ในเช้าวันต่อมาทหารยามแจ้งเตือนการพบเห็นศัตรู หลังจากมีการแจ้งเตือนทหารทั้งหมดก็มาประจำสถานีรบของตนจนครบหลังจากนั้นไม่นานทัพของอาเทร์นัมก็เริ่มเปิดฉากโจมตี ทหารราบแนวหน้า
ของอาร์เทียมเดินเข้ามาใกล้เรื่อยพอเดินมาได้สักระยะก็เข้าระยะของปืนใหญ่เวทมนตร์ทหารที่มีฝ่ายรายงานก็รีบวิ่งมาบอกหัวหน้ากองที่คุมปืนใหญ่และพอได้รับอนุญาติจากแม่ทัพก็เริ่มยิงในทันที
"ตู้ม ตู้ม ตู้ม..."
ปืนใหญ่เวทมนตร์เริ่มเปิดฉากยิงใส่กองทัพของอาร์เทนัมและกองทัพของอาเทร์นัมก็ทำอะไรไม่ได้นอกกว่าเร่งฝีเท้าเพื่อเข้ามาประชิดกำแพงค่าย พอทหารอาเทร์นัมใกล้เข้ามาอีกพลธนูและทหารเวทมนตร์เริ่มยิงใส่ทหารอาร์เทนัมพอทหารอาเทร์นัมเริ่มสูญเสียเยอะ พวกเขาก็เริ่มวิ่งเข้าใส่ป้อมของกองทัพซีเลียพอทหารอาร์เทนัมที่เข้ามาเหลือน้อยประตูป้อมก็เปิดออกและทหารม้าก็วิ่งออกมากวาดล้างกองทัพอาร์เทนัม กองทหารม้าที่วิ่งออกมานั้นนำโดยองค์ชายไฮน์และวิ่งเข้าปะทะกับกองทัพอาร์เทนัมและสู้รบกันอย่างดุเดือดเมื่อทหารฝ่ายอาร์เทนัมถอยกลับไปไอน์ก็สั่งให้กองทัพหยุดไล่ล่าและกลับไปที่ป้อม เมื่อไอน์กลับเข้ามาถึงภายในป้อม เหล่าทหารต่างส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจที่สามารถรอดพ้นวันแรกในสงครามด้วยการสูญเสียและบาดเจ็บเพียงน้อยนิด และในวันที่ 2 กองทัพอาร์เทนัมมีการเคลื่อนไหวแปลกพวกนั้นส่งทหารมาเพียงหยิบมือส่วนทัพหลักรออยู่แนวหลังพอผ่านมาสักพักทหารแนวหน้าที่เดินมาก็โดนกวาดล้างแต่ในทันใดนั้นทหารม้าจากกองหลักของอาร์เทนัมก็วิ่งกรู่เข้ามาพอมาถึงระยะของปืนใหญ่เวทมนตร์พวกนั้นก็แยกออกเป็น 3 กอง และวิ่งเข้ามาจากข้างและด้านซ้ายและขวาพร้อมกันทำให้กองปืนใหญ่หันปืนไปทางด้านซ้ายและขวาไปไม่ทันมีเพียงปืนไม่กี่กระบอกเท่านั้นในด้านซ้ายและขวาทำให้ต้องเปิดประตูด้านซ้ายและขวาเพื่อส่งทหารม้าออกไปรับศึกโดยไอน์นั้นได้ออกไปกับทัพฝั่งซ้ายพร้อมกับอเล็กซ์
"พร้อมไหมไอน์" อเล็กซ์ถาม
"พร้อมกว่านี้ไม่มีแล้วละ"
"ฮ่าๆๆ ฉันจะปกป้องนายเองนะองค์ชาย"
"อย่างนายเนี่ยนะ"
ทั้งคู่หยอกล้อกัน พอประตูเปิดออก ทหารม้าหลายหมื่นนายควบมาออกและเข้าปะทะกับทหารอาร์เทนัมอย่างกล้าหารและจู่โจมอย่างรวดเร็วผ่านไปไม่นา นทหารม้าที่วิ่งมาของอาร์เทนัมทั้ง 3 ฝั่งก็เริ่มร่อยหรอ ทำให้แม่ทัพฝั่งอาร์เทมันสั่งให้ถอยทัพในทันที จบศึกวันที่ 2 ซาเลียสูญเสียทการเพียง 10,350 นาย แต่ฝั่งอาร์เทนัมสูญเสียไปประมาณ 130,000 นาย เป็นผลมาจากทัพหน้าของอาเทร์นัมถูกกองปืนใหญ่เวทมนตร์ของกองทัพซาเลียที่เป็นเทคโนโลยีทางการทหารที่มีเพียงอาณาจักรซาเลียเท่านั้นที่มี เช้าวันที่ 3 ทัพจากหัวเมืองต่างไปของซาเลียก็มาถึงและเริ่มเดินทัพไปเมืองหลวงของอาร์เทนัม เช้าวันที่ 5 ของสงครามกองทัพซาเลียล้อมและประชิดเมืองอาร์เทนัมเพื่อกดดันและตัดเสงียบไปเรื่อยๆเพราะการโจมตีเมืองหลวงที่เป็นดั่งป้อมปราการนั้น ไม่ต่างจากการเอาชีวิตไปทิ้งเพราะด้วยเมืองหลวงของอาร์เทนัมนั้นมีกำแพงสูงและแข็งแกร่งจนเป็นชื่อเสียงโด่งดังว่า เมืองหลวงแห่งอาร์เทนัมแข็งแกร่งหาผู้ใดเปรียบ แต่นั้นกลับเป็นดาบ 2 คมคือเมื่อไหร่ที่ถูกกองทัพล้อมเมืองไว้ก็จะกลายเป็นคุกขนาดยักษ์ในทันทีผ่านมา 10 วัน เสบียงในเมือหลวงอาร์เทนัมเริ่มหมด และทหารในเมืองเริ่มหมดความอดทน
"ฮ่าๆๆๆ แผนของท่านนี้ช่างยอมเยี่ยมซะจริงๆนะท่านไอน์" แม่ทัพคนหนึ่งพูด
"เพราะได้คำแนะนำของทุกท่านต่างหากผมจึงคิดแผนการนี้ได้" ไอน์ตอบ
ความจริงแล้วแผนนี้ก็ได้มาจากโลกเก่าหน่ะน่ะ คิดในใจ
"แล้วเราจะทำยัไงต่อครับท่านไอน์"
"รอครับท่านแม่ทัพ เดียวอีกไม่นานพวกนั้นก็จะไม่มีทางเลือกนอกจากออกมาปะทะกับเราหรือยอมแพ้แล้วเปิดประตูเมืองให้เรา ในตอนนี้ข้างในนั้นอาจจะเกิดจลาจลอยู่ก็ได้"
ภายในเมืองอาร์เทนัมตอนนี้เป็นไปตามที่ไอน์คาดการ ภายในเมืองเต็มไปด้วยการก่อจลาจลเนื่องจากความอดอยากและการถูกทางการเอาอาหารไปเลี้ยงกองทัพหมด ในตอนนี้เมืองตกอยู่ในสภาพเศรษฐกิจล่มสลายอย่างสมบูรณ์ และยังมีกองทัพของซีเลียกดดันอยู่ข้างนอก กษัตริย์ของอาร์เทนัม
วอร์เรีย ฟอน อาร์เทมส์ ในตอนนี้กำลังตกที่นั่งลำบากเนื่องจากการถูกกดดันและการจลาจลภายในเมือง จนในที่สุดกษัตริย์แห่งอาเทร์นัมก็ตัดสินใจ
"กอร์น" กษัตริย์เรียกหาข้ารับใช้คนสนิทของเขา
"ขอรับฝ่าบาท"
"แจ้งทหารที่ประจำอยู่ที่ป้อมและส่งคนไปที่จตุรัสกลางเมืองและอ่านสาส์นนี้ซะ"
"ขอรับ ฝ่าบาท"
กอร์นรีบนำสาส์นไปส่งให้ทหารและสั่งให้ไปป่าวประกาศตามจุดที่กษัตริย์บอก
"ทุกคนจงฟัง ภายใต้นามแห่งข้ากษัตริย์
วอร์เรีย ฟอน อาร์เทมส์ เราขอประกาศการยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไขๆใดๆทั้งสิ้น"
ทั้งทหารและประชาชนทุกคนต่างตกใจแต่ทุกคนก็รู้ตัวว่าตนเองนั้นหมดทางสู้แล้วจึงประกาศยอมแพ้สงครามครั้งนี้ หลังจากนั้นไม่นานประตูเมืองก็เปิดออกและกองทัพของซีเลียที่เดินเข้ามาโดยมีไอน์ที่อยู่บนหลังม้าอยู่กลางขบวนและเดินทัพไปที่วังหลวงของอาณาจักรอาเทร์นัมและปลดธงอาเทร์นัมแล้วขึ้นธงอาณาจักรซีเลีย และไอน์ในฐานะองค์ชายของอาณาจักรได้ประกาศต่อหน้าประชาชนและเหล่าทหารของตนว่าอาร์เทนัมนั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรซีเลียแล้ว หลังจากการประกาศศักดาหลังยึดเมืองหลวงได้นั้น ไอน์ซึ่งเป็นองค์ชายก็ได้ไปพบอดีตพระราชาของอาร์เทนัมและได้พูดคุยกันในแนวทางและสิ่ง
"ท่านคือ วอร์เรีย ฟอน อาร์เทมส์ สินะครับ"
"ใช่แล้วครับองค์ชาย" วอร์เรียตอบ
"ในเมื่อท่านเป็นผู้แพ้ในสงครามอาณาจักรนี้จะตกเป็นของซีเลีย แต่เพราะว่าท่านประกาสยอมแพ้ทางเราจึงไม่ต้องสูญเสียทหารมากเกินจำเป็น" ไอน์กล่าว
"กระผมมันขี้ขลาด กระผมไม่สามารถปกป้องอาณาจักรนี้ไว้ได้และไม่สามารถดูแลประชาชนได้ กระผมยินดีรับโทษที่กระผมทำ แต่อย่าทำร้ายเหล่าประชาชนเลยครับ พวกเขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย"
"ท่านไม่ได้ขี้ขลาดหรอกครับ การที่ท่านตัดสินใจยอมแพ้นั้นเป็นเพราะท่านเห็นแก่ประชาชนที่กำลังอดอยากและกำลังจะตายอย่างไร้ความหมายจึงประกาศยอมแพ้เพื่อให้ประชาชนของท่านไม่ต้องอดอยากอีกต่อไป การกระทำนี้ต้องกล้าเสียสละเป็นอย่างมาก และท่านไม่ต้องห่วงเราไม่ประหารท่านหรอก"
หลังจากนั้นไอน์ก็ประกาศถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับราชาองค์เก่าว่า เขาจะสละราชบัลลังก์และกลายเป็นบารอนในเขตชายแดนแทน หลังจากนั้นไอน์ได้ส่งสาส์นไปยังเมืองหลวงของซีเลียว่าสามารถยึดอาร์เทนัมได้แล้ว ผ่านไป 3 วัน กองทัพส่วนใหญ่ของซีเลียได้กลับไปที่เมืองหลวงและหัวเมืองต่างๆของตน แต่ไอน์ยังคงอยู่ที่เมืองและมีพระราชสาส์นจากราชาว่าให้ไอน์นั้นปกครองเขตอาร์เทนัมทั้งหมด อาร์เทนัมนั้นจะเป็นเขตปกครองของไอน์โดยสมบูรณ์ ไอน์ตกใจมากเมื่อได้เห็นพระราชสาส์นจากเสด็จพ่อให้เขานั้นปกครองเขตอาร์เทนัมทั้งหมดไอน์ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับมัน วัดถัดมาหลังจากที่ไอน์ได้ปกครองอาร์เทนัมไอน์ได้เริ่มวางแผนต่างๆของอาณาเขตของเขาทั้งเรื่องเศรษฐกิจและการทหาร แน่นอนว่าการปกครองนั้นไอน์จะเป็นผู้ครองอำนาจสูงสุดในเขต และในด้านการทหารไอน์นั้นได้รับทหารจากเมืองหลวงที่ถูกส่งมาทั้งหมด200,000นาย ซึ่งทหารเหล่านี้ในตอนนี้ถือเป็นกองกำลังส่วนตัวของไอน์ หลังจากนั้นไอน์ก็กลับไปเมืองหลวงและเข้ารับการศึกษาจนจบและกลับมายังอาร์เทนัม และตอนนี้เขามีแผนที่จะพัฒนาเศรษฐกิจที่ไอน์ว่างไว้นั้นเขาจะลองนำมาใช้และจะเป็นครั้งแรกในโลกนี้นั้นก็คือ การปฎิวัติอุตสาหกรรม โดยเขาวางแผนจะเปลี่ยนแปลงเฉพาะส่วนที่เขาดูแล้วยังไม่มีประสิทธิภาพ เขามีรับสั่งให้พัฒนาสิ่งต่างๆทั้งการคมนาคม โดยเขาสั่งให้สร้างถนนเพิ่มเพื่อเชื่อมต่อแล้วทางการค้า และยังสั่งให้สร้างท่าเรือใหม่ในพื้นที่ชายทะเลติดมหาสมุทรเลเวี้ยน แต่ที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดคือการเกษตรเขาเขียนรายละเอียดในการทำเกษตรหมุนเวียนลงในกระดาษและสั่งให้คัดลอกเป็นจำนวนมากแล้วแจกจ่ายไปยังชุมชนและให้ถือเป็นรับสั่งจากเจ้าเมืองให้ทำตาม หลังจากการปฎิวัตอุตสาหกรรมของเขาผ่านไปประมาณ 5 เดือน เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างมากและผลผลิตต่างๆก็มีมากกว่าเดินถึง2เท่า ในตอนนี้เขตอาร์เทียมของเขากลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการค้าไปแล้ว
ภายในเขตการค้าหลัก เมืองหลวงเก่าของอาร์เทียม
มีสตรีนางหนึ่งดูสูงศักนั่งรถม้าที่ดูหรูหราเข้ามาในเมืองและตรงไปยังหน้าประตูวังของไอน์ โดยเธอมีผู้ติดตามมาด้วยกันกับเธออีก 4 คนและขอเข้าเฝ้าไอน์ โดยเธอบอกว่าเธอมาจากสมาพันธ์การค้าตะวันตกและเธอก็แสดงตราสัญสักษณ์ของสมาพันธ์ เหล่าทหารเฝ้ายามหน้าประตูวังจึงแจ้งไปยังไอน์ว่ามีคนจากสมาพันธ์การค้ามาขอเข้าเฝ้า และไอน์ก็ได้อนุญาติให้เข้ามา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments