เวลาได้ล่วงเลยผ่านไป อลันอายุ 1 ขวบ ผมสีแดงและดวงตากลมโตบวกกับใบหน้าอันน่ารักสมวัยของเขาเป็นที่ชื่นชอบของคนในบ้านอย่างมาก อลันมีพี่สาวที่อายุห่างกัน 5 ปีอยู่คนนึง เธอชื่อไอริช แอดดิสัน นัยน์ตาสีฟ้ากับผมสีเขียวอ่อนๆของเธอช่างสวยงาวราวกับดอกไม้ที่บานสพรั่งอยู่ท่ามกลางทะเลทราย แม้เธอจะอายุเพียง 6 ขวบ แต่เธอแข็งแรงและเชี่ยวชาญวิชาดาบมาก จนสามารถชนะผู้ใหญ่บางคนในหมู่บ้านได้ วันนี้คือวันเกิดของไอริช
แอนดริวและแอเรียลจึงแอบซื้อดาบที่ทำจากเขี้ยวและกรงเล็บของไวเวิร์นให้เธอ ทันทีที่เธอรู้และได้เห็นดาบเล่มนั้นเธอดีใจมากและกระโจนเข้ากอดทั้งสองคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ดีใจได้เดี๋ยวเดียวเธอก็ขออนุญาติแอนดรีว เพื่อที่จะไปฝึกกับอารีม่าเพื่อที่จะได้คุ้นชินกับดาบเล่มใหม่ (อารีม่าคือเพื่อนสนิทของแอนดรีวที่ไปล่าสัตว์ด้วยกันบ่อยๆ)
ไอริช “นี่ป่ะป๊า หนูขอไปฝึกกับลุงอารีม่าได้มั้ย ได้ดาบใหม่มาทั้งทีหนูอยากใช้ให้มันคล่องเร็วๆนะ น่ะน่ะน่ะน้าา”
แอนดริว “ก็ได้ ก็ได้ แต่ระวังอย่าให้ตัวเองบาดเจ็บล่ะเข้าใจมั้ย”
ไอริช “เข้าใจแล้วค่าา”
แอเรียล “ฝึกเสร็จแล้วรีบกลับมาล่ะวันนี้แม่จะทำอาหารฉลองวันเกิดให้ลูกเต็มที่เลยนะไอริช”
ไอริช “หนูจะรีบกลับค่ะ ม่าม๊า”
ในขณะเดียวกันไม่มีใครทันสังเกตุเห็นอลันเลยสักคนว่าเขากำลังแอบคลานไปที่ห้องเก็บหนังสือ เพราะทุกคนคิดว่าอลันกำลังหลับอยู่ และกำลังวุ่นกับการเตรียมงานวันเกิดให้ไอริช
อลันที่สามารถหลุดรอดสายตาของแอเรียลได้ก็ได้แค่บ่นในใจ
อลัน “หึหึหึหึหึ ในที่สุดก็ได้เป็นอิสระสักที ปกติต้องโดนแอเรียลอุ้มไปมาจนแทบไม่ได้หาความรู้พื้นฐานของโลกใบนี้เลย วันนี้แหละข้าจะหาข้อมูลมาให้หมดเลย ฮิฮิฮิฮิฮิ” รอยยิ้มตอนนี้ของอลันดูน่ากลัวนิดมันไม่น่าจะเป็นรอยยิ้มของเด็ก 1 ขวบได้เลย
หลังจากเข้ามาในห้องเก็บหนังสือได้ไม่นานอลันก็ได้ทำความเจ้าใจเกี่ยวกับดาวดวงนี้ได้บางส่วนแล้ว
ดาวดวงนี้มีชื่อว่า “สตินโน่มอร์เฟียร์” มีทั้งหมดสามทวีป ได้แก่ทวีปปีศาจ “ดินแดนทมิฬ” ทวีปเอลฟ์ “เอนเดรสฟอเรสต์” และทวีปมนุษย์ที่อลันอาศัยอยู่ “เกวนดอล” ซึ่งต่างจากโลกเก่าที่อละเคยอยู่ที่มี 4 ทวีป และอีก 5 เผ่าพันธุ์
โลกปัจจุบันนั้นไม่มีภูติและมนุษย์สัตว์ จึงทำให้อลันแปลกใจเล็กน้อย
อลัน “ตอนนี้ก็พอเข้าใจคร่าวๆได้แล้ว ที่ๆข้าอยู่ตอนนี้คือ หมู่บ้านเล็กๆ ในอณาจักรเคทลิน” และในทวีปเกวนดอลยังมีอีกอาณาจักรที่เรียกได้ว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมายาวนานนั่นคือ อาณาจักร “มัวเรลล์” ซึ่งทุกๆสามปีจะมีการส่งตัวแทน 5 คนออกมาประลองกัน เพื่อวัดกันว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน ในบางครั้งก็ทำสงครามกันเพราะความขัดแย้งเพียงเล็กน้อย แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนทึ่จะรุนแรงถึงขั้นทำลายอาณาจักรอีกฝั่งเลยแม้แต่ครั้งดียว นั่นก็เพราะว่ามีจักรพรรดิเวทย์มนต์อเมลเรีย ที่ไม่ขึ้นตรงต่ออณูาจักรไดคอยยับยั้งเหตุการก่อนที่จะบานปลายมาโดยตลอด แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งนี้ได้สักที
อลันอ่านหนังสือได้สักพักก็ได้ยินเสียงดังขึ้น
ปัก ปัก ตุ้บ ตั้บ !!!! เสียงการฝึกดาบของไอริชเล็ดบอดเข้ามาทางหน้างต่างที่แง้มไว้ในห้องเก็บหนังสือ อลันที่ได้ยินจึงพยายามปีนขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
อลัน “โถ่เว้ย ด้วยร่างกายเล็กๆนี่คงไม่สมารถปีนขึ้นไปได้แน่ ไม่มีทางเลือกคงต้องลองใช้เวทย์มนต์สะแล้วล่ะแต่จะไหวมั้ยน้าา เวทย์ Fly ใช้มานาเยอะกว้าเวทย์ทั่วไปด้วยสิ ช่างเถอะยังไงข้าก็ใช้เวลา 1 ปีที่ผ่านมาค่อยไปรวบรวมมานานจนสร้างแก่นมานาได้สำเร็จแล้วนิ ไม่ลองก็ไม่รู้”
ทันใดนั้นอลันก็ใช้เวทย์ Fly เพื่อที่จะดูว่ามีใครที่กำลังสู้กันอยู่
อลัน “งั้นเริ่มเลยแล้วกัน Fly โอว โอ้ว โอ้ว ทำได้จริงด้วย แต่เหนื่อยชะมัด แค่ลอยขึ้นมาบนเก้าอี้ยังใช้มานาขนาดนี้เลยหรอ ยากเอาการเหมือนกันนะเนี่ย แล้วเสียงที่ข้าได้ยินนั่นคือ …. อ๋อ เจ้าอารีม่ากำลังฝึกดาบให้ยัยหนูไอริชนี่เอง แต่ยัยหนูไอริชก็ทำได้ดีมากเลยนะ ขนาดโลกเก่าข้าอายุเท่านี้ทำได้ขนาดนี้ถือว่าเป็นอัจฉริยะเลยล่ะ”
ทันใดนั้นเองแอเรียลที่เป็นอดีตนักเวทย์แรงค์เอ ก็ได้สัมผัสถึงกระแสมานาที่แปลกไปหลังจากที่อลันใช้เวทย์ Fly
เธอจึงรีบเดินไปจุดที่กระแสมานาแปลกไปมากที่สุด ซึ่งคือห้องเก็บหนังสือที่อลันอยู่
แอเรียล “เอ๊ะ !!! นี่มันอะไรกัน ทำไมจู่ๆกระแสมานาถึงเปลี่ยนไปกระทันหันแบบบนี้ มันเกิดอะไรขึ้น ต้องรีบไปตรวจสอบแล้ว” แอเรียลรีบวิ่งมายังห้องเก็บหนังสือทันทีแม้ระยะทางจากห้องตรัวมานร่จะไม่ไกลมากแต่ด้วยความเร่งรีบและกังวลจึงทำให้เธอค่อนข้างเหนื่อย
แอเรียล “แฮก แฮก แฮก ถึงซะที มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” ทันทีที่มาถึงแอเรียลรีบเปิดประตูเข้าไปภาพที่เธอเห็นทำให้เธอแปลกใจมาก ทุกๆอย่างปกติดี มีแค่เพียงกระแสมานาทีไหลผ่านรอบตัวอลันเท่านั้นที่แปลกไป แต่เหนือสิ่งอื่นใดนอกจากความกังวลเรื่องมานาที่แปลกไปเธอเป็นห่วงอลันมากกว่าจึงรีบวิ่งไปอุ้มอลันออกมาจากห้องด้วยความรวดเร็ว
แอเรียล “อลันลูกมาอยู่นี่ได้ไง ไม่เจ็บตกไหนใช่มั้ยลูก อย่าแอบออกมาคนเดียวอีกน่ะเข้าใจมั้ย”
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อลันก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่าผู้คนบนโลกใบนี้มีการพัฒนาทางเวทย์มนต์ที่ค่อนข้างช้า จึงทำให้มานาในอากาศหนาแน่นกว่าโลกเก่าของเขามาก ทำให้คนที่เชี่ยวชาญเวทย์มนต์สัมผัสมานาที่เปลี่ยนไปได้ง่าย
อลัน “ข้าลืมไปเลยว่าตอนนี้ข้ายังเด็กเกินไป และมานาในบรรยากาศก็ค่อนข้างหนาแน่น ทำให้แม่ข้าสัมผัสถึงมานาถึงไหลเปลี่ยนไปได้ ถึงจะเป็นคนตลก ร่าเริงแบบนี้ก็เถอะ แต่เธอเป็นถึงอดีตนักเวทย์แรงค์เอ เธอจะรู้สึกได้ก็ไม่แปลก”
พอตกดึกทุกคนในบ้านก็ฉลองวันเกิดให้ไอริช อย่างสนุกสนาน มีเพื่อนบ้านหลายคนนำของขวัญมาให้ไอริช ทุกคนต่างยินดีกับไอริชที่โตขึ้นอีีกปี เวลาได้ล่วงเลยไปจนปาร์ตี้จบ เพื่อนบ้านแต่ละคนก็เริ่มทะยอยกันกลับจนหมด ส่วนไอริชก็พาอลันไปนอนในห้องกับเธอ เหลือเพียงแอเรียลและแอนดริวเท่านั้นที่ยังนั่งกันอยู่ แอเรียลจึงบอกเเอนดรีวที่สัมผัสมานาไม่ได้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แอเรียล “คุณคะ ช่วงบ่ายวันนี้ ฉันสัมผัสได้ถึงมานาที่แปลกไปจากห้องเก็บหนังสือจึงรีบไปตรวจดู สภาพทุกอย่างดูปกติ แต่ที่แปลกคือ อลันไปอยู่ในนั้นได้ยังไง แถมมานารอบตัวอลัน ยังไหลเป็นระเบียบล้อมรอบตัวอลันไว้ ซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะมานาของโลกใบมัันไหลแบบยุ่งเหยิงไปหมด ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือ อลันเค้าใช้เวทย์มนต์”
แอนดรีว “มันจะเป็นไปได้ยังไง อลันพึ่งจะขวบเดียวเองนะไม่มีทางที่จะใช้เวทย์มนต์ได้หรอก ขนาดอัจฉริยะที่สุดของประเทศนี้กว่าจะรวบรวมมานาได้ก็ 10 ขวบแล้ว คุณคิดมากไปเองรึเปล่า”
แอเรียล “ก็จริงของคุณ ถ้าและนทำได้ตั้งแต่ยังเด็กขนาดนี้ อนาคตคงสามารถครองโลกนี้ได้แน่ ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องของอลันไว้แค่นี้ก่อนละกัน ที่ฉันกับวลอีกเรื่องคือ มันมีโอกาสที่เกท จะเปิดขึ้นในห้องเก็บหนังสือของเรา จนถึงตอนนี้ มานาในห้องนั้นยังหมุนวนเป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน ฉันคิดว่าอีกเดือนนึงเกทจะต้องเปิดแน่ๆเลย”
ทันทีที่แอเรียลพูดจบแอนดรีวตกใจในสิ่งที่ได้ยินมาก เพราะเกทที่แอเรียลพูดถึง มันคือประตูที่เชื่อต่อกับมิติอื่น มีอสูตรที่แข็งแกร่งมากมายอยู่ข้างในนั้น มันเป็นภัยคุกคามระดับโลกที่ทั้งสามทวีปต้องช่วยกันหยุดมัน กทแรกที่เปิดขึ้นคือในทวีปเอนเดรสฟอเรส เมื่อ 70 ปีที่แล้ว ในตอนนั้นทีมสำรวจแรงค์เอของเหล่าเอลฟ์จำนวน10คน และแรงค์เอส1คน ได้เข้าไป แต่กลับเหลือเพียงแรงค์เอสามคนเท่านั้นที่เหลือรอดกลับมา คนที่รอดกลับมาได้เล่าว่า ภายในเกทนั้นมีอสูรอยู่มากมาย มันแข็งแกร่งอย่างมาก มันสามารถฟื้นฟูบาดแผลเล็กๆน้อยๆได้ทันที การที่จะจัดการมันตัวนึงต้องใช้แรงค์เอถึง 5 คน แต่สำหรับแรงค์เอสถือว่า ไม่ลำบากเท่าไหร่ พวกเขาโล่งใจและคิดว่าคงสำรวจที่แห่งนี้เสร็จได้ไม่ยาก แถมในถ้ำแห่งนี้มีแร่ธาตุมากมายที่พวกเขาไม่รู้จักพวกเขาหวังว่าจะนำแร่ธาตุพวกนี้ไปวิจัยและพัฒนาด้านต่างๆในอนาจักร จนกระทั่งพวกเขาไปถึงสุดทางของถ้ำ พวกเขาเจอกับศัตรูที่น่าหวาดกลัว จิตสังหารของมันที่แผ่ออกมา ถึงขนาดทำให้แรงค์เอสยังตัวสั่น ตอนแรกดูเหมือนมันหลับอยู่ พวกเราจึงตัดสินใจเข้าไปสำรวจอย่างเงียบๆ แต่แล้วจู่ๆมันก็ลืมตาขึ้นมา และจับดาบที่อยู่ข้างกายของมันโจมตีพวกเรา เพียงแค่การโจมตีครั้งเดียวทำให้แรงค์เอ 7 คน ตายในทันที เหลือแค่สามคนที่อยู่ไกล้แรงค์เอสเท่านั้นที่ยังรอด หลังจากจบการโจมตีนั้นแรงค์เอสที่เป็นหัวหน้าทีมจึงบอกให้พวกเขารีบออกไปนำกำลังเสริมแรงค์เอสเท่สนั้นเข้ามา เขาจะต้านมันไว้เอง หลังจากพวกเขาออกมาจึงรีบ ขอความช่วยเหลือจากทวีปต่างๆ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยาก แต่ทวีปต่างไปรู้ดีว่าเหล่าเอลฟ์จะไม่ยุ่งกับเผ่าพันธ์อื่นเลยถ้าไมาจำเป็น เรื่องนี้แม้กระทั่งดินแดนทมิฬ ยังให้ความรวมมือเพื่อต้้องการตรวจสอบ แต่กว่าการช่วยเหลือจะมาถึงทำให้ผเหล่าเอลฟ์เสียแรงค์เอสที่มีเพียงน้อยนิดไป ในตอนนั้นหารจะกำจัดอสูรตนนั้นต้องใช้เเรงค์เอสถึง 7 คน และยังตายไปอีกสองคน ตลอด 70 ปี ที่ผ่านมา มีเหตุ เปิดใาแล้วทั้งหมด 23 ครั้ง เพราะมีประสบการณ์จากครั้งแรกจึงมีความสูญเสียค่อนค้างน้อย พวกเราได้แบ่งระดับของเกทไว้สามระดับตามสีของเกท สีเขียว คือ ปลอดภัย ที่แม้แต่แรงค์ดียังเข้าไปเดินเล่นได้ สีส้มคืออันตราย เข้าได้เฉพาะ เเรงค์เอขึึ้นไปเท่านั้น และสุดท้ายสีแดง เกทแรกที่เปิดในทวีปเอนเดรสฟอเรส เข้าได้เฉพาะแรงค์เอส จำนวนของอสูรภายในนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของเกม ยิ่งเกทใหญ่มากเท่าเราอสูรก็จะมากเท่านั้น นั่นคือเกท
แอนเดรีย “ถ้าสิ่งที่คุณบอกเป็นความจริง เราต้องรีบอพยพชาวบ้าวและแจ้งไปยังเมืองหลวงแล้วสิ”
แอเรียล “ ฉันว่าอย่างพึ่งบอกชาวบ้านดีกว่า แค่รีบแจ้งให้สำนักเวทย์แห่งอาณาจักรมาตรวจสอบให้แน่ใจก่่อนจะดีกว่า เดี๋ยวชาวบ้านจะแตกตื่นเอา”
แอนดรีว “ โอเค แบบนั้นคงจะดีกว่า”
หลังจากปรึกษากันเสร็จทั้งสองก็ไปเขานอน พอรุ่งเช้าแอนดริวก็ชวนอารีม่าไปเมืองหลวงเพื่อแจ้งข่าวเกี่ยวกับเกท
มางสำนักเวทย์มนต์ที่ได้รู้ข่าวจึงรีบเข้ามาตรวจสอบทันที พวกเขาใช้เวลาเดือนนึงเต็มๆในการตรวจสอบแต่ก็ไม่เจออะไรผิดปกติ พวกเขาจึงบอกว่ามันเป็นแค่ปรากฏการมานาหมุนวนธรรมดา หลังจากนั้นพวกเขาจึงกลับไป แต่ในใจของแอเรียลกลับคิดว่ามันไม่ใช่แค่นั้น เพราะตอนที่เธอไปถึงห้องนั้น ใานาปั่นป่วนเกินที่จะเป็นมานาหมุนวน แต่ก็มำอะไรไม่ได้ ได้แต่เก็บไว้ในใจ
แอเรียล “หวังว่ามันจะเป็นแค่มานาหมุนวนจริงๆนะ”
ปล. มานาหมุนวนคือปรากฏการณ์ที่มานาควบแน่นกันจนเห็นเป็นสีต่างๆตามธาตุหลักที่อยู่บริเวณนั้น มันจะหมุนวนกันจนเป็นวงกลมและแตกสลายไปเอง ไม่มีอันตรายและยังทำให้พืชพันธุ์บริเวณนั้นจะเจริญเติบโตได้ดีด้วย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments