...ติ๊ดดด ติ๊ดดด ...
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นบนหัวเตียง สาวน้อยในชุดนอนบางสีชมพูลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย มือเล็กเอื้อมไปปิดเสียงที่ดังลั่น
ตายแล้ว สายแล้วเหรอเนี่ย
อันดาพึมพำออกมาอย่างตกใจเมื่อเธอหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลา แล้วพบว่าตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงกว่าแล้ว
วันนี้เธอต้องเข้าบริษัทซะด้วยสิ ป่านนี้คุณพ่อของเธอคงถึงบริษัทก่อนเธอแล้วแน่นอน หญิงสาวไม่รอช้ารีบก้าวขาลงจากเตียงวิ่งหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำทันที
หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็รีบเดินมาที่โต๊ะเครื่องแป้ง มือบางหยิบครีมบำรุงผิวทาบนใบหน้าอย่างลวกๆ
โอ้ยยยตาย! สายแล้วแน่ๆ เลยอันดา
เธอบ่นตัวเองอย่างหงุดหงิดใจ พรางมือก็แต่งหน้าทำผมไป หลังจากที่แต่งหน้าทำผมเสร็จเธอก็รีบเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า ควานหาชุดมาทาบกับหุ่นของตัวเองสองสามชุดด้วยกัน
“เอาชุดนี้ก็แล้วกัน” เธอว่า จากนั้นก็สวมใส่มันทันที
อันดาในตอนนี้เธออยู่ในชุดกางกางขายาวเอวสูงสีดำสไตล์เกาหลีตัดกับเสื้อเกาะอกสีขาว มีสูทจากแบรนด์ดังใส่ทับเอาไว้เพื่อไม่ให้มันดูโป๊จนเกินไป โชว์เอวคอดเล็กน้อย ปล่อยผมลอนยาวถึงกลางหลัง ไม่ลืมที่จะหยิบเครื่องประทับตั่งต่าง ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอแหวน นาฬิกา กระเป๋า รองเท้า ก็ล้วนแต่เป็นของแบรนด์chanelทั้งหมด
“เสร็จสักที” หญิงสาวพูดออกมาผ่านหน้ากระจกบานใหญ่ ก่อนจะหยิบเครื่องสำอางมือถือลงในกระเป๋าและหยิบกุญแจรถสปอร์ตหรูออดี้r8สีดำ ออกจากห้องไปอย่างเร่งรีบ
“คุณหนูจะออกไปไหนแต่เช้าเหรอคะ?” พี่แววที่กำลังเช็ดกระจก เอ่ยถามทันทีที่เธอวิ่งลงจากบันได
“อันดาจะไปทำงานค่ะ”
“ทำงานอะไรคะ?”
“อันดาหมายถึงทำงานที่บริษัทปะป๊าอ่ะค่ะ” ว่าจบก็ก้มมองดูเวลาที่ข้อมือ “แงง สายแล้วงั้นอันดาไปก่อนนะคะ ตอนเย็นเจอกันค่ะ”
สาวน้อยเร่งฝีเท้าเดินไปยังลาดจอดรถก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างในมือบางเอื้อมกดปุ่มสตาร์ทขับมันออกไปด้วยความเร็ว
...บริษัททีสตาร์...
รถสปอร์ตขับเคลื่อนมาจอดหน้าบริษัทใหญ่ หญิงสาวเปิดประตูพร้อมก้าวขาลงจากรถคันสวย พนักงานที่เดินไปมาในบริษัทต่างพากันหันมามองเธออย่างตกตะลึง
“คุณครับ ตรงนี้จอดไม่ได้นะครับ” เสียงจากรปภ รีบวิ่งเข้ามาบอก
“ทำไมตรงนี้ถึงจอดไม่ได้ล่ะคะ?” อันดาหันไปถาม รปภ.คนนั้นอย่างอารมณ์เสีย
“ที่ตรงนี้จอดได้แค่ท่านประธานกับเมียท่านประธานเท่านั้นครับ”
สายตาต่างจับจ้องมองมาที่อันดาที่กำลังมีปากเสียง กับรปภ.อยู่
“มีอะไรอะแก”
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ รู้แต่ว่าชีคนนั้นน่าตบมาก ยืนเถียงพี่รปภ.ฉอดๆ ”
“จริงแก น่าตบมาก”
เสียงซุบซิบนินทาของพนักงานยิ่งทำให้อันดาเริ่มพอใจเป็นอย่างมาก เธอรีบหยิบมือถือในกระเป๋าออกมาแล้วกดต่อสายไปหาเลขาของพ่อทันที รอไม่นานมากนักก็มีรปภ.อีกคนวิ่งเข้ามาหาด้วยสีหน้าท่าทางตกใจ
“ไอ้เอ็ม! มึงทำอะไรลงไปเนี่ย” รปภ.อีกคนรีบปรามรปภ.คู่กรณีทันที
“ก็คุณผู้หญิงคนนี้น่ะสิ เธอมาจอดรถที่หน้าบริษัทเรา”
“ผู้หญิงที่มึงชี้อยู่ เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของท่านประธานบริษัทเราเว้ย!”
“อะไรนะ?”
อันดาทอดมองรปภ.คนนั้นด้วยใบหน้านิ่งขรึม ก่อนจะเอ่ยปากออกมา
“ตกลงให้ฉันจอดตรงนี้ได้ยัง?”
“จ....จอดได้แล้วครับ”
“อือ” จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปข้างในบริษัททันที
อันดาไม่ได้อยากเอาเรื่องหรือถือสาหาความอะไรกับรปภ.คนนั้น เพราะเธอไม่ค่อยได้เข้ามาที่บริษัท เธอเลยเข้าใจว่าไม่มีใครรู้ว่าเธอคือลูกสาวของท่านประธาน
อีกอย่างเธอก็ไม่ได้โกรธอะไรมากมายขนาดนั้นเพราะรู้ว่าสิ่งที่รปภ.ทำมันคือหน้าที่
“ขอไปด้วยคนค่ะ” หญิงสาวเอ่ยปากขอ ก่อนจะวิ่งเข้าไปในลิฟท์ที่มันกำลังจะปิด
...ฟุบ!!...
“จะไปชั้นไหนครับ?” ใครบางคนเอ่ยปากถามหญิงสาว ที่กำลังนั่งก้มเก็บของที่หล่นอยู่
ด้วยความที่อันดาไม่ทันระวัง เธอเงยหน้าขึ้นไปมอง เจอชายหนุ่มชื่อดังที่ชื่อว่าชาวียืนอยู่ใกล้ๆกับเธอพอดี
ทั้งสองคนสบตากันอยู่ครู่นึง แต่พออันดาตั้งสติได้เธอก็รีบลุกขึ้นยืนและรีบบอกออกไป
“ของฉันไปชั้นที่10ค่ะ” เธอว่าออกมาก่อนจะขยับถอยออกห่างและหันหน้าหนีไปทางอื่น
...ตึกตักๆ ตึกตักๆ...
เสียงหัวใจเต้นเร็วรัวราวจะระเบิดออกมา อันดารู้อยู่แล้วว่าสักวันเธอจะต้องเจอกับเขาคนนั้นอีกครั้ง เพราะเขาเป็นนักร้องนักแสดงอยู่ในค่ายพ่อของเธอ
แต่เธอก็ไม่คิดว่าจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้
อุตส่าห์แอบเช็คตารางงานพอรู้ว่าช่วงเช้าเขาไม่อยู่ ก็รีบมาบริษัทก่อนเพราะต้องการจะหลีกเลี่ยงแต่ก็ดันเจอกันจนได้
...ติ้ง!...
ทันทีที่ลิฟท์เปิดออกอันดารีบเดินออกมาอย่างรวดเร็ว เธอไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองคนที่อยู่ข้างหลังด้วยซ้ำ
“ใครวะมึง สวยฉิบหายเลยว่ะ” เพทายรีบถามเพื่อนทันที หลังจากที่หญิงสาวได้เดินออกจากลิฟท์ไปแล้ว
“กูว่าต้องเป็นเด็กที่จะเตรียมเดบิวต์วงใหม่กับทางค่ายแน่ๆ” เควินว่าเสริม
“ใช่เหรอ? กูไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยนะ ใช่เด็กฝึกที่นี่จริงดิ” มาร์คเอ่ยถามอย่างสงสัย
แต่ทว่าใครบางคนที่อยู่ในลิฟท์ด้วยกันกับไม่พูดอะไรสักอย่าง เขายังคงยืนทำหน้านิ่งเฉย
“มึงเคยเห็นน้องมันหรือเปล่าไอ้วี” มาร์คเอ่ยปากถามคนที่ยืนเงียบอยู่ ส่วนเควินกับเพทายก็ต่างพากันหันไปมองเขาเพื่อฟังคำตอบด้วยเช่นกัน
“กูไม่เคยเห็น และกูก็ไม่ได้สนใจด้วย” เขาตอบออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินออกไปทันทีเมื่อลิฟท์เปิดออก
“เอ้า! กูถามแค่นี้ทำไมต้องประชดกูด้วยว่ะ” มาร์คได้แต่ว่าตามหลัง พรางเกาหัวแกร่กๆ อย่างงงๆ
“สงสัยทะเลาะกับเมียมาแน่ๆ”
“มันมีเมียแล้วเหรอ?”
“แฟนครับแฟน กูพูดผิด” เพทายกับมาร์คต่างยืนเถียงกันจนเควินที่อยู่ในเหตุการณ์ต่อว่า
“หยุดเถียงกันแล้วเดินตามพ่อมึงไปก่อนดีกว่าไหม? ป่านนี้รออยู่ในห้องประชุมแล้ว” ว่าจบเควินก็รีบเดินสืบเท้าตรงไปยังห้องประชุม ส่วนเพทายกับมาร์ค ก็ยังคงเดินไปเถียงกันไปจนมาถึงห้องประชุมที่มีท่านประธานกับคนอื่นๆ รอกันอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
...ห้องประชุม...
“มากันครบทุกคนแล้วใช่ไหม ฉันจะได้พูดครั้งเดียว” ท่านประธานเอ่ยปากออกมา
ในขณะที่อันดานั่งฟังอยู่ข้างๆ ด้วยใบหน้าที่เรียบนั่ง
เธอไม่แม้แต่จะหันไปมองใครบางคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอเลย
“มากันครบแล้วครับ” เลขาตอบ
เควิน เพทายและก็มาร์คเดินเข้าไปนั่งลงเก้าอี้พรางมองหน้าแล้วกระซิบกันเบาๆอย่างสงสัย
“ใช่ผู้หญิงที่เราเจอในลิฟท์ป่ะวะ”
“คงใช่มั้ง”
“ก่อนอื่นฉันขอแนะนำลูกสาวคนเดียวของฉันให้พวกนายรู้จักก่อนนะ เธอชื่ออันดา” ท่านประธานกล่าว
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” หญิงสาวกล่าวคำทักทาย
“เช่นกันครับคุณอันดา”
“เช่นกันครับ”
ทันทีที่ชาวีรู้ว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เป็นลูกสาวของท่านประธานถึงกับอึ้งไปพักใหญ่ ถึงแม้ว่าเขาทั้งสองจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ตลอดระยะเวลา6เดือนที่อันดาเคยเป็นเด็กฝึก ชาวีก็คอยช่วยเหลือมาตลอด เพราะเขาอยากให้หญิงสาวได้ทำตามความฝัน แต่เด็กคนนั้นไม่เคยแม้แต่จะบอกให้รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นลูกสาวเจ้าของค่าย ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหัวเบาๆ เพราะผิดหวังกับคนที่อยู่ตรงหน้ามากๆ
เด็กคนนั้นตั้งใจมากหลอกเขา เพราะแบบนี้นี่เองถึงได้ออกจากค่ายไปซะดื้อๆ โดยไม่บอกไม่ลาเขาสักคำ
เล่นกับความรู้สึกของคนอื่นเธอคงสนุกมากสินะ
“เอาล่ะได้ทำความรู้จักกันแล้วนะ ต่อไปนี้อันดาจะมาเรียนรู้งานกับพวกคุณนะ”
พอได้ยินแบบนั้นหญิงสาวถึงกับออกอาการไม่พอใจ“ป๊าหมายความว่าไงคะ” อันดาเอ่ยถามพ่อของเธอไป
“ก็หมายความว่าป๊าจะให้หนูไปเรียนรู้งานกับพวกพี่ๆ เขาไงลูก”
“แต่ป๊าคะ ที่หนูต้องการคือเข้ามาทำงานในตำแหน่งผู้ถือหุ้น30%นะคะไม่ใช่มาเรียนรู้งานอะไรนั้น” เธอโวยวายออกมาเสียงดัง
“ลูกพึ่งอายุ20ปี ยังไม่มีประสบการณ์มากพอที่จะมาทำงานนะอันดา ถ้าหนูจะเข้ามาเพื่อจับผิดคุณจารวี ป๊าว่าหนูกลับไปนอนอยู่บ้านเฉยๆเถอะ” คนเป็นพ่อตำหนิลูกสาวอย่างไม่สนใจใคร
“ป๊าเห็นมันดีกว่าหนูสินะ ไม่งั้นป๊าคงไม่ให้หนูไปเรียนต่อที่อเมริกาหรอก” ความอัดอั้นตันใจมันมากมายจนทำให้เธอพลั้งปากพูดออกมาจนหมด
“หยุดเรียกแม่เขาว่ามันได้แล้วนะอันดา!” คนเป็นพ่อดุเสียงเข้ม และพยายามปรามลูกสาวคนเดียวของเขา
คนที่อยู่ในห้องประชุมต่างพากันก้มหน้านั่งเงียบ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว ต่างจากชาวีที่ทอดมองอันดาด้วยความแปลกใจนิดหน่อย
“โอเค ในเมื่อป๊าแคร์มันมากกว่าหนูซึ่งเป็นลูกของป๊า งั้นต่อจากนี้ป๊าก็ยกสมบัติให้มันไปหมดเลยค่ะ ส่วนหนูจะเดินออกไปจากชีวิตของป๊าเอง ป๊าจะได้อยู่กับมันอย่างมีความสุข โดยที่ไม่มีหนูคอยเป็นมารขัดขว้างทางป๊ากับมัน!”
เธอเอ่ยออกมาด้วยความน้อยใจ พร้อมกับยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่มันไหลเลอะแก้ม ก่อนจะหยิบกระเป๋า มือถือ เดินออกจากห้องประชุมทันที
“จะไปไหนอันดา!! กลับมาเดี๋ยวนี้นะ!” คนเป็นพ่อได้แต่ตะโกนตามหลังลูกสาวไปอย่างอารมณ์เสีย
ส่วนชาวีที่อยู่ในเหตุการณ์ รีบเดินตามอันดาออกไปจนไปถึงหน้าลิฟท์ สองมือหนารีบคว้าข้อมือเธอเอาไว้
“เดี๋ยว! เธอจะไปไหน?” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เขาหมายถึงห่วงท่านประทานไม่ใช่อันดา เพราะเขาไม่อยากให้ท่านประทานเครียดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
“ไปไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่ที่นี่” อันดาหันมาตอบชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ พร้อมสะบัดมือเขาออกอย่างแรง พูดจบเธอก็เดินเข้าไปในลิทฟ์ทันทีที่ประตูลิฟท์เปิดออก
ชาวีได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากตามอันดาไปแต่เขาไม่รู้จะตามไปในฐานะอะไรต่างหากล่ะ จะบอกว่าตามในฐานะน้องสาวกับพี่ชายมันก็จบความสัมพันธ์นั้นไปนานแล้ว จะบอกว่าตามในฐานะลูกสาวเจ้าของค่ายเหรอ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องตามไปอีกในเมื่อดูสีหน้าของเธอก็ไม่ได้อยากให้เขาตามไปเลย
สรุปชาวีไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสถานะตอนนี้ของเขากับอันดาคืออะไรกันแน่ พี่น้อง หรือแค่คนรู้จักเฉยๆ
อีกอย่างสาวน้อยในตอนนั้นที่เขารู้จักมันชั่งแตกต่างจากเธอในตอนนี้เอามากๆ มากจนชาวีคิดว่าที่ผ่านมาเธอเข้ามาเป็นเด็กฝึกเพื่ออะไรกันแน่ และนิสัยที่แท้จริงของเธอเป็นคนยังไงกัน
“ไงไอ้วี! คุณอันดาไปไหนแล้วอ่ะ” เพทายที่เดินออกมาตาม รีบเอ่ยถามทันที
“เธอไปแล้ว แล้วท่านประธานเป็นยังไงบ้าง” ชาวีถามด้วยความเป็นห่วง
“ก็หงุดหงิดแหละแต่ช่างเถอะไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเราอยู่แล้ว ป่ะเรารีบเข้าไปประชุมต่อเถอะเสร็จจะได้ไปถ่ายงานต่อสักที”
“อืม” ชาวีว่าเบาๆ ก่อนจะเดินตามหลังเข้าไปด้วยใบหน้าที่หนักใจ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 34
Comments