การตรวจสอบ(2)
…………………………………………………………………..
“น้องสาวเหรอ?!!”
อีกครั้งเเล้วสินะที่ช่วงเวลาได้เปลี่ยนไปอีกครั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นคนที่เป็นโรคฝันคือพ่อของจูปิเตอร์เเละถ้าจำไม่ผิดจูปิเตอร์ไม่มีน้องสาวด้วยซ้ำ
“ว่าเเต่นายรู้ได้ยังไงว่ามีคนในครอบครัวของฉันเป็นโรคฝัน”
ผมไม่ฟังคำถามของเค้าเลยด้วยซ้ำผมรีบหันไปมองเหยนฟิงก่อนจะควงดาบเก็บลงฝักก่อนจะรีบจับไหล่ของจูปิเตอร์ซึ่งเค้าดูตกใจอยู่พอสมควร
“ฉันคงบอกนายตอนนี้ไม่ได้ว่าฉันรู้ได้ยังไงเเต่ว่าฉันต้องการพลังของนายพลังของผู้ถือครองเเรงค์เกอร์เเห่งสายลมอย่างนาย!!!”
สีหน้าของเค้าดูอึ้งกว่าเดิมด้วยซ้ำร่างกายของเค้าเริ่มสั่นใบหน้าของเค้าเริ่มมีน้ำตาไหลออกมา
“งะ…งั้นสัญญากับฉันสิว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นตอนจากนี้หน้าจะต้องช่วยฉันไม่ว่าจะอะไรก็ตอบ”
“อ่า…ฉันสัญญา”
ผมมองดูที่คาดผมในมือก่อนจะค่อยๆบีบมันเเต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผลนี้อาจจะเป็นอาติเเฟกต์ระดับสูงเเรงธรรมดาของผมจึงทำอะไรมันไม่ได้ผมจึงหันไปมองเหยนฟิงที่ค่อยๆลืมตาขึ้นมาพร้อมกับลุกขึ้นมาพร้อมตั้งท่าเตรียมสู้
“คุยกันเสร็จสักทีนะฉันรอจนมานากลับมาเต็มหมดเเล้ว”
ถึงจะไม่ต้องใช้ระบบตัวสอบผมก็รู้สึกได้ถึงพลังมานาจำนวนมากที่กำลังหลั่งไหลออกมาจากร่างของเหยนฟิงจูปิเตอร์ที่พึ่งเช็ดน้ำตาเสร็จก็เตรียมพร้อมที่จะช่วยสนับสนุนอย่างเต็มที่เค้าดูพร้อมรบมากขึ้นเเต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเเล้วเหยนฟิงก็เริ่มร่ายรำอีกครั้งเเล้ว
หมัดมวยร้อยแปด-กุญชอนเทวะ
เหยนฟิงพุ่งตรงมาทางพวกเราสองคนเเต่ผมก็สามารถใช้ดาบตั้งรับหมัดที่กำลังพุ่งตรงมาที่ผมเเต่ว่าครั้งนี้นั้นเเต่ต่างออกไปหมัดของเหยนฟิงในรอบนี้นั้นไม่ได้เน้นความเร็วเเต่เน้นความเเข็งเเรงเล่นเอาผมเองก็เเทบต้านไม่อยู่เเต่ตอนนี้นั้น
สตาร์ดัสแอร์โรว์
เหยนฟิงที่เอาเเต่จ้องผมก็ได้จูปิเตอร์ที่แอบอยู่ข้างหลังของผมยิงอัดเข้าใส่เต็มๆดูเหมือนว่าในตอนนี้เค้าจะยิงได้ เเม่นขึ้นกว่าเดิมมากเเละดูเหมือนเหยนฟิงจะดูดีใจกับการเปลี่ยนแปลงนี้ด้วย
“ให้มันได้งี้สิ”
เหยนฟิงโผล่ออกมาจากควันเเละพุ่งเข้าหาผมเเต่ผมเองก็เหลือบไปเห็นว่าจูปิเตอร์เองก็เตรียมยิงเเล้วมันเป็นไปตามที่ผมต้องการอยู่พอดีถึงเเม้จะพลังของผมจะไม่สามารถทำลายอาติเเฟกต์เเต่ถ้าเป็นพลังของแรงค์เกอร์ระดับสูงเเละไอเทมระดับSSเเละSเข้าไปพร้อมกันล่ะก็…
“จังหวะนี้เเหละ”
“อ่า!!!”
หมัดของเหยนฟิงเเละลำเเสงจากธนูอาจูน่าเเละดาบคาตาะปิดชีพถ้าพลังของทั้งสามปะทะพร้อมกันล่ะก็มันก็จะมีเเรงทำลายพอที่จะพังอาติเเฟกต์ได้
พอกุงกุสการ์เจอพลังระดับนั้นเข้าไปมันก็ได้เเตกสลายไปเเละพลังที่ถูกอัดอยู่ข้างในก็ได้กลับเข้าสู่ร่างของจูปิเตอร์
→ระบบตรวจสอบได้พบเจอพลังมานาที่มากมายจนไม่สามารถวิเคารห์ะได้
เเหง่ล่ะนั้นเป็นถึงมานาที่ได้รับมาจากเทพเเห่งสายลมจากปกรนัมอินเดียอย่างเทพวายุ*เลยนะหลังจากที่พลังไหลเข้าสู่ร่างกายของจูปิเตอร์สีผมของเค้าที่เป็นสีเขียวมันก็เหมือนกับถูกสีขาวผสมลงไปรวมไปถึงเขาที่งอกออกมาบนหัวอีกสองเขา
“มันต้องอย่างงี้สิจูปิเตอร์ในที่สุดหลังจากที่ผ่านมาเกือบสามปีที่นายปิดบังพลังของตัวเองเอาไว้น่ะ”
ดูดีใจจังเลยนะเจ้านั้นน่ะ
จูปิเตอร์ค่อยลอยมาหาผมผมเองที่เห็นก็ถึงกับอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เเล้วจึงหันมาหาเหยนฟิงพร้อมกับชักดาบออกมาดูเหมือนว่าผมเองก็คงต้องเอาจริงเเล้วล่ะมั้งผมมองดูศัตรูที่กำลังร่ายรำเพื่อเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีเเต่ดูเหมือนว่ารอบนี้จะเอาของหนักเลยสินะ
หมัดมวยร้อยแปด-มังกรอหังการล้านภพ
เเขนของเหยนฟิงค่อยมีเกล็ดมังกรสีแดงโผล่ออกมารวมไปถึงเขาที่งอกออกมาอีกสองเขาเช่นกันผมเองก็ถึงกับยิ้มออกมาอีกครั้งก่อนจะชักดาบออกมาจากฝักเอาเป็นว่าตอนนี้ผมเองก็เริ่มที่สนุกขึ้นมาเเล้วสายฟ้าค่อยๆปรากฏขึ้นตามร่างกายของผมความรู้สึก ราวกับกายจะถูกเผามันเป็นเครื่องเตือนชั้นดีว่ามีเวลาที่จำกัดเเต่ว่า
→เปิดใช้งานบันทึกของนักเขียนผู้อาภัพ
เหล่าเทพบรรพการอวยพรคุณโดยการทำให้คุณไม่รับความเสียหายจากการโจมตีทุกประเภทเป็นเวลา15นาที
คำเตือนคุณสามารถเกินกว่าเวลาที่กำหนดได้เเต่คุณจะต้องได้รับผลข้างเคียง
→เปิดใช้งานคมดาบสายฟ้าของเทพผู้สังหาร
→เปิดใช้งานมนต์นิทราของผู้ปกป้องความฝัน
ร่างกายของผมต้องร้อนกับถูกไฟเผาถ้าเป็นเเรงค์เกอร์ระดับธรรมดาน่าจะตายไปเเล้วเเน่ๆผมมองไปทางจูปิเตอร์ดูเหมือนว่าเค้าเตรียมพร้อมอยู่เเล้วผมจึงไม่รอช้ารีบพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง
หมัดของเหยนฟิงเเละดาบของผมปะทะกันจนเกิดคลื่นปะทะอันรุนเเรงผมเอียงตัวลบก่อนจะกระโดดหมุนตัวขึ้นไปข้างบนเพื่อหลบให้กับลำเเสงสตาร์ดัสเเอร์โรว์ที่มาจากข้างหลังเหยนฟิงใช้เเรงทั้งหมดเพื่อปัดการโจมตีนั้นเเต่ดูเหมือนว่าเข้าจะได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
จูปิเตอร์หลังจากที่ปลดพลังได้ดูเหมือนจะเก่งขึ้นมาเค้าเริ่มดูเหมือนตัวเค้าในอนาคตขึ้นมาเเล้วสิ
ผมที่ได้โผล่มาข้างหลังของเหยนฟิงนั้นก็ทำการเก็บดาบลงฝักหลังจากนั้นก็ใช้มือข้างขวาจับที่ดาบพร้อมกับปล่อยพลังสายฟ้าเข้าไปเเล้วพุ่งไปทางเหยนฟิงทันที
ดาบสายฟ้าคามิอิซุมิ!!!
ดาบของผมพุ่งเเฉลบสีข้างของเหยนฟิงก่อนจะตามมาด้วยขาซ้ายเเขนขวาเเละหลังตัวของเหยนฟิงนั้นไม่สามารถขัดขวางการโจมตีได้เลยเพราะผมในตอนนี้เคลื่อนไหวเร็วเอามากๆมิหน้ำซ้ำจูปิเตอร์ก็ยังยิงเพื่อสกัดการโจมตีอีกต่างหาก
→คุณเหลือเวลาในการใช้บันทึกของนักเขียนผู้อาภัพอีกประมาณ10นาที
→คุณเหลือเวลาในการใช้มนต์นิทราของผู้ปกป้องความฝันอีกประมาณ5นาที
ผมพุ่งมาข้างหลังของเหยนฟิงก่อนจะหมุนตัวเองเเล้วเหวี่ยงดาบฝันหลังของศัตรูจนล้มลงจูปิเตอร์เองก็ทำการยิงลมกรดอสรพิษซึ่งมีความรุงเเรงมากกว่าที่ผ่านมา
“พวกนายประสานกันได้ดีมาก”
หลังจากที่พูดจบเหยนฟิงกำลังการตบฝ่ามือลงบนพื้นจนเกิดเเรงปะทะเล่นเอาลมกรดอสรพิษของจูปิเตอร์หายไปเหยนฟิงลุกขึ้นมาพร้อมกับเเรงกดดันของเค้านั้นที่ได้ปล่อยออกมานั้นมันไม่ธรรมดาเลยเล่นเอาผมเองเหงื่อตกไม่ใช่น้อย
เเต่สิ่งตามมาไม่ใช่การร่ายรำเปลี่ยนกระบวนท่าเเต่เป็นเสียงปรบมือเเทนเล่นเอาเราสองคนต่างตกอยู่ในสภาพที่งุนงงเหยนฟิงที่มองหน้าของพวกเราอยู่ก็ได้หลุดหัวเราะออกมา
“โทษๆเเต่หน้าของพวกนายมัน…ฮ่าๆชั่งเถอะๆ”
ทันใดนั้นเหยนฟิงก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นสีหน้าที่เรียบเฉยก่อนจะชี้นิ้วมาหาพวกเราสองคนที่กำลังตกใจกับสิ่งเหยนฟิงเป็น
“ระดับของพวกนายคือSS”
ดูเหมือนว่าการทดสอบจะจบลงเเล้วถึงเเม้จูปิเตอร์จะดูเหวอๆอยู่ก็ตามเเต่เค้าก็ยอมปลดพลังของตัวเองทันใดนั้นเหยนฟิงก็พูดต่อ
“การทดสอบนี้น่ะจะจบลงก็ต่อเมื่อกรรมการรู้สึกพอใจนั้นก็หมายความว่าพวกนายจะถูกประเมินให้เป็นเเรงค์เกอร์ระดับSSทันที”
นี้คงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงไม่อยากใช้วิธีที่สองเพราะว่ามันยุ่งยากนั้นเองในจะต้องสู้กับคนระดับสูงถึงเเม้จะไม่ต้องสู้จนกว่าชนะเเต่ก็ไม่รู้ว่าคนที่สู้ด้วยจะพอใจเมื่อไหร่อีก
“พวกนายน่ะเเสดงให้เห็นถึงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยเฉพาะนายเฮนรี่นายที่สามารถวิเคารห์ะเเถมยังรู้ถึงปัญหาของจูปิเตอร์ว่าทำไมการโจมตีเเต่ละครั้งถึงดูอ่อนเเอ่เเถมยังหาทางทำลายอาติเเฟกต์ที่พลังของคนปกติไม่สามารถทำลายได้เเค่นั้นก็ถือว่าผ่านเเล้ว”
เหยนฟิงมองไปทางจูปิเตอร์ก่อนจะยิ้มออกมา
“ส่วนนายจูปิเตอร์นายน่ะเเข็งเเกร่งอยู่เเล้วเเต่นายมัวเเต่ปิดบังพลังไว้พอปลดปล่อยพลังนั้นออกมาได้ก็ถือว่าสอบผ่าน”
จูปิเตอร์มองหน้าราวกับจะพูดขอบคุณเเต่ผมก็ยกมือห้ามเอาไว้ก่อนเพราะดูเหมือนว่าระบบของผมจะมอบรางวัลมาให้
→คุณสามารถส่งมอบสกิลในนี้1อย่างให้กับจูปิเตอร์มอนโดวาร์ได้
ไม่ได้ให้ผมเเต่เอาให้จูปิเตอร์งั้นเหรอผมมองระบบอยู่สักพักก่อนจะกวักมือเรียกจูปิเตอร์ให้เข้ามาหาผมมองหาสกิลที่ควรจะมอบให้จูปิเตอร์อยู่สักพักจนหาเจอ
→คุณตัดสินใจที่จะส่งมอบสกิลอาคมจอมเวทย์ให้ใช่หรือไม่?!!
อาคมจอมเวทย์ถือว่าเป็นสกิลที่เหมาะสมกับจูปิเตอร์อยู่มากเวลาที่จูปิเตอร์โจมตีเขาจะต้องอยู่นิ่งๆเพื่อรวบรวมมานาถ้าขยับพลังที่รวบรวมมาก็จะหายไปหมดอาคมจอมเวทย์เองก็เหมือนกับป้อมปราการที่ทั้งสามารถป้องกันเเละโจมตีได้ในเวลาเดียวกันตัวผมจับมือของจูปิเตอร์ก่อนจะทำการส่งมอบสกิลให้
→ส่งสกิลเสร็จสิ้น
ร่าสงกายของจูปิเตอร์จู่ๆก็มีตัวอักษรญี่ปุ่นโผล่ขึ้นมาก่อนจะหายไปเข้าตกใจอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะถูกขัดโดยเหยนฟิงที่เดินเข้ามาหา
“จะว่าไปฉันยังไม่ดูเเรงค์เกอร์ของนายเลย”
จูปิเตอร์ที่ได้ยินงั้นก็หันมามองผมด้วยความสนอกสนใจผมนึกอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา
“ถ้าบอกไปช่วยเก็บเป็นความลับด้วยนะ”
ทั้งสองพยักหน้า
“เเรงค์เกอร์ฮันเตอร์”
พอได้ยินงั้นทั้งสองก็เเสดงความรู้สึกตกใจออกมาจูปิเตอร์สติหลุดออกไปส่วยเหยนฟิงก็มองผมด้วยใบหน้าที่ครุ่นคิดเค้าเดินวนไปวนมาอยู่พักหนึ่ง
“ฮันเตอร์งั้นเหรอหายากเหมือนกันนะเนี้ย”
จูปิเตอร์ที่ฟื้นสติขึ้นมาก็รีบมาจับตัวของผมราวกับคิดว่าผมคือพระเจ้าที่จุติลงมาตัวผมในช่วงเวลาที่ผ่านมาเองก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้อยู่หลังจากที่สัมผัสกับลูกแก้วมันก็เเตกเเทบจะในทันทีพร้อมกับโชว์ข้อมูลของผม
เฮนรี่ บิชอป ลูเทอร์
เเรงค์เกอร์ฮันเตอร์ SS
พอขึ้นมาเเบบนั้นผู้คนต่างก็รีบวิ่งเข้าหาผมกันอย่างบ้าคลั่งดีที่ตอนนั้นผมแอบหนีจนออกมาได้เเละก็ได้เจอกับพวกสมาชิกบลัดฮัลด์ที่แอบหนีออกมาเหมือนกันเเละนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นของพวกเรา
“งั้นสินะฉันก็พอเข้าใจขึ้นมาเเล้วเเล้วว่าทำไมนายถึงเลือกที่จะใช้การทดสอบเเบบที่สอง”เหยนฟิงเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับใช้มือขวาเเตะไหล่ของผม
“ฉันคงจะพอปิดเรื่องนี้ให้ได้เเต่ยังไงเรื่องนี้ก็ต้องถูกรายงานให้กับหัวหน้ากิลด์อยู่ดีเรื่องนี้นายคงเข้าใจดีใช่มั้ยเฮนรี่”ผมพยักหน้าตอบกลับเหยนฟิงจึงเอามือออกจากไหล่ของผมพร้อมกับเดินโบกมือจากไป
“หวังว่าจะได้ร่วมสู้กับพวกนายในไทมส์เกทสักที่นะ”คำพูดนั้นเองทำให้ผมคิดถึงเหตุการณ์ในอนาคตอยู่เหมือนกันเรื่องที่ว่านั้นก็คือทำไมในอนาคตผมกลับไม่เคยเจอตัวของเหยนฟิงเลยทั้งทีเค้าเองก็เป็นเเรงค์เกอร์จอมยุกต์ที่เเข็งเเกร่งระดับประเทศเลยเเท้ๆเเต่ก่อนที่จะได้นึกอะไรไปมากกว่านี้จูปิเตอร์ก็ได้เดินมาสะกิดไหล่ของผมดูเหมือนว่าเค้าคงอยากจะรู้เรื่องที่ผมจะบอกสินะ
“ออกไปหาร้านนั่งคุยกันดีกว่านะ”
เราทั้งสองคนออกมานั่งยังร้านคาเฟ่ที่ไม่ไกลจากสถานที่ทดสอบมากนัก
จูปิเตอร์สั่งนมร้อนส่วนผมสั่งนมสดคาราเมลในระหว่างที่นั่งรอเครื่องดื่มมาเสิร์ฟอยู่นั้นจูปิเตอร์ก็ได้พูดขึ้นมาในเรื่องที่เค้ากำลังสงสัยในตัวของผมอยู่ซึ่งเรื่องนั้นก็คือ
“ทำไมนายถึงรู้ว่าคนในครอบครัวของฉันเป็นโรคฝันอยู่ได้ล่ะ”
โรคฝันโรคที่จะทำให้ผู้คนเอาเเต่หลับไหลเเละฝันถึงความเป็นไปได้ในอนาคตที่ไม่มีวันเอื้อมถึงโอกาสที่จะหายนั้นมันก็มีเเค่น้อยนิดเเต่ใช่ว่าจะไม่มี
“ถ้าฉันบอกว่าจะย้อนเวลากลับมานายจะเชื่อฉันมั้ยล่ะ”
จูปิเตอร์นั่งนิ่งอยู่สักพักถึงก่อนจะพยักหน้าตอบกลับมา
เชื่อคนง่ายดีเเหะ
“เเต่ก็อย่างที่พูดไปนั้นเเหละจากช่วงเวลาที่ย้อนกลับมาคนที่เป็นโรคฝันก็คือพ่อของนายเละน้องสาวของนายเองก็ไม่เคยมีตัวตนในช่วงเวลานั้น”เราทั้งคู่หันไปมองพนักงานที่นำเครื่องดื่มมาเสริมจูปิเตอร์หยิบนมร้อนของตัวเองมาเป่าก่อนจะค่อยๆจิบส่วนผมเองก็ค่อยๆดื่มนมสดคาราเมลผมจ้องหน้าของจูปิเตอร์ที่ดูเหมือนจะยังสับสนอยู่เเต่จู่ๆเค้าก็เริ่มถามคำถามกับผม
“งั้นก็หมายความว่าในช่วงเวลานั้นสามารถหาทางรักษาโรคฝันได้รึป่าว”
คำพูดนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดผมมองมือของจูปิเตอร์ที่กำลังกำเอาไว้เเน่นผมถอนหายใจออกมาก่อนจะมองไปยังหน้าจอของระบบที่เด้งขึ้นมา
→ระบบตรวจสอบเจอไอเทมที่คุณกำลังต้องการต้องการที่จะให้ระบบนำทางในรึไม่???
“ใช่ว่าจะไม่มี”
จูปิเตอร์รีบเงหยหน้ามามองผมด้วยสายตาที่ราวกับได้พบเเสงสว่างแห่งความหวังผมจึงยกนิ้วขึ้นมาสามนิ้วก่อนจะยกเครื่องดื่มขึ้นมาจิบก่อนจะพูดต่อ
“เราต้องหาไอเทมทั้งหมดสามอย่าง”
“อะ…ไอเทม”
ผมพยักหน้าก่อนจะหันมองซ้ายขวาเพื่อความเเน่ใจว่าไม่มีผู้คนที่กำลังมองพวกเราทั้งสองคน
“ใช่เราต้องออกตามหาไอเทมมาสามอย่าง”
“หนึ่งแอปเปิ้ลของบิดาเเละมารดา”
ไอเทมที่มีพลังในการฟื้นฟูที่สูงเอามากๆถ้าได้กัดเเค่นิดเดียวอาการบาดเจ็บก็จะหายได้ในทันทีเเต่ว่าไอเทมนี้ขึ้นชื่อว่าหายากที่สุดในบรรดาไอเทมทั้งสามอย่าง
“สอง เพชรต้องสาปโฮป”
ถึงเเม้จะขึ้นชื่อว่าต้องสาปเเต่ไอเทมชิ้นนี้เองกลับมีความสามารถที่ตกข้ามกับชื่อของมันเอง
ไอเทมอย่างเพชรต้องสาปโฮปนั้นเป็นไอเทมที่สามารถชำระล้างสถานะผิดปกติได้ถูกชนิดเเต่ไอเทมชิ้นนี้นั้นถูกเก็บเอาไว้ในป่าต้องห้ามลึกลับที่ว่ากันว่ามีราชาจักรพรรดิมังกรทมิฬที่ชื่อว่าไคเซลปกป้องเอาไว้อยู่
“เเล้วไอเทมสุดท้าย น้ำศักดิ์สิทธิ์เเห่งเเม่น้ำสติกซ์”
น้ำศักดิ์ที่ผู้ใดที่ได้ดื่มก็จะได้รับความเป็นอมตะอันเป็นนิรันด์ไปเเต่ไอเทมนี้เองมันเป็นไอเทมเจ้าปัญหาเพราะตัวมันเองกลับมีนิสัยที่จะเลือกผู้ดื่มเองด้วยเเละเพราะงั้นเเหละมันจึงเป็นไอเทมที่หาได้ง่ายที่สุด
“ฉันบอกนายไปเเล้วนะเพราะงั้นนายต้องไปหาไอเทมทั้งสามอย่างมาก่อนจะนำมารวมกันจนเกิดเป็นไอเทมระดับSSSที่ชื่อว่าน้ำแห่งการหวนคืนน้องสาวนายถึงจะหายจากโรคฝันได้”
จูปิเตอร์นั่งนึกอยู่สักพักก่อนจะมองมาหาผมด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดเอามากราวกับว่านี้เป็นช่วงเวลาตัดสินความเป็นความตาย
“ฉันเชื่อใจนายได้ใช่มั้ย”
ตอนนี้ผมคงทำได้เเต่พยักหน้าตอบกลับไปเท่านั้นใจจริงเองผมเองก็เเค่อยากได้จูปิเตอร์มาเป็นพวกพ้องเท่านั้น
“งั้นเราจะต้องไปหาอะไรก่อนล่ะ”
ทันทีที่จูปิเตอร์พูดขึ้นมาผมก็ได้ยิ้มมุมปากก่อนจะชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้ว
“เราจะไปหาไอเทมอันที่สามกันก่อนเพราะว่ามันเร็วเเละง่ายที่สุดยังไงล่ะ”
ที่ผมสามารถพูดแบบนั้นได้เพราะว่าในหน้าจอของผมตอนนี้ระบบกำลังเเสดงจุดหมายปลายทางที่จะนำผมไปยังที่ๆน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งเเม่น้ำสติกซ์ซ่อนเอาไว้อยู่
→ระบบตรวจเจอ<น้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งเเม่น้ำสติกซ์เเล้ว>
→ซึ่งห่างบริเวณที่ท่านอยู่ประมาณ12,500ตารางไมล์
ไกลไปหน่อยเเต่บินไปก็คงถึงล่ะมั้ง
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 8
Comments