ไอเทมชิ้นเเรก(1)
…………………………………………………………………..
หลังจากที่ได้เตรียมการเพื่อออกตามหาไอเทมอย่างน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งเเม่น้ำสติกซ์พวกเราทั้งสองคนจึงได้มายังพื้นที่ป่าทึบซึ่งได้ถูกทางการห้ามเอาไว้ถามว่าทำไมน่ะเหรอเพราะว่าที่นี้นั้นมี
ไทมส์เกทที่ยังไม่ได้ถูกสำรวจยังไงล่ะ
เเต่ถึงจะบอกว่ายังไม่ถูกสำรวจเเต่อีกไม่นานทางกิลด์จะต้องส่งใครบ้างคนมาสำรวจเเน่ๆเเละผมเองก็หวังไว้ว่าเค้าจะส่งคนที่ผมอยากเจอมามากที่สุด
ผมยิ้มออกมาอย่างหน้าขนลุกเล่นเอาจูปิเตอร์ถึงกับต้องหลบสายตาเเละทันทีที่พวกเราทั้งสองคนมาถึงยังหน้าไทมส์เกทระบบของผมก็ได้มีการเเจ้งเตือนขึ้น
→คุณต้องการที่จะเข้าไปสำรวจใช่หรือไม่
ผมพยักหน้าทันใดนั้นเองไทมส์เกทก็เรืองเเสงพร้อมกับดูดพวกเราทั้งสองเข้าไปอย่างรวดเร็วสภาพข้างในนั้นเต็มไปด้วยป่าไม้รกทึบผมเองก็พอจะเดาได้ในทันทีเลยว่ามอสเตอร์ตัวเเรกที่จะเจอคืออะไร
“จะมาเเล้วเตรียมรับมือ”ทันทีที่ผมออกคำสั่งจูปิเตอร์ก็เข้าสู่โหมดพร้อมต่อสู้เค้าทำการอัญเชิญธนูอจูน่าออกมาเเละมอนเตอร์ที่ออกมานั้นชื่อว่าทารันเเบมบาลักษณะของมันนั้นเหมือนงูที่มีขาของเเมงมุมทั้งเเปดขาเกาะอยู่บริเวณหัวรวมไปถึงเขี้ยวพิษของมันที่มีลักษณะที่เเหลมคมเอามากๆ
ผมเอี่ยงตัวหลบไปด้านข้างก่อนจะชักดาบเเละฟันตัดคอของมันในทันทีเเต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่ได้มาเเค่ตัวเดียวเเต่ว่าจูปิเตอร์ก็ยิงสมทบจนทำลายฝูงของมันจนหมดเเทบจะในทันทีผมจึงหันไปชูนิ้วโป้งให้อีกฝ่ายก่อนที่เราจะเดินทางกันต้อง
“เเล้วไอเทมที่ว่าเนี้ยอยู่อีกไกลมั้ยเฮนรี่”
ผมหันซ้ายหันขวาไปมาก่อนจะเดินไปจับกับต้นไม้ต้นหนึ่งที่ภายนอกของมันดูเก่าแก่เอามากๆผมชายตามองเถาวัลย์ต้นไม้ที่นอนอยู่บนพื้นผมกวักมือเป็นสัญญาณให้จูปิเตอร์เดินตามผมมา
ในระหว่างทางเราก็ค่อยๆจัดการมอสเตอร์ระดับทั่วไปตามทางไม่ว่าจะเป็นแอปบันนี่ที่ถึงเเม้ภายนอกจะน่ารักเเละตัวของมันจริงกลับเป็นกระต่ายคลั่งที่เเทบจะโจมตีเเรงค์เกอร์ระดับต่ำให้ตายได้ภายในการโจมตีเค่ครั้งเดียว
รำคาญกระต่ายพวกนี้ชะมัดเลยเเหะ
ถึงเเม้จำนวนของมันจะมีมากเเต่ถ้าไม่ใช่เพราะจูปิเตอร์ที่สามารถจัดการพวกมันได้ภายในการโจมตีเเค่ครั้งเดียวผมก็คงไม่ชิวขนาดนี้คิดถูกจริงที่ได้เอาเค้ามาเป็นพวกพ้อง
“เฮนรี่ข้างหลัง!!!”
สิ้นสุดคำพูดของจูปิเตอร์ผมรีบเค้นพลังสายฟ้าออกมาก่อนจะปลดปล่อยออกมาจนเเผดเผา
แอปบันนี่ที่กำลังจะพุ่งมาโจมตี ผมเหลือบไปมองซากของมันอยู่เเปปหนึ่งก่อนจะเดินตามเถาวัลย์ที่พื้นกันมาเรื่อยๆ
→ระบบตรวจสอบพบเจอว่ากำลังมีใครบางคนเข้ามายังไทมส์เกท
“มากันเร็วกว่าที่คาดเลยเเฮะ”
ดูเหมือนว่าทางกิลด์เองส่งคนมาเเล้วสินะผมรีบหันไปมองบริเวณข้างหลังก่อนจะตัดสินใจถามตัวของระบบเพื่อความเเน่ใจ
“ระบบตรวจสอบได้มั้ยว่าคนที่เข้ามาเป็นใคร”
→ระบบเตรียมใช้การตรวจสอบระยะไกลคุณพร้อมที่จะใช้หรือมั้ย??
ใช่
ทันใดนั้นผมเเละจูปิเตอร์ก็มองไปยังเท้าพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายบริเวณเท้านั้นกำลัง
กระพิบราวกับคลื่นตรวจยังไงยังงั้นเพียงเเค่ไม่กี่วิระบบก็ได้เเจ้งเตือนกลับมา
→ระบบตรวจสอบเเล้วพบว่าคนที่ได้เข้ามาในไทมส์เกทนั้นชื่อว่า
โอลิเวอร์ เยกเกเกอร์
เเรงเกอร์นักดาบศักดิ์สิทธิ์ระดับS
“เข้ามาคนเดียวสินะ”
ผมทำสัญญาณมือเพื่อบอกให้จูปิเตอร์หลบไปทางอื่นผมกำดาบในมือเอาไว้เเน่นพร้อมกับปล่อยสายฟ้าเข้าไปในดาบ
ดาบสายฟ้าคามิอิสุมิ!!!!
ผมฟันใส่ต้นไม้เเถวนั้นจนพวกมันหักเเละค่อยๆถล่มลงไปที่ทำแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายตามหาต้นไม้ที่มีเถาวัลย์ที่สามารถบอกทางเจอนั้นเองเเละพวกเราก็เดินทางกันมาตามทางเรื่อยๆจนเริ่มเห็นเเสงสว่างท้ายป่าลึกพอผมแหวกพวกพุ่มหญ้าเเถวนั้นก็ถึงกับต้องยิ้มออกมา
“ในที่สุดก็มาถึงเเล้วสินะ”
ตรงหน้าผมเป็นโบราณสถานในสถานกรีฑโบราณออกสไตล์บาโรท*หน่อยๆผมหันมาพยักหน้าให้จูปิเตอร์ก่อนจะเดินเข้าไปยังโบราณสถาน
พอเดินเข้ามาข้างในบรรยากาศรอบข้างกับเงียบเฉียบไม่ได้ยินเเม้เเต่เสียงลมที่พัดเข้ามาเลยเเม้เเต่น้อยเเต่ในระวังนั้นกลับมีเสียงหอนดังขึ้นมาราวกับเสียงของสัตว์ป่าที่บ้าคลั่ง
ตอนเเรกก็พอจะเดาได้อยู่หรอกว่าบอสตัวไหนที่ปกป้องที่นี้เเต่พอมาได้ยินเสียงหอนของมันก็เล่นไปไม่ถูกเหมือนกัน
“นั้นมันเสียงของตัวอะไรกันน่ะ”
จูปิเตอร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเคลือนราวกับสิ่งที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงหอนจากหมาเฝ้าประตูนรกผมเหลือบมองเขาก่อนจะหันมาตั้งสติ
“เสียงของบอสที่ปกป้องเเม่น้ำนั้นยังไงล่ะ”
บอสประจำสถานที่เเห่งนี้คงจะเป็นสปีโน่ดราก้อนด้วยลักษณะเสียงเห่าหอนของมันที่สามารถทำให้เเรงค์เกอร์ระดับต่ำถึงขั้นสลบไปทันทีที่ได้ยินเสียงของมัน
ผมหยิบไอเทมอันหนึ่งออกมาจากกระเป๋าลักษณะของมันเป็นเหมือนยันต์ผมนำมันไปแปะ
ตามหินเเละกำเเพงรอบๆก่อนจะเดินกลับมา
“นายทำอะไรของนายน่ะ”
“วางกับดับ”
“กับดับ??”
ยันต์ระเบิดไอเทมระดับทั่วไปที่มันจะระเบิดก็ต่อเมื่อมีศัตรูเดินผ่านเเละใช่ผมนำมันมาติดตั้งเอาไว้เพื่อซื้อเวลาเจ้าโอลิเวอร์ที่บุกเข้ามานั้นเเหละเราทั้งสองคนหันมามองหน้ากันอีกครั้งเเล้วเดินเข้าไปยังห้องโถงที่นั้นเต็มไปด้วยเเม่น้ำหลายๆสายที่กำลังไหลมารวมตัวกันเเละตรงกลางก็ได้มีสิ่งมีชีวิตที่เหมือนสปีโน่ซอรัส*ที่มีลักษณะตัวใหญ่เทียบๆประมาณตึก3ชั้นพอมันเห็นว่าพวกเราเข้ามามันก็ได้ขยับตัวเตรียมต่อสู้
“สปีโน่ดราก้อนงั้นเหรอ”
จูปิเตอร์รีบคว้าไอเทมอาจูน่าออกมาพร้อมกับเข้าสู่ร่างพร้อมรบผมเองก็รีบชักดาบออกมา
“จูปิเตอร์นายพยายามเล่งไปที่หงอนบนหัวของมันเดี๋ยวฉันจะโจมตีที่เท้าของมันให้เอง”
พอให้สัญญาณเสร็จผมจึงปล่อยพลังสายฟ้าในขณะที่พุ่งตัวออกไปจนเป็นประกายจูปิเตอร์ที่เห็นอย่างงั้นก็ไม่รอช้ารีบยิงตามที่ผมบอกทันที
“เอาล่ะ!!!”
คมดาบของผมฟันเข้าเต็มข้อเท้าของมันจนมันเริ่มเสียการทรงตัวเเละเป็นจังหวะเดียวกันที่ลำเเสงของจูปิเตอร์พุ่งเข้าไปเต็มหงอนของมันจนเเตกออก
“กร็ากกกกกกก!!!”
เสียงคำรามของมันดังจนต้นไม้เเถวๆนั้นจึงกับหักครืนลงสายน้ำก็ถึงกับกระเซ็น
“เเบบนี้มีหวังน้ำในเเม่น้ำได้เหือดแห้งหมดเเน่”
“ไม่ล่ะนี้เเหละจังหวะที่ฉันรอเลยล่ะ”
ผมมองไปยังหยดน้ำจำนวนมากที่กำลังล่องลอยในอากาศผมทำการควงดาบก่อนเเละทำการปล่อยพลังลงไปในฝักดาบเเละทำการรวบรวมพลังไปที่ขาข้างขวาก่อนกระโดดขึ้นไปบนฟ้า
“ดาบสายฟ้าคามิอิซุมิ!!!”
ทันทีที่ปลายดาบเเตะเข้ากับหยดน้ำมันก็ปล่อยสายฟ้าอันรุนเเรงออกไปด้วยความโชคดีหรือบังเอิญก็ไม่ทราบสายฟ้าที่กระจายออกไปตามหยดน้ำกับมีลักษณะเหมือนกับตาข่ายจนเข้าช๊อตสปีโน่ดราก้อนจนล้มลง
“สะ…สุดยอดไปเลยเฮนรี่”
จูปิเตอร์ลอยเข้ามาหาผมด้วยใบหน้าที่อ้าปากค้างจนผมหลุดยิ้มออกมา
“ละ…เเล้วเอาไงต่อ”
“ทำเเบบนี้ไง”
ผมเก็บดาบลงในฝักก่อนที่จะเดินเข้าไปหาเจ้าสปีโน่ดราก้อนที่กำลังมองมาด้วยสายตาที่ราวกับไร้หนทางขัดขืน
“ฉันไม่ได้ต้องการที่จะฆ่าแกหรอกนะ”
ผมเเตะไปยังหงอนของมันอย่างช้าๆทันใดนั้นหน้าต่างของระบบก็เด้งขึ้นมา
→สปีโน่ดราก้อนต้องการจะพูดคุยกับคุณ
“ยอมรับ”
ทันใดนั้นเสียงของเจ้าสปีโน่ดราก้อนที่ราวกับเสียงของคนแก่อายุเจ็ดสิบที่พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนเเอ
“ทำไมถึงไม่ฆ่าข้าเสีย”
“เพราะว่ายังมีเรื่องที่ยังต้องถามอยู่น่ะสิ”
“เรื่องอะไร”
“ราชาจักรพรรดิมังกรทมิฬ ไคเซล”
สปีโน่ดราก้อนที่ดูอ่อนเเรงกับลุกขึ้นมาพร้อมกับจ้องมองมาที่ผมด้วยสายตาเบิงโพงพร้อมเสียงลมหายดังเฮือกฮากราวกับกำลังหวาดกลัวในชื่อนั้น
“ทำไมถึงอยากรู้เรื่องของเจ้านั้น”
เล่นถามมาซะเเบบนี้ยังไงก็คงต้องตอบตามความจริงเเหละน่า
“เพราะว่ามีไอเทมบางอันที่เราต้องไปเอา”
สปีโน่ดราก้อนที่ได้ยินเเบบนั้นก็ทรุดตัวลงนอนคดเหมือนกับสุนัขก่อนจะเริ่มพูดต่อ
“ราชาจักรพรรดิมังกรทมิฬขึ้นชื่อเรื่องของนิสัยอันป่าเถื่อนรวมไปถึงนิสัยที่ขี้เล่นกับการต่อสู้เรียกได้ว่าเป็นเจ้าพ่อของการหาเรื่องได้เลยก็ว่าได้”
เหมือนกับที่เคยได้ยินมาในช่วงเวลาเก่าไม่มีผิดเพี้ยนราชาจักพรรดิมังกรทมิฬนั้นขึ้นชื่อเรื่องการกำจัดที่ว่ากันว่ายากเเสนยากตอนนั้นเเรงค์เกอร์อันดับหนึ่งอย่างดันเต้ยังต้องใช้เเรงค์เกอร์ระดับสูงอีกหลายคนเข้าต่อสู้
“ทำไมถึงต้องการที่จะไปหาเจ้านั้นล่ะ”
ผมครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะหันไปมองหน้าของจูปิเตอร์ที่กำลังเเสดงสีหน้ามึนงงเพราะเค้าเองก็ไม่ได้ยินเสียงของสปีโน่ดราก้อนเหมือนผมตอนนี้คงกำลังสงสัยอยู่ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่
“ฉันต้องการเพชรต้องสาปโฮปและก็….”
เเต่ก่อนที่จะได้พูดต่อข้างหลังของพวกเรากับมีเสียงระเบิดดังขึ้นดูเหมือนว่าเจ้าโอลิเวอร์จะตามมาทันจนได้สินะเเถมยันต์ระเบิดเองก็ยังเอาเจ้านั้นไม่อยู่ด้วย
“เฮนรี่ดูเหมือนจะมีคนบุกเข้ามาเเล้ว”
“เวร”
ผมรีบชักดาบออกมาเเต่ทันใดนั้นเจ้าสปีโน่ดราก้อนที่กำลังนอนคดตัวกับพยายามลุกขึ้นมาถึงเเม้ว่าร่างกายของมันจะยังคงบอบซ้ำจากกระเเสไฟฟ้าอยู่ก็ตาม
“สปีโน่เเกไม่ไหวหรอกโดนพลังสายฟ้าไปขนาดนั้นเเกควรจะนอนพักเอาซะ”
สปีโน่ดราก้อนส่ายหน้าก่อนจะจ้องมาที่พวกเราทั้งสองคนก่อนจะเดินมาเคียงข้างพวกเราทั้งสองคน
“ดูเหมือนว่ามันจะชอบนายนะเฮนรี่”
ชอบก็บ้าเเล้ว!!!
“ข้ามีหน้าที่ปกป้องเเม่น้ำสติกซ์ไม่ว่ายังไงข้าก็ต้องทำพวกเจ้าสองคนนั้นมีสาเหตุที่ต้องมาที่นี้เเต่เจ้านั้นมาที่นี้เพื่อที่จะทำลายที่เเห่งนี้ข้านั้นยอมไม่ได้!!!”
ผมถึงกลับยิ้มออกมาก่อนจะหันมาเตรียมต่อสู้กับเจ้าโอลิเวอร์ที่เหมือนจะผ่านยันต์ระเบิดชั้นสุดท้ายออกมาจนได้
“เล่นเอาซะเจ็บเเสบสุดๆเลยนะ”
ชายหนุ่มผมสั้นไว้หนวดผมสีส้มเดินเข้ามาพร้อมกับชุดสูทอันโดนเด่นพร้อมกับดาบเพลิงในมือที่กำเอาไว้เเน่น
“ก็ไม่ได้คิดว่าพวกลูกหมาจะบุกเข้ามาซะหน่อยดิ”
โอลิเวอร์นั้นถึงกับเเสดงสีหน้าที่โมโหออกมาราวกับว่าคำๆนั้นเป็นเหมือนกับคำดูถูกยังไงยังงั้นโอลิเวอร์ก้มตัวลงก่อนจะรวบรวมพลังลงไปยังดาบเพลิง
“พวกแกต่างหากล่ะที่เป็นลูกหมา!!!”
อีกฝ่ายฟาดดาบลงกลับพื้นจนเกิดเปลวเพลิงกระจัดกระจายไปทั่วเเต่โชคยังดีที่พวกเรารอดมาได้เพราะสปีโน่ดราก้อนได้สร้างเกราะกำบังขึ้นมา
“ขอบใจหลาย”
ผมเเละจูปิเตอร์กระโดดลอยขึ้นมาจูปิเตอร์ยิงกระหน่ำรัวใส่อีกฝ่ายผมจึงใช้จังหวะนั้นพุ่งโผล่มาอ้อมข้างหลังของอีกฝ่ายก่อนจะรวบรวมพลังไปที่ขาข้างขวาก่อนจะเเตะอัดเข้าไปเต็มๆ
โอลิเวอร์กระเด็นออกไปเเต่ยังไม่ทันจะได้ตั้งตัวโอลิเวอร์ก็ถูกหางขนาดใหญ่ของสปีโน่ดราก้อน
กระเเทกอันสีข้างจนกระเด็นอีกข้าง
“จัดการต่อเลย!!!”
ทันทีที่ผมพูดจบจูปิเตอร์ก็เล่งอาวุธไปทางอีกฝ่ายก่อนจะยิงโจมตีออกไป
สตาร์ดัสเเอร์โรว์!!!
ระเบิดดังขึ้นจนเกิดฝุ่นควันเต็มไปหมดเเต่พวกเราก็รู้ได้ว่าโอลิเวอร์นั้นไม่สิ้นท่าง่ายๆเเบบนี้เเน่ๆ
→ระบบตรวจสอบเจอมานาขนาดใหญ่
“สปีโน่กำเเพงป้องกัน!!!!”
เเต่ยังไม่ทันจะขยับตัวพายุเพลิงขนาดนั้นก็ได้โผล่ขึ้นลอยเหนือหัวของโอลิเวอร์
“ถ้ายังเป็นเเบบนี้น้ำในเเม่น้ำได้เหือดแห้งเป็นอันเเน่”
เรื่องนั้นผมเห็นด้วยกับสปีโน่ดราก้อนเเต่เราเองก็ไม่มีทางเลือกโอลิเวอร์ค่อยๆเดินออกมาจากฝุ่นควันพร้อมกับชุดสูทอันโด่งเด่นที่ขาดวิ่น
→เปิดใช้งานบันทึกของนักเขียนผู้อาภัพ
เหล่าเทพบรรพการอวยพรคุณโดยการป้องกันการโจมตีทางเวทย์มนต์เป็นเวลา1นาที
ผมเองไม่รอช้ารีบกระโดดขึ้นไปบนฟ้าก่อนจะใส่ดาบลงฝักก่อนจะปล่อยกระเเสไฟฟ้าเข้าไปพร้อมกับรีบพุ่งเข้าหาโอลิเวอร์ทันที ตัวของจูปิเตอร์เองก็สามารถเดาได้ว่าผมต้องการจะทำอะไรเค้าจึงรวบรวมมานาไปยังอาวุธจนเกิดเเสงสีขาวขึ้นมา
ดาบสายฟ้าคามิอิสุมิ!!!
สตาร์ดัสแอร์โรว์ช็อต!!!
โอลิเวอร์เหวี่ยงพายุเพลิงลงมาเข้าปะทะกับลำเเสงของสตาร์ดัสเเอร์โรว์ช็อตจนเกิดเเรงระเบิดอย่างรุนเเรงโอลิเวอร์นั้นยิ้มเเหยะด้วยความดีใจ
“เป็นไงล่ะไอ้พวกลูกหมา…”
โอลิเวอร์นั้นถึงกับต้องหยุดพูดทันทีที่ผมโผล่ออกมาจากฝุ่นควันเหล่าตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังเดือดพล่านราวกับน้ำเดือดสายฟ้าเริ่มออกมาจากดวงตาเเละเริ่มออกมาตามส่วนต่างๆของร่างกาย
→ร่างกายของคุณกำลังเสียหายอย่างหนัก
ยัง
ยังหรอก!!!
ผมรู้สึกถึงคมดาบที่ฟันทะลุร่างของโอลิเวอร์ราวกับกระสุนปืนใหญ่ร่างของโอลิเวอร์ที่กลวงโบ๋ก็ได้ค่อยๆล้มลงร่างกายของผมค่อยๆหยุดเคลื่อนไหวอย่างช้าๆเสียงหัวใจของผมเองก็ค่อยเต้นช้าลงเช่นกัน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 8
Comments