ข้ามภพลิขิตสวรรค์
หลังจากที่รู้สึกถึงเเรงพุ่งชนจากรถสิบล้อจากทีไหนไม่รู้ ก็ทำเอาเหมือนกับว่าวิญญาณของตนเองจะออกจากร่าง เพราะความเจ็บปวดนี้ก่อนที่ร่างของตนเองจะ ลอยละลิ่วไปชนเข้ากับที่กั้นถนน อย่างเเรงจนทำเอาสติของตนเองเริ่มเลือนหายไปช้าๆ
ไม่นานก่อนจะรู้สึกถึงควาหนาวเย็นยะเยือกจนรู้สึกหวาดกลัวไปถึงกระดูกก่อนจะค่อยๆขยับเปลือกตาขึ้นช้าๆ อย่างยากลำบากในการลืมตาขึ้นจนพอลืมตาขึ้นมาได้ ก็เผยเห็นภาพสลัวๆจากเเสงจันทราที่ลอดผ่านเข้ามา
ก็เผยให้เห็นเป็นเหมือนบ้านเก่าๆโทรมสักหลังหนึ่ง ก่อนจะรู้สึกเจ็บเเปลบตรงข้อมือพอมองมาตรงมือของตนเอง ที่รู้สึกเจ็บเเบบบอกไม่ถูกก็เห็นว่ามีบาดเเผลเหมือนลอยขีดข่วนจากอะไรสักอย่าง จนเเขนบวมเขียวซ้ำมากมายบนต้นเเขน ของตนก็รู้สึกเเปลกๆ
"นี้มันที่ไหนกันจำได้ว่าโดนรถชนจนสลบไปเเล้วนี้"
ก็ยังสงสัยกับบาดเเผลตรงมือว่ามีได้ยังไงเพราะ ตนโดนรถชนจนไม่ได้สติเเล้วมาอยู่ที่เเบบ นี้ได้ยังไงกันก่อน จะเริ่มกวาดสายตามองรอบๆตัวของตนเองดู ก็เห็นเป็นผนังบ้านเก่าๆที่สภาพพุพังไปตามกาลเวลา
โดยที่ตนยังนอนเป็นผักอยู่บนเตียงโดยมีผ้าเก่าๆซีดสีขาวยังห่มอยู่บนตัวของตนเองอยู่ พอเห็นว่านอนเป็นผักอยู่บนเตียงก็ใช้เเขนทั้งสองข้างที่ บวมซ้ำจากเเผลพยุงตนเองขึ้นจากเตียง พอเเขนทั้งสอง
ออกเเรงพยุงงร่างก็เหมือนร่างกายของตนจะบุปสลาย จากการที่ออกเเรงพยุงขึ้นจากเตี้ยงเพื่อมาพิงขอบเตียง
"นี้มันจะเจ็บเกิ้นไปเเเล้วนะเเล้วทำไมฉันถึงได้มาอยู่ที่นี้เเล้วนี้มันร่างใครกันเเน่เนี้ย!”
เขาเเต่เดิมมีชื่อเล่นว่า ชานม เขาเป็นคนไทยเขาศึกษาอยู่มหาลัยด้านการเเพทย์เเเต่เขานั้นต้องตายลง เพราะลงมาซื้อลูกชิ้นตอนพักเที่ยงของวันตรงหน้ามหาลัย เเต่พอตอนข้ามถนนนั้นก็รู้สึกหมือนว่าของตนเองสติจะวูปไปยังกลางถนน
เเต่พอเริ่มได้สติอีกครั้งนร่างของตนเองลอยอยู่บนอากาศก่อนจะร่วงลง กระเเทกเข้ากับที่กั้นรถอย่างเเรงจนทำเอากระดูกราวกับหักไปทั้งร่างกายก่อนที
สติขาดหายไปเเละเเต่พอตื่นขึ้นมาได้ก็เหมือนว่าเขาจะเข้ามา อยู่ในร่างของใครสักคนที่นอนเป็นผักเป็นปลาเหมือนจะโดน อะไรสักอย่างไม่ได้ต่างจาดตนเองที่โดนรถชนเลย
“เป็นไงละหิวจนซวยเรียนก็ยังไม่จบ! เเถมยังต้องมาตายอย่างอนาทอีก เเละยังมาสิ่งใครอยู่อีกเนี้ยเเต่ก็เอาเถอะถึงจะมาสิงร่างใครก็ยังมีชีวิตอยู่ดีนั้นลนะะ ”
หลังจากคิดได้ว่ามาอยู่ร่างคนอื่นก็เริ่มทำตัวให้สบายๆ ไม่ให้ปวดกะโหลกเเละทำให้อารมณ์เริ่มเย็นลงพอสงบสติลงได้สักพักก็เหมือนมี ภาพมากมายจากความทรงจำร่างเก่าวิ่งเข้าสมองตนเอง ทำให้เห็นของอดีตต่างๆเเต่พอเริ่มเห็นนานขึ้นก็ขมวดคิ้วเเต่พอนานเข้้าไปก็เริ่มขมวดคิ้วเข้าหากันมากขึ้นกว่าเดิม
เจ้าของร่างนี้ที่ตนเองมาอยู่มีชื่อว่ามู่หรงเฟยเป็นเกอบุตรชายคนโตของประมุขตระกูลมู่เเห่ง เเคว้นหยางซึ่งโลกนี้มีทั้งหมด4เเคว้นได้เเก่ เเคว้น,
เเคว้นฉิงเเคว้นเว่ยเเละเเคว้นกงหลังจากที่เจ้าร่างได้กำเนิดขึ้นมาบิดาผู้ให้กำเนิดรังเกียจ มู่หรงเฟยอย่างมาก เพราะมารดาเเละบิดานั้นต้องเเต่งเพื่อเพิ่มอำนาจของสองตระกลูใหญ่
ทั้งมารดาเเละบิดานั่นไม่ได้รักเลยกันส่วนมู่ หรงเฟยนั้นได้เกิด มาเพราะมารดาทั้งบิดานั้นโดนวาง ยาปลุกกำหนัด จึงทำให้มู่หรงเฟยเกิดมาจากความผิดพลาดที่ไม่ได้เกิดจากทั้งสองฝ่าย บิดานั่นรังเกียจเจ้าของร่างนี้เป็นอย่างมากเพราะบิดาไม่อยากให้เกิดมา
ไม่นานบิดาก็รับฮูหยินรองทีเป็นคนรักของบิดาตนเเต่งเข้ามาอย่างยิ่งใหญ่ เเต่ทางมารดาหาเสีย ใจไม่มารดานั้นทำเพียงเฝ้าเลี้ยงดูมู่หรงเฟยจนเติบใหญ่จนถึง
ตอนอายุครบ 5 หนาวเป็นวันปลุกลมปราณเเต่เจ้าตัวนั้นไม่สามารถปลุกลมปราณได้หรือจะเรียกก็คือเศษสวะนั้นเอง บิดาที่รังเกียจอยู่เเล้วยิ่งรังเกียจเข้าไปใหญ่จึงได้ ไล่ตนเเละมารดาไปอาศัยอยู่ท้ายจวนตระกลูมู่
นับวันเวลาที่อาศัยอยู่กับมารดาก็นานมาก เเม้ไม่ได้เบี้ยหวัดสักอีเเปะมารดาตนเองก็ไม่เคยเรียกร้องมันจนถึงทุกวันนี้ ทำเพียงปลูกผักไว้กินเองหากจะกินเนื้อมารดาจึงได้ นำเอาทรัพย์สินของตนเองเพื่อนำไปซื้อมาให้ตนเองกิน
พอเข้าถึงวัย 10 มารดาบอกตนก็ได้ใช้ถ่ายละเอียดทาไปทั่วทั้งใบหน้าเเละตามตัวของตนเอง เเละให้ใส่ ผ้าคลุมสีดำปกปิดใบหน้าของตนเองเอาไว้ตลอดเวลาเมื่อออกจากเรือน
ไม่นานหลังจากนั้นมารดาก็ตายลงอย่างไม่มีสาเหตุเเต่บิดาก็หาสนใจเรื่องนี้ไม่ มู่หรงเฟยเจ้าตัวนั่นไม่มีเงินติดตัวสักอีเเปะตนเองจึงได้ไปนั่งคุกเข่าที่หน้าเรือนใหญ่ ทีบิดาอาศัยอยู่นานกว่า 2 ชั่วยามเพื่อขอเบี้ยหวัดเพื่อทำพิธีศพให้เเก่มารดา
เเต่สิ่งที่ได้กลับมาคือฮูหยินรองที่ได้กลายเป็นฮูหยินใหญ่ทันที เมื่อมารดาของตนตายลงก็ได้สั่งให้บ่าวชายจับตนเองกดลงพื้น หน้าเรือนใหญ่โดยฮูหยินใหญ่ก็ได้ใช้ไม้หวายเฆี่ยนตีตนเอง
โดยมีบิดาที่ยื่นกอดน้องสาวทั้งสองที่เกิดจากฮูหยินใหญ่ ทำเพียงยื่นมองตนเองโดยเฆี่ยตีอย่างไม่สนใจ ว่าตนเองจะเจ็บปวดเพียงใด
ตนจึงต้องจำใจเเบกสังขารทีมีบาดเเผลจากการโดนเฆี่ยนตีเเบกร่างของเเม่อันเป็นที่รักของตนที่เเน่นิ่งไม่มีวันหวนคืนไปยังท้ายจวนตระกูลมู่
ที่อยู่ของตนเเละมารดาเพื่อทำพิธีฝังศพให้เเก่มารดาของตนเองทรามกลางสายฝนเเละเสียงฟ้าร้อง เหมือนสวรรค์จะพังทลายลงมานะเวลานั้น
พอมาถึงท้ายจวนตนก็ทำการนำกิ่งไม้มาขุดหลุมเพื่อ ฝังร่างของมารดาตนอย่างทุลักทุเลโดยไม่คำนึงถึงร่างกายของตนทีจะเจ็บซ้ำเเค่ไหน เเละไม่หวัดกลัว ต่อเสียงฟ้าร้องดังมังกรคำราม
"ท่านเเม่มู่เออร์รักท่านเเม่มู่เออร์อยากไปอยู่กับท่านเเม่"
ตนเองทำได้เพียงขุดไปทั้งน้ำตาทรามกลางสายฝน โดยสายธารของน้ำตานั้นก็หลั่งไหลดัง เกลียวคลื้นยังพื้นมหาสมุทรจนเเทบจะกลายเป็นดังสายเลือดได้ในเวลานั้น
พอขุดหลุดเสร็จก็เเบกร่างของท่านเเม่ลงมายังหลุดทีทำการขุดไว้อย่างทุลักทุเล ก่อนจะใช้มือเขี่ยดินทีขุดมาจากหลุมมากลบร่างของมารดาตนเอง
"ท่านเเม่ไม่ต้องห่วงมู่เออร์เเล้วนะมู่เออร์สัญญาว่าจะเป็นเด็กดี อึกๆ! จะไม่ให้ท่านเเม่ต้องลำบากใจเเละจะเป็นเด็กดีมู่เออร์ขอให้ท่านขึ้นสวรรค์ อึก! นะขอรับท่านเเม่"
มู่หรงเฟยกล่าวกับท่านเเม่ทั้งน้ำตาต่อหน้าหลุมศพของท่านเเม่ตนเอง มีเพียงป้ายหลุมศพของท่านเเม่ทีตนเองนำเเผ่นไม้เก่าๆที่ตนใช้หินขีดเป็นชื่อของท่านเเม่
จนเลือดไหลออกจากมือเเต่ก็ยังขีดจนเสร็จเเละดอกไม้ของต้นดอกบัว ที่ท่านเเม่ชอบทำเวลาว่างจะชอบนำมาพับดอกบัวไว้ไหว้รูปปั้นเจ้าเเม่กวนอินอยู่บ่อยๆ
หลังจากวันที่ตนเองฝังศพท่านเเม่เสร็จก็ต้องอยู่อย่างหวาดกลัว จากการที่โดนเฆี่ยนตีครั้งนั้นเพราะไม่มีท่านเเม่คอยปลอบตนเองเเล้วจึงเกิดเป็นปม ทำให้เวลาเห็นฮูหยินใหญ่ทั้งบิดาของตนรวมไปถึงน้องรวมสายเลือดของตน
จะเกิดอาการหวาดระเเวงขึ้น ไม่นานจากนั้นตนเองก็ไม่ต่างจากทาสคนหนึ่ง ตนเองต้องทำงานหนักมากมายเพื่อเเลกข้าวต้มจืดๆหนึ่งถ้วยเเละผักเหี้ยวๆ รวมไปถึงผลไม้ที่เน่าเเล้วเพื่อประทังชีวิตไปวันๆจนร่างกายผอมเเห้ง เเต่ก็ยังโดนรังเเกจากบรรดาน้องทีเกิดจากฮูหยินรองมีชื่อว่า
มู่หลิงอี้เเละมู่ฉิงอี้อายุเพียง9หนาวเพราะตนเองไม่มีลมปราณจึงทำให้โดนกลั่นเเกล้งมาก มายทั้งโดนจับโบยหรือจับกดน้ำ ตนเองล้วนโดนน้องรวมบิดาทำทั้งหมดกับตนเองราวกับไม่ใช้คนทำเหมือนสัตว์ทีอยู่ในกำมือ จะบีบให้ตายก็ตายได้จะปล่อยให้รอดๆก็รอด
จนอายุได้15หนาววัยปักปิ่นของตนที่ควรจะจัดงานเเต่กลับมีเพียงความเงียบเหงาภายในเรือนหลังจวนมู่ ตลอดเวลาทีตนต้องทนอยู่ภายในตระกลูมู่มันชั้งยาวนาน
^^^จนถึงวันที่เหมือนมีสายฟ้าฟาดลงกลางตัวของตนเอง เพราะตนเองต้องโดนจับหมั่นหมายระหว่างสองตระกูลเพื่อเพิ่มอำนาจ ให้ตระกลูมู่ตนเองคู่ต้องหมั่นกับคุณชายโจวอี้หยางจากตระกูลโจวทีเป็นนคุณชายใหญ่ ตนเองไม่เคยพบหรือเห็นหน้าของคุณชายโจวอี้หยางเลย^^^
ไม่นานก็ได้ยินข่าวลือจากบ่าวไพร่ในจวนพูดถึงความหล่อเหลาดังเทพเซียน ของคุณชายโจว อี้หยางทีหลงรักน้องสาวรวมสายเลือดของตนเอง เเต่มู่หรงเฟยก็ไม่ได้คิดอะไรเกิ้นเลย นั้นไปเลยเพราะตนก็ไม่ได้รักคุณชายโจวเลยเหมือนกัน
จำได้เพียงตนเองก็ไม่ต่างจาก หมากตัวหนึ่งในกระดานหมายที่ใช้เพื่อเพิ่มอำนาจให้เเก่ตระกูล ทำเพียง อาศัยอยู่ภายในจวนไปวันๆเหมือนดังรอความตาย
จนอายุอยางเข้า17หนาวตนเองที่ทำเพียงนั่งพับดอกบัวดังทีท่านเเม่ชอบพาตนมาทำอยู่ยังศาลากลางน้ำภายในจวน อย่างสงบเงี่ยมอยู่ภายในศาสาเเต่ตนเองก็โดนมู่ฉิงอี้น้องรวมสายเลือด ของตนกล่าวหาว่าตนเองไปผลักนางตกน้ำ จนเจ็บป่วยได้้้ไข้หลายวัน
จึงทำให้คู้หมั้นที่ไม่เคยพานพบหน้ามาก่อน ได้ผลักตนตกน้ำจนทำให้ตนเกลือบตายในเวลานั้น เพียงเพราะคำพูดคำเดี๋ยวทีออกมาจากปากน้องสาวตนเอง คุณชายโจวอี้หยางจึงได้ทำการประกาศ
ถอดหมั้นกับตนในเวลานั้นก่อนจะพามู่ฉิงอี้ทียิ้มอย่างมีความสุขภายใต้อ้อมกอดของคุณชายโจวอี้หยาง ก่อนจะพากันเดินจากไปปล่อยให้ตนเองต้องตะเกียดตะกายขึ้นจากสระน้ำโดยไม่มีใครช่วยในเวลานั้น
ตนจึงโดนบิดาทีเกียจขี้หน้าอยู่เเล้วลงโทษ กักบริเวณให้อยู่ภายในเรือนเป็นเวลา3เดือน จึงทำได้เพียงก้มหน้ารับกรรมไป
ตลอดเวลาต้องกินอาหารไม่ต่างจากสัตว์ได้กินเพียงข้าววันละหนึ่งถ้วย เเละผักเน่าเท่านั้นโดยไม่รู้ถึงภัยร้ายในอาหารในเเต่ละวันที่ตนได้รับมา ไม่นานเกิ้นรอร่างกายที่ผอมเเห้งดังกิ่งต้นหลิวก็ได้ล้มลง
ด้วยฤทธิ์ของยาพิษ ร้อยราตรีเป็นพิษที่ จะกัดกร่อนอวัยวะภายในช้าเเบบไม่รู้ตัวเอง จนทำให้มีเลือดซึมออกทั่วทั้งร่างกาย จนถึงตายในที่สุดจึงทำให้วิญญาณของตนเองต้องมาอาศัยนี้เเทน
หลังจากได้เห็นเหตุความทรงจำจากเจ้าของร่างก็รู้น้ำตาที่ไหลออกมาอย่างอดไม่อยู่เพราะ มันนั้นทนทุกข์ขนาดนี้มัน เป็นอะไรที่เลวร้ายมากสำหรับชานม
"พวกสารเลวไม่ต่างจากเดรัจฉานมันต้องได้รับสิ่งที่พวกมันทำไว้!"
ยังดีที่ร่างนี้ถึงจะไร้ค่าเเต่ก็ยังพออ่านออกเขียนได้โดยมารดาได้สอนเเอาไว้ จึงได้รู้ว่าโลกนี้เรียกว่าหยางเฟย เป็นโลกที่มีลมปราณเหมือนในนิยายโลกก่อนมีทั้ง มุนษย์ สัตว์อสูร มาร
ซึ่งมีการฝึกตนเเบ่งเป็นสองเเบบ มีทั้งทางด้านเซียนที่สามารถเหาะบนฟ้าพลิกได้เเม้กระทั้งท้องฟ้าเพื่อมีชีวิตอันเป็นอมตะ ผู้ฝึกสายเซียนที่จะดูดซับเอา
พลังของสวรร์เเละปฐพีเข้ามายังทะเลลมปราณของตนเองเพื่อเลื่อนระดับลมปราณของตนเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์
ผู้คนนั้นจะสามารถฝึกลมปราณหรือกำลังภายในได้ตอนอายุ5หนาวต้องปลุกพลังลมปราณจากเม็ดยากายโลหิต
เเต่เจ้าของร่างนี้ไม่สามารถปลุกได้ลมปราณทำให้เหมือนเศษสวะไร้ค่าคนหนึ่งภายในตระกูลทั้งข่าวลือถึงความอัปลักษณ์ที่ต้องปิดใบหน้าตลอดเวลา ที่ถูกปล่อยออกไปด้วยน้ำมือ
"มู่หรงเฟยในเมื่อนายตายไปเเล้ว ฉันจะขอเเก้เเค้นพวกสัตว์เดรัจฉานเเทนนายเอง! ”
“ใครที่มันเคยรังเเกนายเเละเคยทำร้ายนายฉันจะเอาคืนพวกมันทั้งหมดเอง!ต่อไปนี้! ข้าคือ มู่หรงเฟย! ”
จากพูดจบก็ยิ้มอย่างอาฆาตภายในความมืดมิดเพราะหากตนเองมายังร่างนี้ก็คงจะมีอะไรเกี่ยวข้องกันกับร่างนี้เเน่ๆ เเละจะได้ล้างเเค้นเเทนร่างนี้โดยเฉพาะเจ้าตระกูลสารเลวนี้อีก
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments