ไม่กี่วันต่อมา เมืองใต้แสงจันทร์ได้ตื่นขึ้นอีกครั้ง แสงสลัวๆจากไฟถนนและไฟตามผับหรือร้านอาหารที่แทรกประตูออกมาจากอาคาร ฉันเดินเข้าไปในตึกที่สภาพหรูหราที่สุดในย่านสลัมเล็กๆแห่งนี้ มันดูคัดหูคัดตากะไรกัน ฉันรวบรวมความกล้าที่จะเคาะประตูสองสามนาทีก่อนที่จะเคาะมัน หลังจากนั้นไม่นานประตูได้เปิดขึ้น “ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะมาที่นี้” โดมินิกพูดด้วยความประหลาดใจ “เข้ามาก่อนสิ” เธอเชิญฉันอย่างเป็นกันเอง “ไงค่ะ!” ทุกคนในห้องพูดคุยกันอย่างเป็นมิตร ในอพาร์ตเมนต์นี้มีสี่คนพวกเขาเป็นเหมือนครอบครัวที่อบอุ่น เราทานอาหารเย็นและแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับชีวิตที่ตกระกรรมลำบากของเรา ฉันไม่รู้เลยว่ามันผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว “เธอเปลี่ยนใจหรือยัง?” มิลลี่ถามฉันอย่างตื่นเต้น “ฉันต้องคิดเรื่องนี้ด้วยเหรอ? ฉันอยากอยู่ที่นี่มันเหมือนบ้านของฉันและฉันอยากเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของพวกเธอ!” ฉันอุทานด้วยความดีใจ “ฉันดีใจที่เธออยู่ที่นี่กับเราและยินดีต้อนรับสู่ครอบครัว!” โดมินิกตะโกนและกอดฉันแน่นด้วยความสุขเต็มอก “เราอยากชวนเธอมานฤตยศาลาคืนพรุ่งนี้” มิ๊กซี่กล่าว “เราต้องเตรียมชุดก่อนไปนฤตยศาลาในธีมคือราชวงศ์” โรซาเรียสมทบ “ฉันมีชุดให้พวกเธอทุกคน” ฉันพูดอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นเต้น ฉันเปิดอัลบั้มเสื้อของฉันด้วยการออกแบบของฉัน พวกเขาดูประหลาดใจและตกหลุมรักเสื้อผ้าของฉันเป็นอย่างมาก
เช้าวันต่อมา ครอบครัวใหม่มาที่ร้านของฉันและพวกเขาสนุกกับการลองเสื้อผ้าทุกชิ้น คืนนั้นเราไปนฤตยศาลา เราหยุดอยู่หน้าทางเข้าก่อนที่จะลงไป กลิ่นบุหรี่ผสมกับน้ำหอมหลายยี่ห่อกับเสียงเพลงดังเป็นจังหวะ คนที่เชียร์ด้วยความสุข “ฉันทำแบบนี้ไม่ได้นะแม่” ฉันพูดในขณะที่ฉันตัวสั่น “นี้! อย่าเป็นคนขี้ขลาดสิ ทำความฝันให้เป็นจริงก่อนที่มันจะสายเกินไป” โดมินิกให้กำลังใจฉันก่อนจะเดินเข้าไป “ฉันไม่ค่อยเก่งในการให้กำลังใจใครนัก แต่ฉันรู้ว่าไม่มีใครอยากตายก่อนที่ความฝันของพวกเขาจะเป็นจริงหรอก” โรซาเรียจับมือฉันและช่วยฉันถือเสื้อผ้ากับมิกซี่และมิลลี่ไปที่ห้องแต่งตัวขนาดเล็กและมีกลิ่นอับเพราะความเก่า “ชิบหายแล้ว พวกเราจะสายเกินไป เร็วกว่านี้อีก!” โดมินิกพูดอย่างรวดเร็วในขณะที่เธอใส่ชุดของเธอ "มีใครอีกไหม?" โฆษกถามทุกคนในห้อง "เดี๋ยวก่อน! แกลืมเราอีกแล้วดเหรอ เจสซี่" มิลลี่เข้าไปในใจกลางของเวทีโดยมีสปอตไลท์สีขาวส่องอยู่เหนือหัวของเธอ "ฉันเกือบจะลืมไปแล้วที่รัก ยินดีต้อนรับสู่บ้านของอีวานเจลิสตา!" เจสซี่อุทาน การตกแต่งภายในนฤตยศาลาแห่งนี้แตกต่างจากด้านนอกโดยสิ้นเชิง ห้องได้รับการตกแต่งด้วยไม้สีอ่อนเคลือบเงาและประดับประดาด้วยไฟตลอดแนวห้อง ด้านข้างของห้องมีบาร์แยกต่างหากและห้องโถงเล็ก ๆ ในห้อง เราเดินเข้าไปด้วยความมั่นใจกลางห้องและการต้อนรับของทุกคนในนฤตยศาลาระหว่างเพลงโปรดของฉันกำลังเล่น “ทำไมเหมือนฉันฝันเลย” ฉันคิดลอยๆด้วยความประหลาดใจ ฉันแสดงการเดินแคทวอล์กที่ดีที่สุดของฉันเหมือนฉันอยู่บนพรมแดงในงานเดินแบบชาเนล เรากำลังแสดงและเต้นรำเหมือนเจ้าชายหรือเจ้าหญิงในวัง “ว้าว! ดูชุดทั้งหมดนี้สิ มันเป็นงานมือที่ประณีตที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา!” เจสซี่กล่าวด้วยความประหลาดใจ “เธอขโมยมาจากพิพิธภัณฑ์ข้างๆอีกแล้วใช่ไหมโดมินิก” เจสซีพูดติดตลกในขณะที่หัวเราะไปพร้อมกับคนอื่น ๆ “เด็กคนนี้ทำด้วยมือของเธอเองรวมถึงเครื่องประดับด้วยถ้าไม่เชื่อลองถามเธอเองสิ เจสซี่” โดมินิกมองมาที่ฉันเพื่อบอกทุกคนในสิ่งที่พวกเขาต้องการฟัง “ฉันทำทั้งหมดด้วยตัวเองจริงๆและฉันก็เป็นเจ้าของร้านแถวหัวมุมถนนนี้ด้วยด้วย” ฉันตอบอย่างหวาดกลัว “ว้าว! เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆเราจะไม่เสียเวลาฉันขอคะแนนให้พวกเขาได้ไหม” เจสซี่พูดขัดจังหวะผู้คนในนฤตยศาลาย่างสนุกสนาน “๑๐!๑๐!๑๐!๑๐!๑๐! ให้กับบ้านอีวานเจลิสตาในค่ำคืนนี้!”เจสซี่ประกาศคะแนนด้วยเสียงโห่ดีใจร้องของทุกคนในนฤตยศาลา “ทุกคน!ถ้วยรางวัลนี้เป็นของคุณแล้ว”ผู้ตัดสินคนหนึ่งต้อนรับพวกเราด้วยรอยยิ้มขณะจัดการกับถ้วยรางวัลขนาดใหญ่ *ความฝันของฉันเป็นจริงและตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาความสุขที่แท้จริงก็เริ่มขึ้น*
ชีวิตของฉันดีขึ้นอย่างมากตั้งแต่นั้นมาเป็นต้นมา ตอนนี้ฉันเป็นนักออกแบบแฟชั่นที่โด่งดังในหมู่คนทั่วอเมริกาและร้านเสื้อผ้าในห้างสรรพสินค้ามากมายและนี่คืออัตชีวประวัติของฉัน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments