ถึงจะบอกว่ารีบเร่งแต่ท่าทางของทุกคนก็ดูปกติเหมือนปฏิบัติกันเป็น กิจวัตร ไม่มีใครสนใจใคร ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง แม้เขาจะวิ่งออกมา จากตรอกแคบด้วยสภาพที่แปลกแยกจากคนอื่น แต่คนเหล่านั้นก็ทำเพียงมอง แล้วรีบทำในสิ่งที่ตนตั้งใจแค่นั้น
บรรยากาศช่างแตกต่างจากภาพความฝันอันสวยงามของเขา ชายหนุ่ม มั่นใจว่าโลกที่เขาเคยรู้จัก ต้องไม่ใช่แบบนี้
วี้ วอ วี้ วอ...
เสียงไซเรนดังลั่นเป็นสัญญาณเตือนของอะไรบางอย่าง บางอย่าง ที่เลวร้าย ชายหนุ่มหันไปมองทางต้นเสียง ก่อนจะรู้สึกถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป ผู้คนที่กำลังรีบเร่งอยู่ยิ่งรีบมากขึ้นไปอีก กลุ่มคนแตกฮือเหมือนเจ้าหนูพวกนั้น ไม่มีผิด หลายคนเพิ่งลงจากรถโดยสารที่หยุดให้บริการชั่วขณะก็มี บางคน ที่คล้ายจะคุมสติไม่ได้เลือกที่จะกรีดร้องและวิ่งหาที่หลบยังมุมต่างๆ แม้แต่ สุนัขยังถูกเจ้าของต้อนเข้าบ้าน ทุกคนล้วนหาจุดที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด แต่สำหรับชายหนุ่ม เขาไม่รู้ว่าเขาต้องทำอย่างไร จึงทำได้เพียงถอย กลับไปปากตรอกที่เพิ่งวิ่งออกมา เขาก็แค่ตั้งหลักเพื่อดูเหตุการณ์ที่เป็นไป ในโลกที่เขาไม่คุ้นเคย
เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ?
วี้ วอ วี้ วอ...
เสียงไซเรนยังคงดังต่อเนื่อง ก่อนจะมีรถแวนสีดำสนิทวิ่งเฉียดผ่าน แรงลมจากการเคลื่อนไหวของลูกล้อ พัดพาฝันให้ลอยคว้างเป็นวงเล็กๆ ก่อนสลายไปในอากาศ
ชายหนุ่มมองตาม
ก่อนรถแวนสีดำสนิทกันใหญ่ทั้งสามต้นจะจอดลงพร้อมกับชายฉกรรจ์ จุดสีดำยมเทามีผ้ารัดแขนสีเทาอ่อนจำนวนหลายคนออกมาจากรถ ใบหน้า ของพวกเขาจึงยังจริงจัง ในมือของทุกคนมีเป็นคนละกระบอก เป็นปืนยาวบ้าง ปืนสั้นบ้าง
สายตาของพวกเขาจับจ้องบางสิ่งไปโดยรอบ ชายหนุ่มรับรู้ได้ถึง
อำนาจของพวกเขาเหล่านั้นจึงลองกวาดตามองบ้าง เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งหลบมุมกอดเด็กตัวเล็กๆ ทั้งคู่สั่นไปทั้งตัว เธอคงกำลังกลับบ้านแล้วมาเจอเหตุการณ์นี้เสียก่อน ชายหนุ่มนึกแปลกใจ ที่ไม่มีใครคิดจะหาที่ให้เธอหลบ ได้แต่ปิดบ้านหายกันไปหมด กระทั่งผู้คน ที่มุดตัวหลบตามรอยต่างๆ ก็ไม่คิดจะโผล่หน้าออกมาดึงเธอเข้าไปหลบด้วย
สักคน
อีกด้านชายวัยสี่สิบ สติไม่ดีถือไม้หน้าสามพูดออกมาอย่างท้าทาย “มาสิ ไอ้พวกบ้า จะใช้ไม้ตีให้หัวแบะเลยคอยดู!
แต่คำพูดขึงขังของลุงคนนั้นช่างขัดแย้งกับท่าทางโดยสิ้นเชิง มือไม้ ของเขาสั่นไปด้วยความกลัวระคนตื่นเต้น
ชายหนุ่มไม่รู้ว่า "ไอ้พวกบ้า” ที่ลุงคนนั้นพูดหมายถึงใคร หรือจะเป็น ชายฉกรรจ์เหล่านี้ พวกมาเฟียอย่างนั้นหรือ? เขาไม่รู้อะไรสักอย่าง อีกด้านเด็กสาวในชุดนักเรียนนั่งยองๆ กอดเขา กำจี้ที่สร้อยคอไว้แน่น
ตรงมุมกำแพง เธอคงไม่รู้ว่าตรงนั้นมันไม่ปลอดภัยมากพอ แล้วยังมีเด็กชายที่กำลังเคาะประตูบ้านหลังหนึ่งอยู่ ซึ่งไม่ว่าจะเคาะ
เท่าไรก็ไม่มีทีท่าว่าเจ้าของบ้านจะเปิดให้เขาเข้าไปเลย หลายคนกระจายไปให้ห่างจากรัศมีที่กลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านั้นจอดรถ
ราวกับนี่คือสงครามที่น่ากลัวที่สุด
เปิดทางให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยครับ!หนึ่งในชายฉกรรจ์ตะโกนขึ้นพร้อมโบกมือกวาดให้ทุกคนหลบ
“กรุณาออกจากบริเวณนี้ให้เร็วที่สุด มิเช่นนั้นจะไม่มีการรับรอง ความปลอดภัย! เปิดทางให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วย!!
เจ้าหน้าที่อย่างนั้นเหรอ?
ปัง!
ทันทีที่ชายหนุ่มคิด เสียงปืนก็ดังเปิดฉาก พวกชายฉกรรจ์ เริ่ม เคลื่อนไหว พวกเขายิงไปยังตรอกหนึ่งซึ่งชายหนุ่มผมยุ่งเหยิงไม่มีทางรู้ ว่ามีอะไรอยู่ เขาจ้องมองด้วยความสงสัย แต่ทันทีที่กระสุนสาดเข้าไปในนั้น คนที่หลบอยู่ตามมุมต่างๆ ก็แตกฮือเหมือนรับรู้แล้วว่าจุดที่มี “ความน่ากลัว อยู่ คือจุดไหน
ชายหนุ่มเริ่มเห็นการเคลื่อนไหวหนึ่งเกิดขึ้น กลุ่มคนจำนวนหนึ่ง เดินด้วยท่าทางโอนเอนออกมาจากตรอกซอยที่พวกกลุ่มชายอาวุธครบมือ สาดกระสุนเข้าไป
คนเหล่านั้นรับรู้ถึงการบุกรุก และกำลังออกมาต่อสู้
นี่มัน....อะไรกันนะ?
แน่นอนว่าเขาไม่มีทางเข้าใจสถานการณ์นี้ได้เหมือนกับผู้คนในเมืองนี้ ชายหนุ่มเพ่งสายตามองพวกคนเหล่านั้นก่อนพบว่าพวกเขาแตกต่าง จากคนทั่วๆ ไปเล็กน้อย ตัวซีดเผือด มีแผลเปื่อยส่งกลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้ง บางคนไม่มีแขน บางคนไม่มีตา บางคนหน้าแหว่ง บางคนมีแผลเหวอะหวะ
ที่ท้อง ที่ไหล่ ที่ขา แม้บางคนจะดูสมประกอบแต่เพราะผิวหนังที่แห้งและเริ่ม หลุดร่อนก็ทำให้แยกแยะได้ว่าพวกเขาแตกต่าง ดูแล้วเหมือนไม่มีชีวิต เหมือน ศพที่เดินได้
กลุ่มคนประหลาดเหล่านั้นเดินเข้าหาลูกปืนอย่างไร้สติ
...ปัง! ปัง! ปัง!.......
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments