Who Story?
เสียงรองเท้านักเรียนกระทบพื้นกระเบื้องหน้าตึกเรียนเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เรียงรายกันเป็นคลื่นนักเรียนที่ทยอยเดินขึ้นอาคารในเช้าวันเปิดเทอมวันแรกของระดับชั้นมัธยมปลายปีที่ 4
บันไดตึกห้องเรียนของสายศิลป์ภาษา ชั้นหนึ่งเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยที่ตื่นเต้น เคอะเขิน และประหม่า ผสมปนกันเป็นความรู้สึกของการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง สำหรับบางคน นี่คือโรงเรียนใหม่ สำหรับอีกหลายคน นี่คือการได้แยกห้องจากเพื่อนกลุ่มเดิม
นีล เด็กชายตัวสูงร่างโปร่งผิวขาวเหลืองแต่ไม่ซีด ผมตรงสีดำขลับ ดวงตากลมเล็ก ใส่แว่นเชยๆ เดินขึ้นมาพร้อมกับเพื่อนผู้ชายอีกสองคน กันต์ และ ทีน
ทั้งสามไม่ได้สนิทกันมาก่อน แต่บังเอิญนั่งติดกันตอนรับมอบตัว แล้วคุยเรื่องเกมจนค่อยๆ ถูกกันมากขึ้น
“เฮ้ย ห้องเราน่าจะห้องนี้ว่ะ ม.4/14 เห็นชื่อแปะอยู่หน้าห้อง”
กันต์ชี้ไปยังป้ายชื่อห้องที่แปะด้วยเทปใสอย่างลวกๆ พร้อมรอยลบผิดเล็กน้อยจากปีที่แล้ว
นีลมองตามพลางพยักหน้าเบาๆ
เขาไม่ได้ตื่นเต้นนัก แต่ก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างในท้อง มันไม่ใช่ผีเสื้อบินวนเหมือนในหนังรักหรอก...แต่เหมือนกินข้าวเช้ามาแล้วยังย่อยไม่หมดมากกว่า
พวกเขาเดินเข้าไปในห้องเรียน โต๊ะไม้ที่เคยดูเล็กในสายตาสมัยมัธยมต้น ตอนนี้กลายเป็นโต๊ะเรียบๆ ที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ สีไม้ลอกบ้าง มีชื่อบางคนถูกขีดข่วนไว้ที่มุมโต๊ะด้วยลายมือดินสอ
นีลเลือกโต๊ะริมกลางห้องติดทางเดินฝั่งหน้าต่าง เป็นโต๊ะคู่ เขาวางกระเป๋าลงข้างๆ ยังไม่มีใครนั่งโต๊ะนั้น
เขานั่งลง ถอนหายใจเบาๆ แล้วหยิบมือถือขึ้นมาปิดเสียงข้อความในกลุ่มเก่า เพื่อนเก่าจากม.ต้นหลายคนไปอยู่คนละห้อง แม้จะทักกันมาบ้าง แต่ความรู้สึกก็ไม่เหมือนเดิม
เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาที เด็กนักเรียนเริ่มทะยอยเข้าห้องมากขึ้น ทั้งเสียงเก้าอี้เลื่อน การหยิบของ เสียงหัวเราะแผ่วๆ ของเพื่อนกลุ่มใหม่ที่เริ่มก่อตัว
แล้ว...เขาก็เห็นเธอ
ซัน เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ตัวไม่สูงมากนักแต่ก็ไม่เตี้ยจนเกินไปผมยาวถักเปียเดียว ดวงตาสีน้ำตาล ผมหยักศกเล็กน้อยบิดเป็นเกลียว เดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับสะพายกระเป๋านักเรียนใบใหญ่
เธอแต่งหน้าเบาๆ ไม่ได้ทำผมหวือหวา มีแค่ยางรัดผมลายจุดสีฟ้า ที่รวบผมไว้หลวมๆ
ซัน เธอดูเหมือนเด็กผู้หญิงธรรมดาที่เดินผ่านบนถนนทั่วไป แต่มีอะไรบางอย่างในท่าทางของเธอ...ทำให้คนอยากมองซ้ำ
เธอมองหาที่นั่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเดินตรงมาทางโต๊ะที่อยู่ข้างนีล
เธอไม่ได้พูดอะไรตอนวางกระเป๋า มีแค่รอยยิ้มจางๆ ตอนที่สบตาเขาเป็นครั้งแรก
“นั่งด้วยได้ป่ะ?”
เสียงเธอใส ชัดเจน แต่ไม่ดังเกินไป
นีลเงยหน้าขึ้น ก่อนพยักหน้าเบาๆ
“อืม ได้ๆ”
ซันนั่งลง เก็บของอย่างเป็นระเบียบ เธอหยิบแฟ้ม สมุด และปากกาใส่กล่องเล็กๆ แล้วเรียงไว้ข้างกันอย่างมีระบบโดยไม่มากความ
ช่วงเวลาแรกที่นั่งข้างกัน ไม่มีบทสนทนาใดเพิ่มเติม ต่างฝ่ายต่างเก็บของ จ้องกระดานหน้าห้อง สังเกตครูประจำชั้นที่เริ่มเดินเข้ามาแนะนำตัว
แต่สิ่งที่นีลสังเกตได้…คือ
เธอ ยิ้มง่าย
เวลาครูพูดอะไรขำๆ ซันจะหัวเราะเบาๆ
เวลาคนแปลกหน้าทัก เธอจะยิ้มก่อนเสมอ
เธอทักเพื่อนข้างหลังด้วยน้ำเสียงสุภาพ เธอขยับตัวให้เพื่อนเดินผ่านได้ง่ายขึ้น เธอหยิบทิชชูในกระเป๋าแล้วยื่นให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำปากกาน้ำหมึกหกเลอะโต๊ะ
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในครึ่งเช้าเดียว
และทุกอย่าง…นีลเห็นเธอทำ โดยที่เธอไม่ได้รู้ว่ามีใครสังเกตอยู่ข้างๆ
___________
เที่ยงวันนั้น อากาศร้อนขึ้นจนเหงื่อเกาะคอเสื้อ
เพื่อนกลุ่มใหม่ของนีลชวนไปกินข้าวโรงอาหาร
เขาปฏิเสธ บอกจะกินข้าวกล่อง
จริงๆ ก็ไม่ได้หิวเท่าไร แค่ไม่อยากเดินตามฝูงชน
เขาเปิดกล่องข้าวที่แม่ทำ ไข่เจียวกับข้าวสวยธรรมดา
กลิ่นไข่หอมลอยคลุ้งขึ้นมาแบบที่คนไม่หิวก็ต้องหิว
นีลตักคำแรกเข้าปาก แล้วก็เงยหน้า
ทันทีที่สบตาเธอ
ซันก็กำลังกินข้าวเงียบๆ อยู่โต๊ะถัดไป
กล่องข้าวของเธอเล็กพอดีมือ ฝาใสเผยให้เห็นข้าวผัดแครอทกับไข่ดาวแปะหน้า
เธอเหลือบมาเห็นเขาพอดี แล้วหัวเราะเบาๆ
“ดูเรากินข้าวทำไมอะ?”
นีลยิ้มแบบไม่รู้ตัว “เผลออะ”
“ข้าวกล่องเหมือนกันเลย” เธอพูดต่อ
“แม่ทำให้เหรอ?”
“อือ”
“แม่เราก็เหมือนกัน บอกว่ามื้อแรกของม.ปลายต้องมีแรง”
เธอหัวเราะอีกครั้ง
เขารู้ตัวว่าหัวใจเต้นเร็วขึ้นหน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
กินต่อเงียบๆ
แต่ไม่รู้ทำไมข้าววันนั้นมันอร่อยกว่าปกติ
___________
บ่ายแก่ๆ ใกล้เลิกเรียน
มีเด็กผู้ชายข้างห้องสองสามคนเดินผ่านหน้าห้อง
เสียงหัวเราะดังลอยเข้ามาแบบที่ใครได้ยินก็รู้ว่ามีอะไรไม่ดี
“เฮ้ เดี๋ยวๆๆๆ นั่นกระเป๋าใครอะ?”
เสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่มือหนึ่งคว้าหูหิ้วกระเป๋าผ้าของซันไปจากเก้าอี้โดยไม่ขอ
“อะไรอะ เอามาให้พวกเราเช็คก่อนดิ ของไม่ดีเปล่า?”
น้ำเสียงล้อเล่นแบบน่ารำคาญ
ซันลุกขึ้นจะคว้ามือกลับ
“อย่าเล่นแบบนี้ดิ”
เธอพูดเรียบๆ แต่ไม่กลัว
นีลลุกขึ้นแบบไม่ได้ตั้งใจ ไม่มีแผน ไม่มีฮีโร่โมเมนต์
เขาเดินไปยืนข้างเธอ แล้วพูดเบาๆ
“พอเหอะ คืนเขาไป”
คนที่หยิบกระเป๋าไว้เลิกคิ้ว
“ใครวะ? เพื่อนเหรอ?”
นีลไม่ตอบ แค่มองตรงๆ
ไม่โกรธ ไม่ขู่
แต่นิ่ง...นิ่งแบบที่อีกฝ่ายไม่รู้จะรับมือยังไง
กลุ่มนั้นหัวเราะแห้งๆ แล้ววางกระเป๋าลงที่โต๊ะ
“แค่ล้อเล่น อย่าคิดมากดิวะ”
แล้วก็เดินจากไปแบบไม่ได้สะทกสะท้าน แต่ก็ไม่หันกลับมาอีก
ซันเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมาหาเขา
“ขอบใจนะ”
นีลพยักหน้า
แล้วก็เดินกลับไปนั่งที่เดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่เขาไม่รู้เลยว่า...
เธอยังคงมองหลังเขาอยู่
และรอยยิ้มนั้น เปลี่ยนไปเล็กน้อย
จากรอยยิ้มทั่วไป กลายเป็นอะไรบางอย่างที่อ่อนกว่า อุ่นกว่า และอาจจะลึกกว่านั้นนิดหน่อย.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments