ตอนนี้บรรยากาศโดยรวมถือว่าอึดอัดพอสมควรเเม้เเต่ในพื้นที่ป่ากว้างใหญ่ไพสารก็ทำยังให้ใจจูดดี้รู้สึกชวนกระอักกระอวกสีหน้าเเบบกำลังโดนบี้ในรถไฟที่มีเเต่สัตว์ขนาดใหญ่เบียดกันชิดเเน่น เธอไม่สบายใจเลยตอนนี้ขนาดเสือจากัวห์สองตัวด้านหลังที่เดินคุยเสียงดังกันมาตลอดทางด้านหลังยังไม่กล้าปริปากพูดอะไรมาประมาณสองสามวิไม่สิห้าวิเเล้วมั้ง
-ดูๆไปเเล้วถ้ามองเเง่ดีมันก็เงียบลง- จูดี้คิดเเบบนั้นเเต่จริงๆเธอไม่เห็นว่าเรื่องนี้มันจะมองเเง่ดีได้เลย
"โอเคไหมหัวหน้า" สุดท้ายก็มีคนกล้าถามขึ้นในสถานการณ์ตึงเครียด
"ท่าจะไม่ดีเเล้วห้ามใครขยับตัว" ทุกคนตอนนี้ไม่มีใครขยับตัวเลยน่าจะมีผลมาจากบรรยากาศรอบด้วยๆเเต่ยังไม่ทิ้งขาดประโยคเเบรี่ก็พูดขึ้นมา "มีใครบางตัวทำให้เเถวนี้เหม็นหึ่งไปหมดด้วยมุขเหิ่ยๆสุดเชิยที่สุดที่เคยได้ยิน"
จูดี้หลุดขำนิดหน่อยตอนนี้เด็กที่คุยโม้กันมาตลอดทางโดนเเบรี่หักหน้าจนงงค้างไปเลยที่สำคัญโดนหักหน้าเพราะมุขของนิคนี้สิ เเต่ดูเหมือนเรื่องการสร้างบรรยากาศให้ตึงเครียดนี้ต้องยกนิ้วให้เเบรี่เลยเเหละ
"เเต่ก็ชอบนะมุขเเป้กๆเนี่ยไม่รู้คิดกันมาได้ไง" เเบรี่พูดเเซวลูกน้องตนเองเเบบไม่ให้กู้หน้าได้เลย "เเต่เดี๋ยวก่อนผมไม่ได้คิดมุขเองเดี๋ยวสิรอผมก่อน..." ว่าเเต่ไปหามาจากไหน
จูดี้รู้ว่าเเบรี่เป็นคนที่มืออาชีพด้านการวางท่าทางเเละการชักชวนผู้อื่นให้โดนสะกดเเละเขาก็ไม่ได้ใช้ต้มตุ๋นใครเเต่เธอก็เคืองนิดหน่อยที่ครั้งนี้เขาเอามาใช้จนทำให้เธอเสียสมาธิหมดเเต่มันก็ทำให้หายเครียดได้ก็ดีเเล้ว
-ชอบเขาก็ตรงนี้เเหล่ะ- บางทีคิดมุมนี้ก็เหมือนว่าเเบรี่ช่วยทำให้เธอไม่เหงาเวลาเธอคิดถึงอดีตที่เธอไม่อยากจำได้
"ก็รู้พวกนายไม่รู้นิสัยฉันมากเท่าไหร่เเต่ฉันไม่ชอบเวลาที่พวกนายเอาอดีตของคนอื่นมาพูดเรื่องสนุก"
"เข้าเเล้วใจคราบ" พวกเขาพูดพร้อมกับเเต่จูดี้ไม่ได้จับประเด็ญตรงนั้น
เธอสนใจตรงคำว่า'อดีต'เพราะถ้าพูดถึงเรื่องอดีตกับเธอเเล้วก็คงมีเรื่องเดียวที่คนจะรู้เเล้วทำไมเเบรี่ต้องพูดว่าอดีตขึ้นมาเเทนที่จะล้อเรื่องมุขห่วยๆต่อ เเต่ที่จริงเธอลืมคิดไปเลย........-พวกเขาไปเอามุขนั้นมาจากไหน-
"เเบรี่....."
"อะไร?"
"คุณเอาเรื่องฉันไปเผาใช่ไหม" เเบรี่ตอบเเบบอ้ำอึมพยายามหาเรื่องเเก้ตัวเเต่เรื่องเเก้ตัวเเบรี่พูดไม่เก่งเลย "ป...เปล่าผมจะทำเเบบนั้นทำไม มีนกเอาจดหมายส่งคนอื่นรึเปล่า" เเบรี่เเก้ตัวไม่เก่งจรงๆเพราะเเค่คำพูดมันก็เดาได้ไม่ยากเลย
"นกส่งจดหมายเนี่ยนะ" จูดี้เลิกคิ้ว
"ใช่ๆ เออ...เออ...คืออาจเเบบนั้นก็ได้" จูดี้ก็ยังเเปลกใจถึงเเบรี่จะเเก้ตัวไม่เก่งเเต่ก็ไม่ได้กระอักกระอวกทุรนทุรายขนาดนี้
"ปกติคุณเป็นคนที่พูดเก่งนี้เเต่ทำไมครั้งนี้พูดเหมือนมีปลาไหลติดคอ"
"เปล๊าาา--ก็ไม่ได้เป็นไรสักหน่อย"
"เเน่ใจ???" จูดี้ก็ยังสงสัยอยู่ดีเเบรี่พูดตะกุกตะกักไม่เป็นประโยคหลังจากเรื่องมุขอูฐสามหนอกนั้น
-หรือเขาคิดอะไรกับฉันรึเปล่า...ไม่ๆๆไม่มีทางอยู่เเล้วมันจะเป็นไปได้ไงที่จะเป็นเเบบนั้น-
"คิดอะไรอยู่เหรอ" เเบรี่ถาม
"อ้อ เปล่าเเค่เออ....ไม่มีอะไรให้สนหรอกเราเดินกันต่อเถอะ" ตอนนี้เธอเริ่มจะตะกุกตะกักเเทนต่อให้ลูกเเบรี่มาดูก็สังเกตได้
"งั้นก็อธิบายหน้าที่เริ่มเปลี่ยนสีให้หน่อยสิ" เอาเเล้วจูดี้ดันออกอาการมามากเกินไปจนเเบรี่สงเกตุจนได้
"ไม่บอก" จูดี้ตอบเสียงเเข็งปึ้ก
"โอเค ไม่บอกก็ไม่บอกครับหัวหน้า"
เเต่ถ้าคิดในมุมของเเบรี่ เขาเเค่ไม่อยากพูดถึงเรื่องตอนนั้นหรือเรื่องที่เกี่ยวกับนิคขึ้นมาเขารู้จักนิคพอสมควรเเละรู้ว่าทั้งคู่ผูกพันธ์กันมากขนาดไหน ถ้าเอาเรื่องที่ทั้งคู่เเตกคอกันมาพูดคงทำให้เธอเจ็บยิ่งกว่าโดนมีดเเทงที่อกบาดลึกเข้าไปในหัวใจ ถ้าคนที่ไม่รู้เเค่พูดเล่นก็ทำให้เธอเจ็บได้เหมือนกันเขาจึงบอกคนอื่นว่าอย่าพูดเรื่องนั้นหรือเเม้เเต่เรื่องที่ไกลเคียงต่อหน้าเธอ
.
.
.
.
.
บรรยากาศอึมครึมผ่านมาสองสามนาทีเเล้วไม่มีใครพูดอะไรกันสักทีเเต่อาการมันฟ้องได้ชัดเจน จูดี้ไม่หัมมามองเเบรี่เลยเเม้เเต่เชี่ยวหางตาเเบรี่ก็คงคิดว่าเธอยังคิดถึงเรื่องนิคอยู่เขาเลยไม่กล้ามองเธอเช่นกัน
ในเมื่อตอนนี้ไม่มีใครพูดอะไรก็ต้องมีคนยุติความเงียบนี้ลง
"เออ พวกคุณสองคนคิดอะไรกันอยู่รึเปล่า" ในที่สุดเสียงจากข้างหลังที่เงียบมานานก็เปล่งขึ้น
"เฮ้ย นายสองคนอย่าทำให้ฉันเสียสมาธิไดไหม" เเบรี่เบื่อกับความชอบเผือกเรื่องของคนอื่นจากลูกน้องตัวเองเต็มเเก่เเล้ว "ฉันรู้ว่าพวกนายสองคนยังเด็กเเละไม่ค่อยรู้อะไรควรทำไม่ควรทำเเต่ครั้งนี้ช่วยเงี..." เเต่ลูกน้องอีกตัวนึงก็พูดเเทรกขึ้นมา
"ใช่ที่คุณพูดมาก็ถูกเเละผมจะไม่มีปัญหาใดๆกับคุณเลยถ้าหากว่าคุณเจ้าหน้าที่ฮอปส์ไม่เหยียบสิ่งที่อยู่ด้านหน้าอะนะ"
จูดี้ตกใจเล็กน้อยถึงปานกลางเธอเหยียบอะไรอยู่? เธอจึงก้มหน้ามองลงไป มันคืออะไรไม่รู้เเต่ว่าตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่เเค่สี่ตัว
เจ้าหน้าที่รักษาพันธ์สัตว์ป่ามาถึงตำเเหน่งที่เธออยู่เเล้ว สภาพเเบบนี้ไม่ว่าใครก็ต้องอายระหว่างทางเธอเอ้อระเหยลอยกลางอากาศเเถบไม่มองทางหรือมองใครเลยจนมารู้ตัวอีกทีหลักฐานก็โดนเท้าเธอเหยียบไปเเล้ว
จูดี้กระตุกขาออกทันทีเเต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ละสายตาจากเธอบอกเลยตอนนี้เธออยากกลับจะเเย่อยู่เเล้ว
"อ้าว เฮ้ไงทุกคนมาถึงเเล้วเหรอไวจัง" เเบรี่พยายามพูดให้ทุกคนสนใจอย่างอื่นเเทน
"ก็ต้องมาถึงเเล้วสิเรารอนายมาตั้งหลายนาทีเเล้ว...เอ๊ะเเต่เดี๋ยวก่อนนั้นเจ้าหน้าที่ฮอปส์ใช่ไหม" เจ้าหน้าที่กวางมูสตัวนึงยังจำเธอได้เหมือนว่าหลายคนจะยังจำเธอได้อยู่เเม้เวลาจะผ่านมาเจ็ดปีเเล้วจากผลงานเปิดโปงคดีไนท์ฮาวเลอร์
"คุณจำฉันได้ด้วยเหรอ" จูดี้ถามไปเเบบเกรงๆ
"เเน่นอนอยู่เเล้วชาวเมืองในซูโทเปียมากกว่า50เปอร์เซ็นต์ยังไม่ลืมคุณหรอกมีเเต่คนชื่นชมคุณนะเเม้เเต่ลูกชายผมในตอนนั้นพยายามจะหาคุณให้ได้เลยจนอายุตอนนี้14เเล้วก็ยังหาไม่เจอเลยเเต่ตอนนี้ผมเจอคุณเเล้วคงจะต้องเอาไปเล่าให้ฟังสักหน่อย"
เจ็ดปีก็ถือว่าเป็นเวลาที่ยาวนานมากสำหรับสัตว์ตัวนึงขนาดตอนนี้เธอก็เริ่มจะไม่สาวเเล้วเเต่ก็ยังไม่เเก่ซะทีเดียว เเต่เธอกับรู้สึกว่าเวลาเจ็ดปีมันยาวนานดุจนิรัน
"ทุกคนยังจำได้นะหน้าหนังสือพิมพ์ว่าเจ้าหน้าที่กระต่ายสาวน้องใหม่ไฟเเรงไขคดีสะเทือนขวัญได้ โอ้เเต่ตอนนี้ไม่สาวเเล้วสิ"
-จ้าๆไม่ต้องซ้ำเติมกันก็ได้- จูดี้รู้ว่าเธออายุ31เเล้วเเต่ก็ไม่ได้หน้าย่นหน้าเหี่ยวสักหน่อยไม่เห็นต้องว่ากันด้วย "อ้อ!จริงซิเเล้วคู่หูจิ้งจอกหล่ะ"
ยังไม่ทันขาดคำเเบรี่ใช่มือสับลูกกระเดือกเจ้าหน้าที่กวางมูสตัวนั้นทันทีจนพูดไม่ได้เลยทีเดียว
"คือต้องขอโทษเเทนเจ้าหมอนั้นด้วยที่มันชอบพูดเรื่องไม่ควรพูดอะนะ" เขาพูดกลบ
"เเต่เเบรี่นี้คุณทำเเรงเกินไปเเล้วนะ" มันก็เเรงจริงๆเเหล่ะถึงขั้นลูกกระเดือกเกือบหลุดลงไปในลำคอ
"ไม่เป็นไรหรอกไอ้หมอนี้มันอึดจะตายไปเเค่ไม่กี่วินาทีก็กลับมาปรกติ"
"ฉันว่าไม่ใช่นะ" จูดี้ไม่เชื่อคำพูดของเเบรี่เท่าไหร่ เเบรี่ทำรุนเเรงขนาดนี้ใครจะหายเเค่สองสามวินาทีดูจากสีหน้าของกวางตัวนั้นก็เหมือนจะพูดว่า'เอ็งถามข้ารึยัง'อะไรประมาณนั้นเเต่พูดออกมาไม่ได้
เเต่ก็ดีที่เเบรี้ชิงปาดกระเดือกเสียก่อนที่เธอจะหัวร้อน เเม้เรื่องนี้มันไม่น่าจะขอบคุณสักเท่าไหร่เเต่ถ้าไม่ได้เเบรี่มาตัดหน้าเธอคงทำมากกว่าที่เเบรี่ทำเสียอีก
ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาสักพักเเล้ว จูดี้กำลังจะกลับบ้านเธอได้ดูข่าวเเล้วเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ไม่ใช่เเค่ซูโทเปียในตอนนี้ที่วุ่นวาย
-เเม่เจ้าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นเนี่ย- ตอนนี้ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมดทำให้จูดี้รู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย "ถ้าฉันยังมีเขาก็คงได้คำตอบนานเเล้ว"
++++++++++++++++++ 15/09/2562
บอกเลยช่วงนี้คิดอะไรไม่ออกเลยเพราะกำลังทำการบ้านไปอ่านอื่นของคนอื่นอยู่
เพื่อจะคิดให้ออกว่าต้องเขียนอะไร วางพล็อตยังไงให้มันเหมาะสมกับเนื้อเรื่อง
เเละผมจะพยายามมาให้เร็วที่สุด
เเละอย่างสุดท้ายก่อนไปผมจะเขียนให้นิคกลับมาเเน่นอนเเต่จะกลับมาอย่างไรก็รอ
ดูตอนต่อไปได้เลย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments