ฉันยืนสำรวจตัวเองหน้ากระจก เสื้อยืดกางเกงสแล็คเหมือนเดิมก็แล้วกัน วันนี้ต้องไปส่งคุณหนูที่โรงเรียนงั้นเหรอ แต่งตัวสบาย ๆ ก็แล้วกัน ว่าแต่ฉันลืมถามไปเลยว่าคุณหนูอายุเท่าไหร่ เอาเป็นว่าเอาของเล่นติดรถไปสักสี่ห้าอย่าง ถ้าคุณหนูร้องไห้จะได้มีของเล่นไว้หลอกล่อ
ฉันถูฝ่ามือไปมาด้วยความตื่นเต้นก่อนจับพวงมาลัยรถก่อนเหลือบมองนาฬิกา ฉันต้องไปถึงที่นั่นเวลาเจ็ดโมงเช้าตามตารางที่คุณพ่อบ้านแจ้งไว้
ไม่นานรถก็เข้ามาเทียบจอดยังบริเวณหน้าบ้าน ฉันก้าวลงจากรถและส่งยิ้มให้บรรดาคนรับใช้ที่ออกมาต้อนรับ ฉันต้องผูกมิตรไว้ก่อนงั้นการยิ้มคือการผูกมิตรขั้นแรก
“สวัสดีค่ะ คือฉันมารับคุณหนูไปโรงเรียนค่ะ” หลังจากที่ฉันเอ่ยถามขึ้นก็มี ก็มีผู้หญิงวัยรุ่นเดินออกมาจากตัวบ้าน เธอใส่ชุดนักศึกษาตัวน้อยรัดติ้วจนกระดุมแทบจะปริออกและกระโปรงทรงเอแสนสั้นเลยหัวเข่ามาเกือบคืบ
“ไหนพี่เลี้ยงคนใหม่ของฉัน!” เธอพูดด้วยน้ำเสียงห้วนเพราะคุยกับสาวใช้
“นี่ค่ะ คุณน้ำมนต์จะมาเป็น...” แม่บ้านคนหนึ่งทันได้พูดจบ คุณหนูของบ้านก็พูดขัดขึ้นมาก่อน
“เปิดประตูสิฉันจะขึ้นรถ เดี๋ยวนะฉันไม่นั่งรถคันนี้ เห่ยมาก” ชาหวานมองหน้าพี่เลี้ยงคนใหม่ก่อนจะเหล่มองรถเก๋งสีดำคันน้อยของพี่เลี้ยงเธอ ก่อนจะหันไปสั่งคนของเธอให้เอารถที่เธออยากนั่งมาเปลี่ยน “มงคล ฉันเอาบีเอ็มคันขาว แล้วเอารถขยะนี่ไปเก็บให้พ้นหูพ้นตาฉันด้วย”
รถขยะงั้นเหรอ กล้ามาว่าลูกชายฉันได้ยังไงเนี่ย ถึงจะเป็นรถขยะในสายตาเธอแต่มันก็พาฉันไปในที่ที่ฉันอยากไปได้นะเว้ย ฉันละอยากตะโกนประโยคพวกนี้ออกไปให้ได้ยินจริง ๆ
“ครับคุณหนู” คุณพ่อบ้านรับคำสั่งของคุณหนูเสร็จก็เดินมาขอกุญแจรถฉันเพื่อเอาไปเก็บในโรงรถก่อนจะขับคันที่เจ้านายต้องการนั่งมาเทียบหน้าบ้านแทน
ฉันยืนกะพริบตาจ้องคุณหนูหน้าสวย ไม่คิดเลยว่าพี่เลี้ยงเด็กที่ว่าคือ...ฉันต้องคอยดูแลเด็กมหาลัยเหรอเนี่ย
“เร็วสิ มัวยืนรออะไรอยู่ ฉันไม่ได้ว่างทั้งวันนะ ถ้าฉันไปเข้ากิจกรรมสายละเธอได้มีปัญหากับฉันแน่”
“หะ?”
“เร็วสิ!”
ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อคนตรงหน้าตะคอกใส่ ฉันจึงเปิดประตูตามที่เธอสั่งทันที “เชิญค่ะ”
เธอยืนดอกอกและมองฉันสักพัก “ข้างหลัง ฉันไม่นั่งหน้ากับเธอหรอกนะ เรามันคนละชั้นกัน”
ฉันขมวดคิ้วก่อนปิดประตูหน้าและเดินไปเปิดประตูหลังรถ ไอ้เด็กบ้านี่มาแบ่งชนชั้นอะไรในยุคนี่เนี่ย
“ปิดประตูด้วยสิ” เธอสั่งอีกรอบ
ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อวานก่อนจะออกจากห้องสัมภาษณ์เขาถึงอวยพรให้ฉันโชคดี ตอนแรกก็นึกว่าเป็นคำอวยพรในการเริ่มงานใหม่เป็นวันแรกปกติเหมือนที่อื่น ๆ แต่ที่นี่ท่าจะไม่ใช่งานธรรมดาซะแล้ว ฉันน่าจะเอะใจตั้งแต่เงินเดือนแล้วแหละ เอาวะคิดว่าเพื่อเงิน! อีกอย่างในหมายเหตุนั้นระบุไว้ว่าต้องการคนที่มีความอดทน ฉันเข้าใจแล้วเข้าใจลึกไปถึงขั้วสมองเลยทีเดียว
“ฉันละไม่เข้าใจคุณพ่อจริงจริ๊งว่าจะจ้างคนดูแลให้เปลืองเงินเล่นทำไม แถมดูหน้าตาไม่ค่อยฉลาดด้วย จริงไหม” ชาหวานพูดขึ้นลอย ๆ “ฉันถามว่าจริงไหม ตอบสิ!” เธอใช้มือตีเบาะนั่งคนขับเมื่อเห็นว่าไม่มีเสียงตอบกลับมา
“ค..คะ คุยกับฉันเหรอคะ” ฉันไม่ได้ยินประโยคก่อนหน้านี้จริง ๆ เพราะกำลังใช้สมาธิในการขับรถ
“โอ้ย ให้ตายสิ ไม่ฉลาดจริง ๆ ด้วย อยู่กันแค่สองคนจะให้ฉันคุยกับผีที่ไหน” ชาหวานกอดอกเอาหลังพิงกับเบาะรถ ก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเบื่อหน่าย
นี่ฉันกำลังโดนยัยเด็กนี้ด่างั้นเหรอ แถมด่ากันซึ่ง ๆ หน้าด้วย ฉันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ฉันเพิ่งได้งานเป็นวันแรก ท่องไว้เงินเดือน เงินเดือน ไม่มีงานเท่ากับไม่มีเงิน
“ถึงแล้วค่ะ ให้มารับกี่โมงดีคะ”
“เธอรอฉันอยู่ที่นี่เลยไม่ต้องไปไหน ฉันน่าจะกลับสักหกโมงเย็นหรืออาจจะเร็วกว่านั้น ช่างเถอะฉันจะกลับเวลาไหนก็ช่าง แต่เธอต้องคอยสแตนบายรอรับฉันอยู่ที่มหาลัย จอดรอฉันตรงนี้จนกว่าฉันจะกลับและห้ามไปไหนด้วย เข้าใจไหม ฉันไม่ชอบรอ” หลังจากที่เธอออกคำสั่งกับฉันเสร็จสรรพแล้วก็หยิบกระเป๋าและก้าวลงจากรถทันที
ทีงี้ละเปิดประตูรถเองเป็น ฉันถอนหายใจก่อนมองบน
ฉันนั่งมองคุณหนูจอมเอาแต่ใจจนลับตา สรุปฉันต้องรอเธออยู่ที่นี่ ตรงนี้จริงใช่ไหมเนี่ย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 3
Comments