนั้นก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปโพสลงในไอจี

ชาวีได้แต่ทำหน้าเอือม ตลอดระยะเวลาสองปีที่คบกัน ไม่มีวันไหนเลยที่เขาจะมีความเป็นส่วนตัวกับเธอไม่ว่าจะออกไปดูหนัง ไปทานข้าว ไปเที่ยว แฟนสาวก็มักจะอัปเดตลงโซเชียลอยู่เสมอ ทางค่ายก็ชอบให้มีกระแสคู่ของเขาอยู่ตลอดเวลา จนบางทีชาวีเองก็รู้สึกอึดอัด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“โอเคค่ะ ถ้าอย่างนั้นแอนนากลับก่อนดีกว่าชาวีจะได้ทำงานต่อให้เสร็จ” พอลงรูปในไอจีเสร็จ เธอก็ขอตัวกลับทันที

“งั้นเดี๋ยวผมเดินไปส่งครับ” ชาวีว่า ก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินนำแฟนสาวออกไปก่อน ส่วนแอนนาก็รีบวิ่งตามออกไปติดๆ

“อะไรของแฟนไอ้วีมันวะ มาแค่ถ่ายรูปแค่นี้?” มาร์คว่าออกมางงๆ

“เรื่องของเค้าไอ้ควาย เสือกเยอะเดี๋ยวก็โดนพ่อมึงด่าหรอก”

ชาวีเดินกลับเข้ามาในห้องแต่งตัวอีกครั้ง ก่อนจะรีบเก็บข้าวของยัดลงไปในกระเป๋าอย่างเร่งรีบ เพื่อนๆที่อยู่ในห้องนั้นต่างพากันมอง พอเก็บเสร็จเขาก็หันมาบอกลาเพื่อน

“พวกมึง! กูกลับก่อนนะ” ชาวีว่า ก่อนจะเดินออกไป

“เดี๋ยวๆ ไอ้วี” มาร์คตะโกนตามหลัง เพราะก่อนหน้านี้เขาพึ่งจะบอกแฟนสาวว่ามีงานด่วน ซึ่งจริงๆ แล้วเพื่อนก็ต่างรู้ดีว่าวันนี้ไม่มีงานด่วนที่ไหนเลย

ชาวีโกหก.??

สองขาเรียลยาวรีบสืบเท้าเดินมาจนถึงรถหรู มือหนาล้วงไปหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมา กดส่งข้อความไปหามินนี่

...[LINE]...

[อันดากลับบ้านไปหรือยัง] >> ชาวี

พอส่งข้อความไปได้ไม่นานมันก็ขึ้นอ่านทันที ชาวีได้แต่รอให้น้องตอบกลับอย่างร้อนรนอยู่ในรถคันหรู

[ยังไม่กลับค่ะ พี่มีธุระอะไรหรือปล่า] >>มินนี่

...Read...

[มี] >> ชาวี

[แงง แต่ตอนนี้หนูไม่ได้อยู่ห้องอ่ะดิ] >>มินนี่

[แล้วอันดาอยู่ไหน พี่มีเรื่องจะคุย] >>ชาวี

ข้อความที่ส่งไปยังไม่ถูกเปิดอ่าน จนเขาต้องส่งย้ำไปอีกรอบ

[พี่มีธุระด่วนจริงๆ นะ] >>ชาวี    รอไม่นานมินนี่ก็ตอบกลับมา

[อันดานอนอยู่ห้องค่ะ งั้นเอางี้พี่ไปถึงเดินไปขอคีย์การ์ดสำรองกับนิติได้เลยค่ะ เดี๋ยวหนูโทรไปบอกพี่เค้าให้] >>มินนี่

[โอเค   ขอบคุณมาก] >>ชาวี

พอชาวีคุยเสร็จ เขาก็โยนมือถือไปที่เบาะข้างคนขับก่อนจะสตาร์ทรถขับออกไปอย่างรีบเร่ง จุดประสงค์ที่ชาวีไปหาอันดาเพื่อที่ไปถามเรื่องหมั้นกับเธอ และไปตามน้องกลับบ้านเพราะคุณอานพดลสั่ง

เลือกตอน
1 อดีตที่ผ่านมา
2 การกลับมาของอันดา
3 เด็กผู้หญิงคนนั้น
4 ยัยเด็กขี้เมา
5 วุ่นวายใจ
6 คุณว่าที่คู่หมั้น
7 ร้ายมาร้ายกลับไม่โกง
8 ปราบพยศคุณหนูอันดา1
9 ปราบพยศคุณหนูอันดา2
10 อารมณ์พาไป
11 อ่อนแอก็แพ้ไป
12 จำใจ
13 ลองชุดสุดหื่น
14 ความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาเสือก
15 แบบนี้เขาเรียกหึง
16 คนป่วย
17 ปรับความเข้าใจ
18 ความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจ
19 เปิดเผยความรู้สึก
20 งานหมั้นของเรา
21 หึงหวง
22 สืบหาความจริง
23 จำเป็นต้องเลือก
24 คิดถึง
25 ท้อง
26 พิรุธ
27 วางแผนกำจัด
28 อุบัติเหตุที่ตั้งใจ
29 ความจริงถูกเปิดเผย
30 แพ้ท้องแทนเมีย
31 น้อยใจ
32 ต้าวสตรอว์เบอร์รี
33 สำนึกผิด
34 เริ่มต้นใหม่ไปด้วยกัน (จบบริบูรณ์)
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 34

1
อดีตที่ผ่านมา
2
การกลับมาของอันดา
3
เด็กผู้หญิงคนนั้น
4
ยัยเด็กขี้เมา
5
วุ่นวายใจ
6
คุณว่าที่คู่หมั้น
7
ร้ายมาร้ายกลับไม่โกง
8
ปราบพยศคุณหนูอันดา1
9
ปราบพยศคุณหนูอันดา2
10
อารมณ์พาไป
11
อ่อนแอก็แพ้ไป
12
จำใจ
13
ลองชุดสุดหื่น
14
ความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาเสือก
15
แบบนี้เขาเรียกหึง
16
คนป่วย
17
ปรับความเข้าใจ
18
ความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจ
19
เปิดเผยความรู้สึก
20
งานหมั้นของเรา
21
หึงหวง
22
สืบหาความจริง
23
จำเป็นต้องเลือก
24
คิดถึง
25
ท้อง
26
พิรุธ
27
วางแผนกำจัด
28
อุบัติเหตุที่ตั้งใจ
29
ความจริงถูกเปิดเผย
30
แพ้ท้องแทนเมีย
31
น้อยใจ
32
ต้าวสตรอว์เบอร์รี
33
สำนึกผิด
34
เริ่มต้นใหม่ไปด้วยกัน (จบบริบูรณ์)

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!