ฉันได้ถ่ายรูปไปทั่วห้องในคืนนั้น และหลับไปพร้อมกับกล้องของบลู พอตื่นมากลับพบว่าเขาได้ออกไปจากบ้านของฉันแล้ว และวันทั้งวันก็ได้มาเจอกับพ่อของเขาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่
"บลูไปไหน ฉันไม่เห็นเขาเลย"
"มีอะไรรึเปล่าครับคุณหนู บลูไปทำอะไรรึเปล่าครับ"
"เปล่า ฉันถามดู"
"เอ่อ เขาจะไม่มาที่นี่แล้วครับ เพราะแม่บลูมารับกลับไปเมื่อเช้ามืด คุณหนูมีเรื่องอะ.."
"ไม่มี"
ลุงเขาเสียอาการเล็กน้อยอาจเพราะฉันไม่เคยคุยกับใครเป็นประโยคได้ยาวเท่านี้มาก่อน แต่กล้องนายอยู่กับฉันนะ จะทิ้งของสำคัญไว้เชียวหรอ ดูนายเองก็รักกล้องตัวนี้มากๆด้วย แปลกจัง
อีกสามปีให้หลัง พ่อของบลูก็ลาออกจากการเป็นคนสวนที่บ้านฉัน โดยไม่ให้เหตุผลอะไรซักอย่าง
5ปีผ่านไป
ซินเธียในอายุ17 รู้แล้วว่าอาจไม่ได้เจอบลูอีกจึงตัดใจ เขาเก็บกล้องของลูกชายชาวสวนไว้อย่างดีและเปิดดูรูปทุกวัน
ซักวันฉันจะต้องออกไปเห็นเองกับตา สถานที่พวกนี้ แต่น่าเจ็บใจนะไม่มีแม้กระทั่งคำบอกลา เกลียดจริงๆพวกไปไม่ลามาไม่ไหว้
มื้อค่ำอันแสนโอชะ ซินเธียได้ขออนุญาตพ่อแม่บางอย่าง
"พ่อ ขออะไรอย่างได้ไหม"
"ถ้าเรื่องออกไปข้างนอกตัดใจได้เลย"
"ไม่ใช่ ฉันอยากเรียน Aerial silks"
"อื้ม~ได้หมด ถ้าไม่ใช่เรื่องออกไปข้างนอก"
พ่อยิ้มร่าต่างจากลูกที่หน้าบึ้งตึง
"ฉันอยากเริ่มพรุ่งนี้เลย"
ครั้งหนึ่งเมื่อตอนอายุสิบห้า ฉันได้ยินพ่อแม่กับคุยกับกลุ่มขุนนางว่า มีเหตุผลที่ไม่สามารถบอกใครได้ว่าฉันคือผู้หญิงหรือผู้ชาย เพื่อรอคนในวังหลวงประกาศงานอภิเษกสมรส และรอว่าใครจะแต่งก่อนระหว่างเจ้าหญิงกับเจ้าชาย ถ้าเจ้าชายประกาศแต่งก่อน พ่อจะส่งฉันเข้าไปไม่รู้จะส่งเข้าไปในเจตนาแบบไหน ส่วนถ้าเจ้าหญิงอยากแต่งก่อน ก็จะส่งฉันเข้าไปเป็นหนึ่งในตัวเลือกของคู่สมรส
พอได้ยินแบบนี้แล้วฉันก็สะอิดสะเอียนขึ้นมา จากนั้นเลยพยายามค้นหาข้อมูลการใช้ชีวิตข้างนอกและเส้นทางให้ได้มากที่สุด สังคมของโลกภายนอกต่างรู้จักพ่อแม่ของฉัน แต่ไม่มีใครรู้จักหรือรู้ว่าฉันมีตัวตนอยู่เลยด้วยซ้ำ แบบนี้ก็เข้าทางเราสิ
ครั้งล่าสุดที่ฉันได้ออกไปข้างนอกคือหลังจากรู้เรื่องพวกนั้น ฉันตั้งใจทำตัวเองตกบันไดและฟันหัก ด้วยความที่คลินิกเอกชนแถวนี้หรือหมอที่ถูกจ้างมารักษาให้ไม่ได้เพราะเครื่องมือไม่ครบ พสกเขาจึงพาฉันไปรักษาที่โรงพยาบาลไกลออกไปอีก นั่นวิเศษมาก..
ซินเธียได้เรียน Aerial silks จนถึงอายุ18 วัยรุ่นที่กำลังอยู่ในวัยต่อต้านครอบครัวก็ได้เริ่มขึ้น
"แบบนั้นแหละค่ะคุณหนู ใช้เท้าเกี่ยวผ้าอีกเส้นนึงค่ะ ..สูงไปรึเปล่าคะคุณซินเธีย ลงมาหน่อยค่ะ"
ตุ้บบบบบ!
"ว้ายยยยยยยย! เรียกรถพยาบาล!"
แผนการของฉันที่ต้องทำให้ตัวเองแขนหักจนผิดรูป คอมพลีทแล้ว
เสียงรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่มาเคลื่อนตัวฉันออกไปโดยใช้เปล แน่นอนว่าฉันแกล้งเดินไม่ได้ด้วย พ่อกับแม่มีสีหน้าที่วิตกกังวลถึงขีดสุด ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นห่วงหรอกนะ เพราะกลัวคนอื่นรู้ว่าฉันเป็นผู้ชายต่างหาก..
"เจ็บตรงไหนบ้างครับ"
"แขนกับขา"
"ซินเธีย เดี๋ยวแม่ตามไปนะลูก พ่อหาผ้ามาคลุมตัวให้ลูกหน่อย"
"พ่อจะรีบประชุมนะ"
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทำให้ดูไม่มีใครสงสัยฉันเลยซักนิด
หลังอยู่ในรถพยาบาลแล้วแม่ก็ให้คนดูแลมาเฝ้าด้วยตลอดเวลา สาเหตุที่ท่านไม่มาเองก็เพราะติดงานสำคัญ งานที่สำคัญกว่าลูกอะนะ ฉันไม่น้อยใจหรอกเพราะมันเป็นสิ่งที่ต้องการอยู่แล้ว
ก่อนเจ้าหน้าที่จะพาตัวฉันขึ้นรถ ฉันได้ให้ผู้หญิงในรถพยาบาลคนนึงหยิบกระเป๋าที่เตรียมไว้มาให้ด้วย ในนั้นมีทั้งหมวกแก๊ปและเสื้อผ้าสำหรับพลางตัว
ซินเธียหลับตาตลอดทางเพื่อคำนวณเส้นทาง เขาเป็นคนฉลาดกว่าที่ใครๆคิด สกิลการเอาตัวรอดก็คงไม่แพ้กัน
"ถึงโรงพยาบาลแล้วครับ พอจะขยับตัวได้บ้างไหม"
"ไม่ได้"
เส้นทางตามที่ฉันคิดไว้เป้ะ และชีวิตต่อจากนี้คือชีวิตที่ฉันต้องอยู่ด้วยตัวคนเดียว
พวกหมอลากฉันมาเอ็กซ์เรย์เข้าเครื่องสแกนต่างๆนาๆ พบว่าจุดๆเดียวที่หักคือแขน ส่วยขาก็มีแต่รอยช้ำ
"ขาปกติดีครับ อาจจะเคล็ดขัดยอก เราจะใส่เฝือกแค่แขนนะครับ"
ในหัวของฉันจดจ่ออยู่กับการหนี แผนผังโรงพยาบาลที่เห็นมันต้องมีประตูตรงนั้นไม่ใช่หรอ
"ตรงนั้นไม่มีประตูหรอ"
"อ๋อ ปิดไปแล้วครับ กั้นเป็นห้องเอกซเรย์ใหม่ ไปทราบมาจากไหนครับเนี่ย ปกติมีแต่หมอที่รู้"
"ก็เห็นๆว่ามันควรจะมีประตู คำนวณจากทิศทางน่ะ"
หมอยิ้มให้แล้วไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก หลังใส่เฝือกเสร็จหมอๆก็แยกย้ายกันไปจัดการเอกสารและยา จนในห้องพักฟื้นมีแค่ซินเธียคนเดียว
ออกไปกันหมดแล้ว ฉันลุกขึ้นตามทางที่หมอเดินไปแบบเงียบๆและหาที่เปลี่ยนชุด แต่เฝือกนี่ทำให้ฉันลำบากแหะ ..เจ็บมากด้วย
ซินเธียหลบเข้าไปในห้องของผู้ป่วยคนแก่ติดเตียงคนนึงเขาทำการเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่หมวกและวิ่งออกทางประตูหลังไปอย่างแนบเนียนโดยไม่มีใครสังเกตุเห็น
"แท็กซี่"
โรงพยาบาลนี่มันเงียบผิดปกติสุดๆ สมกับเป็นโรงพยาบาลที่ค่ารักษาแพงเกินจริง นี่มันยุคเศรษฐกิจเงินเฟ้อค่าแรงต่ำค่าครองชีพสูงสินะ
"ไปลงไหนครับ"
"ขับไปก่อน"
ฉันพกกล้องของบลูมาด้วยและไม่ลืมที่จะถ่ายสภาพแวดล้อมตามทาง สุดยอดจริงๆ ถนนของจริง ตึกใหญ่บ้านเมือง จริงสิ
"ไปลงที่ห้างสรรพสินค้าข้างหน้า"
"ครับ"
ใจฉันเต้นแรงมาก จู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมาเอง ฉันเป็นอิสระแล้ว.. แต่ต่อไปนี้คงต้องระวังตัวมากกว่าเดิม
"ถึงแล้วครับ 500 บาท"
ฉันพกเงินติดตัวมาเจ็ดแสนอยู่ในกระเป๋าสะพาย และแน่นอนว่าเงินจำนวนนี้มันอยู่ได้ไม่นาน ก่อนอื่นคงต้องซื้อโทรศัพท์ก่อน จากนั้นก็.. ตัดผมกับย้อมสีเป็นสีดำ
ซินเธีนรู้สึกเพลิดเพลินกับการช็อปปิ้งมาก เขาตัดผมประบ่าให้พอมัดรวบได้และย้อมสีดำสนิท เปลี่ยนเสื้อผ้าลุคการแต่งตัวใหม่ทั้งหมด
หมดเงินไปกับตัวเองรวมถึงโทรศัพท์ราวๆหนึ่งแสนบาท ตอนนี้เหลือหกแสนสำหรับที่พัก ฉันเปิดดูคอนโดฯดีๆหน่อยมันตกเดือนละสามหมื่น ส่วนอพาร์ทเม้นท์เดือนละเจ็ดพัน แถมไม่น่าจะมีใครมาตามฉันในสถานที่แบบนั้น ฉันเลยตัดสินใจเลือกที่พักที่ถูกที่สุดเพื่อประหยัดงบด้วย
ซินเธียเดินถือของเข้าตามซอกตรอกซอย ผ่านร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านที่เปิดเฉพาะกลางคืนต่างๆมากมาย และสายตาก็จับจ้องไปที่ป้ายที่ติดตรงผนังอย่างหลากหลาย สิ่งที่เขามองอย่างเดียวคือป้ายรับสมัครงาน
เดินมาจนถึงอพาร์ทเม้นท์ เห็นป้ายรับสมัครงานเยอะมาก ฉันแกะมาป้ายนึงเขารับนักเต้น Aerial silks น่าสนใจที่สุดตั้งแต่ที่เห็นมา แต่แขนฉันไม่เอื้ออำนวย.. คงต้องประหยัดเงินกับระวังตัวเองจากคนที่บ้านไปอีกซักพักนึง พ่อแม่ฉันให้คนออกมาตามหาแน่นอน
"หนูใช่ไหมที่โทรมาเมื่อกี้"
"ใช่"
"จริงหรอเนี่ย ป้าไม่เคยเห็นเด็กผู้หญิงน่ารักๆแบบนี้มานานแล้วสะด้วย มาๆ เดี๋ยวป้าพาไปดูห้อง"
เห้อ ผู้หญิงอีกแล้ว..
"ห้องเป็นยังไงลูก อยู่ได้ไหม"
สภาพห้องก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด มีมุมครัวแยกออกไปชัดเจน ห้องน้ำโอเคถึงจะโทรมไปหน่อย ฉันเลือกห้องที่อยู่ชั้นหก ป้าเค้าบอกว่าถ้าฝนตกหนักๆลิฟต์อาจจะมีค้างบ้างแต่ไม่เป็นอันตราย ไม่อันตรายก็บ้าแล้วลิฟต์ค้างตอนฝนตก นี่มันฝันร้ายชัดๆเลยไม่ใช่หรอ เอาเถอะ ก็ไม่ได้แย่..
"ฉันเอาห้องนี้แหละ"
ทำการจ่ายเงินเรียบร้อย ต้องจัดห้องอีกเยอะเลยนะเนี่ย แต่ก็กลัวเงินจะหมดอีก ของดีๆถูกๆคงจะมี ไม่ชินเลยแหะ หัวใจฉันเต้นแรงตลอดเวลาเลยด้วย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ซินเธียรีบหลบและแอบส่องตาแมว เห็นเด็กผู้ชายน่ารุ่นราวคราวเดียว
"มีอะไร"
"ผมอยู่ห้องข้างๆครับ ผมอยากจะเตือนอะไรหน่อย"
ฉันเปิดประตูไปเผชิญหน้ากับเขาตรงๆเพราะอยากรู้ว่าต้องการอะไรกันแน่ อีกอย่างศิลปะป้องกันตัวฉันก็มีนะ
"ผมชื่อจูเลียต ทำไมถึงมาอยู่ชั้นหกละครับ ชั้นนี้มีแต่ผู้ชายนะ"
"...ฉันก็เป็นผู้ชาย"
เขาถลึงตาใส่ฉันเหมือนเห็นผี คนประเภทนี้น่ารำคาญ
"มีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีฉันขอตัว"
ปังงง!
จูเลียตยืนอึ้งโดยไม่มีอะไรจะพูดต่อ เขาเดินกลับห้องตัวเองไปและจับหน้าอกด้านซ้ายของตัวเองไปด้วย
ขอเขียนสกุลเงินเป็นบาทน้าา ง่ายดี แหะๆ เรื่องนี้จะออกดาร์กๆขมๆหน่อยๆ รอบทของพี่ลอว์หรือบลูได้เลย ดาร์กแน่นอนคนนี้ ตอนหน้าจะรู้แล้วว่าเขาหายไปไหน ❤️
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments