พรหมลิขิต

        พอโกสต์เงยหน้าและจ้องไปที่หน้าของเธอแล้ว เขาก็รู้สึกได้ว่าสายตาของเธอนั้น มันช่างน่าหลงใหลและเหมือนกับว่าจะจมอยู่ในภวังค์ราวกับโดนสะกดจิต

        “เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” เด็กสาวถาม เนื่องจากท่าทีของโกสต์นั้นไม่ขยับเขยื้อนและไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองแม้แต่นิดเดียว

        “ป…เปล่าหนิ เชิญเลยตามสบาย”

        “ขอบคุณค่ะ”

        หลังจากเด็กสาวกล่าวขอบคุณ เธอก็ได้มานั่งข้างๆตัวของโกสต์ แต่สาเหตุที่เด็กสาวคนนี้มานั่งข้างๆนั้นมันไม่ใช่เรื่องดีอย่างพวกแอบชอบรุ่นพี่ แต่ประโยคที่เธอกล่าวขึ้นหลังจากนั่งแล้วก็คือ…

        “รู้สึกยังไงบ้างล่ะ? นายน่ะ ตอนที่เดินสวนทางกับฉันเมื่อตอนนั้นแล้ว มันรู้สึกยังไงบ้างล่ะ?” เธอใช้สายตาของเธอนั้นเหล่ซ้ายเพื่อจ้องโกสต์ สายตานั้นดูดุดันและอันตราย

        (ยายนี่มันพูดอะไรของมันกันน่ะ! แล้วรู้ได้ยังไงว่าเรามีความรู้สึกอย่างนั้นล่ะ? ไม่สิ อาจจะเป็นแค่พวกหลงตัวเองก็เป็นได้)

        โกสต์คิดพลางบ่นในใจ เขาอยากจะถอนคำพูดในใจของเขาเมื่อ ‘ตอนนั้น’ (ที่บอกว่าน่าหลงใหล) เสียจริงๆ

        “หา? ก็ไม่เห็นจะรู้สึกอะไ–”

        “แรงกดดัน นายรู้สึกถึงแรงกดดันนี่ใช่ไหม?”

        โกสต์โดนพูดตัดบท และเธอก็เข้ามาใกล้ๆเขาเรื่อยๆ จนหน้าผากแทบจะติดกัน หลายๆคนอาจจะต้องมีเขินบ้าง แต่ไม่ใช่กับโกสต์ เพราะดูก็รู้แล้วว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่สายแนวรักโรแมนติก

        สายตาของเธอน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก ทำให้โกสต์ต้องลุกขึ้นหนีไปที่อื่น แล้วปล่อยให้เธอนั่งอยู่ตรงนั้นแต่เพียงผู้เดียว

        (เจ้านี่ล่ะใช่แน่ๆ ไม่ผิดแน่นอน เจ้านี่น่ะ…เป็นผู้ถือครองอาวุธโบราณแห่งดินแดนมนตรา) เด็กสาวคิด พร้อมทำสีหน้าที่นิ่งเฉยดูไร้อารมณ์ความรู้สึก แต่กลับน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้

ณ เวลา18:00นาฬิกา แถวริมน้ำหลังโรงเรียน

        (เฮ้อ เป็นการเรียนวันแรกที่ใช้พลังงานเยอะน่าดูเลย) โกสต์เดินบ่นในใจ

        ทางด้านหลังโรงเรียนจะมีประตูด้านหลังเอาไว้อยู่ โดยส่วนมากนักเรียนจะไม่ค่อยใช้ทางนี้กัน เพราะมันทั้งเปลี่ยว น่ากลัวและอันตราย แค่เพียงจินตนาการว่าจะต้องเดินกลับทางนั้นก็รู้สึกเย็นสันหลังวาบขึ้นมาแล้ว

        และพอเดินไปเรื่อยๆก็จะเห็นทางยาว เป็นทางริมน้ำ โดยปกติก็จะไม่ค่อยมีคนเดินผ่านทางนี้สักเท่าไหร่ เพราะส่สนมากก็จะเป็นพวกคู่รัก แล้วก็พวกโดดเดี่ยว

        คนจำพวกนี้(โดดเดี่ยว)ภายนอกจะดูน่ากลัว ดูไร้อารมณ์แต่บางคน ภายในใจจริงๆอาจจะอ่อนแอมากเลยก็ได้ ยิ่งถ้าโดนพูดจารุนแรงใส่ จะหันหน้าและวิ่งหนีทันที แต่เรื่องนี้เอาไว้แค่นี้ก่อน

        ทางริมน้ำนี้เป็นทั้งทางกลับบ้านและทางเข้าโรงเรียนของโกสต์ โดยปกติก็จะเป็นอย่างที่กล่าวไปเมื่อข้างต้น แต่ทว่าวันนี้กลับไม่มีแม้แต่สักคนเดียว

        โกสต์รู้สึกประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ตัวเขานั้นเองก็คิดว่าดีแล้ว เพราะ ณ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบอย่สงแท้จริง มีเสียงของลมพัดผ่านมาอย่างบางเบา พร้อมกับเสียงใบไม้ไหวไปกับสายลม

        (เด็กผู้หญิงคนนั้น…) ไม่รู้อะไรทำให้โกสต์ชุดคิดเรื่องของเด็กสาวคนนั้น

        “เดินคนเดียวเหงาน่าดูเลยนะคะ” มีเสียงของหญิงสาวโผล่มาจากด้านหลังของโกสต์ น้ำเสียงของเธอนั้นดูเยือกเย็น เย็นชาและไร้อารมณ์

        โกสต์รีบหันมาดูที่มาของเสียงทันควัน เขาพบกับหญิงสาวสวมชุดเดรสสีดำ สวมหมวกรูปแบบ (Panama) สีดำ หน้าและดวงตาไร้อารมณ์ความรู้สึก ถึงแม้จะดูน่ากลัว แต่ใบหน้านั้นมันก็ช่างน่าหลงใหลเช่นเดียวกัน

        “น…นี่เธอเป็นใคร?”

        (ไม่สิ สิ่งแรกที่ควรถามคือเธอมาอยู่ข้างหลังเราตั้งแต่เมื่อไหร่? เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะเดินตามมาโดยที่เราไม่ได้ยินสักก้าวนึง) 

        “ดิฉันคือตัวแทนของมาตุภูมิของเรา เพื่อที่จะนำคุณกลับบ้านเกิดที่แท้จริง ดังนั้นฉันที่เป็นตัวแทน จึงมีความจำเป็นต้องมารับคุณกลับไปโดยดีค่ะ” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์

        “พูดอะไรน่ะ?… จะพาผมไปที่ไหน ที่นี่ต่างหากคือบ้านเกิดผม”

        “ไม่หรอกค่ะ” หญิงสาวสวนกลับคำพูดโกสต์ทันที และกล่าวต่อว่า “คุณคือคนที่หายสาปสูญไปจากมาตุภูมิของเรา แล้วคุณเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำพาเราไปสู่ยุคสมัยใหม่ ดังนั้นแล้วดิฉันมีความจำเป็นต้องนำคุณกลับมาตุภูมิให้ได้”

        ในตอนนี้มีคำถามอยู่ในหัวเต็มไปหมด เรื่องที่ว่าเธอเป็นใคร? มาจากไหน? บ้านเกิดที่แท้จริง? แล้วตัวของเขาเองนั้น ที่แท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่? คำถามเหล่านี้กำลังก่อกวนจิตใจของโกสต์อยู่

        “เอาล่ะ ใกล้จะได้เวลาเปิดประตูมิติแล้ว ดังนั้นขอความร่วมมือด้วยค่ะ” หญิงสาวกล่าวพร้อมกับดีดนิ้วเรียกอาวุธประจำตัวของเธอออกมา

        ลักษณะอาวุธของเธอนั้นมีรูปร่างเป็นเคียวสีดำขนาดใหญ่ มีลวดลายที่ให้ความรู้สึกสยดสยอง น่ากลัว

        “นี่เธอ… เป็นตัวอะไรกันแน่?”โกสต์กล่าวถามทั้งที่ตัวเองกำลังสับสนอยู่ในขณะนี้

        “ดิฉันเป็นใครนั้น ตอนนี้ยังมิอาจบอกกล่าวได้ และถ้าคุณตามดิฉันมาคุณก็จะรู้เองค่ะ” หลังจากกล่าวเสร็จ เธอได้ทำการร่ายรำเคียวยักษ์ของเธอ พร้อมกับเอ่ยว่า

        “ความมืดเอ๋ย จงกัดกินกายข้า ความอัปยศเอ๋ย จงกัดกินวิญญาณข้า ข้าขอบัญชาด้วยเคียวยักษ์ที่คร่าชีวิตพระเจ้าเล่มนี้ จงเปิดออกซะ Gate of Gehenna!! ”

        พลังงานสีดำที่ออกมาจากตัวเคียวปรากฏต่อหน้า เธอคนนี้กำลังเอาเคียวยักษ์เล่มนี้ปักลงไปกับพื้น ทันใดนั้นเองประตูไฟสีม่วงดำก็ได้ผุดขึ้นมาจากพื้นพิภพ

        “อ้าวๆ เดี๋ยวสิ ดิฉันพึ่งจะมาถึงเองนะ จะไปกันแล้วหรอ?” มีเสียงของหญิงสาวอีกคนหนึ่งปรากฏขึ้นมา

        “น…นี่แก!” หญิงสาวเดรสสีดำที่ปกติดูไร้อารมณ์นั้น กลับมีปฏิกิริยารุนแรงขึ้นมาทันทีทันใด

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!