เงาแห่งอสุรา

 

ตอนที่ 5 : เงาแห่งอสุรา

“ในเงาแห่งรัตติกาล ยังมีสิ่งที่มิใช่มนุษย์รออยู่

มิใช่เพื่อพราก แต่เพื่อพิสูจน์หัวใจผู้แสวงหา”

กฤตเดินทางเคียงข้างม้านิลมังกรเป็นครั้งแรก หลังจากเหตุปริศนาที่ทำให้เขาไขกลอนคดีเล็ก ๆ ได้สำเร็จ แม้จะยังไม่รู้แน่ว่าเหตุใดโชคชะตาจึงโยงเขามาอยู่ในโลกวรรณคดี แต่ความรู้สึกอุ่นร้อนในอกกลับบอกชัดว่า—เขาไม่ได้เดินไปอย่างไร้จุดหมาย

เสียงกีบของม้านิลมังกรกระทบพื้นป่าหญ้าอย่างแผ่วเบา ทว่าแฝงความทรงพลัง กฤตยังคงไม่คุ้นชินนักกับการนั่งบนหลังสัตว์มหัศจรรย์เช่นนี้ มือน้อยกำบังบังคับสายบังเหียนอย่างเก้กัง ขณะที่ใจเต้นรัวระหว่างมองไปยังทิวไม้เขียวที่ทอดตัวสุดสายตา

“ก้าวต่อไป…เจ้าจะได้เรียนรู้ว่าทางมิได้มีแต่ราบเรียบ”

เสียงของม้านิลมังกรเอ่ยก้องในใจประหนึ่งก้องมาจากสายน้ำลึก

กฤตหันมองรอบกาย “เจ้าหมายความว่าอย่างไรหรือ? ข้าพึ่งก้าวออกจากปริศนาแรก ยังมิทันได้พักหายใจ”

มังกรหัวเราะเบา เสียงนั้นคล้ายระลอกคลื่นกระทบฝั่ง “โลกนี้มิได้มีแต่บทกวีอ่อนหวาน หากแต่ยังมีโทษทัณฑ์ของเงา สิ่งที่เจ้าต้องเผชิญต่อไป มิใช่เพียงกลบทที่ซ่อนความลับ หากแต่คือบททดสอบของใจ”

คำพูดนั้นยังคงวนเวียนในหูไม่จางหาย จนเมื่อแสงตะวันบ่ายคล้อยลงไป กฤตก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของผืนป่าที่ทอดยาวอยู่ข้างหน้า อากาศเย็นขึ้นกะทันหัน ทั้งที่ดวงอาทิตย์ยังอยู่บนฟ้า เสียงนกร้องเงียบงัน ประหนึ่งมีเงื้อมเงาแผ่ปกคลุม

ก้าวแรกที่เข้าสู่ดินแดนนี้ เขารู้สึกได้ว่าความหนาวไม่ใช่ธรรมดา แต่แฝงด้วยพลังบางสิ่ง…พลังแห่ง “อสุรา”

 

ไม่นานหลังจากที่ทั้งคู่เข้าสู่กลางป่า หมอกขาวหนาทึบก็ปกคลุมรอบด้านจนแทบมองไม่เห็นหนทาง กฤตเผลอกระชับมือแน่นกับสายบังเหียน “นี่มัน…อะไรกัน?”

เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากหมอก “ผู้ใด…เข้ามาเหยียบแดนแห่งเงา?”

หมอกค่อย ๆ แยกออก เผยให้เห็นเงาร่างสูงใหญ่ ตาแดงวาวเหมือนถ่านไฟ ผิวกายหม่นคล้ำปกคลุมด้วยรอยสลักลี้ลับ สิ่งมีชีวิตตรงหน้า—ไม่ใช่มนุษย์ หากแต่คือ อสุราน้อย ที่หลุดพ้นจากตำนาน

มันก้าวออกมาช้า ๆ เสียงฝีเท้าหนักสะเทือนพื้นดิน กฤตรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งร่าง แม้ยังเป็นเพียงเด็กหนุ่ม แต่สัญชาตญาณบอกว่า หากเขาพลาดแม้ก้าวเดียว อาจจะเอาชีวิตไม่รอด

“เจ้ามนุษย์…เหตุใดจึงก้าวย่างสู่ดินแดนนี้?” อสุราน้อยคำราม

“ข้า…ข้าเพียงกำลังตามหาคนสำคัญ” กฤตพยายามเอ่ย แม้เสียงสั่น

“คนสำคัญหรือ? ฮึ…โลกนี้เต็มด้วยคำโกหก เจ้าจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าเจ้าไม่ใช่ผู้บุกรุก?”

มันยกหอกยักษ์ขึ้น คมปลายแหลมสะท้อนแสงตะวันแหว่ง ๆ ในหมอก กฤตกำมือสั่น เขายังไร้พลังที่จะต่อสู้ แต่ก็ไม่อาจถอยหลัง เพราะการถอยคือการละทิ้งความหวังที่จะพบ “สร้อยฟ้า”

ก่อนที่หอกจะฟาดลง เสียงของม้านิลมังกรดังขึ้น “เจ้ามนุษย์ผู้นี้ยังไม่พร้อมรับศึก หากเจ้าประสงค์พิสูจน์ ลองให้ปริศนากลอนแทนเลือดเนื้อ”

อสุราน้อยหัวเราะ “กลอนหรือ? ดี…ถ้าเขาไขได้ ข้าจะปล่อย หากไขมิได้—เลือดจะตกเป็นค่าตอบแทน”

มันเอ่ยบทกวีออกมา เสียงก้องสะท้อนในหมอก

“มีเงาไร้แสง

มีเสียงไร้ถ้อยคำ

มีทางไร้หนทาง

ผู้ใดรู้จัก ย่อมพ้นบ่วงกรรม”

กฤตเบิกตากว้าง ใจสั่นรัว ปริศนานี้ฟังดูเรียบง่าย แต่กลับซ่อนความลึกซึ้ง เขาหลับตา พยายามนึกถึงบทเรียนที่เพิ่งได้รับไม่นาน—การฝึกสมาธิ การฟังเสียงของตนเอง

“เงาไร้แสง…เสียงไร้ถ้อยคำ…ทางไร้หนทาง…” เขาพึมพำ

แล้วราวกับประกายไฟสว่างขึ้นในใจ เขาเอ่ยออกมาเสียงชัด

“สิ่งนั้นคือ ‘ความฝัน’ หาใช่หรือไม่?

เพราะในฝันมีเงาโดยไม่ต้องมีแสง

มีเสียงที่ไม่ต้องเอ่ยถ้อยคำ

มีทางเดินที่ไร้หนทางจริง”

เงียบงันชั่วขณะ ก่อนอสุราน้อยหัวเราะลั่น “เจ้ามนุษย์…เจ้ามีสติปัญญาเกินกว่าวัยนัก แต่ปริศนานี้ยังมีอีกชั้น”

มันก้าวเข้ามาอีก “แล้วเจ้าจะตอบได้หรือไม่ ว่าใยความฝันจึงผูกกับบ่วงกรรม?”

กฤตสะท้านไปทั้งใจ คำถามนี้ไม่ใช่เพียงปริศนา หากแต่คือการแทงลึกสู่ความทรงจำอันว่างเปล่าในหัวเขา—ความทรงจำสองปีที่หายไป!

เขาสูดลมหายใจยาว ก่อนเอ่ยออกมาเป็นกลอนสั้น ๆ

“ฝันคือเงาแห่งใจ

ซ่อนความเป็นไปในภพก่อน

ผู้หลงฝันไม่อาจตื่น

จึงเวียนวนอยู่ในวัฏฏะกรรม”

หมอกสั่นสะท้าน อสุราน้อยเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนค่อย ๆ ลดหอกลง “เจ้ามีตาเห็นกว่าผู้ใหญ่หลายคน…ข้าจะไม่พรากวิญญาณเจ้าในวันนี้”

 

แต่ในวินาทีนั้นเอง ก้อนหินใหญ่ที่ตั้งอยู่ข้างทางพลันแตกเสียงดังโครม เศษหินกระเด็นเข้าตาอสุราน้อย มันคำรามโกรธเกรี้ยว แต่กลับต้องถอยหลังเพราะแสงอาทิตย์พาดลงตรงช่องหมอกพอดี เผยให้เห็นเงาแท้จริงของมัน—ร่างที่ยังไม่สมบูรณ์

กฤตเบิกตากว้าง “นี่…มันยังไม่โตเต็มกำลังใช่หรือ?”

ม้านิลมังกรเอ่ย “ถูกแล้ว เจ้าชนะเพราะบังเอิญ แต่จงจำไว้ ไม่มีศึกใดที่พึ่งโชคได้ตลอด”

อสุราน้อยจ้องเขาแววตาเดือดดาล ทว่ากลับผ่อนลมหายใจ ก่อนทิ้งกลอนอีกบทไว้

“หากเจ้าปรารถนาพบคนหาย

จงตามเสียงสายน้ำสายหนึ่ง

แต่น้ำนี้ไม่ไหลลง หากแต่ไหลขึ้นฟ้า”

แล้วร่างมหึมาก็จางหายไปพร้อมหมอก ทิ้งเพียงความเย็นยะเยือกและความสับสนในใจเด็กหนุ่ม

ปิดท้ายตอน

กฤตหันไปหาม้านิลมังกร “เจ้ารู้หรือไม่ ว่ากลอนนั้นหมายถึงสิ่งใด?”

มังกรส่ายหน้าเบา “ข้ารู้เพียงว่าเสียงกลอนนั้นมิได้เกิดจากอสุราน้อยเพียงลำพัง…ใครบางคนฝากมากับมัน”

หัวใจของกฤตสั่นระรัว เพราะในห้วงหนึ่งของเสียงก้องนั้น เขาคล้ายได้ยินเสียงแผ่วเบาที่คุ้นเคย—เสียงของ “สร้อยฟ้า”

 

 

ฮอต

Comments

putri baqis aina

putri baqis aina

คืนเดียวก็ลืมไม่ได้

2025-09-06

0

ทั้งหมด
เลือกตอน
1 บทนำ
2 กลบทแห่งจันทร์
3 เกล็ดนาคา
4 เมืองบาดาล
5 เงาแห่งอสุรา
6 เสียงน้ำที่ไหลขึ้นฟ้า
7 ใต้เงาเมืองนาคา
8 ใต้สายน้ำลึก
9 เสียงขลุ่ยแห่งเงา
10 รอยตราแห่งนาคา
11 เส้นทางสองสาย
12 บททดสอยแห่งสายน้ำวน
13 เสียงสะท้อนจากป่าใหญ่
14 กระแสน้ำเชี่ยวของชลธี
15 เสียงหัวเราะกลางสายชล
16 เงาใต้สายน้ำ
17 เสียงเรียกจากบาดาล
18 พิสูจน์แห่งสมุทร
19 ความแห่งคลื่นบาดาล
20 บททดสอบแห่งห้วงลึก
21 การเตรียมหัวและร่ำลา
22 การเดินทางสู่เผ่าครุฑ
23 เส้นทางกลางพนา
24 เงามืดแห่งพญาครุฑ
25 ปีกแห่งอิสรภาพ
26 ปีกแห่งฟ้า
27 นครเบื้องบน
28 ชีวิตในนครครุฑ
29 กลบทจากฟากฟ้า
30 เส้นทางใต้ปีก
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 30

1
บทนำ
2
กลบทแห่งจันทร์
3
เกล็ดนาคา
4
เมืองบาดาล
5
เงาแห่งอสุรา
6
เสียงน้ำที่ไหลขึ้นฟ้า
7
ใต้เงาเมืองนาคา
8
ใต้สายน้ำลึก
9
เสียงขลุ่ยแห่งเงา
10
รอยตราแห่งนาคา
11
เส้นทางสองสาย
12
บททดสอยแห่งสายน้ำวน
13
เสียงสะท้อนจากป่าใหญ่
14
กระแสน้ำเชี่ยวของชลธี
15
เสียงหัวเราะกลางสายชล
16
เงาใต้สายน้ำ
17
เสียงเรียกจากบาดาล
18
พิสูจน์แห่งสมุทร
19
ความแห่งคลื่นบาดาล
20
บททดสอบแห่งห้วงลึก
21
การเตรียมหัวและร่ำลา
22
การเดินทางสู่เผ่าครุฑ
23
เส้นทางกลางพนา
24
เงามืดแห่งพญาครุฑ
25
ปีกแห่งอิสรภาพ
26
ปีกแห่งฟ้า
27
นครเบื้องบน
28
ชีวิตในนครครุฑ
29
กลบทจากฟากฟ้า
30
เส้นทางใต้ปีก

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!