"พระ พระสนมทรงเย็นพระทัยก่อนพะยะค่ะ" เว่ยจิงค่อยๆลุกแล้วพูดติดๆขัดๆ
"รีบพูดมาซะดีๆถ้าเจ้ายังมิอยากเจ็บตัวเพิ่ม" ข้าถกแขนเสื้อขึ้นแต่นางกำนัลส่วนตัวก็รีบวิ่งมาปิดให้ในทันที
"พระสนมมันมิงามเพคะ"
"เห้ออออ เว่ยจิงเจ้าช่วยบอกข้ามาดีๆเถิด" ข้าที่เห็นแก่นางกำนัลก็ยอมกล่าวดีๆ จะพูดเช่นไรดีตลอด2ปีที่ข้าเข้าวังข้ามิได้ใช้นิสัยเช่นตอนอยู่นอกวังให้ผูัอื่นเห็นแม้กระทั่งสามีของตน จะเรียกง่ายๆว่าข้าตามน้ำง่ายหนะ พูดดีพูดอ่อนโยนข้าก็ทำได้ แล้วแต่สถานการณ์กระมั้ง
" ฝ่าบาททรงเอ่อ... ขออภัยหม่อมฉันมิสามารถกล่าวได้พะยะค่ะ" เว่ยจิงกล่าวออกมาหนักแน่นนับว่าเขาคนนี้มีความซื่อสัตย์จริงๆ
"ได้งั้นข้าจะไปหาเขาเดี๋ยวนี้แหละ" ข้าหันหลังก้าวขาไปอย่างรวดเร็ว กลับรบมาครานี้เหตุใดถึงมีเรื่องให้ข้าสงสัยเยอะนัก
"พระสนมรอด้วยพะยะค่ะะะะ"เว่ยจิงรีบวิ่งตามไป
.
.
.
ตำหนักใหญ่
" หลบสิ" ข้าที่เห็นทหารไม่ขยับตัวสักทีก็ทำท่าหมุนไหล่เล็กน้อยหากมิหลบคงได้ออกกำลังแขนหน่อยละมั้งงงง
"เอ่ออ ฝ่าบาททรง-" ทหารหน้าประตูตำหนักมองหน้ากันด้วยความเลิกลั่กว่าควรจะให้พระสนมเข้าไปหรือไม่เพราะข้างในนั้นมัน..
"รีบหลบให้พระสนมสิพวกเจ้าหนิ" เป็นเว่ยจิงที่ตามมาทีหลังรีบพูดเพราะเห็นนางหมุนแขนไปมาเป็นเชิงพร้อมทำร้ายคน
"ขอรับ"
"เเอ๊ดดดด" ทันทีที่ประตูเปิดข้าก้าวข้าเข้าไปอย่างไม่รีบร้อนมากนักทันทีที่ข้าเงยหน้าก็พบว่าเขานั่งคุยกับสตรีที่ข้ามิเคยเห็นหน้ามาก่อน?
" เอ๊ะ ฝ่าบาทใครหรือ"ข้าแสร้งตกใจแล้วเดินไปนั่งข้างๆเขา ที่ข้ามิจำเป็นต้องทำความเคารพก็เพราะเขาเคยบอกกับข้าว่าเป็นสามีภรรยากันมิจำเป็นต้องทำ
"นี่ฟางจิง ข้าพบนางขณะออกรบจึงช่วยไว้ นางกล่าวถอยคำประหลาดๆแถมยังช่วยชาวบ้านอีกด้วย ฉลาดยิ่งนักๆๆ" ข้าถามเพียงนิดเขากับร่ายเสียซะยาว
"เอ่อ ใครหรอท่าน" นางถามกลับ
"นี่สนมเอกข้าเอง" เขากล่าวแนะนำข้าได้สั้นเสียจริง
"เอ่อยินดีที่ได้รู้จัก... เพคะ ฮ่าๆๆ ต้องพูดแบบนี้สินะ" นางกล่าวออกมาท่าทางดูลำบากเสมือนมิใช่คนที่นี้?
" หากท่านสงสัยข้ามาจากต่างโลกที่พวกท่านไม่รู้จักหรอก ข้าก็ไม่รู้ว่ามาได้ยังไงแต่ข้าคงต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน" อันที่จริงฉันตกหลุมรักฮ่องเต้ที่นี่นะสิ เหมือนในนิยายเป๊ะเลยยย เห้อออก็ดูเถอะเจอกันครั้งแรกเขาก็อุ้มฉันบนหลังม้าช่วยชีวิตจากโจร เเถมระหว่าง1เดือนนั้นยังได้อยู่ด้วยกันแทบทุกเวลาอีกมันก็หวั่นไหวมั้ยละ
" ต่างโลก? "ข้าถามซ้ำมันคืออันใด
" อธิบายไปเจ้าก็มิรู้หรอกน้องหญิง ข้าเคยให้นางอธิบายข้ายังมิเข้าใจเลย" เขาหันมากล่าวพร้อมกับเกลี่ยผมที่ปลิวมาติดใบหน้าไปทัดหู ฟางจิงที่เห็นก็แอบน้อยใจนิดๆแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
"แล้วท่านพานางมาทำไม?" ข้าจึงหันไปถามเขาแทน
" อืมมม นางช่วยข้าในหลายๆเรื่องเลยหากเก็บไว้ข้างกายคงจะดีมิน้อย ข้าจะแต่งตั้งให้นางเป็นซูเฟยดีหรือไม่เจ้าว่า" เขายิ้มอ่อน
"ท่าน..."ข้าจ้องมองเขาอย่ามิคาดคิดว่าคนเช่นเขาจะกล้าแต่งตั้งสนมเพิ่มรองจากนางเลยหรือ
"พระสนมหรอ! จริงหรอเพคะ" นาวทำท่าตกใจเล็กน้อยแล้วยิ้มกว้าง ข้ายังคงมองหน้าเขาที่หันไปหัวเราะให้กับฟางจิงก็ได้แต่คิดในใจว่า ท่านคิดอันใดอยู่กันแน่
"หากหม่อมฉันบอกว่าไม่ท่านก็คงแต่งนางเข้ามาอยู่ดี หม่อมฉันเลือกอันใดได้ละ" ข้าลุกขึ้นแล้วเตรียมจะก้าวเดินออกไปจากตำหนักเขาหันมามองข้าแล้วกล่าวว่า
"ข้ารู้เจ้าจะต้องตอบเช่นนี้ แต่ข้าแต่งตั้งนางเพื่อบ้านเมืองหากมีนางคอยช่วยข้าคงหายเหนื่อยไปบ้าง" ไม่ใช่ว่าเขามิสนใจความรู้สึกนางแต่เหตุใดนางถึงต้องทำให้เขาเหนื่อยใจอยู่ร่ำไป ฟางจิงเป็นสตรีที่ข้าบังเอิญเจอใน1เดือนที่ข้าได้อยู่กับฟางจิงเหตุใดมิเหมือนกับอยู่กับนางเลยเล่า ความรู้สึกข้ามันบอกเช่นนี้
" หม่อมฉันเข้าใจเพคะ เข้าใจ"ข้ายิ้มอ่อนก่อนจะเดินออกไป แต่หารู้ไม่ในใจข้ามันแทบจะแตกออกอยู่แล้ว ฝ่าบาทท่านคิดแบบนั้นจริงๆหรือเพื่อบ้านเมืองหรือเพื่อตนเองกันแน่.....
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments