ก๊อกๆ ก๊อกๆ ก๊อกๆ จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นลู่ชิงชิงที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงนอนก็รีบลุกขึ้นไปที่ประตูทันที "ใครคะ!" แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับขงจากคนที่อยู่ข้างนอกเลย ลู่ชิงชิงคิดว่าคงเป็นแม่ของเธอที่มาเคาะประตูเรียกเธอลงไปกินข้าว เธอจึงค่อยๆเปิดประตูช้าแต่คนที่อยู่หลังประตูพอเห็นว่าคนในห้องะปิดประตูแล้วเขาจึงผลักประตูเข้าไปในห้องทันที
"ทำอะไรของนายเนี้ย!" ลู่ชิงชิงตกใจมากแต่ก็กลัวว่าแม่ของเธอจะได้ยิน "ทำไมตื่นแล้วถึงไม่ปลุกฉัน? ทำไมหนีกลับมาก่อน?" ลู่ชิงชิงมองหลิงเยว่อยู่พักนึงก่อนจะผลักเขาออกให้ห่างจากเธอ "หลิงเยว่เรื่องนี้เราค่อยคุยกันนะ ตอนนี้แม่กับคุณลุงก็อยู่ที่บ้าน ถ้าพวกเขามาเห็นหรือได้ยินคงไม่ดีแน้" หลิงเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปหาลู่ชิงชิง แต่ลู่ชิงชิงเองพอเห็นว่าหลิงเยว่ดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักเธอจึงค่อยๆคอยหลังออกจากเขา
"เธอกลัวฉันเหรอ!? หรือเพราะเรื่องเมื่อคืน ทำไม? ฉันทำอะไรผิดไปรึไง เมื่อคืนเธอเป็นคนเริ่มก่อนเองแท้ๆ อย่าบอกน่ะ...ว่าเธอจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้?" ลู่ชิงชิงแสดงสีหน้าสับสนอย่าชัดเจน เธอไม่เข้าใจว่าเมื่อคืนทำไมเธอถึงทำเรื่องแบบนั้นกับพี่ชายตัวเองไปได้ ถึงจะไม่ใช่พี่แท้ๆก็เถอะ แต่แม่ของเธอและพ่อของเขาก็แต่งานจดทะเบียนกันตามกฎหมายเพราะฉะนั้นเขาและเธอก็คือพี่น้องกัน
" ฉัน...ฉัน...ฉันว่าเราอย่าพึ่งคุยเรื่องนี้ตอนนี้เลยนะ เอาไว้คุยกันว่าอื่นเถอะ ถ้าพวกท่านมาได้ยินเขา มันจะเป็นเรื่องเอาได้นะ ฉันว่าตอนนี้นายออกไปก่อนเถอะ ถ้าพวกท่านไม่อยู่เราค่อยมาคุยกันก็ได้ " หลิงเยว่มองหน้าลู่ชิงชิงเขามองเห็นสีหน้าที่กังวลใจของเธอไม่ชัดเจน หลิงเยว่ไม่อยากทำให้เธออึดอัด เขาจึงลูบหัวเธอเบาๆ ลู่ชิงชิงเองก็ตกใจเล็กน้อยที่หลิงเยว่มาลูบหัวเธอแบบนี้ หลิงเยว่เห็นลู่ชิงชิงดูตกใจเขาเองก็เอามือออกทันที ก่อนจะเปิดประตูห้องแล้วเดินกลับห้องไป
พอหลิงเยว่ออกไปลู่ชิงชิงก็กังวลใจมาเหนียนก เธอไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ ไม่รู้ว่าจะบอกแม่ของเธอยังไง เธอเลยคิดที่จะโทรไปปรึกษาเพื่อนสนิทของเธอ ลู่ชิงชิงเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่หัวเตียงทันทีแล้วเธอรอสายไม่นานนักปลายสายก็รับโทรศัพท์ของเธออย่างรวดเร็ว "ฮัลโหล...ชิงชิง" ลู่ชิงชิงลังเลที่จะพูดนิดๆเพราะเธอกลัวว่าถ้าพูดไปแล้วเพื่อนจะมองเธอไม่ดี แต่ถงเหนียนคือเพื่อนที่เธอคบมาจะ20ปีแล้ว เธออยากพูดและปรึกษาใครสักคนเธอสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูดออกมา "ฮัลโหล ถงเหนียนคือว่าฉันมีอะไรจะ...จะปรึกษาแกหน่อย แกสะดวกคุยรึเปล่า" ถงเหนียนงุนงงนิดหน่อยปกติจะเป็นเธอที่เวลามีเรื่องแล้วจะโทรหาลู่ชิงชิง แต่ครั้งนี้ลู่ชิงชิงกลับเป็นฝ่ายโทรมาปรึกษานั้นแสดงว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่มากแน้ๆ "มีอะไรรึเปล่า น้ำเสียงแกดูไม่ดีเลย ให้ฉันไปหาแกมั้ย?" จู่ๆลู่ชิงชิงก็นึกอะไรขึ้นมาได้พอดี "ถงเหนียน แกอยู่บ้านหรืออพาร์ทเมนท์เหรอ?" ถงเหนียนสงสัยนิดๆว่าลู่ชิงชิงถามทำไมเพราะเธอนั้นอยู่ที่บ้าน แต่ก็กลัวว่าลู่ชิงชิงจะมีเรื่องด่วนเธอเลยตอบไปว่าอยู่อพาร์ทเมนท์ "พอดีฉันอยู่อพาร์ทเมนท์อ่ะแก แกมีอะไรรึเปล่า จะมาหาฉันมั้ยหรือให้ฉันไปหาแกดี" ลู่ชิงชิงเองตอนนี้ก็ยังไม่อยากเจอหน้าหลิงเยว่เธอเลยตัดสินใจจะไปพักอยู่อพาร์ทเมนท์ของถงเหนียนสักพัก "ฉันไปหาแกแล้วกัน ฉันขอไปค้างที่นั้นสัก2-3วันได้มั้ย" ถงเหนียนรีบจงตอบกลับไปทันที "ได้สิ! แกจะมาพักกี่วันก็ได้ " ลู่ชิงชิงยิ้มออกมาทันทีเพราะเธอดีใจที่จะได้ไม่ต้องอยู่แบบอึดอัดใจแบบนี้ "งั้นเดี๋ยวฉันจะรีบออกไปนะ"
ลู่ชิงชิงวางสายโทรศัพท์แล้วรีบไปหยิบกระเป๋าสะพายมาทันทีแล้วรีบเก็บเสื้อผ้าและของจำเป็นใส่กระเป๋า พอเธอเก็บของเสร็จแล้วก็ค่อยๆเปิดประตูห้องแล้วมองไปที่ทางเดินว่าหลิงเยว่อยู่รึเปล่า เมื่อเธอเห็นว่าไม่มีคนอยู่เธอค่อยเดินออกมาจากห้องอย่างเบาๆ ก่อนจะรีบเดินลงบันไดลงไปแต่ก็ดั้นไปเจอแม่เธอเข้าพอดี "เออออ...แม่คะ พอดีหนูจะไปค้างบ้านถงเหนียนนะคะ เดี๋ยว2-3วันหนูจะกลับ" แม่ของเธอทำสีหน้าไม่พอใจ "ตอนนี้แกเรียนจบแล้ว แล้วเรื่องงานที่บริษัทล่ะ พอเรียนจบก็เอาแต่เที่ยวเล่น ตอนนี้แกโตแล้วนะ ถ้าไม่ไปเรียนต่อก็มาทำงานที่บริษัท" ไม่ทันที่อ้ายชิงจะพูดจบ ลู่ชิงชิงก็พูดตัดบทซะก่อน "แม่คะ หนูไปก่อนแล้วกันนะคะ เรื่องอื่นรอหนูกลับมาค่อยพูดกันนะคะ" ลู่ชิงชิงพูดจบก็รีบเดินออกไปจากบ้านทันที
หลิงเยว่เองในระหว่างที่ได้ยินสองแม่ลูกทะเลาะกันเขาก็รีบออกมาจากห้องทันที แต่ก็ไม่ทันเพราะลู่ชิงชิงได้ออกจากบ้านไปก่อนแล้ว หลิงเยว่ตัดสินใจว่าจะตามลู่ชิงชิงออกไป แต่ว่าเขาถูกพ่อของเขาเรียกเอาไว้ซะก่อน "หลิงเยว่! นั้นแกจะออกไปไหนอีก มานี้! มาคุยกับฉันหน่อย" หลิงเยว่ทำสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็ไม่อยากขัด เขาเดินไปนั่งที่โซฟาใกล้ๆตัวที่พ่อเขานั่งอยู่ "พ่อมีอะไรจะพูดก็รีบพูดมา ผมมีธุระ"
"แกเนี้ยนะมีธุระ! ตอนนี้แกเรียนจบมาแล้ว ฉันอยากให้แกเข้าไปทำงานที่บริษัท ในฐานะรองประธานฉันจะให้ชิงชิงเป็นผู้ช่วยแก แต่แกห้ามมารักแกน้องเด็ดขาด ถ้าแกรังแกน้องเหมือนเมื่อก่อนฉันจะให้แกไปอยู่กับแม่แก" หลิงเยว่ไม่พอใจที่พอของเขาพูดถึงแม่ของเขา หลิงเยว่ลุกขึ้นอย่างไม่พอใจ " งานในบริษัทผมจะไปทำ แต่พ่อไม่มีสิทธิ์มาเอ่ยถึงแม่!" หลิงเยว่พูดจบก็เดินออกจากบ้านไปทันที เขาเปิดประตูรถแล้วเข้ามานั่งในรถก่อนจะสงบสติอารมณ์ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาลู่ชิงชิง แต่ลู่ชิงชิงกลับปิดเครื่อง "อะไรของเธอเนี่ย ทำไมต้องปิดเครื่องด้วย" เขาพยายามกดโทรไปหาเธอหลายครั้ง จนเขาตัดใจโทรไปหาเพื่อนๆของลู่ชิงชิง แต่ทุกคนกลับตอบว่าไม่ได้คุยกับเธอเลย หลิงเยว่เขาดูไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เขาเลยกลับไปที่อพาร์ทเมนท์ของตัวเอง
ลู่ชิงชิงได้มาหน้าห้องของถงเหนียนเธอเคาะประตูเรียกถงเหนียนอยู่สักพัก พอถงเหนียนเปิดประตูห้องลู่ชิงชิงก็โผลเข้ากอดถงเหนียนทันที ถงเหนียนตกใจมากปกติลู่ชิงชิงไม่ใช่คนอ่อนแอขนาดนี้เลย ต่อให้ทะเลาะกับที่บ้านหนักแค่ไหนเธอก็ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ถงเหนียนรีบพาลู่ชิงชิงเข้ามาในห้องแล้วพอเธอไปนั่งที่โซฟา "แกเป็นอะไรรึเปล่าชิงชิง แกมีเรื่องอะไรบอกฉันได้นะ" ลู่ชิงชิงกอดถงเหนียนเอาไว้แน่นเธอร้องไห้ออกมาน้ำตาที่ไหลออกมาไม่มีว่าว่าจะหยุดง่ายๆถงเหนียนทำได้แค่กอดและปลอบใจเธอ เวลาล่วงเลยไปจนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ลู่ชิงชิงก็ค่อยสงบลงบ้างแล้ว ลู่ชิงชิงเลยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นระหว่างเธอและหลิงเยว่ "อะไรน่ะ!! " ถงเหนียนอุทานออกมาด้วยความตกลงแต่ก็เข้าใจ ที่ลู่ชิงชิงเสียใจไม่ใช่เพราะสูญเสียความบริสุทธิ์ไปเพราะเธอก็ไม่ได้โทษใครเพราะลู่ชิงชิงเองเธอก็มีส่วนผิดที่ดื่มมากจนเกินไป แต่ที่เธอเสียใจเป็นเพราะว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพี่ชายเธอ ถึงจะไม่ใช่พี่ชายแท้ๆแต่คุณลุงก็มีพระคุณต่อเธอ ความรู้สึกของลู่ชิงชิงตอนนี้เหมือนเธอกำลังหักหลังความรักและความเชื่อใจต่อผู้มีพระคุณ "ชิงชิง แกไปเรียนต่อกับฉันที่ฝรั่งเศสดีมั้ย หนีเรื่องราวพวกนี้ไปสักพัก" ลู่ชิงชิงคิดอยู่สักพักนึง แต่นี้ก็เป็นทางออกที่ดี
"ได้สิ ฉันก็อยากไปเรียนต่อเหมือนกัน"
"ไปวันไหนดีแก " ถงเหนียนคิดว่าการลู่ชิงชิงออกไปจากสถานการณ์นี้อาจจะดีกับเธอมากกว่า
" อาทิตย์หน้า ฉันได้ทุนที่โน้น ตอนแรกฉันกะว่าจะไม่ไปเพราะอาการป่วยของแม่ แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว "
"ได้! ถ้างั้นฉันจะไปพร้อมแก" พวกเขาทั้งสองคนยิ้มให้กัน ถงเหนียนก็นั่งปลอบใจเธอต่อ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 3
Comments