ตอนที่3 กรี๊ดดด!!

เสียงไก่ในหมู่บ้านขันรับเช้าวันใหม่ เสี่ยวหลินที่นอนกางแขนกางขาอยู่บนที่นอนก็พลิกตัวมุดหน้าเข้าหมอน เมื่อถูกแสงแดดส่องกระทบใบหน้า เสี่ยวจงเห็นเจ้านายน้อยของมันนอนคว่ำก้นโด่งให้ตะวันส่องก้นก็เดินเข้าไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียง

มอ มออ\~

เจ้าตัวเล็กใช้หัวชนเข้าที่ข้างตัวของเสี่ยวหลินเพื่อหวังจะปลุกเจ้านายของมัน แต่เด็กน้อยกลับพลิกตัวหนีเข้าไปนอนด้านใน เสี่ยวจงพ่นลมหายใจออกจากจมูกอย่างเหนื่อยใจ มันเดินส่ายหางดุ๊กดิ๊กออกไปจากห้องปล่อยให้เสี่ยวหลินนอนตะวันส่องก้นอยู่คนเดียว

เมื่อนอนจนเต็มอิ่มแล้วเสี่ยวหลินน้อยก็ยกมือขึ้นขยี้ตาพร้อมกับอ้าปากหาวหวอด นางหันไปรอบกายก็ไม่พบใครเลยสักคนจึงลุกขึ้นแล้วปีนลงจากเตียง เสียงคุยกันที่ดังอยู่ด้านนอกทำให้เสี่ยวหลินเดินออกไปที่ประตูบ้าน

"กินเก่งจริงๆ เลยนะเจ้า" เทียนเฉินใช้มือสางขนให้กับเสี่ยวจงที่กำลังก้มดื่มกินน้ำนมพร้อมกับส่ายหางไปมาอย่างอารมณ์ดี

วันนี้พี่ชายเดินมาบอกเขาตั้งแต่ตอนช่วงดึกว่าให้หยุดพักสักวัน ปกติพวกเขาจะต้องออกจากบ้านตั้งแต่กลางยามโฉ่ว (01:00-02:59) เพื่อไปใส่ตาข่ายดักปลาแล้วไปเก็บอีกครั้งในยามเหม่า (05:00-06:59) แต่เมื่อพี่ชายบอกว่าให้หยุดพักเขาจึงได้หน้าที่ใหม่ตั้งแต่ยามเช้าก็คือไปรีดนมมาให้เสี่ยวจง

"ท่านอาไม่ได้ออกเรือหรือเจ้าคะ" เสี่ยวหลินเอ่ยถามเมื่อเห็นเทียนเฉินอยู่ที่บ้านในยามเช้าซึ่งปกตินางไม่เคยเห็นเขาเลย

"วันนี้บิดาของเจ้าให้หยุดพักน่ะ เห็นว่ามันเทศยังเหลืออยู่อีกมากทีเดียว จึงจะพากันเข้าป่าไปขุดมาเก็บไว้เป็นเสบียง" เทียนเฉินลุกขึ้นไปตักน้ำจากโอ่งด้านหน้าครัวมาให้หลานสาวล้างหน้าบ้วนปาก เสี่ยวหลินเองก็รับมาอย่างไม่อิดออด เมื่อเสร็จแล้วก็ดึงชายเสื้อมาเช็ดอย่างลวกๆ

"เราเอาเครือของมันเทศมาปลูกด้วยสิเจ้าคะท่านอา" ร่างเล็กๆ ปีนขึ้นแคร่แล้วนั่งจุ้มปุ๊กอย่างเรียบร้อย

"หือ ปกติมันไม่ได้ใช้ท่อนหัวมันมาปลูกหรือ" เทียนเฉินเดินมานั่งข้างๆ หลายสาวแล้วเอ่ยถามอย่างสนใจ หากปลูกมันเทศได้คงจะดีไม่น้อยเลย แต่เพราะพวกเขาเคยใช้หัวมันมาปลูกแล้วมันให้ผลผลิตที่ไม่ดีเท่าไหร่

"ถ้าใช้หัวมันมาปลูกใต้ต้นก็จะมีแค่หัวมันเก่าเจ้าค่ะ อาจจะมีหัวมันใหม่บ้างแต่ก็เป็นส่วนน้อย แต่หากใช้เครือของมันมาเสียบดินไว้มันก็จะงอกใบแล้วค่อยๆ เกิดหัวมันขึ้นมาเจ้าค่ะ"

"อย่างนี้ก็ดีน่ะสิ บ้านเราจะได้ไม่ต้องขึ้นเขาไปหาให้ลำบาก ปลูกกินเองไปเลย ว่าแต่เจ้ารู้ได้อย่างไร" คำถามนี้มาอีกแล้ว เสี่ยวหลินนั่งแข็งทื่อในหัวนั่งคิดเหตุผลที่น่าเชื่อถือได้แต่ก็คิดไม่ออก ตากลมหันไปเจอเสี่ยวจงที่กำลังก้มดื่มกินน้ำนมอยู่ก็เลยโพล่งขึ้นมา

"เสี่ยวจงบอกเจ้าค่ะ"

"หา?" เทียนเฉินมองหลานสาวตัวน้อยอย่างโง่งมสลับกับมองเสี่ยวจงด้วยสีหน้าเดียวกัน เสี่ยวหลินยิ้มแฉ่งยิงฟันเพื่อสยบปัญหา ทำเอาเทียนเฉินถามต่อไม่ถูกกันเลยทีเดียว

"เสี่ยวเฉินมาช่วยพี่สาวยกสำรับข้าวเร็วเข้า แล้วไปตามพี่ชายเจ้ามาด้วยเล่า" เสียงฮุ่ยหนิงตะโกนมาจากในครัวทำให้เทียนเฉินสะบัดหัวเล็กน้อยแล้วเดินเข้าครัวไป

สำรับข้าววันนี้มีปลาย่างเกลือที่มีตะไคร้ยัดอยู่เต็มท้องปลา เสี่ยวหลินพยักหน้าน้อยๆ อย่างพอใจกับความหัวไวของมารดาคนงาม นอกจากนี้ยังมีน้ำจิ้มจากพริกสดๆ สับผสมกับกระเทียมสับและซีอิ๊ว ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่นางยังไม่เคยได้กินอาหารทอดเลยสักครั้ง คาดว่าน้ำมันคงจะราคาสูงลิบลิ่วแน่นอน วันนี้นางคงจะต้องมองหาถั่วลิสงเสียหน่อย จะได้นำมาทำน้ำมันเอาไว้ใช้ในครัวเรือน

สองพี่น้องถังเดินตามกันมาจากทางหลังบ้าน เพราะเทียนหรงไปหาบน้ำจากลำธารมาใส่โอ่งน้ำไว้ใช้ ฮุ่ยหนิงเดินถือโถข้าวออกมาจากห้องครัวก่อนจะหยิบถ้วยใบน้อยมาตักข้าวต้มแจกจ่ายให้กับทุกคน

"ข้าวสารใกล้จะหมดแล้วนะเจ้าคะท่านพี่"

"เหลือพอหุงข้าวตอนเย็นหรือไม่ ถ้าไม่พี่จะได้ออกไปซื้อเสียตอนนี้" เทียนหรงเอ่ยถามภรรยา หากไม่พอเขาจะได้เดินเข้าเมืองไปซื้อก่อนกลับมาค่อยเข้าไปขนมันเทศช่วยภรรยา

"น่าจะได้อีกสักสองสามวันเจ้าค่ะ ค่อยซื้อตอนขากลับจากท่านขายปลาก็ได้เจ้าค่ะ" นางเอ่ยขึ้นมาอย่างเกรงใจสามี ความจริงนางเองก็อยากจะให้เขาหยุดพักผ่อนบ่อยๆ เช่นกันเพราะในแต่ละวันพวกเขาสองพี่น้องนอนพักกันน้อยเหลือเกิน

"พี่คิดว่าจะหยุดออกเรือสักระยะ ช่วงนี้ปลาไม่ค่อยมีนัก ถึงแม้จะออกเรือไปไกลถึงสี่ห้าลี้ก็ยังหาได้ยาก" เทียนหรงถอนหายใจออกมา

"ออกไปไกลขนาดนั้นเลยหรือเจ้าคะ" ฮุ่ยหนิงมองสามี นางขมวดคิ้วมุ่นเพราะรู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของสองพี่น้อง แต่พอนึกได้ว่าสามีอยากจะหยุดออกเรือสักพักนางจึงคลายกังวลลงได้บ้าง

"ใช่ ชาวบ้านคนอื่นๆ ก็ออกไปแถบเดียวกันนั่นแหละ ไหนจะคนหมู่บ้านอื่นอีก แต่ก็ได้ปลากันไม่มากเท่าไหร่ แค่คนละสี่ห้าถังต่อคืนเท่านั้น"

เทียนเฉินกับเสี่ยวหลินนั่งกินข้าวกันเงียบๆ แต่เสี่ยวหลินก็กางหูรอฟังอย่างเต็มที่เผื่อนางจะสามารถช่วยอะไรได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่ถ้าหากบิดากับท่านอาหนุ่มน้อยหยุดออกเรือก็ดี จะได้ช่วยกันตามล่าหาขุมทรัพย์ในป่าเผื่อจะเจอเข้าสักสองสามอย่าง

"อย่างนี้ก็แย่น่ะสิเจ้าคะ"

"แต่มีสัตว์ชนิดหนึ่งที่ติดตาข่ายอยู่เยอะมาก มันมีรูปร่างยาวมีหางคล้ายหัวธนู อีกทั้งยังมีส่วนที่คล้ายมือขยับหยุบหยับน่ากลัวยิ่ง มันสามารถเปลี่ยนสีได้อีกด้วย"

คนที่รอฟังได้ยินดังนั้นก็หูผึ่ง ต้องเป็นปลาหมึกแน่ๆ! ของอร่อยแบบนี้จะพลาดได้อย่างไร อีกทั้งคนที่นี่ยังไม่รู้จัก หากนางคิดวางแผนนำมาทำเป็นธุระกิจเล็กๆ ของตนได้คงจะดีไม่น้อยเลย

"ตัวใหญ่ไหมเจ้าคะท่านพ่อ" เสี่ยวหลินวางถ้วยข้าวลง นางขยับตัวดุ๊กดิ๊กอย่างสนใจ

"ถ้าตัวเล็กหน่อยก็ขนาดเท่าแขนของแม่เจ้า ตัวจะเรียวยาว แต่ถ้าตัวใหญ่ก็จะอวบอ้วนคาดว่าน่าจะหนักถึงสองสามชั่งเชียวล่ะ"

ถังเสี่ยวหลินนั่งคิดถึงปลาหมึกที่บิดาพูดถึง ตัวเรียวยาวน่าจะเป็นหมึกกล้วย ตัวใหญ่น่าจะหมึกกระดอง ซึ่งอร่อยต่างกัน หมึกกล้วยจะหนึบๆ หมึกกระดองจะกรอบ เมื่อคิดถึงภาพหมึกย่างนางก็กลืนน้ำลาย อยากจะกินเสียเดี๋ยวนี้

"ลูกอยากเห็นจังเลยเจ้าค่ะท่านพ่อ"

"พรุ่งนี้พ่อจะออกเรือไปหาปลามาขังไว้กิน เดี๋ยวจะเอามาให้ดูก็แล้วกันนะลูก" มือสากลูบหัวบุตรสาวตัวน้อยที่นั่งมองตาแป๋ว

"ตัวเล็กกว่าลูกขอเยอะๆ เลยนะเจ้าคะ ตัวใหญ่เอาตัวเดียวก็พอเจ้าค่ะ"

"หึหึ จะเอามาทำอะไรเยอะแยะ หืม เอาเถอะเดี๋ยวพ่อจะจับมาให้สักห้าหกตัวก็แล้วกัน ดีหรือไม่"

"ดีเจ้าค่ะท่านพ่อ" นางพยักหน้าหงึกหงัก

"แล้ววันนี้ลูกจะเขาป่ากับพ่อหรือไม่ หรือจะอยู่ที่บ้าน" เทียนหรงคีบเนื้อปลาใส่ในถ้วยข้าวเล็กๆ ของบุตรสาว

"ท่านแม่กับท่านอาจะไปด้วยไหมเจ้าคะ" เสี่ยวหลินเคี้ยวข้าวจะแก้มป่อง มีคนแกะก้างให้นี่มันดีจริงๆ

"แม่จะอยู่เฝ้าบ้านน่ะ ไม่อยากทิ้งเสี่ยวจงเอาไว้ หากลูกอยากจะไปก็ไปกับท่านพ่อและท่านอาเถอะลูก แต่อย่าไปเก็บอะไรมาเลี้ยงอีกล่ะ" ฮุ่ยหนิงเอ่ยเย้าบุตรสาว เสี่ยวหลินหัวราะคิกคักอย่างชอบใจ

"เสี่ยวจงตัวเดียวก็พอแล้วเจ้าค่ะ"

"อย่างนั้นก็รีบกินเถิด จะได้ไปกัน"

เสี่ยวหลินตักข้าวเข้าปากเคี้ยวหยั่บๆ ไม่นานก็อิ่มจนท้องป่อง บิดาปล่อยให้นางนั่งย่อยอยู่นานก่อนจะเดินมาอุ้มตัวลอยไปวางแหมะบนรถเข็นไม้ ตามมาด้วยถังใบเล็กที่มีกระบอกน้ำกับห่อข้าวสามห่อ ยังมีมันเทศเผาอีกสามหัว

"ไปก่อนนะเสี่ยวจง อย่าดื้อกับท่านแม่เข้าใจหรือไม่" เจ้าวัวน้อยเห็นเจ้านายนั่งอยู่บนรถเข็นก็เดินเข้ามาออดอ้อน

มออ\~

"พี่ไปก่อนนะหนิงเอ๋อร์" เทียนหรงเอ่ยลาภรรยา

"พี่สะใภ้ ตอนเย็นข้าขอปลาย่างกับน้ำจิ้มเผ็ดอีกสักตัวนะขอรับ อร่อยมากเลย" เทียนฉินเอ่ยบอกพี่สะใภ้ ฮุ่ยหนิงได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเบาๆ นางพยักหน้าให้เขาก่อนจะตอบ

"ได้สิเสี่ยวเฉิน เดี่ยวพี่จะทำให้นะ"

เสี่ยวหลินโบกมือให้มารดากับเสี่ยวจงที่ยืนส่งอยู่หน้ารั้วบ้าน วันนี้นางตั้งใจจะเดินหาต้นมะนาวเสียหน่อย ปลาหมึกย่างจะขาดน้ำจิ้มซีฟู๊ดได้อย่างไร นางแอบเห็นไหน้ำปลาของมารดาตั้งอยู่ในครัว แต่เวลาทำอาหารฮุ่ยหนิงมักไม่ค่อยใช้เท่าไหร่นางชอบใช้น้ำหมักถั่วเหลืองที่รสชาติเข้มข้นมากกว่า

เดินมาถึงชายป่าก็พบกับท่านยายหลิวรออยู่ ด้านข้างมีชายหนุ่มตัวสูงยืนอยู่ด้วย เสี่ยวหลินมองอย่างสนใจ คนหล่อๆ นั้นเป็นอาหารตาชั้นดีของนาง แค่ก! แต่ติดที่เขาออกจะผอมไปหน่อย

"อ้าวพี่ห้าว วันนี้ไม่ได้เข้าไปหางานในเมืองหรือขอรับ" เป็นเทียนเฉินที่ทักขึ้นมา

"วันนี้ข้าว่าจะอยู่ช่วยท่านย่าขุดหัวมันเทศสักหน่อย แล้วนี่พี่สะใภ้ไม่มาด้วยหรือขอรับพี่หรง" หลิวห้าวหันไปถามชายหนุ่มรุ่นพี่ที่เข็นรถเข็นไม้ตามหลังเทียนเฉินมา เขามองเห็นเด็กหญิงตัวน้อยนั่งอยู่บนนั้นด้วย สายตาวิบวับที่ส่งมาทำให้เขารู้สึกขนลุกหน่อยๆ

"ไม่ได้มาหรอก อยู่เฝ้าลูกวัวที่เสี่ยวหลินเก็บมาน่ะ ยายหลิวเอาของมาวางบนรถเข็นก็ได้นะขอรับ"

"ไม่เป็นไรหรอกอาหรง บนหลังข้ามีแค่ตะกร้าเปล่าเท่านั้นแหละ อาห้าวเอาของไปขนคนเดียวหมดแล้ว" นางหลิวพูดยิ้มๆ

"อย่างนั้นก็ไปกันเถิดขอรับ วันนี้เข้าไปขุดตั้งแต่เช้าคงจะได้เยอะแน่นอน อาห้าวได้เอากระสอบมาด้วยหรือไม่เล่า" เทียนหรงหันไปถามหลิวห้าว

"เอามาขอรับพี่หรง"

"ดีเลยอย่างนั้นก็ไปกันเถิด"

เทียนหรงเดินเข็นรถเข็นนำไปก่อนตามด้วยยายหลิว ปิดท้ายด้วยสองหนุ่มน้อย เสี่ยวหลินมองไปรอบๆ อีกเช่นเคย บิดาพานางมาอีกทางหนึ่งซึ่งไม่ใช่ทางที่นางเดินไปกับท่านแม่และท่านยายหลิวเมื่อวาน ทางนี้พื้นดินจะเรียบกว่าหน่อยเพื่อให้รถเข็นเข้าไปได้ง่าย

เดินมาครู่หนึ่งก็ถึงลำธารแต่ไม่ใช่ตรงที่เจอมันเทศ เทียนหรงเข็นรถเลียบลำธารไปเรื่อยๆ อากาศเย็นสบายในยามเช้าทำให้เสี่ยวหลินรู้สึกดียิ่งนัก ชีวิตก่อนนางจะอยู่ในเมืองเสียส่วนใหญ่จึงโหยหาธรรมชาติอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้มีเวลามากพอที่จะออกไปเที่ยวต่างจังหวัด

รถเข็นคันเล็กมาหยุดอยู่ใต้ต้นไม้ที่นางกับมารดาและท่านยายหลิวมาหยุดพักเมื่อวาน ร่างเล็กป้อมถูกอุ้มขึ้นจนตัวลอยอีกครั้ง เสี่ยวหลินเกาะไหล่บิดาเพื่อมองไปรอบๆ บิดาพาเดินข้ามลำธารไปยังฝั่งตรงข้าม บริเวณเครือมันเทศถูกขุดไปได้เกินครึ่งแล้ว วันนี้คงจะเก็บเกี่ยวได้หมดกระมัง

ตุบ

ร่างน้อยถูกวางลงบนพื้น เหล่าผู้ใหญ่พากันเดินไปจับจองที่วางของ

"พ่ออนุญาตให้เดินเที่ยวเล่นได้ แต่อย่าไปไกลมากนักต้องอยู่ในระยะสายตาเข้าใจหรือไม่" เทียนหรงนั่งชันขาเพื่อพูดคุยกับบุตรสาว เสี่ยวหลินพยักหน้าอย่างเข้าใจ

"เจ้าค่ะท่านพ่อ"

"เด็กดี หากหิวก็มาหยิบมันเทศเผาไปกินได้ พ่อจะวางเอาไว้ตรงนี้ แล้วก็อย่าเข้าใกล้น้ำ ถึงมันจะไม่ลึกมากแต่ก็สามารถจมได้" มือหนาชี้ไปยังห่อผ้าใส่อาหารที่วางไว้ใต้ต้นไม้ ไม่ลืมพูดกำชับบุตรสาว เพราะเขาต้องขุดมันเทศอาจจะไม่ได้สอดส่องบุตรสาวเท่าที่ควร

"ลูกจะไม่เข้าใกล้น้ำถ้าอยู่ห่างจากท่านพ่อเจ้าค่ะ"

"ดีมากลูกพ่อ เอาล่ะพ่อจะขุดมันเทศก่อน มีอะไรก็เรียกนะ" เสี่ยวหลินพยักหน้าหงึกหงัก เทียนหรงลูบหัวบุตรสาวก่อนจะเดินไปจับจองพื้นที่เพื่อขุดมันเทศ

เมื่อเหล่าผู้ใหญ่ต่างแยกย้ายกันทำงานแล้ว เสี่ยวหลินเองก็จะเดินหาของที่ต้องการเช่นกัน นางหยิบตะกร้าใบเล็กของตนมาสะพายหลัง รวมถึงเสียมไม้ไผ่ของมารดาที่ทำไว้เมื่อวานนางก็หยิบมาด้วยเอาไว้เขี่ยพวกกิ่งต้นไม้ที่รกๆ

เสี่ยวหลินเดินเตาะแตะไปเรื่อยๆ นางเดินไปตรงที่เจอเสี่ยวจงก่อนเพราะแถวนั้นไม่รกมากนัก นางอยากเจอต้นมะนาวหรือถ้าไม่มีก็เป็นต้นส้มป่าก็ได้ เปรี้ยวเหมือนกัน หากเจอขิงก็จะลองให้บิดาเอาไปขายที่ร้านยาดู นางไม่รู้ว่าการเกษตรของยุคนี้พัฒนามาได้แค่ไหนแล้ว เพราะในแถบนี้ไม่ค่อยมีใครปลูกพืชกัน เป็นที่ดินใกล้ทะเลคงจะปลูกพืชได้ยากกระมัง นางเองก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องดินมากนัก

ร่างเล็กๆ เดินไปมาอยู่ในป่าใหญ่ นางยังไม่เจอพืชที่คุ้นตาเลยสักอย่าง ถึงแม้ว่าตั้งใจจะมาหามะนาว แต่นางก็หวังว่าจะได้เจออย่างอื่นที่พอจะเก็บได้ด้วย เดินเพลินจนมาถึงบริเวณที่มีแต่ต้นไม้สูงใหญ่เหมือนกับป่าในเทพนิยาย ต้นไม้ใหญ่มีกาฝากเกาะเกี่ยวตามลำต้น บางต้นก็มีเฟิร์นขึ้นอยู่เต็มไปหมด กล้วยไม้ที่กำลังออกดอกสีสวยก็มีอยู่ไม่น้อยเลย

"ว้าวว นี่เราหลุดเข้ามาในป่าวิเศษหรือเปล่าเนี่ย"

ร่างเล็กๆ หมุนตัวไปรอบๆ เพื่อมองความงดงามของธรรมชาติ ตรงนั้นก็มีดอกกล้วยไม้เต็มไปหมด ตรงนู้นก็มีต้นเฟิร์นหลากหลายพันธุ์ที่นางไม่รู้ว่ามันชื่ออะไรบ้าง เรียกรวมๆ กันว่าเฟิร์นไปเสียทั้งหมด ตรงโน้นก็มีเห็ดหลินจือขึ้นอยู่เต็มต้นไม้เลย สวยจริงๆ

เอ๊ะ!

เสี่ยวหลินหยุดชะงักกับความคิดเพ้อเจ้อของตนก่อนจะรีบวิ่งไปยังใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งที่เต็มไปด้วยเห็ดหลินจือดอกใหญ่กำลังบานอยู่เต็มไปหมด มีอยู่หลากหลายขนาดและมีอยู่มากกว่าสิบดอกอีกด้วย ไม่ใช่ว่าเห็ดหลินจือแดงเป็นสมุนไพรราคาแพงหรอกหรือ หากเอาไปขายนางคงจะกลายเป็นเศรษฐีน้อยแล้วใช่หรือไม่

"กรี๊ดดดดด!! จะรวยแล้ว!" ร่างเล็กกระโดดโลดเต้นอย่างดีอกดีใจ

 

###################################################

เจ้าเสี่ยวจงน้องเป็นวัวพันธุ์ไฮแลนด์นะคะ

​​

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!