ไม่จางหาย

...-2-...

........ในห้องเย็นๆกับโซ่ที่ล่ามขาไว้ ความเจ็บปวดที่ไม่จางหายไป เรื่องราวต่างๆมันเกิดขึ้นไวเกินกว่าจะรับมือ มันไม่สมเหตุสมผล

เขาตอบตัวเองไม่ได้ทำไมละ? ทำไมๆๆๆตอนนี้มันเกิดบ้าอะไรขึ้น...เขาจะต้องโดนทรมานจนตายที่นี่งั้นหรือ

.....เขาทำผิดเรื่องอะไร?

ร่างช้ำบอบที่นอนนิ่งไม่ยอมขยับตัวแม้แต่น้อย ลมหายใจที่เป็นไปตามกลไก​ของร่างกาย​ หากปล่อยให้หายใจเองป่านนี้คงขาดใจตายไปแล้ว

ปล่อยให้น้ำตาไหลนองหน้าใสอยู่อย่างนั้นหยดแล้วหยดเล่าจนมันเหือดแห้งไปเอง....ในตอนนี้ทั้งกายและจิตใจมันเจ็บไปหมด เหมือนมีลมอื้อๆอยู่ในหู​ ไม่ได้ยินไม่รับรู้อะไรแล้ว​

เรียกได้ว่าเกิดอาการ​ช็อก​ก็ไม่เกินไป​ มันมีอะไรที่เจ็บมากกว่านี้อีกหรือ ร่างที่นอนนิ่งได้แต่คิดถามในใจ เขาผิดอะไรนักหนา เขาทำร้ายใครกัน จึงมาโดนทำร้ายถึงเพียงนี้​ บาปไหนที่ดลบันดาล​ให้เกิดเรื่องโหดร้ายกับเขากันแน่

มีชีวิตที่โสโครก รู้สึกว่าตัวตนมันสกปรกไปแล้ว​ น้ำขุ่นกลิ่นคาวจากคนนั้นมันเปื้อนตัวของเขาไปแล้ว...เพียงแค่แวบเดียวที่คิดถึงเรื่องนั้น ก็พาอยากจะอ้วก​ออกมา​

โดนกระทำย่ำยีจากผู้ชายที่ไม่รู้จักหน้าคร่าตากันมาก่อนด้วยซ้ำ​... ไอ้คนนั้นมันเป็นคนบ้าหรือป่าว​?

ทำร้ายเขาเหมือนกับชีวิตของเขานั้นไม่มีค่าพอให้ ทะนุถนอมดูแล กลับกลายเป็นที่รองรับอารมณ์ร้ายๆของคนใจร้ายคนนี้ คนที่ทำร้ายเขาทั้งร่างกายและจิตใจ

..... น่ากลัวกว่าความตายก็คงเป็นการถูกขังอยู่ที่นี่​ โดยไม่รู้อะไรสักอย่าง

เขาก็เป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง และเขามีหญิงสาวที่เขาแอบรัก ตัวเขาเองที่ชอบผู้หญิงเหมือนกับผู้ชายทั่วไป

....แต่ในเวลาที่ผ่านมาไม่นานนี้ ที่ห้องนี้ เขากลับโดนขืนใจจากผู้ชายใจร้ายคนนั้น.....คนที่บอกว่าเกลียดเขานักหนา....

.......ถ้าให้เขาโดนทำแบบนี้ ให้เขาตายไปเลยซะยังดีกว่า.........

แอ้ด~...พรึบ!!

เสียงประตูห้องถูกเปิด จากคนใจร้ายที่กำลังเดินตรงมาที่เตียงนอน ร่างบางที่หายใจแผ่วเบายังคงนอนนิ่งๆ ตามองแต่เพดานห้องสีขาวที่ว่างเปล่า ....มันว่างเปล่า เหมือนกับเขาในตอนนี้ที่ไม่เหลือแม้แต่ความภูมิใจที่ยังเป็นผู้ชาย

ไม่เหลือแล้ว มันดูไร้ค่าและไม่มีความภาคภูมิใจเหลืออยู่แล้ว.....ถึงมันจะเป็นเพียงไม่กี่อย่างที่เขามีอยู่ในชีวิต​ แต่ตอนนี่มันสลายกายไปจนหมด

"จะนอนตายอยู่ตรงนี้รึไง ....ลุกมากินข้าวกินยาซะ!"

คนใจร้ายวางกล่องข้าวหนึ่งกล่อง ยาหนึ่งแผงและน้ำเปล่าอีกหนึ่งขวดเล็กโยนใส่เตียงนอนอย่างไม่ใยดี

"........"

ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากบนเตียง หรือแม้แต่สายตาก็ไม่ได้หันมามองร่างสูงเลยแม้สักนิด ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย.... กล้าดียังไง​ เรียกร้องความสนใจหรอ? หรือประท้วงทวงความยุติธรรม​หรือไง​ อย่าเพ้อเจ้อ​ไปหน่อยเลย​ มันไม่มีสำหรับมึงหรอก

"หึ....มึงอยากตายมากหรอ...งั้นก็ดีไม่ต้องกินมันละไอ้ข้าวเนี่ย!!! "

ว่าเสร็จคนใจร้ายก็ถือเอากล่องข้าว ยาและน้ำออกไป ปล่อยให้คนที่ถูกขังอยู่ในห้องร้องไห้กับตัวเองออกมาอีกครั้ง.... เหนื่อยและผลอยหลับไปในที่สุด

..............................

-รัน-

"ฮึก...พ่อครับ...แม่ครับ...รอผมก่อนนะ ผมกำลังจะไปหาแล้ว....ผมคิดถึงพ่อกับแม่จังเลย...ฮึก"

เสียงสอื้นเบาๆ เพ้อถึงพ่อแม่ที่เสียไปแล้ว ด้วยฤทธิ์ไข้ทำให้ตัวร้อนจนเหงื่อชุ่มตัว ปากซีดไร้สีก็พร่ำเพ้อไม่หยุดหย่อนจนเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่อาจรู้

... แขนผอมบางกอดร่างสั่นๆของตัวเองตามลำพัง​

"เห้ย...มึงลุกได้แล้วนะ นี่มันค่ำแล้วลุกไปอาบน้ำซะ อย่าให้กูหมดความอดทนกับมึงนะ!!"

ยามค่ำเช่นนี้อากาศเย็นลงมาก ร่างสูงโปร่งเลยเข้ามาดูว่าไอ้คนที่นอนนิ่ง ข้าวปลา หรือแม้แต่น้ำก็ยังไม่ได้แตะเลยด้วยซ้ำตั้งแต่ถูกเขาพามาที่นี่

... คงไม่ได้ตายไปจริงๆหรอกนะ ใช่ไหม?

"ฮึก..ฮื่อออ..พ่อครับ..แม่ครับ..ผมหนาวจังเลย ฮึกๆ"

ใบหน้าไร้สีสันเพ้อไข้อยู่คนเดียวในห้องเย็นๆนี้อย่างน่าสงสาร..

มือเรียวลองทาบหน้าผากก็รับรู้ได้ถึงไอร้อนจากตัวคนที่นอนเพ้อไม่รู้เรื่องรู้ราว....

"เสือกป่วยอีก... เวรเอ้ย​ เอาไงดีวะ...อย่าบอกว่ากูต้องเช็ดตัวให้มึงนะ...."

แต่ถ้าปล่อยให้ตายไปทั้งแบบนี้ มันก็จบง่ายไปนะสิ....ก็ได้ ที่ทำไม่ใช่เพราะสงสารหรอกนะ แต่แค่ไม่อยากให้มึงเป็นผีเฝ้าบ้านกูแค่นั้นแหละ ....

ร่างสูงเสยผมขึ้นไปด้านหลังอย่างลวกๆ​ ดวงตาเรียวมองไปยังร่างที่นอนเพ้อเพราะไข้สูงอย่างรำคาญ แล้วถึงไปเตรียมกะละมัง​ใส่น้ำและผ้าเช็ดตัวผืนเล็กมาเช็ดตัวเพื่อจะได้ลดไข้ให้ไอ้ตัวปัญหา​ที่นอนซมอยู่ใต้ผ้าห่ม...

การ​เช็ดตัวเป็นไปอย่างทุ​ลักทุเลแต่มันช่วยไม่ได้นี่ถ้าจะปล่อยให้อาการหนักกว่านี้คนที่ลำบากจะเป็นเขาเสียเอง... อย่ามาตายที่นี่นะ

"แม่..แม่...ฮึก'รัน'หนาวจังเลย...แม่กอดรันได้ไหมครับ"

ในความมืดอรันยังคงเพ้อเสียงแหบแห้ง ฟังแทบไม่ได้ศัพท์..มือเรียวปัดป่ายหาไออุ่นจากอ้อมกอดของแม่ที่แสนคิดถึง... และเขาก็ได้จับมืออุ่นของแม่รอยยิ้มน้อยๆประดับบนใบหน้าที่เริ่มมีสีสัน​ขึ้นมาบ้าง พยายาม​กอดกุมมือของแม่ไว้ให้แน่นที่สุดไม่ยอมปล่อย...อุ่นจัง..คิดถึงจังเลยครับ

"เห้ย...อะไรอีกวะเนี่ย...ปล่อยกู..."

คนที่เผลอหลับฟุบหน้าไปที่เตียงนอนตรงหน้า ก็ตื่นขึ้นในความมืดเพราะโดนบีบมือแน่นจากคนที่นอนเพ้อไม่รู้ความ จะสลัดออกก็แน่นเกินกว่าจะแกะมือออกได้

"ฮึกแม่...รันคิดถึงแม่กับพ่อนะครับ"

น้ำตายังคงไหลอาบแก้ม และมือร้อนยังไม่ยอมปล่อยออกจากมือที่กอดไว้เลย

ที่พึ่งในเวลานี้....ความอบอุ่นในตอนนี้ทำให้หัวใจที่หวาดกลัวและหนาวเหน็บรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยขึ้น.....

"ตัวก็เย็นขึ้นบ้างแล้วนิ่...ยังจะเพ้ออะไรอีกวะ "

เสียงสบทรำคาญ​ใจทาบมือไปที่แก้มและหน้าผากของร่างบางอีกครั้ง..อาการดีขึ้นจากตอนแรกอยู่มาก ถึงแม้จะยังเพ้ออยู่ก็ตามแต่ไข้ก็ลดลงไปมาก

เขาก็หายห่วง....ไม่สิเขาก็จะได้ไม่ต้องลำบากไงล่ะ...จะเป็นห่วงมันทำไม ลืมไปแล้วหรือไงว่ามันทำอะไรไว้.....

"เออลืมให้กินยานี่หว่า...กูว่าละ...เอ้าอ้าปากดีๆแล้วกินน้ำซะ... จะได้ไม่เป็นภาระกูทีหลัง จะต้องมาดูแลมึง"

ว่าเสร็จก็แกะยาแก้ไข้มาหนึ่งเม็ดยัดเข้าปากอิ่มที่ไม่รู้สึกตัว พยุงตัวขึ้นแล้วกรอกน้ำตามลงไป

"แคกๆ....อื้อออ "

หน้าสีแดงขึ้นเพราะสำลักน้ำ​ ที่ถูกป้อนอย่างเร็วเกินไป มือไม้พยายาม​ปัดป่ายไปทั่ว อย่างหาทางรอด ร่างสูงจึงจัดท่าทางให้คนไข้จำเป็น​นอนลงบนเตียงตามเดิม แล้วตัวเองก็ขึ้นไปนอนบนเตียงข้างๆ พร้อมปรับแอร์ให้อบอุ่นขึ้นจากเดิม และนอนหลับตามไปอย่างเหนื่อยจากการดูแลไอ้คนข้างๆนี่

แม้ว่าในบางครั้งอรันจะซุกตัวเข้าหาไออุ่นจากคนที่นอนข้างๆ แต่ก็โดนผลักออกเสียทุกที เพราะห้องที่อุ่นขึ้นทำให้จากคนที่ขี้ร้อนอยู่แล้ว นอนเหงื่อซึม ต้องถอดเสื้อนอนเหลือแต่กางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว...

ไอ้นี่ก็ช่างซุกช่างเบียดเหลือเกินนะมึง​ หึถ้าตื่นขึ้นมากูอยากจะรู้ว่ามึงจะทำยังไง​ ตอนกูเอาบอกไม่ยอม​ ทีตอนนี้กลับกอดไม่ปล่อย .....

...........

-มาร์ค-

โครกคราก กกก

"หือ ..อะไรตั้งแต่เช้าอีกวะเนี่ย....กูจะนอน เงียบๆดิ"

ผมต้องลืมตาตื่นอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งได้นอนไปไม่นานนี้ เพราะต้องดูแลคนป่วยติดเตียง หึ ไอ้เด็กที่ผมจับมันมานี่แหละครับ ผมพิจารณาจากรูปร่างหน้าตามัน ก็หน้าตาดี ใช้ได้ จัดว่าเป็นผู้ชายที่น่ารักคนนึงเลยล่ะ ถ้าไม่ติดว่าผมจะจับมันมาสั่งสอน

ที่มันมีส่วนทำให้ พี่ชายคนเดียวของผมต้องทนทุกข์เสียใจกับเรื่องที่มันและคนรักเก่าของพี่ทำไว้

ตาที่ดูแสนเศร้า อย่างกับว่ามันใช้ชีวิตมาแบบไม่มีความสุขเลยซะอย่างนั้น ดวงตาที่ใส แต่แววตานั้นก็ดูไม่เข้ากับวัยเลย เพราะมันดู ร่างกายก็ผอมดูไร้เรี่ยวแรง​ และตัวซีดขาวเหมือนขาดสารอาหารยังไงยังงั้น แต่ร่างนี้กลับดูสูงโปร่ง น่าจะสัก176ได้ละมั้ง

ไม่น่าเลย ทำไมต้องเป็นมึงวะเด็กน้อย....มึงไม่น่าทำเรื่องเหี้xๆพวกนั้นเลย​

"อึอ...อื้ออออฮึกๆ..."

เสียงสะอื้นที่ได้ยินตั้งแต่จับมันมา จนกระทั่งตอนนี้มันยังสะอื้นอยู่เลย กลัวกูขนาดนั้นเลยหรอ ก็ดี กลัวให้มากๆล่ะ

แต่...

"โว้ย!!!! เงียบ กูรำคาญ!! "

ผมตะคอกเสียงดังใส่ไอ้เด็กนี่ที่กอดผ้าห่มแล้วสะอื้นเสียงอู้​อี้ อยู่น้อยๆ ก็ตกใจและดูเหมือนจะกำผ้าห่มแน่นกว่าเดิม เพื่อกลั้นเสียงที่ทำผมรำคาญให้เงียบมากที่สุด

"ปะ...ปล่อยผม ...ไปเถอะ ครับ"

เสียงที่ดูไม่มีเรี่ยวแรง พยายามส่งเสียงออกมา ช่างดูน่าสงสาร ไม่สิน่าเวทนาต่างหากล่ะ หึรู้สึกสมเพชว่ะ​ ขอร้อง​กูเข้าไป...

"มึงยังไม่เลิกขอร้องให้กูปล่อยมึงอีกหรอ....ถ้ามึงพูดแบบนี้อีก กูจะเอาจนมึงร้องให้เสียงหายไปเลย​ ลุกขึ้นไม่ได้อีกเลยดีไหม? หึ"

มือเรียว จับดวงหน้าเล็กที่น้ำตายังไหลพราก จนตาแดงก่ำ ให้หันมาสบตาผม จ้องเข้าไปในแววตาแสนเศร้าของเด็กนี่ แต่ผมกลับเป็นคนหลบตาคู่นั้นก่อน เพราะ​

เหมือนผมจะใจอ่อนปล่อยมันไปจริงๆ อะไรจะน่าสงสารขนาดนั้นวะ

"แล้วคุณ จะทำอะไรกับผมอีก...คุณจะพอใจเมื่อไหร่ ถ้าไม่ปล่อยผม.............ก็ฆ่าผมเลยสิ...ผมไม่อยากอยู่แบบนี้ ฮึก ผมไม่ได้ทำผิดอะไรเลยนะ"

เสียงแหบพร่าพยายามพูดแม้ว่าจะสะอื้นน้อยๆ เขาไม่อยากอยู่แบบนี้ ถ้าจะทำแบบที่คนใจร้ายกระทำขืนใจเขาอีก ก็ฆ่าเขาให้ตายไปเลยไม่ดีกว่าหรือ

"กูจะทำอะไรกับมึงอะหรอ....อยู่ที่ว่ามึงทำตัวยังไง ถ้ามึงดื้อ กูก็จะทำโทษมึงไง แต่ถ้ามึงไม่อยากให้กูทำ ก็ทำตามสิ่งที่กูสั่งดีๆสิ ถ้ากูพอใจ หรือกูเบื่อ กูอาจจะปล่อยมึงไปก็ได้"

ผมลุกจากเตียงเพราะนอนต่อไม่หลับแล้ว จะเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ เพราะเหนียวตัวนอนก็ร้อนทั้งคืน ผมถอดเสื้อผ้าออกแล้วพันผ้าสี่เหลี่ยมไว้รอบเอวแบบหมิ่นเหม่แทน หันไปหาร่างบางก็หลบสายตาก้มหน้าไม่มองตอนผมถอดเสื้อผ้า

...หึ คงคิดถึงเรื่องที่ทำกันแน่ๆ น้ำตาเริ่มไหลลงมาอีกครั้งแล้ว รำคาญโว้ย ร้องไห้อยู่ได้

"คุณจะปล่อยผมจริงๆใช่ไหม?"

สีหน้ามันดูมีความหวังมากขึ้นเมื่อผมบอกว่าจะปล่อย?​ เด็กก็คือเด็กอยู่​วันยันค่ำ

"อือ....ถ้ามึงเชื่อฟังกูทุกอย่าง "

ผมเดินมาเชยคางมนที่ก้มหน้าก้มตาพูด ให้เงยหน้าสบตากันอีกครั้ง และผมเห็นแววตาวูบไหวที่มองกลับมา

ผมก็ทิ้งมันไว้ในห้องอย่างนั้นต่อไป ส่วนผมก็ไปอาบน้ำและ ทำธุรส่วนตัว ก่อนที่ผมจะเกิดความสงสารคนที่ไม่ควรได้รับความสงสารจากผมเลยด้วยซ้ำ

.....................................

"อ่ะ กินข้าวกินยาซะ?"

ผมยื่นกล่องข้าวผัด ยาและน้ำให้ แต่ครั้งนี้มันกลับรับไปอย่างว่าง่าย และกินข้าวจนหมดกล่องแล้วกินยาที่ผมให้ไว้

"ผมอยากเข้าห้องน้ำ คุณช่วยปลดโซ่ให้ผมได้ไหม? "

ร่างบางพูดขอ เสียงเบาๆที่ยังสั่นเคลือเพราะกลัวผมจะว่าละมั้ง

"หึ...ก็เข้าไปสิใครห้ามมึงล่ะ.."

ผมมองโซ่ที่ล่ามข้อเท้าน้อยๆไว้จนเริ่มมีรอยแดงช้ำเพราะถูกโซ่ถูไปมา แต่ก็ไม่ได้ปลดโซ่ออกตามคำขอ

"แต่มันปิดประตูไม่ได้"

" ก็ไม่ต้องปิด"

"แต่......."

"จะเข้าไหมห้องน้ำเนี้ย เรื่องมากเดี๋ยวไม่ต้องเข้า"

จากนั้นร่างที่มีแต่ร่องลอยช้ำทีแดงเป็นจ้ำๆทั่วตัวก็เดินลากโซ่เข้าห้องน้ำปิดประตูให้ได้มากที่สุด เพราะปิดประตู​ไม่ได้

ผมสั่งงานทางออนไลน์​ จะว่าไปก็ไม่ได้เข้าที่ทำงานมา สองวันแล้ว เพราะมาเฝ้าไอ้เด็กนี่แหละ

.......เพราะว่าที่นี่คือบ้านพักต่างจังหวัดของผมที่เพิ่งซื้อเมื่อเดือนก่อนนี้เอง ไม่มีใครรู้ว่าผมมีบ้านอยู่ที่นี่แต่ช่วงนี้งานผมเหมือนจะมีปัญหา ผมต้องกลับไปเคลียร์​กรุงเทพฯพรุ่งนี้....ผมจะให้ใครที่ไว้ใจได้มาดูแล ไอ้เด็กนี่ดี

........

เนื้อหายังไม่ปะติดปะต่อเท่าไหร่นะจ้ะ....ขอให้อ่านไปเรื่อยๆ จะเฉลยในเนื้อเรื่องในแต่ละตอน ตอนนี้มีชื่อนายเอกของเราปรากฏแล้ว

น้องชื่อ 'อรัน'หรือรันก็ได้ ชีวิตน้องไม่ดีนัก ใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวมาตลอดเพราะลุงแท้ๆของเขาได้โกงเอาทุกอย่างของพ่อแม่ไปหมด แถมยังทอดทิ้งเขาไว้ไม่ใยดี​  เป็นกำลังใจให้น้องรันด้วยทำไมเขียนให้ชีวิตน้องน่าสงสารขนาดนี้เนี่ย!!......

...-----...

ขอคำติชมในคอมเมนท์​เพื่อปรับปรุง​งานเขียนด้วยนะคะ​ ขอบคุณ​ค่า

...Lee​ ​wang​...

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 2

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!