ผมไม่ตอบโต้ ผมทำได้แค่เพียงนิ่งเงียบ เพราะผมรู้ดีว่าไม่ว่าจะพูดอะไรไป ก็คงไม่มีความหมายอะไรสำหรับคนอย่างคิง
เมื่อมาถึงที่หมาย ผมก็เปิดประตูรถลงไปโดยไม่รอช้า ผมเดินเข้าไปในร้านอาหารหรูแห่งหนึ่งที่คิงบอกว่าเป็นที่นัดหมายของเรา ผมมองไปรอบๆ ร้านที่ถูกตกแต่งอย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และโคมไฟระยิบระยับ แต่ภายในใจของผมกลับรู้สึกว่างเปล่า
คิงเดินนำหน้าผมเข้าไปในร้าน ผมเดินตามหลังเขาไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่งเราหยุดอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่งซึ่งมีชายชราคนหนึ่งนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ชายชรามีใบหน้าที่ดูใจดีแต่กลับมีสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ ผมรู้ทันทีว่าชายคนนี้คือท่านประธาน วรากร พ่อของคิง
“สวัสดีครับพ่อ”
คิงเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงนอบน้อม ซึ่งแตกต่างจากน้ำเสียงที่ใช้กับผมอย่างสิ้นเชิง ผมรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา
“มากันแล้วเหรอ”
ท่านประธานวรากรเอ่ยขึ้นแล้วมองมาที่ผม
“นี่ใช่ไหม...คนที่ลูกแต่งงานด้วย”
คำพูดของท่านประธานวรากรทำให้ผมรู้สึกชาวาบไปทั้งตัวอีกครั้ง ผมได้แต่พยักหน้าเล็กน้อยอย่างเขินอาย
“หน้าตาน่ารักดีนี่”เขาพูดขึ้นแล้วยิ้ม
“เอาล่ะ… เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า”
ผมได้แต่นั่งนิ่งๆ อยู่ตรงนั้น ปล่อยให้ทั้งสองคนคุยกันในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของผมในอนาคต ผมรู้สึกเหมือนเป็นเพียงแค่ตัวประกอบในเรื่องราวที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผมเลยแม้แต่น้อย แต่ในความจริงแล้วชีวิตของผมกำลังจะถูกเปลี่ยนไปตลอดกาล
ผมมองไปยังแก้วน้ำที่อยู่ตรงหน้าอย่างเลื่อนลอย ความรู้สึกหลากหลายปะปนกันอยู่ในใจจนแทบจะแยกไม่ออก ระหว่างที่ท่านประธานวรากรกับคิงกำลังคุยกันเรื่องธุรกิจอย่างออกรส ผมก็ได้แต่ทำตัวเงียบๆ ราวกับเป็นอากาศธาตุ
"เรื่องสินสอดทองหมั้นก็ไม่ต้องห่วง ทางเราจะจัดการให้สมฐานะ"
ท่านประธานวรากรพูดขึ้นแล้วหันมามองผม รอยยิ้มที่มุมปากของเขายิ่งทำให้ผมรู้สึกอึดอัดมากขึ้นไปอีก
ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสินค้าที่กำลังถูกซื้อขายอยู่ในตลาด แต่ไม่ว่าผมจะรู้สึกอย่างไร ผมก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ เพราะทุกอย่างถูกตัดสินใจไปแล้วโดยคนอื่น
“แล้วเรื่องงานแต่ง”คิงเอ่ยขึ้น“ผมอยากจัดงานแบบเรียบง่ายครับพ่อ”
คำพูดของคิงทำให้ผมรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เขาต้องการงานแต่งงานแบบเรียบง่าย? ผมมองหน้าเขาอย่างสับสน แต่เขากลับไม่มองผมเลยแม้แต่น้อย สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ท่านประธานวรากร
“ได้สิลูก”ท่านประธานวรากรตอบรับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความพอใจ “เรื่องนั้นแล้วแต่ลูกเลย”
หลังจากที่ตกลงเรื่องงานแต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว ท่านประธานวรากรก็ลุกขึ้นยืน
“งั้นผมขอตัวก่อนนะ มีนัดประชุมต่อ”
คิงลุกขึ้นยืนตามพ่อของเขาแล้วโค้งคำนับเล็กน้อย “ขับรถดีๆ นะครับ”
ท่านประธานวรากรเดินออกไปจากร้าน เหลือเพียงผมกับคิงที่นั่งอยู่บนโต๊ะตัวเดิม ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศอีกครั้ง ผมไม่รู้จะทำตัวอย่างไรต่อ
“ไปได้แล้ว” คิงพูดขึ้นเสียงเรียบแล้วลุกขึ้นยืน ผมลุกขึ้นตามเขาไปอย่างเงียบๆ แล้วเดินตามเขาออกจากร้าน
เมื่อออกมาจากร้าน ผมก็ก้าวเข้าไปนั่งในรถของคิงอย่างเงียบๆ ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกพาไปสู่โลกใบใหม่ที่ไม่รู้จัก
“พ่อมึงเป็นหนี้เท่าไหร่” คิงถามขึ้น ทำลายความเงียบที่น่าอึดอัด ผมหันไปมองเขาอย่างสับสน
@
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments