เสี่ยวหลินเปลี่ยนไปจับจูงมือท่านยายหลิว เพราะทางที่ไม่มีคนเดินสัญจรบ่อยครั้งย่อมรกชัฏ ฮุ่ยหนิงจึงเป็นผู้หยิบมีดขึ้นมาฟันต้นไม้เล็กๆ เพื่อเปิดทาง แต่ก็ไม่ลืมมองหาของที่พอจะเก็บได้ไปด้วย
เสี่ยวหลินมองป่าที่อุดมสมบูรณ์กว่าป่าด้านนอกมากนัก เพราะแถบนั้นถูกชาวบ้านบุกถางต้นไม้เล็กๆ เพื่อทำทางเดินและเข้ามาเก็บของป่าออกไปกินทุกวัน จึงแทบจะเป็นป่าโปร่งโล่งไม่มีอะไรให้เก็บ แต่ป่าแถบนี้ยังคงมีต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มสดชื่นยิ่งนัก
ใบหน้าเล็กหันไปรอบๆ เพื่อมองหาสิ่งที่พอจะเก็บกินได้ แต่เพราะต้นไม้เกิดขึ้นถี่จนเกินไปจึงมองลำบาก พากันเดินมาครู่หนึ่งก็มาเจอกับลำธารเล็กๆ ทั้งสามคนจึงหยุดพักดื่มน้ำ ล้างหน้าล้างตาเสียหน่อย
"นี่คงจะเป็นลำธารเดียวกันกับที่ไหลออกไปด้านนอกสินะ" ท่านยายหลิวพูดขึ้นมา นางวักน้ำมาล้างมือล้างหน้าให้สดชื่น
"คงจะเป็นอย่างนั้นเจ้าค่ะ มาล้างหน้าเร็วเสี่ยวหลิน" ฮุ่ยหนิงตอบหญิงชราก่อนจะกวักมือเรียกบุตรสาวตัวน้อยที่ยืนเหม่อมองไปฝั่งตรงข้ามของลำธาร
เสี่ยวหลินละสายตาจากจุกสีน้ำตาลที่นางเห็นโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ แล้วเดินเข้าไปหามารดา ก่อนจะถูกมารดาใช้มือวักน้ำเย็นๆ มาลูบหน้าน้อยๆ จนชุ่มฉ่ำ นางยกชายเสื้อขึ้นมาเช็ดลวกๆ แล้วหันกลับไปมองที่เดิม พุ่มไม้ตรงนั้นสั่นไหวเล็กๆ แต่ก็ยังมองไม่ออกว่าเป็นตัวอะไรกันแน่
'สงสัยจะเป็นกระต่ายป่า' นางคิดในใจก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักกับความคิดของตน
นางละสายตาจากพุ่มไม้ตรงนั้นแล้วมองสำรวจไปด้านอื่นต่อ บนพื้นไม่ไกลจากลำธารนั้นมีพืชเลื้อยสีเขียวยอดสีม่วงเกิดขึ้นอยู่เป็นบริเวณกว้าง พืชที่คุ้นตาทำให้เด็กน้อยยิ้มขึ้นอย่างดีใจ เจ้าตัวกระโดดดึ๋งๆ มือน้อยๆ ชี้ไปตรงพืชที่เพิ่งจะพบเจอแล้วหันกลับไปเรียกมารดาเสียงดังลั่น
"ท่านแม่! ตรงนั้นมีมันเทศด้วยเจ้าค่ะ!"
ฮุ่ยหนิงที่กำลังหาที่นั่งพักก็หันไปตามเสียงเรียก นางเห็นบุตรสาวตัวน้อยกระโดดไปมาเหมือนกับกระต่าย มือเล็กๆ ชี้ไปยังจุดหนึ่ง
"ไหนลูก เจ้ารู้จักต้นของมันเทศด้วยหรือ" ร่างผอมบางเดินไปหาบุตรสาวตามมาด้วยท่านยายหลิวที่ได้ยินคำว่ามันเทศก็รีบลุกขึ้นมาจนลืมเหนื่อย
"ท่านพ่อเคยบอกเจ้าค่ะ มันขึ้นอยู่ฝั่งนั้น ท่านแม่ เรารีบข้ามไปขุดมันเทศกันนะเจ้าคะ" เด็กน้อยเขย่ามือมารดา นางอยากกินอย่างอื่นนอกเหนือจากข้าวต้มกับปลาทะเลบ้าง อย่างน้อยก็นำมันเทศไปเผากินง่ายๆ ก็ยังดี
"ลองไปดูกันดีหรือไม่ ช่วงนี้ข้าวสารราคาแพงนัก หากได้เยอะก็ยังพอเป็นเสบียงเก็บไว้กินได้หลายวัน" นางหลิวเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจ
ยามนี้นางกับหลานชายนับว่าขาดแคลนอาหารมาหลายวันแล้ว ด้วยหลานชายตัวคนเดียวนางก็ไม่กล้าให้ออกเรือไปเหมือนกับที่บุรุษหลายบ้านพึงกระทำ ในแต่ละวันจึงอาศัยเก็บกินของในป่ากับเดินหางานในเมือง ซึ่งหาได้ยากยิ่งนัก
"ลองข้ามไปดูก็ได้เจ้าค่ะ น้ำในลำธารก็มีอยู่แค่นี้"
ฮุ่ยหนิงมองระดับน้ำในลำธารที่ไม่น่าจะสูงถึงหัวเข่าก็พยักหน้าเห็นด้วย หนึ่งหญิงสาวกับหนึ่งหญิงชราจึงรีบกลับไปหยิบตะกร้าที่วางไว้ไม่ไกลขึ้นมาสะพายหลัง เสี่ยวหลินถูกมารดาอุ้มจนตัวลอยมาเหน็บข้างเอว ก่อนจะพากันเดินข้ามลำธารไป
ร่างเล็กๆ ถูกวางลงบนพื้นเมื่อข้ามมาถึงอีกฝั่ง นางรีบวิ่งด้วยขาสั้นๆ ไปยังเครือมันเทศที่เกิดอยู่เต็มพื้นที่ มือน้อยๆ ก้มลงดึงโคนต้นจนก้นโด่งแต่ก็ไม่สามารถดึงเอาหัวมันออกมาได้ หนึ่งหญิงสาวกับหนึ่งหญิงชราเห็นอย่างนั้นก็หัวเราะอย่างขบขัน
"อึ้บ อึ้บ! ทำไมถอนยากนักนะ" เสี่ยวหลินยืนเท้าเอวทำหน้ามุ่ย
"ลูกไปนั่งรอเถิด เดี๋ยวแม่กับท่านยายหลิวจะขุดเอง"
"อื้อ เอาอย่างนั้นก็ได้เจ้าค่ะ" เสี่ยวหลินหอบแฮก นางก้มดูฝ่ามือเล็กๆ อย่างท้อใจ มือเล็กแค่นี้ทำอะไรก็ลำบากจริงๆ
"ดูสิ มีเยอะขนาดนี้เราสองคนคงขุดกันหลายวันเลยล่ะ" นางหลิวหันมองไปรอบๆ แล้วเอ่ยขึ้นมา
"ใช่เจ้าค่ะ แต่ถ้าวันนี้สามีกับน้องสามีกลับมาเร็วข้าอาจจะพาพวกเขาเข้ามาขุดอีกรอบ ท่านยายจะมาด้วยกันไหมเจ้าคะ เดี๋ยวข้าให้สามีช่วยขนส่วนของท่านออกไปให้" ฮุ่ยหนิงหันไปเอ่ยถามอย่างมีน้ำใจ เพราะเมื่อก่อนก็มีเพียงท่านยายหลิวที่คอยหยิบยื่นอาหารเล็กน้อยมาให้สามีกับน้องสามีของนางในยามลำบาก
"เอาอย่างนั้นก็ได้ คงต้องรบกวนพวกเจ้าแล้ว กว่าอาห้าวจะกลับมาก็คงเย็นย่ำ" หญิงชราพยักหน้ารับ นางปลดตะกร้าลงมาวางด้านข้างแล้วหยิบมีดออกมา
"ตรงนั้นมีไม้ไผ่ เดี๋ยวข้าไปตัดมาทำเสียมง่ายๆ ขุดดีกว่าเจ้าค่ะ ดินตรงนี้ดูจะร่วนซุยไม่น้อยคงจะขุดไม่ยาก ดีกว่าใช้มีดขุดเดี๋ยวจะหมดคมเสียก่อน" ฮุ่ยหนิงหันไปเห็นกอไผ่เล็กอยู่ไม่ไกลจึงเอ่ยขึ้นมา นางหลิวพยักหน้าอย่างเห็นด้วย หญิงสาวจึงเดินไปตัดไม้ไผ่ขนาดเหมาะมือมาหนึ่งลำ แล้วนั่งเหลาไม้ไผ่ทำเสียมอย่างง่าย
"นี่เจ้าค่ะ เราขุดกันเถอะ"
ทั้งสองคนนั่งขุดหัวมันเทศใส่ตะกร้าอย่างมีความสุข เพราะมันเทศหัวใหญ่มากไม่เหมือนกับของที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เหมือนมันเทศที่ได้รับการดูแลอย่างดีมากกว่า
เสี่ยวหลินหันมองมารดากับยายหลิวที่ขุดมันเทศอย่างขยันขันแข็ง นางจึงลัดเลาะเดินไปยังบริเวณที่เห็นจุกสีน้ำตาลก่อนหน้านี้ เพราะอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่จึงใช้เวลาเดินแค่ไม่กี่ลมหายใจ พุ่มไม้ที่เดิมยังคงสั่นไหวเล็กน้อยนางจึงค่อยๆ ย่องเข้าไปส่องดูอย่างสงสัย มองเห็นสิ่งมีชีวิตตัวสีน้ำตาลขนปุกปุยนอนหลบอยู่ในพุ่มไม้เหมือนกำลังแอบอะไรบางอย่าง
"เอ๊ะ ลูกวัวหรือ" ตากลมโตมองวัวตัวน้อยที่เหมือนกับพึ่งจะคลอดได้ไม่นาน แต่ตัวของมันไม่เปียกแฉะแล้วคาดว่าน่าจะคลอดมาได้สองถึงสามวัน
นางมองไปรอบๆ เพื่อหามารดาของมันแต่ก็ไม่เจอ เด็กน้อยจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
"เจ้าตัวน้อย เหตุใดเจ้าจึงมาอยู่ที่นี่ตัวเดียวเล่า แล้วแม่ของเจ้าอยู่ที่ใด" เสี่ยวหลินเอ่ยขึ้นด้านหลังของวัวตัวน้อย
เจ้าวัวหันมามองมนุษย์ที่ตัวใกล้เคียงกับมันแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล เพราะนอนนานไปหน่อย อีกทั้งมันเองก็เพิ่งจะเกิดได้ไม่นานจึงเดินได้ไม่คล่องนัก
มอ\~
เจ้าวัวตัวน้อยเดินมาหาเด็กหญิง มันส่งเสียงร้องเบาๆ อีกทั้งยังเอาหัวถูไถตัวของมนุษย์ตัวน้อยอย่างออดอ้อน มันนอนหลบอยู่ตรงนี้มาสองวันแล้วแต่ก็ไม่เห็นมารดาของมันมารับเสียที ตอนนี้มันหิวจนแทบจะไม่มีแรงแล้ว
เสี่ยวหลินมองดูท่าทางอ่อนแรงของเจ้าวัวตัวน้อยอย่างรู้สึกสงสาร นางเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ อีกครั้งก็ไร้วี่แววของแม่วัว มันยืนด้วยขาสั่นๆ อย่างไม่ค่อยมั่นคงนัก ท่าทางคงจะหมดแรงเพราะความหิว
"หือ เจ้าตัวน้อย หิวหรือไม่ มาเถอะที่หมู่บ้านน่าจะมีวัวแม่ลูกอ่อนอยู่ เดี๋ยวข้าให้ท่านแม่ไปขอนมมาให้เจ้า" นางลูบหัวเจ้าวัวน้อยอย่างสงสาร เจ้าตัวเล็กก็ดูจะรู้ความ มันยืนเงยหน้ามองมนุษย์น้อยตาแป๋วจนเสี่ยวหลินรู้สึกถูกชะตา
มันคงจะพลัดหลงกับมารดามาแน่นอน วัวตัวน้อยยังคงขนยาวปุกปุยแต่ตัวผอมไปหน่อย หากอ้วนกว่านี้คงจะน่ารักไม่น้อย นางเดินไปดึงเถาวัลย์เส้นเล็กๆ มาผูกเข้าที่คอของเจ้าวัวแล้วจับจูงเดินกลับไปยังบริเวณที่มารดานั่งขุดหัวมันอยู่
"หัวใหญ่ขนาดนี้ข้าคงกินไม่หมด ฮ่าๆๆ" ยายหลิวหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อขุดได้มันเทศหัวใหญ่
"ท่านคงจะต้องแบ่งกินถึงสองมื้อแล้วล่ะเจ้าค่ะ" ฮุ่ยหนิงเองก็หัวเราะไปกับหญิงชราเช่นเดียวกัน
"ท่านแม่" เสี่ยวหลินเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังของมารดาพร้อมกับเจ้าวัวตัวน้อย ฮุ่ยหนิงหันมาเจอกับบุตรสาวพร้อมกับวัวที่ตัวเท่ากับคนจูงอย่างงุนงง
"เจ้าไปได้วัวน้อยมาจากที่ใด เดี๋ยวแม่ของมันก็มาขวิดเอาหรอกลูก" ฮุ่ยหนิงรีบลุกเข้ามาหาบุตรสาว นางมองวัวตัวน้อยอย่างสงสารเพราะดูมันจะเหนื่อยล้าอยู่ไม่น้อย แต่ก็กลัวแม่ของมันจะมาตาม วัวแม่ลูกอ่อนยิ่งเป็นวัวป่าไม่คุ้นเคยกับคนคงจะดุร้ายไม่น้อย
"ลูกเห็นเพียงเจ้าวัวน้อยนอนแอบอยู่ในพุ่มไม้เจ้าค่ะ มันคงนอนรอแม่ของมันมาหลายวันแล้ว ดูสิเจ้าคะ มันดูเหนื่อยและหิวมาก" เสี่ยวหลินลูบหัวเจ้าวัวน้อยเบาๆ ซึ่งมันก็ขยับเอาหัวมาถูไถหัวไหล่ของเด็กน้อยอย่างออดอ้อน
ฮุ่ยหนิงมองทั้งคนทั้งวัวที่มองมาตากลมแป๋วออดอ้อนตนอย่างหนักใจ นางยังคงกังวลว่าแม่ของมันจะตามมาเจอ แต่ก็อดจะสงสารเจ้าวัวน้อยไม่ได้ ด้วยสภาพที่ตัวผอมอีกทั้งขนยังยาวปกคลุมตัวบ่งบอกว่ามันเพิ่งจะคลอดได้ไม่นาน
"เอาเถอะ แม่ขุดหัวมันได้ใกล้จะเต็มตะกร้าแล้ว รออีกหน่อยนะลูก" ฮุ่ยหนิงถอนหายใจออกมาก่อนจะพยักหน้าอนุญาต
"ท่านแม่ใจดีที่สุด!" เด็กน้อยกระโดดกอดหมับเข้าที่เอวบางของมารดาอย่างดีใจ ฮุ่ยหนิงไม่ได้กอดกลับแต่อย่างใดเพราะมือนางเปื้อนดิน
"ที่บ้านของยายเฒ่าจางมีวัวแม่ลูกอ่อนอยู่ ไปขอซื้อนมวัวจากนางมาให้มันดื่มกินเถอะฮุ่ยหนิง เดี๋ยวข้าไปบอกยายเฒ่าจางไว้ให้" นางหลิวเอ่ยขึ้นมาบ้าง
"ขอบคุณเจ้าค่ะท่านยาย อย่างนั้นเรารีบขุดกันดีกว่าเจ้าค่ะ"
ฮุ่ยหนิงกลับไปขุดหัวมันอย่างรวดเร็วเพราะใกล้จะเต็มตะกร้าแล้ว ส่วนนางหลิวนั้นขุดเพียงแค่ครึ่งตะกร้าเพราะแบกไม่ไหว ขากลับเสี่ยวหลินจึงถูกมารดาอุ้มข้ามลำธาร ส่วนเจ้าวัวน้อยก็มียายหลิวช่วยจูงข้ามไปแทน
เมื่อกลับมาถึงบ้านเสี่ยวหลินก็นั่งเฝ้าเจ้าวัวน้อยอยู่ที่แคร่หน้าบ้าน ส่วนฮุ่ยหนิงนั้นหยิบตะกร้าใบเล็กมาแบ่งหัวมันเทศเพื่อจะเอาไปฝากยายเฒ่าจางแล้วขอซื้อนมกลับมาด้วย ยายเฒ่าจางเองก็เป็นคนใจดีจึงให้มาโดยไม่คิดเงินสักอีแปะ แต่ต้องไปรีดนมเอาเอง
เจ้าวัวเมื่อได้กลิ่นนมก็รีบวิ่งเข้ามาใช้จมูกดันถังนมที่ฮุ่ยหนิงถือเข้ามาอย่างรีบร้อน มันหิวจนแสบท้องไปหมดแล้ว ฮุ่ยหนิงเห็นอย่างนั้นก็เข้าไปหยิบกะละมังใบเล็กมาเทนมใส่ให้เจ้าวัวดื่มกินส่วนอีกครึ่งเอาไว้ให้มันกินตอนเย็น
"หิวหรือยังลูก เดี๋ยวแม่เอาข้าวที่ห่อไว้เมื่อเช้ามาให้กินนะ" เพราะกลับออกมาจากป่าก่อนเที่ยง ข้าวที่ห่อไปจึงยังไม่ได้แกะกิน เสี่ยวหลินพยักหน้าจนแก้มกระเพื่อม
"เจ้าค่ะท่านแม่" เด็กน้อยรับห่อข้าวมากินอย่างเอร็ดอร่อย ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ข้าวกับปลาย่างแต่ก็อร่อยอย่าบอกใคร เพราะฝีมือการทำอาหารของฮุ่ยหนิงนั้นเข้าขั้นดีมาก ก่อนที่จะตบแต่งกับถังเทียนหรงนางเคยทำงานในครัวของโรงเตี๊ยมในเมืองมาก่อน
"นั่นใช่ท่านพ่อกับท่านอาหรือไม่เจ้าคะ" มือน้อยชี้ไปยังเงาร่างของคนสองคนที่กำลังเข็นรถเข็นไม้เข้ามาในระยะสายตา
"ใช่แล้วล่ะ วันนี้คงขายดีเพราะกลับมาเร็วกว่าทุกวัน" ฮุ่ยหนิงเอ่ยตอบกลับบุตรสาว นางวางห่อข้าวแล้วลุกเดินเข้าไปเตรียมสำรับข้าวไว้ให้สามีกับน้องสามี กลับมาเร็วกันแบบนี้คงยังไม่ได้กินมื้อเที่ยงกันมาแน่นอน
"ท่านพ่อ!" เสี่ยวหลินตะโกนเรียกบิดาที่เดินเข้ามาในบริเวณรั้วบ้าน มือน้อยๆ โบกให้บิดาพร้อมทั้งยิ้มจนตาหยี
"กำลังกินข้าวหรือลูก" เทียนหรงมองบุตรสาวตัวน้อยที่ตะโกนเรียก ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตลอดทั้งวันก็แทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง
"เจ้าค่ะ ท่านพ่อกับท่านอามานั่งตรงนี้เร็วเข้า เสี่ยวหลินจะไปเอาน้ำมาให้ดื่ม" เด็กน้อยกระโดดลงจากแคร่ที่ไม่ได้สูงมากนัก ร่างเล็กๆ วิ่งหายเข้าไปในบ้านหลังน้อยแล้วออกมาพร้อมกับแก้วน้ำที่ทำจากไม้ไผ่สองใบ
เทียนเฉินนั่งยองๆ มองเจ้าวัวน้อยแปลกหน้าที่กำลังก้มดื่มกินนมจากกะละมังอย่างสงสัย ก่อนจะมีมือเล็กยื่นแก้วน้ำมาให้ตรงหน้า
"ขอบใจเจ้า แล้วนี่เอามาจากที่ใด" เด็กหนุ่มรับแก้วน้ำมาดื่มแล้วเอ่ยถามขึ้น
"เสี่ยวหลินเจอในป่าเจ้าค่ะ มันคงถูกแม่ทิ้งไปแล้ว" เสี่ยวหลินลูบหัวเจ้าวัวน้อยที่ดื่มกินนมจนอิ่มหนำ เจ้าวัวเอาหัวถูไถเด็กหญิงอย่างขอบคุณ
"คิกคิก"
"กินข้าวเจ้าค่ะท่านพี่ เสี่ยวเฉิน เดี๋ยวนั่งพักกันสักหน่อยแล้วข้าจะพาเข้าป่านะเจ้าคะ วันนี้ข้ากับเสี่ยวหลินไปเจอดงมันเทศเข้า หากขุดกลับมาหมดคงเก็บไว้กินได้เป็นเดือนเลยล่ะเจ้าค่ะ" ฮุ่ยหนิงยกถาดใส่อาหารออกมาวางที่แคร่ให้สามีกับน้องสามีได้กิน เทียนเฉินเองก็ละความสนใจจากเจ้าวัวน้อยแล้วลุกไปนั่งบนแคร่
"อย่างนั้นก็ดีสิ ช่วงนี้ข้าวสารราคาแพงมากทีเดียว แล้วไปเจอได้อย่างไร หากมากถึงเพียงนั้นชาวบ้านคงเก็บไปกินหมดแล้ว" เทียนหรงส่งชามข้าวกับตะเกียบให้น้องชาย พร้อมกับคุยกับภรรยาไปด้วย
"เป็นเสี่ยวหลินที่บอกให้ออกนอกเส้นทางเดินของชาวบ้านเจ้าค่ะ แต่ข้าไม่ได้เข้าไปลึกมาก อีกทั้งท่านยายหลิวเองก็ไปกับข้าด้วย"
"อย่างนั้นหรือ แล้วนี่ท่านยายหลิวจะไปขุดอีกหรือไม่" มือหนาคีบเนื้อปลาย่างเข้าปากตามด้วยข้าวสวยอย่างหิวโหย โดยมีน้องชายกินอยู่ด้านข้างแต่มือฉกกับข้าวเร็วนัก
"ไปเจ้าค่ะ นางแก่แล้วขนออกมาได้ไม่มากนัก ข้าจึงบอกให้รอพวกท่านไปช่วยกันขนออกมาให้หน่อย" เทียนหรงได้ฟังก็พยักหน้าแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เป็นปกติที่คนในหมู่บ้านจะช่วยเหลือกันในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
"ก่อนหน้าที่ท่านจะกลับมาข้าก็แบ่งมันเทศเอาไปแลกนมให้เจ้าวัวน้อยมาด้วย ท่านยายจางเองก็บอกว่าหากได้มากก็จะขอซื้อไปเก็บไว้กินสักหน่อยเจ้าค่ะ"
"ไม่ต้องให้ท่านจ่ายเงินหรอก อย่างไรเจ้าตัวเล็กนั่นก็ต้องพึ่งนมของแม่วัวนางอีกนานหลายเดือน เอาไปแบ่งให้นางสักกระสอบเถิด" เทียนหรงโบกมือปฏิเสธแล้วเอ่ยขึ้นมา หากมันเทศมีมากเขาก็สามารถแบ่งให้ได้เพราะอย่างไรบ้านเขาก็ยังคงต้องไปขอนมมาให้เจ้าวัวน้อยอยู่แล้ว
"ได้เจ้าค่ะท่านพี่" ฮุ่ยหนิงยิ้มกว้าง นางดีใจที่ได้สามีที่ดีและมีน้ำใจเช่นนี้
#####################################
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 5
Comments