ตอนที่ 4 รักแรกพบเพียงสบตา
เพี๊ยะ!
เสียงตบหน้าผากของเทียนาด้วยความเสียใจและเวทนา พลันลากนางที่นอนแน่นิ่งไปฝัง พลันนึกย้อนระลึกความหลังที่เคยผ่านความทุกข์ ความสุข ความเศร้าด้วยกันมา
เดี๋ยวๆๆๆๆๆ ถ้าลูน่าตายแล้วใครจะเป็นนางเอกเล่า!เอากลับมาก๊อนนนนนน~ ลากกลับม๊าาาา
เอาใหม่ๆ
เทียนาถอดแหวนเพื่อท่องคาถา
อุบ~ "ใจเย็น~ข้ายังไม่ตาย เก็บแหวนเจ้าไปเลย"ลูน่ามองตามแหวน จนเทียนาที่จ้องตาลูน่าอยู่กลืนน้ำลายดังอึก ก่อนจะสวมแหวนกลับ
"ก็แหม~ท่านลูน่าก็ ท่านเทียนาแค่เป็นห่วงท่านเท่านั้นเองจึงถอดแหวนออกเพื่อร่ายเวทย์ ท่านอย่าโกรธเลยนะเพคะ"ยูริที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบออกหน้าให้
"ที่นี่เราไม่จำเป็นต้องใช้เวทย์มาก อย่าพึ่งรีบถอดแหวนจะดีกว่า สองสามวันค่อยถอดครั้งนึง ไปบอกเพื่อนด้วยหละถ้าเจอกัน"
"เพ...เจ้าค่ะ"เทียนาพยักหน้าตอบแล้วย่อตัวลงเพื่อขอบคุณ
"แล้วก็..ที่นี่ข้าชื่อบุพผา เทียนาคือมาลัยและยูริคือดาว จำให้ดีหละ"
"เพคะท่านแม่"
"เอาหละๆมีที่ไหนอยากไปไหม?"
"ตลาดเพคะ!ข้าอยากเห็นตลาดของเมืองมนุษย์"อิสเบลพูดพร้อมตาเป็นประกาย
"อีกคนนึงช่างถาม อีกคนนึงช่างตอบ น่าเอ็นดูจริงๆ"ยูริส่ายหัว
"นั่นสิ"เทียนาเสริม
"เอาหละไปตลาดกัน!"
"เช็ดเลือดก่อนเถิดเพคะ"ยูริพูดพร้อมเอาผ้าเช็ดหน้าไปจุ่มกับน้ำตรงน้ำตกมาเช็ดตรงหัวให้จนสะอาด
"เรียบร้อยเพคะ"ยูริเอามือออกแล้วเอาผ้าไปจุ่มน้ำอีกครั้งก่อนจะบิดให้แห้งแล้วนำไปตากที่ราวทางด้านซ้ายของหน้าเรือน
"นั่นที่จากสมุนไพรยูริ ที่ตากผ้าอยู่หลังบ้านข้างที่อาบน้ำ"ลูน่าอมยิ้มแล้วส่ายหัว
"ไปกันเถอะ!"ลูน่าพูดชวนก่อนรับบทเป็นไกด์นำทางให้ทุกคน
พอเดินเลาะป่าทางด้านขวาของตัวบ้านก็พบทางดินแดงสีน้ำตาลเป็นทางสองข้างทางมีต้นไม้และพุ่มไม้ ใบหญ้าเต็มไปหมด ให้บรรยากาศที่สดชื่นสงบและเงียบ ทั้ง4เดินไปจนถึงร้านขายของต่างๆ มีแคร่ของแม่ค้าต่างๆทอดยาวไปเรื่อยๆไม่รู้จบมีทั้งของเครื่องใช่ อาหาร เครื่องประดับ และที่ขาดไม่ได้คือผู้คนที่เดินพลุกพล่านไปมากันอย่างล้นหลาม และดูมีความสุขเป็นอย่างมาก
"เอ้า! เร่เข้ามา!!! เร่เข้ามาทางนี้มีผลไม้สดหอมๆ ลูกละมุดลูกพลับสดๆจ้า~"และเสียงที่แม่ค้าตะโกนขายของกันแบบมากมายเสียงซ้อนทับกันเป็นแถบๆดูครึกครึ้นดี
"ข้ากับพี่มาลัย(เทียนา)ขอตัวนะเจ้าคะ"ยูริ(ดาว)พูดพลางดึงไปที่ร้านเครื่องประดับที่อยู่ไกลนู่น~แหนะ
"ท่านแม่~ เอ้ย! ท่าน! เอ่อ~"ไอริสยืนนิ่งงันอยู่กับการเรียกแทนลูน่า พร้อมทำสีหน้าเจื่อนปนอึดอัด เพราะแม้ลูน่าจะอายุมากแต่ใบหน้ากลับดูอ่อนเยาว์ดุจสาววัยแรกแย้มยังไงอย่างงั้น จะเรียกท่านแม่ก็ดูแปลก
"เรียกแม่บุพผาก็ได้จ่ะ"ลูน่าพูดแนะนำ
"เรียกแม่หรือคะ?"ไอริสงงหนักกว่าเดิม
ใบหน้าคนตอบริมฝีปากยกขึ้นอีกครั้งด้วยความเอ็นดูกับคำถามที่ไอริสถาม
"แม่แปลได้ว่าพี่ เลยไม่นิยมใช้เรียกแม่กัน ถ้าจะเรียกแม่ต้องมีคำว่าท่านนำหน้า อย่างเช่น ท่านแม่ และไม่มีชื่อตามหลังจ่ะ"
"เอ~ถ้างั้น อ๊ะ!!?นั่น!ร้านขายเนื้อย่าง ไปกันเถอะค่ะพี่แก้วฟ้า(อิสเบล)"พร้อมกับลากคนที่กล่าวถึงไป
"ไม้ละเท่าไหร่หรือจ๊ะ?"อิสเบลถามหญิงสาวที่ขายเนื้อย่าง
"ไม้ละ5เบี้ยเจ้าค่ะ"
"เอาสองไม้จ่ะ"อิสเบลบอก
"แม่บุพผาจ๊ะจะกินด้วยหรือไม่?"ไอริสถาม
"เดี๋ยวข้าไปจ่ายพวกเจ้ากินกันไปเถิด"ลูน่าตะโกนกลับแต่ไม่ต้องตกใจ เพราะระยะไม่ไกลเสียงจึงไม่ค่อยดังมากยังงามอยู่ แต่ไอริสแมนไปหน่อยได้ยินทั้งตลาดเสียแล้วกระมัง
ตุบ!!
ด้วยความที่ลูน่าไม่ทันระวังจึงทำให้เดินชนกับคนเข้า
ทันทีที่ชายหนุ่มลืมตาขึ้นก็ได้ไปอยู่ในอ้อมกอดของแม่บุพผาหรือลูน่าแล้ว
เหตุการเป็นอย่างไรไปฟังคำอธิบายกันชัดไม่
ลูน่ารีบเดินโดยมีจุดหมายเป็นร้านขายเนื้อย่างเลยพลาดเดินชนกันชายหนุ่มคนนึงเข้าจึงทำให้เขาพลาดล้ม แต่สกิลของลูน่าสูงเกินคนปกติบวกกับเขาไม่ค่อยตัวโตเท่าไรนัก จึงทำให้ลูน่าทรงตัวได้และรับเขาได้ในท่าที่ลูน่ายืนกอดเขาโดยเขาเอนตัวลงหัวดิ่งเฉียงลงกับพื้นสบตากัน
ใบหน้าของทั้งสองเริ่มแดง
หงึก~หงึกกก~
ลูน่าเริ่มมือสั่นหงกแล้วปล่อยมือเพรา(แกล้ง)หนัก
ฟุบ~
เขานั่งแยกลงกับพื้นแล้วรีบลุกขึ้นเมื่อรู้สึกตัว
"ท่านตัวหนักมาก ข้าขอโทษ!"ลูน่าหลุดพูดในสิ่งที่ตัวเอง(แสร้ง)คิดออกมา
"ไม่เป็นไร แม่หญิงท่าน~?"เขาพูด
"ข้ามีนามว่าบุพผาแล้วท่านหละ?"
"ข้ามีนามว่าเมือง"
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วข้าขอตัว"ลูน่าพูดพร้อมชายตาไปมองลูกๆที่กำลังรออยู่แล้วเดินจากไปทิ้งให้ชายหนุ่มปริศนาที่มีนามว่าเมืองยืนนิ่งค้างอยู่เช่นนั้น พร้อมมองตามด้วยแก้มสีแดงระเรื่ออ่อนๆบวกกับใจที่เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ
"ไอ้เมือง! มึงมายืนทำกระไรอยู่กงนี้"ชายอีกคนเดินมา
"ปล่าว!ไม่มีกระไรไปกันเถิด"
"ข้าเห็นนะว่าเจ้ามองแม่หญิงที่เดินชนกันนานโขแล้ว ไปได้แล้ว จะค่ำแล้วหนาเดี๋ยวซื้อของให้แม่เจ้าไม่ทัน"
"ไปได้แล้ว"มีชายอีกคนเดินมาตามด้วย
ทั้งสามเดินไปเลือกของแล้วเดินไปทำธุระต่างๆนาๆ
***พลบค่ำของวันนั้น***
"กลับกันเถิดนี่ก็ค่ำแล้ว ปกติเพลานี้ผู้หญิงมิควรมาเดินอย่างงี้ เดี๋ยวจะมีคนมาฉุดเอา"ลูน่าเรียกทุกคนให้รีบเดินกลับบ้านแต่ก็ยังคงภาษานี้อยู่เพราะใครก็มาผ่านเห็นเราได้ทุกเมื่อ
ทุกคนจึงเดินไปที่บ้านด้วยความเปลี่ยวและมืด
"มืดเหลือเกิน"ไอริสพูด
"คืนนี้เป็นวันที่พระจันทร์มีเสี้ยวเล็กเลยมืดเป็นธรรมดา"เทียนาเสริม
"ถึงบ้านแล้ว"ลูน่าเดินนำไปจุดตะเกียงหน้าบ้าน
ทุกคนรีบวิ่งเข้าบ้านเอาของไปเก็บและนั่งพัก ไม่นานนักก็ชวนกันไปอาบน้ำที่น้ำตก เปลี่ยนชุด แล้วรีบเข้านอนกัน
***เช้าวันต่อมา***
ทุกคนรีบตื่นแต่เช้ากวาดบ้านถูบ้านทำกับข้าวทุกๆอย่างเหมือนคนปกติและใกล้เที่ยงก็รีบไปหางานทำ
#เป็นเทพก็ต้องทำงานน้า~!!!
เทียนาและยูริเป็นเทพองครักษ์จึงไม่ต้องทำงานก็ได้รับอนุญาตให้เสกเงินเองได้แต่ต้องคอยติดตามลูน่าไปทุกที่
หลังจากฝากไอริสกับอิสเบลไปทำงานที่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งเปิดร้านขายผลไม้อยู่ มีเจ้าของบ้านชื่อยายสารภี ซึ่งขายของคนเดียวอยู่ท้ายตลาดสามีเสียลูกชายบวชตลอดชีพให้แก่แม่ จึงทำให้ยายสารภีมักจะเหงาอยู่บ่อยครั้ง
ส่วนลูน่าก็หางานเป็นบ่าวเพราะอยากลองทำงานนี้มานานถึงจะไม่ค่อยมีอิสระแต่ก็มั่นคงและเวลาไปตรวจความเรียบร้อยของผู้เข้าทดสอบได้ง่ายโดยไม่ต้องหาข้ออ้างไปนู่นไปนี่เพราะเจ้าของบ้านนี้กำลังหาบ่าวอยู่อีกทั้งยังมีญาติเยอะน่าจะได้เจอผู้เข้าทดสอบบ้าง
"เอ้า!เข้ามาแนะนำตัวสิคุณหญิงรออยู่"มีคุณยายคนหนึ่งชื่อแดงน่าจะเป็นบ่าวส่วนตัวของคุณหญิงที่ว่า
ลูน่าเดินเข้ามาในเรือนใหญ่มีห้องมากมายล้อมรอบมีที่นั่งอยู่ตรงกลาง มีคุณหญิงนั่งอยู่
ลูน่าเดินเข่าเข้าไปหน้าคุณหญิงคนนั้นแล้วกราบแบบไม่แบมือแทนการไหว้
"เอ็งชื่ออะไร"คุณหญิงถาม
"ข้า~บะ...บ่าวชื่อว่าบุพผาเจ้าค่ะ"ลูน่าพูดพร้อมมือที่ตั้งอยู่ตรงตักแน่นอนว่าชุดจะต้องดูเป็นคนธรรมดาลูน่าใส่ชุดแบบผ้าคาดอกกับผ้าถุงมัดผมเป็นมวยเรียบร้อย
"ไม่ต้องกลัวข้าดอกข้าไม่ทำอันใดเจ้าหากเจ้าไม่ทำอันใดผิด"น้ำเสียงนั้นนุ่มละมุนขึ้นมา
ลูน่าเงยหน้สฝาขึ้นช้าๆเพื่อจะยนโฉมของคุณหญิงเรือนนี้
ติ๋ง~ตุบๆ
ลูน่าเอามือเช็ดหน้า"นะ..น้ำตา?"ลูน่ารีบเช็ดน้ำตาออก
คุณหญิงดูลังเลมากที่จะปลอบลูน่า
หมับ~
"ไม่เป็นไรทุกอย่างสบายดี"
คุณหญิงนั่งลงกับพื้นแล้วกอดปลอบลูน่า
แถมท้าย
อิสเบลและไอริสคร่าวๆ
บายจ้า~
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments