หลังเปลวไฟที่ลุกโชนคือเถ้าธุลี

หลังเปลวไฟที่ลุกโชนคือเถ้าธุลี

วันสุดท้าย

ณ หมู่บ้านที่ห่างไกลจากตัวเมือง พื้นที่ติดอยู่กับป่าไม้ ที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่ที่แสนจะธรรมดา ถ้าไม่มีพวกเขา

ผู้คนในหมู่บ้านไม่มีใครจำเป็นต้องใช้นาฬิกาปลุก เพราะในช่วงเช้ามืดของทุกๆวันบ้านที่ถูกสร้างอยู่ท้ายสุดของหมู่บ้านจะปลุกพวกเขาด้วยเสียง “กรีดร้อง” เสมอ

เพล้ง! เพล้งง!!

“กริ๊ดดดดดด! ไสหัวออกไปซะ ไอ้ตัวซวย!!” ปึก! ปึก…

“ถ้าฟ้ายังไม่มืด แกอย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้านะ!!”

“เข้าใจแล้วครับ…” ผมก้มหน้า สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะดันประตูเปิดออก

”ไอ้เด็กประหลาดมันออกมาแล้ว” ทันทีที่ผมเดินออกมา หมู่บ้านที่เงียบสงบก็เริ่มมีเสียงซุบซิบนินทาผู้คนที่เดินผ่านมองผมด้วยสายตาเหยียดหยามและรังเกียจ เหมือนกับว่าผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้ความสงบสุขของที่นี้หายไปอย่างงั้นแหละ…

“สกปรกชะมัด ก็นะ..แม่ไม่รักนี่นา” จังหวะก้าวเดินของผมชะงักเล็กน้อย ผมค่อยๆเงยหน้ามองหาต้นตอของเสียงพูดนั้น

“อ่า…”

จะในหรือนอกบ้านผู้คนก็เอาแต่ดูถูกผม เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นตั้งแต่จำความได้ ทำไมถึงไม่ชินซักทีนะ?

ผมได้แต่ก้มหน้าและเดินต่อไป เดินต่อไปอย่างไร้จุดหมาย…

“สุดท้ายก็มาหยุดตรงนี้จนได้สินะ” มีแค่ที่ตรงนี้ ที่ผมอยู่ได้โดนไม่โดนดูถูกสินะ ถ้าเป็นไปได้…ผมอยากจะอยู่ตรงนี้จนตายไปเลย…

“ใจร้ายกันจังนะ” เสียงผมสั่นเครือ ในหัวคิดได้แค่ว่า ทำไม?ทำไม?ทำไม! ทำไมชีวิตผมถึงเป็นแบบนี้…ผมก็แค่…แค่เด็กคนนึงเองนะ…

ใครก็ได้ ถ้าไม่รังเกียจ ช่วย…ช่วยกอดผมที

ผมไม่มีแม้แต่ชื่อ แม่ผมเรียกผมว่าไอ้ตัวซวยบ้าง คนไร้ประโยชน์บ้าง

ตั้งแต่จำความได้ พ่อกับแม่ก็ทะเลาะกันตลอด และมันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งวันนึง พ่อขโมยเงินทั้งบ้านที่มีอยู่และหนีไป พวกเราไม่เหลืออะไร แม่ก็เอาแต่ด่าและตีผม บอกว่าผมมันน่าจะตายๆไปซะ เกิดมาก็เป็นตัวซวย มีแต่คนรังเกียจ

แต่ผมก็ไม่ได้อยากเกิดมาตั้งแต่แรกนี่นา…ถ้าแม่ไม่อยากให้ผมมีชีวิตอยู่ขนาดนั้น ทำไมถึงปล่อยให้ผมรอดมาจนถึงทุกวันนี้ล่ะ? ทำไมไม่ฆ่าผมให้ตายๆไปตั้งแต่แรก ทำไม?…

......................

“ไอ้ตัวซวย!!” ฮึก!! ผมสดุ้งตื่นขึ้นมา เหงื่อไหลออกเต็มตัว เหมือนว่าผมจะฝันร้าย

“ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ต้องกลับไปแล้วสินะ…” ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเริ่มย่างก้าวอย่างช้าๆอีกครั้ง ความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกัน ที่พอคิดว่าต้องกลับไปในนั้นอีกครั้ง ผมก็รู้สึกอึดอัด หายใจลำบาก ผมไม่อยากกลับเข้าไปที่นั้นเลย

แต่ผมก็ไม่กล้าพอที่จะหนี ผมทิ้งเธอไม่ลงหรอก ยังไงเธอก็เป็นแม่ของผม…ใช่มั้ย?

ผมเดินตามทางไปเรื่อยๆ อย่างน้อยในเวลานี้ก็ไม่มีใครดูถูกผมแล้ว

ท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีไปตามกาลเวลา เวลาช่วงเย็นทำให้ผมรู้สึกปลอดภัยที่สุดแล้ว ถึงแม้จะไร้ไฟส่องแสง แต่ก็ไร้ผู้คนส่งเสียง

เพราะหมู่บ้านอยู่ติดกับป่าและตอนนี้เป็นช่วงโพลเพล คนในหมู่บ้านกลัวว่าจะถูกสัตว์ในป่าทำร้ายจึงพากันเข้าบ้านหมดแล้ว

หากแต่วันนี้ไม่เหมือนวันอื่นๆที่ผ่านมา ในระหว่างที่กำลังก้าวเดินอย่างเชื่องช้า หูทั้งสองของผมก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะวิวาทกัน หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆในขณะที่ผมเร่งฝีเท้าให้ก้าวเร็วขึ้น

ผมภาวนาขอให้ไม่เป็นอย่างที่ผมคิด แต่ทว่า มันเป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ

**พ่อกลับมาแล้ว**

เพล้ง!! เพล้ง!…

“กริ๊ดด! ได้สารเลว มึงจะกลับมาทำไม!!”

“เดี๋ยวนี้กล้าด่ากูแล้วหรอ? กูน่าจะฆ่ามึงให้ตายตั้งแต่วันนั้น ไม่น่าปล่อยให้รอดเลย!!” เพี๊ยย!! ปึก! ……

“มึงจะได้ตายก็วันนี้แหละ!”

ผมอยากจะวิ่งหนีไปให้ไกล แล้วไม่กลับมาอีก แต่ขามันก้าวไม่ออก ทำได้แค่ยืนตัวสั่นอยู่หน้าบ้าน ครั้งนี้มันรุงแรงกว่าครั้งไหนๆ ได้โปรด…หยุดสักที!

“อึก!…คนโง่แบบมึงเนี่ยนะ จะฆ่ากู?”

“อย่าพูดเพ้อเจ้อไปหน่อยเลย!!” ฉับพลัน หญิงสาวกำมีดในมือแน่น ก่อนจะวิ่งเข้าหาอดีตสามีอย่างมุ่นมั่น

ฉึก! ฉึก…ฉึก! ฉึก!…ฉึก…ฉึก!……

“อ๊ากกก!!” เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังไปทั่วหมู่บ้าน สลับกับเสียงมีดที่ชักเข้าออกแบบไม่ยั้งมือ แต่…ไม่มีใคร จะไม่มีใครเข้ามาช่วยทั้งนั้น ในตอนนี้พวกเขาจะคิดยังไงกับเสียงที่กำลังได้ยิน ตายๆไปได้ก็ดีแล้ว? เป็นครอบครัวที่น่าสมเพช? สุดท้ายก็ฆ่ากันเอง?

“มะ…แม่ครับ…” ผมยืนน้ำตาไหลพราก ไม่ใช่เพราะเสียใจ แล้ว…มันเพราะอะไรล่ะ?

“วันนี้ก็ตายกันให้หมด…ไอ้เฮงซวย!…” หญิงผู้ได้ชื่อว่าเป็นแม่ จะฆ่าลูกตัวเองลงจริงๆหรอ?

ผมทรุดตัวลงกับพื้น สายตาทอดมองแม่ที่กำลังเดินตรงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ผะ…ผมก้าวขาไม่ออก

หมับ! แม่จับหน้าผมเงยขึ้น ปากพูดพึมพัมไม่เป็นภาษา

“แม่จะ…จะฆ่าผมจริงๆหรอครับ?”

“แกเองก็คงไม่ได้อยากมีชีวิตแบบนี้หรอก จริงมั้ย?…”

“ชีวิตที่เฮงซวยแบบนี้ ตายไปซะยังจะดีกว่า…” จบประโยคนั้น แม่ก็ยกมีดในมือ จากนั้น……

ฉึก!

ไม่เจ็บ…

“ฮะ…ทำไม?…” ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ มีดในมือของแม่ยังคงยกสูง สายตาของผมมองไปยังพื้นดินที่มีเลือดไหลเป็นทาง มันไหล…ไหลออกมาจากร่างกายของแม่…

“ฮู่ว เกือบไปแล้ว” ผมต้องตกใจอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงปริศนาจากด้านหลังของแม่

“คะ…คุณเป็นใคร…”

“เด็กน้อย ไม่ต้องกลัวนะ” ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งยื่นมือมาปาดน้ำตาบนแก้มของผม สัมผัสนั้นมันทำเอาผมขนลุกซู่

“ทำไม…ทำไมต้องฆ่าแม่ผมด้วย!” เมื่อมีเวลาให้ตั้งสติ ผมก็นึกได้ว่าชายตรงหน้าได้ฆ่าแม่ของผมไปแล้ว ผมลุกขึ้นพรวด ก่อนจะตะหวาดเสียงดังและพร้อมๆกันก็อดไม่ได้ที่น้ำตาของผมจะไหลออกมา

“ถ้าเมื่อกี้ฉันไม่ชิงฆ่าแม่เธอก่อน เธอจะได้อยู่ตะโกนด่าฉันมั้ย?”

“ผมไม่ได้ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว ชีวิตของผมไม่ได้มีค่าอะไรตั้งแต่แรกแล้ว!!!”

“ไปกับฉันสิ แล้วเธอจะได้ชีวิตใหม่ ฉันสัญญา” เขาไม่เพียงพูดปากเปล่า แต่เขาทำท่าทางให้ผมจับมือเขาด้วย

ถึงจะมองไม่ชัด แต่ผมคิดว่าเขาคงต้องยิ้มอยู่แน่ๆ แต่ผมไม่อยากเห็นหรอก

“คุณต้องรับผิดชอบที่ฆ่าแม่ของผม” น้ำเสียงผมเอยขึ้นด้วยความแน่วแน่ เหมือนว่าการกระทำของผมจะทำให้เขาชะงักไปครู่หนึ่ง

“เธอนี่พูดยากจริงๆ ฉันไม่น่าเจราจากับเธอตั้งแต่แรกแล้ว”

“…………”

“ฉันจะพูดครั้งสุดท้าย ร่วมมือกับฉันซะ ชีวิตเฮงซวยของนายมันมีค่ามากกว่าโอกาสที่ฉันให้งั้นหรอ?”

“แล้วครอบครัวเหี้ยๆของนาย มันเลี้ยงนายด้วยอะไร ทำไมไม่ฉลาดเอาซะเลย?”

“………”

“พูดอะไรหน่อยสิ โดนล้างสมองไปแล้วรึไง?” ชายคนนั้นถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดูเหมือนว่าเขาหมดคำจะพูดกับผมแล้ว

“เรื่องอะไรละครับ? ผมน่ะไม่เคยเรียนหนังสือด้วยซ้ำ ผมช่วยอะไรคุณไม่ได้หรอกครับ”

“……………”

“อีกอย่างคุณก็ดูมีภูมิฐานนะครับ ทำไมต้องมาขอความช่วยเหลือจากผมด้วย?”

“ฉันจะรับผิดชอบเรื่องที่ฆ่าแม่เธอ”

“ฉันจะรับเลี้ยงนายเป็นลูกบุญธรรม เรื่องเรียนน่ะ นายไม่ต้องห่วงหรอก”

“ต่อจากนี้ฉันจะดูแลนายเอง เพราะงั้นไปกับฉันได้แล้ว”

“คนที่โดนล้างสมอง น่าจะเป็นคุณมากกว่านะครับ” ในท้องฟ้ายามค่ำคืน ผมพยายามเพ่งมองไปยังหน้าของชายปริศนาที่อยู่ๆก็โพลมาฆ่าแม่ผม โดยอ้างว่าเขาได้ช่วยชีวิตผมเอาไว้ ตอนนี้ยังต้องการความร่วมมือจากเด็กกำพร้าแบบผมอีก

“ผมไม่รู้ว่าการที่คุณโพล่มาช่วยชีวิตผมมันเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอบคุณมากๆแล้วกันครับ แต่ว่าผมไปกับคุณไม่ได้จริงๆ”

เพราะไม่รู้ว่าถ้าไปกับคุณแล้วจะเจอกับอะไรอีกบ้าง อาจจะโดนจับไปขายแล้วต้องใช้ชีวิตแบบทรมานกว่าเดิมก็ได้ ถึงชีวิตตอนนี้มันจะเฮงซวยแบบที่คุณพูด แต่อย่างน้อยๆการที่ผมอยู่ที่นี้ต่อไปมันก็หมายความว่าผมไม่จำเป็นที่จะต้องเจออะไรแย่กว่าเดิม ผมไม่อยากทนกับความรู้สึกแย่ๆในรูปแบบที่ทนไม่ได้อีกแล้ว…

“นายมีความฝันรึป่าว?”

“ผมไม่มีอะไรแบบนั้นหรอกครับ การมีชีวิตให้รอดไปวันๆยังไม่ใช่สิ่งที่ผมฝันเอาไว้เลย”

“ถ้าอย่างนั้น…”

“………”

“นายก็ยืมความฝันของฉันสิ ค่าตอบแทนก็เอาเป็นชีวิตของนายแล้วกัน ตกลงมั้ย?”

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 1

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!