เด็กผู้หญิงนอนหลับไปเนิ่นนาน เนิ่นนาน และเนิ่นนาน จนเวลาผ่านไปหลายต่อหลายร้อยปี
ไม่สิ เวลามันหยุดอยู่นี่นา เอาเป็นว่ามันเนิ่นนานเกินกว่าที่ตัวเธอเองจะนึกถึง
และแล้ว เสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้น
หืม?เสียงใครกันนะ แต่เธอง่วงจนเกินกว่าจะลืมตาตื่น
เสียงนั้นยังคงดังต่อเนื่อง และร่างกายเธอเกิดแรงสั่นสะเทือนจนเธอทนไม่ไหว
โธ่ ตื่นก็ได้
เด็กผู้หญิงค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา ที่อยู่ตรงหน้าเธอคือพุ่มหนามสีเขียวสดที่บดบังท้องฟ้าสีครามไว้เบื้องบน และ เด็กผู้ชายผมสั้นสีน้ำตาลคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างๆเธอ เขาดูเหมือนรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ เด็กคนนั้นใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นตามปกติ แต่เขากลับมีผ้าคลุมสีแดงผูกไว้ข้างหลังอย่างกับพวกฮีโร่ที่เธอเคยเห็นในนิทานเรื่องต่างๆ
“เธอตื่นแล้ว!”
เด็กผู้ชายหันไปตะโกนบอกใครบางคนด้วยสีหน้าดีใจ
“ลุกไหวไหม ฉันเขย่าเธอเป็นชาติ นึกว่าจะไม่ตื่นซะแล้ว”
เด็กผู้ชายหันมาพูดกับเธอ
เด็กผู้หญิงมึนงง เธอพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง พลางปัดผมหยักยาวสีน้ำตาลออกจากใบหน้า
“ฉันอยู่ที่ไหน”
เด็กผู้หญิงมองไปรอบๆก็สังเกตเห็นว่า รอบๆตัวเธอมีแต่ต้นหนามอวบอ้วนสีเขียวเข้ม สีของมันแทบจะกลืนไปกับชุดกระโปรงสีเขียวอ่อนของเธอ มันไม่ได้พันตัวเธอ แต่ทำราวกับเป็นกำแพงโอบล้อมตัวเธอไว้ และแล้วเธอก็นึกออกว่าเธออยู่ที่ไหน นึกออกถึงโลกที่หยุดนิ่งของเธอ เธอมองเด็กผู้ชายอย่างตกตะลึง
“เธอเป็นใคร...”
เด็กผู้หญิงถามอีกครั้ง
เด็กผู้ชายไม่ตอบ แต่กลับจ้องเธอเขม็ง “เธอคือแม่มดแห่งกาลเวลาสินะ คนที่ทำให้เวลาหยุดนิ่ง"
“ฉันไม่ใช่แม่มด ฉันแค่ได้พรจากนางฟ้าทำให้หยุดเวลาได้”
“นางฟ้า?” เด็กผู้ชายขมวดคิ้ว
“ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนางฟ้าให้พรหยุดเวลามาก่อน”
เสียงดังซวบๆมาจากทางด้านหลัง เด็กผู้หญิงหันไปมอง ก็ได้เห็นว่ามีคนๆหนึ่งกำลังปีนต้นหนามขึ้นมา เอ๊ะ ไม่สิ หรือว่าจะเป็นหมา เธองงไปหมดแล้ว จะให้เธอบรรยายยังไงดีล่ะ คนๆนั้นรูปร่างสูงโปร่ง สวมเสื้อเชิ๊ตสีแดง และมีผ้าพันคอสีน้ำตาล เขาสวมหมวกสีดำด้วย เขาเหมือนคนปกติทุกอย่างถ้าไม่นับว่าตรงส่วนหัวเขาเป็นหมาพันธุ์ไซบีเรียน
“เธอบอกว่าเธอไม่ใช่แม่มดเหรอ”
คนๆนั้น(หรือหมาตัวนั้น)ถามเด็กผู้ชาย
“ใช่”
“ฉันเองก็ไม่เคยได้ยินว่าแม่มดจะเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆแบบนี้”
คนๆนั้น(หรือหมาตัวนั้น)จ้องเด็กผู้หญิงอย่างพินิจพิจารณา
“คุณเป็นตัวอะไรเหรอคะ?” เด็กผู้หญิงถามเขา
“สวัสดีแม่หนูน้อย ฉันเองก็ไม่แน่ใจ ก่อนหน้านี้ฉันเป็นหมาของเด็กคนนี้” เขาหันไปทางเด็กผู้ชาย
“แต่ฉันขอพรจากนางฟ้าว่าอยากจะเดินทางไปกับเด็กคนนี้ด้วย นางฟ้าเลยทำให้ฉันมีร่างกายที่สะดวกขึ้น ตอนนี้ฉันก็เลยเป็นเหมือนผู้ปกครองของเขาแทน”
เด็กผู้หญิงตกใจกับความเป็นมาของเขา แต่เธอไม่ได้รู้สึกกลัว กลับกันเธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นอย่างน่าประหลาด เธอรู้สึกอยากจะอยู่ใกล้ๆเขา
“งั้นตอนนี้คุณก็เป็นมนุษย์แล้วสินะคะ ดีจัง หนูรู้สึกชอบคุณจังเลยค่ะ”
“ฉันเองก็รู้สึกถูกชะตากับเธอ แม่หนู”
หมา เอ๊ย เขาคนนั้นยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆตัวเธอและเด็กผู้ชาย
“พวกคุณกำลังเดินทางไปที่ไหนกันเหรอคะ แล้วทำไมพวกคุณถึงเคลื่อนไหวได้ ตอนนี้โลกคลายเวลาแล้วเหรอคะ”
เด็กผู้หญิงถามรัวด้วยความสงสัย
“ยังหรอก” คราวนี้เด็กผู้ชายเป็นฝ่ายตอบ
“นางฟ้าเป็นคนคลายเวลาให้เรา และให้เราช่วยตามหามังกรเพื่อให้โลกเป็นอย่างเดิม นี่เป็นมังกรตัวแรกที่เราเจอ พอลองขึ้นมาก็พบเธอนอนหลับอยู่ในพุ่มหนามนี่ ฉันเห็นต้นหนามคุ้มกันเธออยู่ เลยคิดว่าเธอเป็นแม่มดแห่งกาลเวลา”
“แม่มดแห่งกาลเวลานี่เป็นใครเหรอ” เธอถาม
“นางฟ้าบอกว่าเป็นคนที่มีพลังหยุดเวลาได้ และเป็นคนที่ทำให้โลกหยุดเวลาอยู่ตอนนี้”
“นั่นฟังเหมือนเป็นฉันเลย” เด็กผู้หญิงพูดอย่างตกใจ “แต่ฉันไม่ได้เป็นแม่มด”
“พวกฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน อย่างน้อยเธอก็เป็นคนที่ทำให้เวลาหยุด ฉันคิดว่าเธอน่าจะต้องเดินทางไปกับพวกเราเพื่อช่วยเรา” เด็กผู้ชายพูดอย่างไม่แน่ใจ
“แม่หนูอยากเดินทางไปกับพวกเราไหม” หมาถามเธอ
“อยากค่ะ หนูอยากไป ให้หนูไปด้วยนะ”
“แน่นอน เราจะพาเธอไปด้วย ฉันชื่อแจ็คเกอร์ เด็กคนนี้ชื่อเลโอ แล้วหนูชื่ออะไรล่ะ?”
“หนูชื่อแมรี่ค่ะ”
“โอเค แมรี่ พวกเราจะเดินทางด้วยกัน ฉันดีใจที่เธอจะไปด้วย”
“หนูก็ดีใจที่ได้เจอคุณค่ะ” แมรี่กระโดดกอดแจ็คเกอร์ เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้เขา
“แล้วเราต้องทำยังไงถึงจะเอามังกรออกมาได้” เธอถามเขาทั้งสอง
“เธอต้องทำลายต้นหนามพวกนี้ก่อน นี่ไม่ใช่ต้นหนามธรรมดา มันเป็นต้นหนามแห่งกาลเวลา ในตอนที่โลกถูกหยุดเวลา ต้นหนามได้งอกขึ้นมาพันธนาการมังกรไว้เพราะมังกรเป็นผู้ควบคุมเวลา และทำให้มังกรหลับไหล ถ้าต้นหนามนี่ยังพันอยู่มังกรก็จะไม่ตื่น และโลกก็จะไม่มีวันคลายเวลา” เด็กผู้ชายอธิบาย
“แค่เราช่วยมังกรออกมา โลกก็คลายเวลาแล้วเหรอ”
“ไม่ ยังมีมังกรอีก 3 ตัวที่เธอต้องหาให้เจอ และช่วยพวกมันออกมา โลกถึงจะคลายเวลาได้”
เด็กผู้หญิงลุกขึ้นเดินออกมาจากดงต้นหนามที่ห่อหุ้มตัวเธอ เธอมองออกไปยังทิวทัศน์เบื้องล่าง ดูเหมือนต้นหนามจะแผ่ปกคลุมไปทั่วภูเขาแล้ว
“เราจะทำลายต้นหนามมากมายขนาดนี้ได้ยังไง?”
“ไม่ต้องกลัว หนูน้อย มันมีแค่ต้นเดียวเท่านั้น มันเพียงแค่ขยายกิ่งก้านไปไกล แค่ต้องหารากมันให้เจอและฟันมันทิ้งให้หมดก็จบ ไว้เป็นหน้าที่ฉันเอง ฉันคิดว่ามันต้องอยู่ใกล้ตัวเจ้ามังกรนี่แหละ” แจ็คเกอร์พูด
ผ่านไปพักใหญ่ แจ็คเกอร์ก็หารากของต้นหนามเจอ มันอยู่ข้างๆมังกรอย่างที่เขาบอก แจ็คเกอร์กับเลโอช่วยกันขุดรากมันขึ้นมา และฟันมันเป็นชิ้นๆ แมรี่อยากช่วย แต่เธอไม่มีเครื่องมือ รากนั้นใหญ่มาก พวกเขาต้องใช้เวลาเป็นนานมากกว่าจะขุดขึ้นมาหมด ตรงนั้นเกิดเป็นหลุมใหญ่ หลังจากฟันรากต้นหนามทิ้งไปไม่ทันไร กิ่งต้นหนามที่ปกคลุมไปทั่วภูเขาก็เริ่มเหี่ยวแห้ง และหายไปในที่สุด เหลือเพียงเจ้ามังกรตัวใหญ่ยักษ์อยู่ตรงนั้น
หลังจากต้นหนามหายไปจนหมด มังกรก็ค่อยๆตื่นขึ้น เกล็ดบนตัวมันสะท้อนแสงเป็นสีน้ำเงิน มันลุกขึ้นบิดขี้เกียจ มันตัวใหญ่และดูงุมง่ามไปหมด แมรี่รู้สึกว่ามันเคลื่อนไหวครั้งนึง แผ่นดินก็สะเทือนครั้งนึง แต่มันดูไม่ดุร้ายเลย ออกจะดูเซื่องซึมซะมากกว่า
“เอาล่ะ เราปลุกเจ้ามังกรได้แล้ว ว่าแต่เราจะพามันไปด้วยได้ยังไง” เลโอพูดขึ้น
“เจ้ามังกร เจ้าเห็นพวกเราไหม” แจ็คเกอร์พูดกับมังกร แน่นอนมันได้ยิน เพราะมันก้มลงมาดูและทำสีหน้างุนงง
“พวกเราเป็นคนช่วยเจ้า ปลุกเจ้าขึ้นมาจากการหลับไหล เราอยากจะพาเจ้าไปกับเราด้วย เพื่อจะทำให้โลกกลับมามีเวลาอีกครั้ง” ตลอดที่แจ็คเกอร์พูดมังกรก็พยักหน้าหงึกๆด้วยสีหน้างงๆของมัน แต่เห็นได้ชัดว่ามันเข้าใจและว่าง่ายแค่ไหน “แต่เจ้าตัวใหญ่ไป การจะพาเจ้าไปด้วยคงเป็นอะไรที่ยุ่งยากมาก เจ้าพอจะช่วยทำอะไรกับเรื่องนี้ได้ไหม?”
แจ็คเกอร์พูดจบมังกรก็พยักหน้าหงึกๆเช่นเดิม แต่คราวนี้มันกางปีกออก ก่อนจะกระพือปีกบินขึ้นบนฟ้า ลมจากปีกมังกรรุนแรงจนแมรี่แทบปลิว โชคดีที่เธอเกาะแจ็คเกอร์ไว้ทัน มังกรบินสูงขึ้นไป สูงขึ้นไป ก่อนที่มันจะบินวนเป็นวงกลมในอากาศ มังกรบินวนครั้งแล้วครั้งเล่า ดูเหมือนว่ายิ่งมันบินวนมันก็ยิ่งห่างไกลออกไป แต่เปล่าเลย ตัวมันเล็กลงต่างหาก และแล้วมันก็กลับลงมาที่พื้นดินอีกครั้ง มันลงจอดบนอุ้มมือของแมรี่ ใช่ มังกรตัวเล็กลงทุกๆครั้งที่มันบินวน ตอนนี้มันตัวเท่าลูกบอลเท่านั้น
“ดีเลย! แบบนี้เราก็เดินทางต่อกันได้ล่ะ” แจ็คเกอร์อุทานออกมาอย่างชอบใจ
“หนูเพิ่งรู้ว่ามังกรย่อตัวให้เล็กลงด้วยวิธีหมุนตัวแบบนี้! ถ้ามันหมุนอีกด้านตัวมันก็จะใหญ่ขึ้นสินะคะ” แมรี่พูดอย่างตื่นเต้น เธอรู้สึกว่ามังกรในมือเธอน่ารักมาก เธอดึงมันมากอด เอาแก้มถูมัน มังกรร้อง กี้ กี้ ออกมาอย่างชอบใจ ดูเหมือนมันเองก็ชอบเธอ
“ฉันก็เพิ่งรู้เหมือนกัน แต่ก็ไม่แปลก ใช่ว่าใครจะมีโอกาสเจอมังกรบ่อยๆ” แจ็คเกอร์พูด “เอาล่ะ งั้นเราเดินทางไปที่ต่อไปกันดีกว่า”
ในที่สุดคณะเดินทางที่แสนพิลึกพิลั่นก็เริ่มออกเดินทาง ดูเหมือนการหยุดเวลาของแมรี่จะทำเอาโลกพิลึกพิลั่นไปหมด มีทั้งมังกร มีทั้งหมาที่มีร่างกายเป็นคน แมรี่อดตื่นเต้นไม่ได้ว่า ต่อไปเธอจะได้เจออะไรพิลึกพิลั่นแบบไหนอีก แต่อย่างน้อยสำหรับเธอตอนนี้ โลกก็ดูไม่น่าเบื่อแล้ว
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments