เช้าวันต่อมา
"อึก.."
เสียงของไลม์ที่ลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับความระบมไปทั้งตัว รอยที่คินทิ้งไว้ให้ยังคงตราตรึงอยู่บนเรือนร่างสีขาวของเค้า
"อือ.."
ไลม์สดุ้งตัวเล็กน้อยเพราะเสียงของคินที่นอนระเมอไม่เพียงแต่จะแย่งหน้าตาทางสื่อมวลชนของเค้าไปตอนนี้ยังมาแย่งความบริสุทย์ของเขาไปอีก ไลม์นึกโกรธคิน ก่อนจะกำหมัดแน่นและเดินถลาไปที่ห้องน้ำเพื่อจะออกจากสถานที่ที่น่าเกลียดแห่งนี้
พาทคิน
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับแสงของพระอาทิตย์ที่แยงตา กวาดสายตามองรอบห้อง ที่ตัวมีรอยจูบประทับอยู่บนตัวทำให้ผมพลันนึกถึงเรื่องเมื่อคืน หน้าของผมตอนนี้ร้อนผ่าวไปถึงหู ไม่บอกก็รู้ว่าตอนนี้ใบหน้าของผมคงเป็นสีแดงราวกับมะเขือเทศก็ไม่ปาน
เมื่อเรียบเรียงสถานะการณ์ต่างๆแล้วก็นึกย้อนไปเมื่อคืน ตอนนั้นหลังจากที่ไลม์ลุกไปห้องน้ำผมก็ตามไปด้วยความเป็นห่วงแต่พอเข้าไปก็เห็นเค้านอนสลบอยู่ผมพยุงเค้าออกมามาที่โต๊ะทุกคนกรูเข้ามาถามอาการไลม์ที่ตอนนี้เจ้าตัวนอนหลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าจะเอาให้พี่แก้วก็เห็นจะไม่ได้เพราะตอนนี้พี่แก้วเองก็เมาเหมือนกัน ผมเลยอาสาพาไลม์ไปค้างบ้านตัวเองและขออนุญาติจากพี่แก้ว พี่แก้วที่เมาไม่ได้สติก็อนุญาติออกมาโดยไม่รู้เรื่อง เมื่อมาถึงอพาทเมนต์ของผม ผมก็วางไลม์ไว้บนเตียงผมคงไม่ต้องอาบน้ำหากไม่ติดที่ว่าไลม์อ้วกใส่ผมตอนจะเอาขึ้นรถนี่สิ นึกได้ก็เข้าไปอาบน้ำทันที อ่ารู้สึกดีชะมัดที่ผมพูดอยู่ผมไม่หมายถึงน้ำอุ่นที่กระทบกับตัวหรอกนะครับ แต่เป็นเพราะไอดอลอย่างไลม์มานอนสลบไสลอยู่บนเตียงผมราวกับเจ้าหญิงนิทรานี่สิ ผมเข้าวงการมาก็เพราะตอนนั้นหลังจากผมกลับมาจากเมกา(อเมริกา)หลังจากลงเครื่องบินมาผมก็เห็นไลม์เด่นเป็นสง่าอยู่กลางตึกเมืองใหญ่แค่วินาทีนั้นที่ผมคิดว่าไลม์เนี่ยแหละที่เป็นเนื้อคู่ผมถึงจะไม่ใช่ก็จะทำให็เป็นให้ได้หลังจากปรึกษาป๊ากับพี่ก็รู้ว่าเป็นดาราแถวหน้าผมจึงตั้งเป้าหมายที่จะเข้าใกล้เค้าผ่านวิธีนี้ เมื่อถึงงานแรกด้วยเส้นสายของพี่ที่พี่เป็นเจ้าของบริษัติมีชื่อเสียงผมเลยได้เล่นละครกับไลม์ เมื่อได้อยู่ใกล้ชิดมากขึ้นก็เห็นถึงความพยายามของไลม์ผมก็ยิ่งประทับใจและยิ่งตกหลุมรักมากขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้เหมือนจะถอนตัวไม่ขึ้นแล้วล่ะ
กุกกัก..ฟึบ
ผมหยุดความคิดสักพักก่อนจะเงี่ยหูฟังเสียงที่ดังมาจากในห้องนอน คุณไลม์คงตื่นแล้วสินะ เมื่อคิดเสร็จผมก็ยุติการอาบน้ำไว้แต่เพียงเท่านี้ และออกไปจากห้องน้ำ ตอนแรกว่าจะไม่ทำอะไรอยู่แล้วเชียวแต่..ไลม์มานอนอยู่บนเตียงแบบนี้ อดใจไม่ไหวซะแล้วสิ แล้วผมก็ปล่อยให้อารมณ์นั้นลามปามจนได้
อาาาาา! อย่างนี้ก็ไม่มีหน้าจะไปเจอไลม์แล้วเซ่! ผมกรีดร้องในใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าไลม์ไม่ได้นอนอยู่บนเตียงมาสักพักแล้ว ความสัมพันธ์ของผมกู้ไม่กลับซะแล้วสิ
พาทไลม์
หลังจากออกมาจากอพาทเมนต์ของคินผมก็ได้รับสายจากพี่แก้วที่โทรมาถามความเป็นมา มานึกดูก็รู้แล้วว่าเจ้าหมอนั้นคงใช้ความไม่มีสติของพี่แก้วมาเอาตัวผมไป แต่ผมเองก็ไม่มีความกล้าพอจะเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเลยได้แต่ตอบปัดๆไปเพื่อไม่ให้พี่แก้วเป็นห่วง หลังวางสายจากพี่แก้วก็ได้รับสายอีกสายมาจะใครอีกล่ะ ก็ยัยเรียเน่เพื่อนตัวเป้งของผมเอง มันโทรมาบอกว่าถึงเร็วกว่าที่คิดเลยนัดให้เจอกันเลยที่ร้านเดิม ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในร้านคาเฟ่เล็กๆบรรยากาศสบายๆพร้อมกับชามะนาวที่ผมกินอยู่ บรรยากาศแบบนั้นทำให้สามารถลืมเรื่องที่เกิดเมื่อคืนไปเลยสักพักหนึ่ง
กริ้ง~
เสียงออดของร้านดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงใสร่าเริงที่คุ้นเคยของยัยเรียเน่
"ฮายยย~ไงจ๊ะเพื่อนร้าก~"
หญิงสาวผมหยักโศกสีชมพูเป็นคลื่นยาวถึงเอว ดวงตาสีม่วงกลมโต ตัวเล็กดูบอบบางเดินเข้ามาทักทายไลม์ด้วยน้ำเสียงแจ่มใส ก่อนจะเริ่มบทสนทนาระหว่างเพื่อนกัน
"ไง งานถ่ายแบบของนายเป็นไงบ้างล่ะ"
หญิงสาวหยิบชาเขียวที่ไลม์สั่งเผื่อเอาไว้ให้ขึ้นมาดูดพร้อมกับถามเรื่องงานของเพื่อน
"ก็ดี.."
ไลม์พูดด้วยน้ำเสียงเชื่อยช้า ไม่ทันได้ทำอะไรเรียเน่ก็เดาอารมณ์ของเพื่อนได้อย่างแม่นยำ
"ไปเจอเรื่องอะไรมาอีกล่ะจ๊ะ"
ไลม์สดุ้งตัวขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับเรียเน่ที่คลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าตนทายถูก
"เอาล่ะไหนพูดออกมาสิ^^"
เรียเน่เซ้าซี้ให้ผมเล่าเรื่องให้ฟังแต่จะให้ตอบว่าอะไรล่ะ ฉันโดนพรากบริสุทย์ไปเมื่อคืนโดยฝีมือของดาราดัง คิน คิณอภิวัช งั้นเหรอ(-_-) พูดแบบนั้นออกไปต่อหน้าคุณหนูทายาทของวงการข่าวชื่อดังงั้นเหรอ มันคงไม่ต่างอะไรกับการโดดลงเหว
"ไม่มีอะไรหรอก แค่เรตติ้งลดลงน่ะ"
ผมอ้างเรื่องเรตติ้งที่ลดลงเป็นข้ออ้าง ผมไม่ได้โกหกสักหน่อยก็ผมโดนเจ้าคินแซงจริงๆ
"ไม่เป็นไรนะ "
"อือ"
เรียเน่ทำหน้าสงสารผมทำให้ผมรู้สึกจุกนิดหน่อยที่ไม่ได้บอกความจริงกับเธอ แต่ยังไงก็เถอะเพื่อชื่อเสียงผม
กริ้ง~
เสียงออดหน้าร้านดังขึ้นอีกครั้งก่อนจะมีชายคนนึงเดินเข้ามา
"ไอ้นิน มานี่ได้ไงเนี่ย"
ภีรพัทย์ รักษาสิทย์ หรือนิน มันเป็นหมอในโรงบาลใหญ่ เป็นเพื่อนสนิทของผมอีกคน ค่อนข้างจะเป็นที่นิยมของพวกคนไข้ ด้วยผมสีบรอนเทาและนัยศ์ตาสีฟ้าใสของมันเพราะเป็นลูกครึ่ง เลยทำให้เป็นที่นิยมใช่ย่อย เรียกได้ว่ากลุ่มนี้ของเราหน้าตาดีทุกคนเลยก็ว่าได้ พอเรื่องการอวยเพื่อน ที่สงสัยคือมันมาทำอะไรที่คาเฟ่มากกว่า
"อ้าว นินนิน มาทำอะไรที่คาเฟ่นี้เหรอจ๊ะ~^^"
"มากินกาแฟ"
"กวนย่ะ.."
"ฉันออกมาปฎิบัติหน้าที่นอกสถานที่ นี้ไง อยู่ตรงข้ามนี้เองก็เลยแวะมากินกาแฟ ว่าแต่พวกเธอมาทำอะไรกัน"
"อ้อ เรียเน่พึ่งกลับมาจากญี่ปุ่นเลยว่ามาเจอกันในรอบ5เดือน"
"เหรอ.."
"จะมานั่งด้วยกันไหมนิน?"
"ไม่ล่ะฉันต้องไปแล้ว บายนะ ไว้ค่อยเจอกัน"
"อื้ม"
"ให้ตายเถอะหมอนั้นไม่มีคำว่าชีวิตสโลไลฟ์รึไงนะ บ้างานแบบนั้นเดี่ยวได้แก่เร็วพอดี"
เรียเน่พูดตัดพ้อก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ทำให้ใบหน้าแสนสวยของเธอเปลี่ยนเป็นใบหน้ามุ่ยน้อยใจ
"เอาหน่า ฉันเองก็ต้องไปถ่ายงานแล้วล่ะ ไปนะแล้วเจอกัน"
"เอ๊ะ อะไรกันพวกนายจะทิ้งฉันอย่างนี้ไม่ได้นะ ให้ตายเถอะบ้างานกันแบบนี้ ขอให้แก่ตายคางานกันให้หมดเลยย~!"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments