ตอนที่ 1 : คืนเดือนมืด
หมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางป่าลึก มีตำนานเล่าขานว่า คืนเดือนมืด จะมีมนตราโบราณปรากฏ
“นที” เด็กหนุ่มอายุ 18 ลูกชายคนเล็กของหมู่บ้าน ตัดสินใจออกไปกลางป่าคืนนี้ เพราะอยากพิสูจน์ตำนาน
เขาไม่ทันสังเกตว่า มีเงาร่างสูงผอมปรากฏอยู่หลังต้นไม้ ดวงตาสีแดงสะท้อนแสงจันทร์
> “เจ้ากำลังหาความจริงอยู่หรือ… นที?”
นทีสะดุ้ง แต่กลับไม่หวาดกลัว
> “เจ้าเป็นใคร? ทำไมรู้ชื่อฉัน?”
ชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ
> “ข้า…ชื่อ อัคนิน ถูกสาปให้อยู่กับป่ามานานหลายปี รอใครสักคนที่จะปลดพันธะนี้”
เสียงลมพัด ใบไม้ไหว ทุกอย่างเงียบสงัด แต่สายตาของอัคนินเต็มไปด้วยความโหยหา
> “หากเจ้าอยู่ข้างข้า… ข้าจะสอนเจ้าใช้เวทโบราณ… และสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายเจ้า”
นทีรู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้ใจเต้นแรง แม้บรรยากาศรอบตัวจะเต็มไปด้วยความมืดและมนตรา
> “ฉัน… จะช่วยเจ้า… ถ้าเราอยู่ด้วยกัน”
รัตติกาลนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ ความสัมพันธ์ชาย–ชายท่ามกลางเวทมนตร์และคำสาปโบราณ
ตอนที่ 2 : คำสาปและพันธะ
หลังคืนเดือนมืด นทีกลับมาที่ป่าอีกครั้ง พร้อมกับ อัคนิน ชายหนุ่มร่างสูงผู้ถูกสาป มือเรียวเย็นจับมือเขาเบา ๆ
> “คืนนี้ เจ้าจะเรียนรู้เวทโบราณ… แต่ระวัง พลังบางอย่างอาจเกินความสามารถของมนุษย์”
นทีพยักหน้า แม้ใจเต้นแรง แต่กลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
อัคนินสอนนทีสร้างวงเวทบนพื้นดิน ลมหายใจของทั้งสองประสานกัน เส้นเวทเริ่มเรืองแสงแดงจาง ๆ
ทันใดนั้น เงามืดจำนวนมากพุ่งออกมาจากต้นไม้ ใบไม้กระพือ เสียงกรีดร้องแผ่วเบาดังขึ้นรอบตัว
> “วิญญาณเหล่านี้… ถูกบังคับด้วยคำสาปของบรรพบุรุษเจ้า แต่ตอนนี้ พวกมันหิวกระหาย” อัคนินพูดเสียงเย็น
นทีรู้สึกหวาดกลัว แต่เมื่อมืออัคนินสัมผัสมือเขา ความอบอุ่นและความมั่นใจแผ่เข้ามา
> “อย่ากลัว… เราจะสู้ไปด้วยกัน”
แรงดึงดูดบางอย่างทำให้หัวใจนทีเต้นแรง ขณะสายตาประสานกับอัคนิน
เขาไม่รู้ว่าความกลัวหรือความปรารถนาในใจเป็นแรงบันดาลใจให้เขาก้าวเข้าสู่พันธะเวท
เวทแดงสลับดำพุ่งขึ้น เงามืดถูกสลายไปทีละน้อย
อัคนินโอบนทีไว้แน่น
> “เจ้าสมควรอยู่ข้างข้า… และเราจะเผชิญทุกสิ่งด้วยกัน”
นทีรู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นแรงไม่เพียงเพราะความตื่นเต้น แต่เพราะ ความใกล้ชิดที่ลึกซึ้งเกินกว่าคำพูดใดจะบรรยาย
ตอนที่ 3 : พิธีผูกพัน
เสียงสายลมครางหวิวพัดลอดหน้าต่างห้องเก่าแก่ในเรือนร้าง “นที” นั่งพับเพียบอยู่บนเสื่อเก่า ข้างหน้าเขาคือ “อัคนิน” ผู้ชายลึกลับที่ถูกคำสาปพันธนาการกับเวทมนตร์โบราณ
ในมือของนทีมี ด้ายแดงเก่าแก่ ที่อัคนินส่งมาให้ เขาบอกว่ามันคือกุญแจที่จะเปิดประตูระหว่างโลกมนุษย์กับโลกวิญญาณ
> “เจ้าต้องผูกมันเข้ากับข้อมือข้า… แล้วอ่านคาถาตามนี้”
อัคนินยื่นแผ่นยันต์เก่า ๆ ที่เขียนด้วยอักขระโบราณออกมา
นทีมือสั่น แต่หัวใจกลับเต้นแรงด้วยความรู้สึกที่ไม่เข้าใจ เหมือนบางอย่างบอกว่า หากเขาผูกด้ายนี้ เขาจะไม่มีวันแยกจากอัคนินอีกต่อไป
ขณะที่เสียงสวดเริ่มดังขึ้น บรรยากาศในห้องพลันเย็นยะเยือก ไฟตะเกียงสั่นไหว เงารอบตัวเริ่มขยับราวกับมีชีวิต
> “ระวัง… ถ้าเจ้าหยุดกลางคัน วิญญาณอื่นจะเข้ามาแทน”
อัคนินเตือนเสียงต่ำ
นทีสูดลมหายใจลึก ก่อนจะเอื้อมมือไปผูกด้ายที่ข้อมือของอัคนิน ด้ายแดงเรืองแสงวาบ แผ่ความร้อนออกมาเหมือนเลือดสด
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องของวิญญาณนับร้อยก็ดังก้องรอบเรือน เงาดำพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง แต่กลับถูกยันต์บนพื้นผลักออกไป
นทีสะดุ้งเฮือก แต่ยังคงผูกจนแน่น ก่อนจะเปล่งคำสุดท้ายของคาถา
สิ้นเสียงนั้น ด้ายแดงกลับพันข้อมือของเขากับอัคนินเองโดยอัตโนมัติ แสงสว่างพุ่งออกจากกลางห้อง ร่างทั้งสองสะท้อนแสงแดงราวกับถูกหลอมรวมกัน
อัคนินมองนทีด้วยแววตาสั่นไหว
> “จากนี้ไป…เจ้าไม่อาจหนีจากข้าได้แล้ว แม้ตาย…”
นนท์ (นที) สบตาเขา ใจสั่นจนพูดไม่ออก แต่ในความหวาดกลัวกลับมีความอบอุ่นบางอย่างแทรกเข้ามาอย่างไม่อาจปฏิเสธได้
ตอนที่ 4 : สายใยต้องห้าม
หลังพิธีผูกพันจบลง ห้องทั้งห้องกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง มีเพียงเสียงหอบหายใจของนทีที่ยังถี่แรง ข้อมือของเขาและอัคนินถูกเชื่อมด้วยด้ายแดงสลัว ๆ ที่เรืองแสงไม่ดับ แม้เขาจะพยายามดึงออก แต่ด้ายนั้นกลับแน่นยิ่งกว่ากุญแจเหล็ก
อัคนินเอื้อมมือมากุมข้อมือของนทีไว้
> “อย่าพยายามตัด…มันไม่ใช่แค่ด้าย มันคือคำสัญญาของวิญญาณ”
นทีเงยหน้ามองสบตา รู้สึกถึงความร้อนแผ่ว ๆ ที่ปลายนิ้วชายหนุ่ม ความรู้สึกประหลาดนั้นทำให้ใจเต้นแรง เขาพยายามเบือนหน้าหนี แต่เสียงทุ้มของอัคนินดังชิดหู
> “เจ้าคือผู้เดียวที่มองเห็นข้า… ผู้เดียวที่ปลดพันธนาการได้”
นทีรู้ว่าตัวเองควรกลัว เพราะนี่คือสิ่งเหนือธรรมชาติ แต่ทุกครั้งที่สายตาของอัคนินแตะต้องมา เขากลับรู้สึกว่าโลกทั้งโลกว่างเปล่า เหลือเพียงเขากับคนตรงหน้า
คืนนั้น พวกเขาต้องนอนในเรือนเดียวกัน ด้ายแดงที่ผูกไว้ทำให้ทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ได้เกินหนึ่งช่วงแขน ทุกครั้งที่นทีขยับ เขาจะสัมผัสถึงการเคลื่อนไหวของอัคนินอยู่ข้างกาย
ก่อนหลับตา อัคนินกระซิบแผ่ว
> “แม้จะถูกจองจำ ข้าก็ไม่เสียใจ…เพราะเจ้า”
นทีหัวใจสั่น เขาอยากถามว่าคำพูดนั้นจริงหรือเพียงเล่ห์ลวง แต่ริมฝีปากกลับไม่อาจเปล่งเสียงใดออกมา มีเพียงหัวใจที่เต้นแรงตอบกลับอยู่ในอก
และในความมืดสนิท ด้ายแดงนั้นยังคงเรืองแสงสลัว ๆ คล้ายประกาศว่าทั้งสองได้ถูกผูกพันด้วยชะตาที่ไม่มีวันถอยหลังอีกต่อไป
ตอนที่ 5 : เงาที่อิจฉา
คืนนั้นเอง ด้ายแดงที่เชื่อมข้อมือทั้งคู่กลับกลายเป็นแสงสว่างดึงดูดสิ่งชั่วร้าย วิญญาณเร่ร่อนหลายตนแห่กันเข้ามาล้อมเรือน ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความอาฆาต เสียงหัวเราะแหลมสูงดังราวกับจะฉีกหู
> “เจ้ากล้าผูกพันกับผู้ต้องสาป… ข้าจะฉีกเจ้าทั้งคู่ให้ขาด!”
เงาดำตนหนึ่งพุ่งเข้าหานที แต่ถูกอัคนินผลักออกด้วยพลังเวทสีดำแดงที่แผ่ออกจากร่าง
นทีร้องด้วยความตกใจ ขณะถูกโอบไว้แนบอก
> “อย่าปล่อยมือข้า… ไม่อย่างนั้นมันจะเอาตัวเจ้าไป!”
แม้หวาดกลัว แต่ในอ้อมแขนแข็งแรงนั้น นทีกลับรู้สึกปลอดภัยราวกับโลกภายนอกไม่อาจทำร้ายเขาได้อีก
ตอนที่ 6 : คืนแห่งความใกล้ชิด
เมื่อวิญญาณร้ายถูกขับไล่ เรือนกลับมาเงียบ แต่ร่างกายของนทียังคงสั่นเทา
อัคนินลูบเส้นผมเขาเบา ๆ
> “ข้าสาบาน…ตราบใดที่ด้ายนี้ยังผูกอยู่ ข้าจะไม่ให้สิ่งใดแตะต้องเจ้า”
คำพูดนั้นทำให้หัวใจนทีร้อนผ่าว ความใกล้ชิดเกินควรเริ่มก่อไฟบางอย่างในอก เขาอยากผลักออก แต่ก็อยากอยู่ใกล้อีกฝ่ายไม่แพ้กัน
สายตาประสานกันในความเงียบ แสงจันทร์ลอดหน้าต่างตกกระทบใบหน้าคมของอัคนิน ทำให้เงาดวงตาลึกซึ้งราวกับดึงวิญญาณทั้งดวงของนทีไป
ปลายนิ้วอัคนินแตะริมฝีปากนทีอย่างแผ่วเบา
> “อย่าปฏิเสธ…เพราะเจ้าเองก็ปรารถนาเช่นกัน”
นทีสะดุ้ง ใบหน้าแดงเรื่อ แต่ไม่อาจเอ่ยค้าน
ตอนที่ 7 : พันธะหรือความรัก
วันรุ่งขึ้น ด้ายแดงยังคงสว่างไม่ดับ แต่มันกลับแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จนรัดข้อมือของนทีเจ็บปวด
อัคนินบอกว่านั่นคือสัญญาณว่า วิญญาณทั้งสองกำลังหลอมรวมกัน
> “ถ้าเจ้าปฏิเสธสายใยนี้ เจ้าจะตาย แต่หากยอมรับ…เจ้าจะเป็นของข้า ตลอดไป”
นทีนิ่งงัน หัวใจสั่นสะท้าน เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกที่มีคือความรักจริง หรือเพียงผลของมนตร์พันธะ
แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาเศร้าลึกของอัคนิน เขาก็รู้สึกว่า…บางที ความรู้สึกนั้นอาจเป็นของจริง
และในค่ำคืนนั้นเอง เขายอมเอ่ยเสียงสั่นเบา
> “ถ้ามันคือชะตา… ข้ายอม”
อัคนินยิ้มเศร้า ก่อนกอดเขาแน่นราวกับไม่อยากให้หายไปอีก
ตอนที่ 8 : วิญญาณผู้ครอบครอง
ด้ายแดงที่ข้อมือของนทีเริ่มรัดแน่นจนเลือดซึม อัคนินหน้าซีดลงทุกวัน ราวกับพลังชีวิตของเขาถูกดูดออกไป
ในคืนหนึ่ง วิญญาณร้ายปรากฏขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มันมิใช่แค่เงามืด แต่เป็นหญิงสาวในชุดขาว ดวงตากลวงโบ๋ ริมฝีปากเปื้อนเลือด
> “อัคนิน! เจ้าทรยศข้า… เจ้าสัญญาวิญญาณกับข้า แต่กลับเลือกมนุษย์ผู้นี้!”
นทีชะงัก เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่จริงอัคนินเคยถูก พันธะสัญญากับวิญญาณตนอื่น มาก่อน
อัคนินยืนบังนทีไว้ แม้แววตาสั่นไหว แต่เสียงยังหนักแน่น
> “ข้าไม่อาจรักเจ้าที่ไร้หัวใจ… ข้าขอปลดพันธะทั้งหมดเพื่อเลือกเขา”
วิญญาณหญิงกรีดร้อง สะบัดแขน เงามืดพุ่งเข้าหานที แต่ด้ายแดงกลับเปล่งแสงแรงกล้า ปกป้องเขาไว้
นทีน้ำตาไหลพราก เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่า ความรู้สึกของอัคนินไม่ใช่เพียงมนตร์สะกด แต่มาจากหัวใจที่แท้จริง
ตอนจบ : สายใยสุดท้าย
การต่อสู้รุนแรงขึ้น เรือนสั่นสะเทือน อัคนินใช้พลังสุดท้ายสร้างวงเวทกักวิญญาณหญิงไว้ แต่ผลคือร่างเขาเริ่มเลือนหาย
> “นที… ข้าไม่เหลือเวลาอีกแล้ว”
นทีคว้าข้อมือเขาแน่น เลือดจากด้ายแดงไหลอาบ
> “ไม่! เจ้าสัญญาแล้วว่าจะไม่ปล่อยมือข้า!”
อัคนินยิ้มเศร้า ก่อนก้มลงประทับริมฝีปากเบา ๆ ที่หน้าผากนที
> “ตราบที่เจ้าจำข้าได้ ข้าก็ยังอยู่ในตัวเจ้า”
แสงแดงสว่างวาบ ก่อนร่างอัคนินสลายไปกับอากาศ เหลือเพียงด้ายแดงที่กลายเป็นรอยแผลเป็นบนข้อมือของนที
เสียงกรีดร้องของวิญญาณหญิงมอดดับพร้อมกับเขา ความเงียบเข้าปกคลุม
นทีทรุดลงกับพื้น น้ำตาอาบแก้ม แต่หัวใจยังเต้นแรงพร้อมภาพความทรงจำสุดท้ายที่อัคนินทิ้งไว้
ทุกค่ำคืน เมื่อมองรอยแผลเป็นนั้น เขาจะรู้สึกถึงมืออุ่น ๆ ที่ยังคงกุมเขาไว้ และเสียงกระซิบเบา ๆ ในความมืด—
> “เจ้าคือพันธะสุดท้ายของข้า… และคือรักนิรันดร์ของข้า”
ตอนพิเศษ : ฝันใต้เงาจันทร์
คืนนั้น หลังทุกสิ่งจบลง นทีเผลอหลับไปบนเสื่อเก่าในเรือนร้างที่ว่างเปล่า
แสงจันทร์ลอดหน้าต่าง ร่างเขาสั่นไหวเมื่อฝันประหลาดปรากฏขึ้น
ในฝัน เขาเดินอยู่กลางทุ่งดอกไม้สีเลือด และตรงนั้น—อัคนินยืนรออยู่ในชุดขาวเรียบ ดวงตาไม่เศร้าเหมือนก่อน แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น
นทีรีบวิ่งเข้าไปคว้ามือ แต่ไม่อาจสัมผัสได้เต็มที่ มือของอัคนินโปร่งใสราวกับหมอก
> “ทำไมเจ้าต้องจากข้าไป…” นทีเสียงสั่น
อัคนินยิ้มบาง ก่อนเอื้อมมือเช็ดน้ำตาที่แก้มเขา แม้สัมผัสนั้นแผ่วเบา แต่ก็อบอุ่นเหมือนครั้งที่เคยอยู่ด้วยกัน
> “เพราะคำสาปของข้าถูกสร้างขึ้นจากความอาฆาต… ข้าไม่อาจอยู่ต่อได้ แต่ความรู้สึกของข้า ไม่เคยถูกคำสาปกลืนกิน”
นทีเงยหน้าสบตา รู้สึกถึงความจริงใจที่ไม่ต้องการคำสาบานใด ๆ ยืนยัน
อัคนินก้าวเข้ามาใกล้ เอื้อมผูกเส้นด้ายแดงเส้นใหม่บาง ๆ ไว้ที่ข้อมือนที
> “นี่ไม่ใช่พันธะเวท แต่คือพันธะใจ… มันจะไม่เจ็บ ไม่รัด และไม่หายไป”
ด้ายแดงนั้นเปล่งแสงอุ่น ๆ แล้วจางหายเข้าไปในผิวหนังนที ทิ้งไว้เพียงลายบาง ๆ คล้ายรอยสักรูปเส้นด้ายเล็ก ๆ
> “จำไว้…ตราบที่เจ้ายังหายใจ ข้าจะอยู่ในหัวใจเจ้าเสมอ”
สิ้นคำ เสียงลมพัดแรง ทุ่งดอกไม้สลายกลายเป็นความว่างเปล่า อัคนินเลือนหายไปทีละน้อย
นทีสะดุ้งตื่น รู้สึกถึงความเงียบของเรือนร้างอีกครั้ง แต่เมื่อก้มมองข้อมือ—เขาพบว่ามีรอยเส้นบาง ๆ สีแดงอ่อนอยู่จริง
เขายิ้มทั้งน้ำตา
> “เจ้าไม่ได้หายไปไหนเลย…อัคนิน”
และนับแต่นั้น ทุกคืนเดือนเพ็ญ เขามักได้ยินเสียงกระซิบเบา ๆ ข้างหูในยามหลับ
เสียงที่บอกซ้ำ ๆ ว่า…
> “พันธนาการที่แท้จริง ไม่ใช่คำสาป… แต่คือความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด”
✨ จบบริบูรณ์
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments