“…ขิม… สายขิม”
“…”
“เจ้!”
แรงเขย่าจากฝ่ามือเรียกสติล่องลอยของฉันให้กลับมาที่เธอสำเร็จ ใบหน้าสวยของน้องสาวเด่นชัดตรงหน้า คิ้วเรียวขมวดนิด ๆ สายตามีความยุ่งยากใจ
“เป็นไรอ่ะ เค้าเรียกเจ้นานแล้วนะ”
“อือ มีไรล่ะ”
“เมื่อกี้ม้าโทรมาถามว่าจะกลับกี่โมง เค้าตอบสี่ทุ่ม ถ้าม้าโทรถามเจ้ก็ตอบให้ตรงกันนะ”
“แล้วเตี่ยยอมเหรอ” ฉันเลิกคิ้วถามน้องสาวร่วมสายเลือด เสียงดนตรีรอบตัวดังมากจนต้องยื่นหน้าเข้าใกล้กันเพื่อสื่อสาร
“ยอมก็แปลกสิเจ้! เตี่ยเคยยอมอะไรพวกเราด้วยเหรอ?”
“งั้นก็รีบกลับสิสายซอ”
สายซอชักสีหน้าใส่ ใบหน้าที่คล้ายคลึงกับฉันเบือนหนีไปทางอื่น เราสองคนพี่น้องนั่งอยู่ในผับนี้มาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน สายซอโทรเรียกให้ฉันมาหาที่นี่ ตอนนั้นฉันกำลังทำงานพิเศษอยู่ เพราะความห่วงน้องจึงทิ้งงานมา แต่ผลก็คืออย่างที่เห็น…
“ยัยซอ แกยี่สิบแล้วนะ เลิกทำตัวแบบนี้ได้แล้ว”
“พอเถอะเจ้ เค้าเบื่อฟัง อีกอย่างนะ เจ้จะรีบกลับไปทำไมบ้านแบบนั้น บ้านที่ไม่ได้ต้องการเราสักนิด” ความน้อยใจฉายชัดบนใบหน้าสวย เธอยกเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวหมด ฉันมองแล้วถอนใจเบา ๆ
“เอาเถอะ เจ้จะอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าแกอยากจะกลับแล้วกัน โอเคไหม?” แก้วเหล้าสีอำพันในมือถูกยกดื่มจนหมด ความช่ำชองในรสชาติขมปร่าทำให้สีหน้าฉันไม่เปลี่ยนแปลงสักนิด
“เค้ารักเจ้ก็ตรงนี้แหละเจ้สายขิมคนสวยของซอ!”
สายขิม คือชื่อของฉัน ฉันมีพี่น้องสามคน ตัวฉันเป็นลูกสาวคนโต สายซอคือลูกสาวคนกลาง และยังมีสายซึงน้องชายคนเล็กอีกคน ครอบครัวฉันมีเชื้อสายไทย-จีน แต่เพราะแม่ชอบดนตรีไทยมากจึงตั้งชื่อลูกตามเครื่องดนตรีไทย พูดถึงครอบครัวคนจีน แน่ล่ะ ไม่ว่าครอบครัวไหนก็มักจะรักลูกชายมากกว่าลูกสาว บ้านฉันก็เช่นกัน เตี่ยกับม้ารักน้องชายฉันเหนือสิ่งอื่นใด ตามใจสายซึงทุกอย่าง ขณะที่ฉันกับสายซอซึ่งเป็นลูกสาวกลับถูกบีบบังคับ ถูกตีกรอบสารพัด
เมื่อก่อนฉันเคยเป็นเด็กดี เป็นลูกสาวที่ดีของเตี่ยกับม้า ทั้งเรียนดี ประพฤติดี ส่วนหนึ่งเพราะคาดหวังความรักความเอาใจใส่จากพวกท่าน แต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนเดิม นั่นคือไม่ว่าฉันจะพยายามสักแค่ไหนก็ไม่เคยอยู่ในสายตาของเตี่ยกับม้าอยู่ดี
หลังจากเกิดเรื่องที่ทำให้ชีวิตของฉันต้องพังเมื่อสองปีก่อน ชีวิตของฉันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ผลการเรียนตกลง เกรดร่วงจนม้ากลุ้มใจ ฉันเริ่มกลับบ้านดึก เริ่มคบเพื่อนไม่ดี เรียกได้ว่าช่วงปีหนึ่งนั้นฉันผ่านชีวิตที่เหลวไหลมาพอสมควรเลยล่ะ
กระทั่งขึ้นปีสอง สายซอสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับฉัน แถมยังเป็นคณะเดียวกันอีกด้วย ตั้งแต่นั้นน้องก็เริ่มทำตัวติดฉันมากขึ้น ด้วยเพราะเราเรียนคนละโรงเรียนมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เราสองพี่น้องไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน
สายซอเรียนโรงเรียนสตรีซึ่งเป็นโรงเรียนประจำมาโดยตลอด นาน ๆ ทีจะกลับบ้านครั้ง แต่เราสองคนพี่น้องก็รักกันดี พอมีโอกาสได้มาเรียนด้วยกัน เธอจึงติดฉันเป็นพิเศษ เพราะอย่างนั้นฉันจึงเลิกทำตัวเหลวไหลเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้น้อง และฉันก็ทำได้ดีมาตลอดหนึ่งปีเต็ม แต่กลับเป็นสายซอเสียเองที่ชอบมาเที่ยวในที่แบบนี้ แล้วก็เรียกให้ฉันตามมาดูแลทุกครั้งเลย
“แล้วนี่เจ้เป็นไงมั่ง ปีสามงานเยอะเหรอ”
บทสนทนาระหว่างพี่น้องผ่อนคลายลงหลังจากต่างคนต่างเงียบสักพัก สายตาหลายคู่จับจ้องพวกเราจนรู้สึกได้ ความจริงตั้งแต่เข้ามานั่งก็ถูกมองมาตลอด แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาทัก ด้วยเพราะสีหน้านิ่ง ๆ กับสายตาเย็นชาของเราสองคนนั้นคล้ายกันมาก แผ่รังสีไม่น่าเข้าใกล้เหมือนกัน สมกับเป็นพี่น้องท้องเดียวกันเสียจริง
“ก็ไม่เท่าไหร่ คงไม่เยอะเท่าปีสองหรอก”
“อืม… งั้นเหรอ” เสียงครางรับเอื่อย ๆ จากสายซอบ่งบอกให้รู้ว่าเธอเริ่มเมาแล้ว ยัยนี่เป็นคนคออ่อนแต่ไหนแต่ไรแต่ก็ยังจะฝืนดื่มเข้าไปอยู่ได้ มองคนไม่เจียมตัวด้วยปลายสายตา แย่งแก้วเหล้าออกจากมือน้องสาว
“พอแล้ว กลับเหอะ”
“เจ้นี่ทำตัวเหมือนม้าเข้าไปทุกวันแล้วนะ ไม่สิ… จู้จี้ยิ่งกว่าม้าซะอีก ฮ่า ๆ” สายซอฟุบหน้าลงบนแขนแล้วจ้องหน้าฉัน ดวงตาหวานหรี่ลง ริมฝีปากขยับยิ้มบาง “แต่เค้าก็ชอบเจ้ที่เป็นแบบนี้มากกว่าเมื่อก่อนนะ เจ้ตอนนี้ถึงจะเย็นชาไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้อ่อนต่อโลก ไม่อ่อนแอใสซื่อ แถมพอเลิกใส่แว่นเชย ๆ นั่นแล้วก็ดันสวยมากอีกด้วย ดูสิ สวยกว่าเค้าอีกนะ”
“เมาแล้วเพ้อเจ้อตลอด” ฉันดุน้องทางสายตา สายซอหัวเราะคิกคัก ดวงหน้าหวานพริ้มเพราเต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างร้ายกาจ หากฉันไม่นั่งอยู่ด้วย ป่านนี้คงมีหนุ่มไม่รู้กี่คนกรูกันเข้ามาวุ่นวายกับเธอแน่ ๆ
“เค้าพูดจริงนะเจ้ เค้าชอบเจ้ตอนนี้จริง ๆ เมื่อก่อนเจ้เอาแต่เรียน พอวันหยุดเค้ากลับบ้าน เจ้ก็ไปเรียนพิเศษ เราแทบไม่เจอกันเลยด้วยซ้ำ เค้าเหงามากเลยนะรู้ไหม” พอเริ่มเมา ยัยนี่ก็จะเริ่มพูดมาก ฉันไม่ได้ห้ามสายซอพูด แต่ห้ามมือยัยตัวแสบไม่ให้แตะแก้วแทน “ตอนเจ้ไม่อยู่บ้าน เค้าแทบไม่อยากกลับไปเลยรู้ป่ะ! บ้านที่เย็นชืด บ้านที่ไร้ความอบอุ่นแบบนั้น…”
“ไม่เอาน่า เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้วสายซอ แกก็รู้ว่าเตี่ยกับม้ารักพวกเรา เพียงแต่…” ฉันนึกหาคำมาปลอบใจน้อง
“เพียงแต่รักนั้นอยู่ลึกเกินไปที่จะแสดงออกงั้นสินะ ฮึ” สายซอต่อคำพูดให้ฉัน ไม่อยากจะยอมรับเลยว่านั่นคือความจริง ที่ผ่านมาเตี่ยกับม้าเลี้ยงเราด้วยความเย็นชาจริง ๆ แม้แต่กอดครั้งล่าสุดฉันยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำ พวกท่านรักและใส่ใจแต่สายซึง ขณะที่เอาแต่เข้มงวดกับฉันและสายซอตลอด “เกิดเป็นลูกสาวมันผิดตรงไหนเหรอเจ้… เค้าก็อยากได้ความรักจากเตี่ยกับม้าเหมือนกันนะ”
“...”
ฉันได้แต่ถอดถอนใจ ลูบผมสั้นประบ่าสีเขียวแสนเปรี้ยวเข็ดฟันของน้อง นึกถึงตอนที่เตี่ยกับม้าเห็นสีผมของสายซอ ท่านโกรธมากจนไล่น้องออกจากบ้านเลยล่ะ ตอนนั้นฉันต้องไปตามน้องจากบ้านเพื่อนยันดึกดื่น ปลอบน้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้อดทนอีกหน่อย อีกไม่นานฉันจะขอม้าย้ายออกมาอยู่เองแล้ว โดยใช้ข้ออ้างว่าต้องฝึกงานและใกล้มหาวิทยาลัย ไปกลับสะดวก ถึงตอนนั้นฉันจะชวนสายซอมาอยู่ด้วยกัน ฟังดังนั้นน้องจึงยอมกลับบ้านกับฉัน ยอมอดทนให้เตี่ยกับม้าดุว่า แต่สุดท้ายสายซอก็ยืนกรานว่าจะไม่ย้อมสีผมกลับอยู่ดี
น้องฉันมันดื้อจริง ๆ นั่นแหละ แต่ฉันก็เข้าใจน้องดีกว่าใคร
“สายซอ อยู่นี่นี่เอง!” เสียงตะโกนแทรกเสียงดนตรีจากด้านหลังทำให้ร่างบางที่กำลังฟุบหน้าบนโต๊ะสะดุ้งตัวขึ้น ฉันมองข้ามไหล่น้องไปเห็นร่างสูงกำลังเดินแหวกผู้คนมาทางนี้ สีหน้าถมึงทึงลอยเด่นมาแต่ไกล
“ซวยแล้วเจ้! เค้าไม่อยากเจอจีซัสตอนนี้!” สายซอลุกขึ้นคว้ากระเป๋าข้างหนึ่ง คว้ามือฉันอีกข้างหนึ่ง แล้วพาเดินแทรกผู้คนออกมาอีกทาง ฉันเดินตามอย่างทุลักทุเล หันกลับไปมองด้านหลังเห็นร่างสูงเจ้าของชื่อจีซัสเบิกตากว้างก่อนจะส่งสายตาโกรธจัดมาทางพวกเรา “หมอนั่นมาที่นี่ได้ยังไงกัน! อยากจะบ้าตาย!”
“เกิดอะไรขึ้น ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ”
พวกเราเดินมาถึงส่วนของหลังผับซึ่งเป็นทางเดินมืดสลัวทอดยาว สายซอปล่อยมือฉัน หันไปมองด้านหลังอยู่ตลอด
“จีซัสต้องตามมาทันแน่ ๆ อ่ะเจ้! ทำไงดี?!” พอเห็นท่าทางลนลานของน้อง ฉันก็เลิกสงสัยไว้กลับไปค่อยถามแล้วกัน ฉันมองไปทางบันไดหนีไฟ จับมือสายซอแล้วพาเดินไปทางนั้น ผลักประตูเข้ามา สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือกลิ่นบุหรี่อบอวลจนรู้สึกแสบจมูก แต่ไม่มีเวลาแล้ว ต้องดึงน้องเข้ามาซ่อนตรงนี้ก่อน
“รออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวเจ้ล่อหมอนั่นไปที่ลานจอดรถ หลอกให้เขาเข้าใจว่าแกขึ้นแท็กซี่กลับไปแล้ว” จับไหล่น้องมายืนพิงผนังข้างประตูหนีไฟ ดวงตาสายซอฉายแววกังวลเล็กน้อย ฉันย้ำ “จบเรื่องเจ้จะกลับมารับ ถือโทรศัพท์ไว้ล่ะ แล้วอย่าไปไหน”
“คิก… เค้ายี่สิบแล้วนะเจ้ ไม่ใช่ห้าขวบ” เสียงขบขันเจือความเมามายของสายซอทำฉันนึกหมั่นไส้ดีดหน้าผากเนียนใสไปหนึ่งที
“อายุยี่สิบแต่พอเมาแล้วเหมือนเด็กห้าขวบอย่างแกน่ะ มันต่างกันตรงไหนไม่ทราบ”
“ค่า ๆ เค้าจะไม่ไปไหน ไม่ดื้อ ไม่ซน จะรอเจ้มารับตรงนี้เลย” สายซอทำท่าตะเบ๊ะแบบตำรวจ ใบหน้าเรื่อแดงเพราะพิษเหล้าคลี่ยิ้มซุกซน
“อย่าไปไหนล่ะ มีอะไรรีบโทรหาเจ้ เจ้จะรีบมา” กำชับน้องเสร็จจึงผลักประตูกลับเข้ามาในโถงทางเดิน มองประตูหนีไฟอย่างกังวลเล็กน้อยก่อนเดินไปทางประตูด้านหลังผับ
ลานจอดรถของผับนี้อยู่ด้านหน้า ด้านข้างจะเป็นถนนสำหรับเรียกรถแท็กซี่ ฉันเดินอ้อมจากด้านหลังผับมาเพื่อจะตรงไปทางถนน ในตอนนั้นเองร่างสูงของใครคนหนึ่งเปิดประตูตามหลังออกมา
เป็นจีซัส… แฟนของสายซอ
“สายซออยู่ไหน?” เขาถามเสียงห้วนทันทีที่เห็นฉัน ถ้าพูดกันตามจริงแล้วหมอนี่เด็กกว่าฉันหนึ่งปี เขาควรเคารพฉันให้มากกว่านี้ แม้ไม่ใช่ในฐานะของพี่สาวแฟนก็ควรเคารพในฐานะอาวุโสกว่า แต่จะไปเอาอะไรกับคนนิสัยใจร้อนมุทะลุอย่างจีซัสได้ล่ะ
“ขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว” ฉันตอบหน้าตาย มันคือหน้ากากที่ฉันมักสวมต่อหน้าคนอื่น เย็นชาหน้าตาย… นั่นแหละตัวฉัน
“โกหก ถ้าซอขึ้นรถไปแล้วทำไมเธอยังอยู่นี่ล่ะ เธอโกหกฉันใช่ไหม?” ถือว่าฉลาด…
“ฉันอยู่ต่อเพราะมีนัด ยังสงสัยอะไรอีกไหม?” แต่ฉันฉลาดกว่า
ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงพูดโกหกด้วยสีหน้านิ่งแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด แต่เพราะฉันเปลี่ยนไปแล้ว กับอีแค่คำโกหกโง่ ๆ ไม่กี่คำ สบายมาก
ฉันหมุนตัวจะเดินกลับเข้าผับ ต้องหลอกให้จีซัสตามสายซอไปก่อน ถึงจะกลับไปหาสายซอที่บันไดหนีไฟแล้วพากลับบ้านได้
“เดี๋ยว!” แรงฉุดที่แขนดึงร่างฉันหันกลับไปหาเขาอย่างเสียไม่ได้ สายตาเย็นชาจ้องตาเจ้าของการกระทำหยาบคาย จีซัสเพิ่มแรงบีบที่แขน สีหน้าเขาบ่งบอกชัดเจนว่าไม่เชื่อคำโกหกของฉัน “ฉันไม่เชื่อว่าซอกลับไปแล้ว ยัยนั่นติดเธออย่างกับอะไร ไม่มีทางกลับไปคนเดียวแน่!”
หมอนี่ฉลาดเกินไปแล้ว… แต่รู้อะไรไหม… จุดจบของคนฉลาดเกินไปมันไม่สวยนักหรอกนะ
“ปล่อยฉัน” แรงกดดันทางสายตาทำให้มือหนายอมคลายออก ฉันยังคงสีหน้าสงบนิ่ง น้ำเสียงเย็นชาเปล่งออกมาช้า ๆ ทีละคำ “แฟนคนเดียวยังดูแลให้ดีไม่ได้ สมควรไปตายซะ”
“สายขิม!” จีซัสโกรธแล้ว เส้นเลือดปูดโปนตรงขมับของเขาไม่ได้ทำให้ฉันหวาดหวั่นสักนิด
“ก็ยังจำได้นี่ว่าฉันชื่ออะไร งั้นก็ควรจำใส่หัวเอาไว้ด้วยว่าฉันคือใคร สายซออาจจะยอมนาย แต่ฉันไม่ใช่!”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments