....ณ.สนามบินเมืองไคโร ปีคริสต์ศักราช 2022
“ฮ่าววว ถึงแล้ว หลับสบายจัง” ฉันพูดพลางบิดขี้เกียจ
“ตื่นได้สักที คุณทำผมแขนชาไปครึ่งซีกแล้วนะ” ศาสตราจารย์เฮดริกพูดเสียงนิ่งทำเอาฉันตกใจ
~ ลืมไปเลยว่าเรานั่งข้างเขานี่นา~
" ขอโทษค่ะ" ฉันรีบขอโทษ
~ ก็คนมันง่วงนี่นา~
ตลอดการเดินทางจากลอนดอนมายังกรุงไคโร ใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมง ฉันได้งีบหลับไปบ้างเล็กน้อย เพราะว่าเมื่อคืนฉันตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ จึงเช็คความเรียบร้อยของตัวเองตลอดทั้งคืน
"ไฮ....ดาร์ลิ้ง ฉันมารอคุณตั้งหลายชั่วโมงน่ะ" เสียงแหลมเล็กของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น พลางวิ่งมาเกาะที่แขนของศาสตราจารย์เฮดริก เมื่อพวกเราเดินออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้า
หญิงสาวเป็นผู้หญิงที่สวยตาคมดั่งเหยี่ยว ผิวสีน้ำผึ้งนวลตัดกับผมยาวตรงสลวยสีดำขลิบ รูปร่างยั่วยวนชวนหลงใหล
"แฟนเขาหรอ?" เดซี่กระซิบเบาๆกับฉัน
~ใช่ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน~
"นี่..อเนปเป ลูกสาวเจ้าของโฮเทล ที่พักก่อนที่เราจะออกเดินทาง" ศาสจราจารบ์เฮดริกแนะนำ ก่อนที่จะดึงมือของเธอออกจากแขนของเขา
" เดี๋ยวผมจะแวะตลาดข่าน อัล-คาลิลี ก่อน คุณไปกับผม" ศาสตราจารย์พูดพลางดึงมือของฉันให้เดินตามไป แต่อเนปเปยังคงเดินตาม
ตลาดข่าน อัล-คาลิลี เป็นตลาดโบราณอายุร่วม 600 ปี ที่นี่มีสินค้ามากมายไม่ว่าจะเครื่องเทศเครื่องเงิน ทอง เสื้อผ้า และสินค้าโบราณ
......................................................
ในตรอกที่มืดและเล็กๆ ห่างไกลผู้คน มีร้านขายของเก่า ที่ดูซอมซอ มันเหมาะแก่การเป็นห้องเก็บของเสียมากกว่า ภายในร้านมืดสนิทมีแสงแดดเล็ดลอดเข้ามาเพียงเล็กน้อย ในร้านประดับด้วยพรมลวดลายแปลกตา เก่าๆ ,รูปปั้น เทพเจ้าอียิปต์ , แจกัน ,หม้อ เครื่องประดับโบราณ , หนังสือเก่าๆ และอื่นๆอีกมากมาย วางระเกะระกะ เต็มไปด้วยฝุ่นเกรอะ
กรุ๊ง..กริ๊ง.. เสียงระฆังด้านหน้าประตูดังขึ้น
มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นเขามีดวงตาที่ปูนโตแข็งกร้าว แววตาดุดัน จมูกงุ้มงอ ใบหน้าคมคายตกแต่งไปด้วยหนวดเคราสีดำที่ถูกเล็มให้เป็นทรง ช่าง เข้ากันกับผมสีดำหยิกงอ รูปร่างของเขาสูงใหญ่ เขาใส่ชุดสีดำ มือของเขาถือไม้เท้าเล็กๆสีดำสลักรูปงูและกระเป๋าเหล็กสีเงินใบใหญ่ เดินไปรอบๆร้านเหมือนตามหาอะไรสักอย่าง
แต่แล้วสายตาของเขาต้องสะดุดกับชายชราผิวขาว ไปหน้ามนกลมหนวดขาวหรอมแหรมนั่งดูดบารากุควันโขมงที่พื้นมุมห้องยังไม่ใส่ใจผู้มาเยือน
" หาอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า" ชายชราพูดด้วยนะเสียงที่แหบ หลังจากที่มองดูชายหนุ่มเดินไปมาสักพัก
" ดวงตาแห่งรา" ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงที่นิ่ง และต่ำ
"นั่นมันของวิเศษเลยนะ" ชายชราพูด
"คุณมีไหมล่ะ ผมอยากได้"
" คุณก็รู้ว่าผมมี คุณจะยอมจ่ายราคางามๆ สำหรับสิ่งชิ้นนี้ไหม ราคาส่งผลต่อการต่อรองอย่างจริงจังมากนะ" ชายชราพูดอย่างเจ้าเล่ห์
" ผมก็เป็นคนจริงจังมาก"
" คุณเป็นใคร??"
ชายหนุ่มไม่ตอบ แต่หยิบกระดาษใบเล็กใบหนึ่ง ออกมาจากกระเป๋าเสื้อให้ชายชรา
"คุณอันฝู ที่โด่งดังนี่เอง" ชายชราตอบอย่างทีจริงทีเล่น พลางลุกขึ้นยืน
" ตามผมมา" ชายชรากวักมือเรียก
ชายหนุ่มเดินตามเข้าไปในมุมแคบๆ หลังรูปปั้นเทพเซ็ธขนาดเท่าคนจริง หลังรูปปั้นมีตู้เล็กๆใบหนึ่ง
" คุณรู้ตำนานดวงตาแห่งราหรือเปล่า" ชายชราถาม
" รู้สิ...ดวงตาแห่งราถูกส่งต่อมายังบุตรแห่งเซ็ธ แต่แล้วมันได้หายไปโดยหัวขโมยที่เคยเป็นทาสรับใช้ในวิหารอาบูซิมเบล"
ชายชราหัวเราะฟันสีเหลือง ที่เหยินยื่นออกมา
" ดวงตาแห่งรา มีตำนานเกี่ยวข้องกับวิหารอาบูซิมเบล และบุตรแห่งเซ็ธ"
" ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าคือของแท้"
ชายชราได้เปิดตู้ไม้สีดำเก่าๆ
"หึๆๆ ผมจะแน่ใจได้ไงว่าคุณคู่ควรกับมัน"
เขาว่าชายหนุ่มไม่ตอบ แต่ หยิบกระเป๋าถือขึ้นมาวางบนโต๊ะ แล้วเปิดมันออกมาทำให้มองเห็นด้านในมีเงินจำนวนมหาศาลอัดแน่นอยู่ในนั้น
ชายชราเห็นแล้ว แสะยิ้มอย่างน่าเกลียด จากนั้นจึงหันหลังไปเปิดตู้ มีขนาดเดียวกันชายหนุ่มได้หยิบไม้เท้าที่วางอยู่ข้างๆกระเป๋าออกมาแล้วซ่อนมันไว้ข้างหลัง
" มันคือของที่มีค่า สืบทอดต่อมา ตามตำนาน มีแต่คนออกตามหามัน ประธานาธิบดีแฟลงกลิน(FDR)ก็เคยตามหา สิ่งนี้มันลอกเรียนได้ยาก เป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก คุณอันฝู แล้วคุณล่ะ" ชายชราพูด
" ขอดูของจริงก่อน" อันฝูตอบกลับทันที
ชายชราหันไปหยิบกล่องไม้เก่าๆจากในตู้ออกมา
" เป็นงานศิลปะชิ้นเอก ฮิตเลอร์เคยส่งคนออกตามหาดวงตาแห่งรา แต่มันถูกซ่อนจนถึงทุกวันนี้" ชายชรายังคุยโวต่อไป แล้วหยิบสร้อยรูปดวงตาของเทพราออกมาจากกล่อง
" คุณคงต้องจ่ายเพิ่มอีก 2 เท่าผมรู้ว่าคุณต้องตกลง" ชายชรายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
" ผมคิดราคาไว้ในหัวแล้ว" ชายหนุ่มพูด ปางหยิบไม้เท้าหัวสลักเป็นรูปงูขึ้นมา
" หึ หึ หึ คุณล้อผมเล่นหรือเปล่า" ชายชรายังคงหัวเราะ
อันฝูยื่นไม้เท้าออกไปข้างหน้า ปลาย ของไม้เท้า จ่ออยู่ตรงคอ หอกแหลมพุ่งออกจากปลายไม้เท้าแทงทะลุคอของชายชรา เลือดสีแดงสดพุ่งออกมาดังน้ำพุ ชายชราเบิกตากว้างอ้าปากค้าง แต่ไม่มีเสียงใดๆจะรอดออกจากปากของเขา
" แล้วนี่ยังเล่นอยู่ไหม ผม บอกแล้วผมเป็นคนจริงจัง" อันฝูดึงไม้เท้าออกจากลำคอ แล้วเดินจากไป พร้อมกล่องไม้ ที่บรรจุสร้อยดวงตาแห่งรา และกระเป๋าเงิน ยังเงียบๆ
............................................................
... 5 นาทีต่อมา ...
ศาสตราจารย์เฮดริก อมาร่า และอเนปเป เดินทางมาถึงร้าน
" คุณบาดรู คุณบาดรู คุณบาดรู" ศาสตราจารย์เฮดริกตะโกน และเดินตามหาทั่วๆร้าน
กรี๊ดดดดดดดดดด ฉันตกใจร้องอย่างสุดเสียง
ศาสตราจารย์เฮดริกรีบวิ่งมาจับแขนของฉัน ฉันตกใจโผล่ซบหน้าอกพลางร้องไห้ หัวใจของฉันแทบหยุดเต้น
ภาพตรงหน้ามีชายชรานอนตระแคง เลือดสีแดงสดกระจายอยู่ทั่วพื้น คอของเขามีรอยแทงด้วยของมีคม ลมหายใจของเขาโรยรา
ชายชรา หยิบกระดาษเก่าๆไปหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อที่เปื้อนเลือด พยายามจะพูดบางอย่างเสียงที่เล็ดลอดออกมา มันช่างเบาเหลือเกิน
"ตามหาวิหารเซ็ธ ตามหาหอกแห่งเซ็ธ แล้วจะเจอ..." ชายชราพูด แล้วก็จากไป
.....................................................
บทส่งท้าย
แสงตะวันจะลับขอบฟ้า กองคาราวานอูฐ เดินทางมาถึงวิหารอาบูซิมเบล
"พวกเราพักที่นี้กันสักคืนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยเดินทางต่อ"
ศาสตราจารย์เฮนรี่พูดพลางเอามือเช็ดเหงื่อที่หยดลงมา.....
...เขาตั้งเต็นท์อยู่หน้าวิหาร ในค่ำคืนที่เงียบสงบได้ยินเพียงเสียงลมเบาๆที่พัดผ่าน มันช่างเงียบผิดปกติ
ปัง ปัง ปัง เสียงปืนดังขึ้น
ศาสตราจารย์เฮนรี่รีบลุกขึ้นจากที่นอน มองออกไปด้านนอกมีกลุ่มโจรกลุ่มหนึ่ง ถืออาวุธครบมือ พวกเขากระชากนักโบราณคดีคนหนึ่งออกมาจากเต็นท์ ศาสตราจารย์เฮนรี่รีบวิ่งเข้าไปซ่อนในวิหารอาบูซิมเบล โดยหลบอยู่ด้านในเสาขนาดมหึมา แต่แล้วบังเอิญกดปุ่มบริเวณเสา ทำให้ทะลุเข้าไปอีกห้องหนึ่ง
ในห้องนั้นเป็นห้องเล็กๆมีรูปปั้นของเทพเรายืนตระหงาน มีแท่นบูชาอยู่กลางห้อง มีชายวัยกลางคนหนึ่งรูปร่างผอมแห้ง ผิวแห้งสาก มีสีหน้าที่ตกใจ ข้างๆเขามีชายคนหนึ่งนอนนิ่ง
"ท่านนักบวช ล้มศีรษะกระแทก ท่าน ท่าน ท่านตายแล้ว"ชายวัยกลางคนพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือ
ศาสตราจารย์รีบเข้าไปดูแต่แล้วนักบวชได้สิ้นชีวิตแล้วจริงๆ
เมื่อฟ้าสาง...ชายคนนั้นขอติดตามเป็นลูกหาบในคณะสำรวจ เวลาผ่านไปลูกหาบคนดังกล่าวนำสร้อยเส้นหนึ่งขายในราคา 30,000 ปอนด์อียิป ให้ศาสตราจารย์เฮนรี่โดยบอกว่า นี่คือ ดวงตาแห่งรา ของที่ทรงคุณค่าต่อการครอบครอง
........................................................
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments