Cutscene 2 My Stories Fate

Cutscene 2 My Stories Fate

 

 

เวลา 21.36 นาที

 

“นี่เราหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย” แชมป์ลืมตาข้างซ้ายหนึ่งข้างด้วยท่าทางสลึมสลือมือซ้ายก็จับนาฬิกาดิจิตอลที่ว่างอยู่บนโต๊ะข้าง ๆ หัวเตียง แชมป์ได้ยกมือจากนาฬิกาและค่อย ๆ พลิกตัวหงายพร้อมกับบิดขี้เกียด เมื่อแชมป์หยุดบิดขี้เกียดแล้วแชมป์จึงค่อย ๆ ลืมตาทั้งสองข้างและแล้วก็ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “อื๊ด~” มันคือเสียงท้องของแชมป์เอง “หิวข้าวจังแฮะ”

 

แชมป์นอนบ่นกับตัวเองเบา ๆ แชมป์ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง มือซ้ายก็คว้าอะไรสักอย่างบนเตียงไปทั่วจนไปเจอกับสิ่ง ๆ หนึ่งมันคือโทรศัพท์หรือก็คือสิ่งที่แชมป์กำลังหาอยู่ แชมป์กดปุ่มล็อคหน้าเจอเมื่อหน้าจอสว่างขึ้นก็ได้มีข้อความจากแอพไลน์ที่ขึ้นบนจอในรูปแบบป็อปอัพไลน์นั้นมีชื่อว่าแดน แชมป์เอานิ้วแตะเข้าไปก็คือได้มีข้อความที่ส่งมาจากแดน “เป็นไงบ้างวะเพื่อน…ได้ข่าวว่าวันนี้โดนไอ้ธีมเล่นมาเหรอ”

 

 

 

 

แชมป์ทำหน้าครุ่นคิดสักแปปจึงพิมพ์ข้อความตอบกลับไปว่า “แล้ววันนี้มึงหายไปไหนมาล่ะ” แชมป์กดปุ่มล็อคหน้าจอและกำลังจะลุกขึ้นยืนเสียงไลน์ก็ดังขึ้น แชมป์จึงหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูข้อความจากแดน “กูอยู่ที่สภานิสิตอ่ะเลยไม่ได้เข้าร่วมรับน้องวันนี้” แชมป์จึงพิมพ์ข้อความตอบกลับแดน “มึงว่างป่ะ…กินข้าวยังวะ” แชมป์ยืนรอข้อความตอบกลับจากแดน “ยังเลยว่ะ…หิว ๆ อยู่เหมือนกัน” แชมป์พิมพ์ตอบไปว่า “งั้นไปหาข้าวกินกันมั้ยล่ะมึง…จะลากไอ้ธีมจอมโฉดมาด้วยก็ได้นะ” แดนตอบกลับ “เออ…งั้นเดี๋ยวกูไลน์ไปถามมันแปปนะ” แชมป์ตอบกลับ “เออ…งั้นเดี๋ยวกูไปล้างหน้ารอแล้วกัน” แดนตอบกลับ “OK”

 

แชมป์ได้ปิดล็อคหน้าจอและโยนโทรศัพท์ลงบนเตียงแชมป์หันหน้าไปทางประตูห้องน้ำและก็ค่อย ๆ เริ่มออกเดินยังห้องน้ำ แชมป์เปิดประตูห้องน้ำและเดินไปหยุดที่อ่างล้างหน้า แชมป์เอื้อมมือไปจับที่ก็อกน้ำเพื่อเปิดน้ำ แชมป์เอามือทั้งสองลองน้ำที่กำลังไหลมาลูบหน้า เมื่อแชมป์ล้างหน้าแปลงฟันเสร็จก็ได้เดินออกมาจากห้องน้ำและเดินตรงมายังเตียงนอนแชมป์โน้มตัวลงและเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ เมื่อเปิดหน้าจอโทรศัพท์ก็มีข้อความจากแดนส่งมาแชมป์จึงกดเข้าไปดู

 

แดนตอบแชทไลน์กลับมาว่า “กูกับไอ้ธีมกำลังไปที่หอมึงนะ” แชมป์จึงพิมพ์แชทตอบไป “ถ้าพวกมึงมาถึงก่อนก็รอข้างล่างล่ะกัน…เดี๋ยวกูเปลี่ยนเสื้อผ้าแปปนึงเดี๋ยวลงไป” แชมป์เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง แชมป์ถอดเสื้อนักศึกษาออกและวางเสื้อลงบนเตียงก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้า เมื่อแชมป์เปิดตู้เสื้อผ้าแล้วก็หยิบเสื้อมาหนึ่งตัวแบบที่ไม่ได้สนใจว่าเสื้อตัวนั้นลายไหนสีอะไร แชมป์ค่อย ๆ สวมเสื้อเมื่อสวมเสื้อแล้วแชมป์ก็เดินมาหยิบกุญแจที่วางอยู่บนหลังตู้เย็น แชมป์บิดลูกบิดประตูและเปิดประตูออกและกดล็อคลูกบิดก่อนจะออกจากห้องและค่อย ๆ ปิดประตูลง

 

 

แชมป์เดินจากห้องมายังบันไดก่อนที่จะก้าวลงบันไดก้าวแล้วก้าวเล่า เมื่อลงมาถึงหน้าหอก็ได้เจอกับคนสองคนที่นั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์และมองมาทางแชมป์ แชมป์จึงเอ่ยปากถามออกไปว่า “มองหน้าจ้องกูขนาดนี้อยากได้ปัญหาเพิ่มเหรอ” ใช่แล้วสองคนนั้นก็คือธีมกับแดนนั่นเอง ธีมจึงพูดออกมาว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้กูก็ซ่อมให้ซะหรอก” แดนพูดแทรก “กูชวนพวกมึงออกมากินข้าวนะ…ไม่ได้ชวนพวกมึงมาตีกัน” ธีมจึงหันหน้าไปหาแดนแล้วตอบกลับแดน “กูก็แค่ล้อเล่นป่ะล่ะ…ทำจริงจังไปได้นะมึงอ่ะ” แชมป์จึงได้พูดขึ้นว่า “งั้นเดี๋ยวกูไปเอารถแปป”

 

แชมป์ได้หันไปยังทางด้านข้างตึกและเริ่มเดินไปยังทางด้านข้างของตึก ด้านข้างตึกคือที่สำหรับจอดมอเตอร์ไซค์แชมป์เดินมาหยุดที่รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งที่มีลายสติ๊กเกอร์รถเด่นกว่ารถคันอื่น ใช่…นั่นคือรถมอเตอร์ไซค์ของแชมป์เอง เขาเข้าไปขึ้นค้อมรถมอเตอร์ไซค์และนำเอากุญแจเสียบเข้าไปที่ช่องกุญแจและก็ค่อย ๆ ถอยรถมอเตอร์ไซค์ออกจากช่องจอด แชมป์สตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์แล้วก็ขี่รถออกมาหาธีมกับแดนที่จอดรอหน้าตึก “สรุปไปกินอะไรกันดีวะ” แชมป์จอดรถถามธีมและแดน แดนถามธีม “งั้นไปร้านประจำเรากันมั้ย” ธีมหันไปตอบแชมป์ว่า “งั้นมึงขี่รถตามพวกกูมาเลย”

 

 

 

 

 

 

แชมป์ทำหน้าฉงนนิด ๆ ก่อนจะตอบรับว่า “งั้นพวกมึงนำเลย” ธีมจึงได้เริ่มออกรถและแชมป์ก็ขี่รถตามธีมจนธีมมาขี่รถมาหยุดอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่ง เมื่อทุกคนจอดเสร็จเรียบร้อยแล้วแชมป์ถามออกไปว่า “จะกินก๋วยเตี๋ยวกันอ่อ” แดนตอบแชมป์ไปว่า “จริง ๆ พวกเราก็ไม่ได้กินก๋วยเตี๋ยวด้วยกันมานานแล้วนะ…ถือซะว่ามาย้อนวันวานกันหน่อยแล้วกัน” แชมป์ก็ยักไหล่แล้วตอบกลับ “ก็ได้ ๆ ถ้าอยากโดนกูแย่งกินกูจัดให้ไม่ขัดศรัธาอยู่แล้ว” แดนจึงตอบ “เอาเท่าที่มึงจะสบายใจเลยเพื่อน…ถ้ามีปัญญาแดกก็แดกไป” ทั้งสามคนก็สั่งก๋วยเตี๋ยวคนละชามแต่เมื่อก๋วยเตี๋ยวทั้งสามชามมาวางบนโต๊ะทั้งสามคนก็หยิบตะเกียบมาแล้วจิ้มกินชามนี้นิดชามนั้นหน่อยแล้วก็แย่ง ๆ กันกินอยู่แบบนี้อย่างชัวละมุน ภาพนี้แสดงให้เห็นว่าทั้งสามคนเป็นเพื่อนรักที่สนิทกันมาก ๆ และนี่คือวันวานแห่งความสนิทของเพื่อนสุดซี๊ทั้งสามคน

 

เมื่อทั้งสามคนได้แย่งกันทานก๋วยเตี๋ยวอย่างเอร็ดอร่อยจนเสร็จสรรพแล้วทั้งสามคนจึงได้แยกย้ายกันกลับหอของตนเอง และเมื่อแชมป์กลับมาจนถึงห้องแล้ว สิ่งหนึ่งที่แชมป์ไม่ลืมและจะต้องทำมันอย่างแน่นอนนั้น คือแชมป์ได้เอาเศษกระดาษที่ถูกฉีกเป็นเศษเล็กเศษน้อยนั้นกลับมาปะติดปะต่อให้มันเป็นแผ่นสมบูรณ์เหมือนเดิมให้ได้

 

แชมป์นั้นพยายามซ่อมเศษกระดาษนั้นอย่างตั้งใจและบรรจิบรรจง จนในที่สุดเวลาก็ผ่านไปและแล้วแชมป์ก็ได้ซ่อมเศษกระดาษนั้นจนเสร็จก่อนที่แชมป์นั้นจะเหนื่อยจนต้องไปนอน

 

 

 

Days 2

 

 

ตอนนี้เวลา 07.00 เช้า

 

 

เสียงปลุกจากนาฬิกาดิติตอลเรือนเดิมข้างหัวเตียงได้ดังขึ้น “ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ” แชมป์ลืมตาตื่นแบบสลึมสลือและค่อย ๆ เอื้อมมือไปปิดโหมดปลุกของนาฬิกาดิติตอล “เจ็ดโมงเช้าแล้วหรอเนี้ย…ยังรู้สึกเหนื่อย ๆ อยู่เลย” แชมป์นอนบ่นกับตัวเองเบา ๆ ก่อนที่จะค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งอยู่บนเตียง แชมป์นั่งอยู่สักแปปจึงเริ่มค่อย ๆ ตื่นและก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วก็ค่อย ๆ เดินไปยังห้องน้ำ เมื่ออาบน้ำใส่ชุดนักศึกษาเสร็จ “เจ็ดโมงครึ่งแล้วเหรอ…เช้านี้มีเรียนแปดโมงซะด้วย” แชมป์รีบหยิบกระเป๋าและกุญแจเมื่อออกมาจากห้อง

 

ขณะที่คนห้องข้าง ๆ ก็ออกมาจากห้องเหมือนกัน “นี่นาย” “นี่เธอ” ตอนนี้วิวและแชมป์ยืนมองหน้ากันด้วยความตกใจทำให้ทั้งสองคนชะงักไปชั่วครู่ ตอนนี้ทั้งสองคนรู้แล้วว่าทั้งคู่อยู่ห้องข้าง ๆ กัน วิวทำแก้มป่องก่อนจะพูดออกมาว่า “นี่เราต้องมาอยู่ห้องข้าง ๆ กันจริง ๆ เหรอเนี้ย” แชมป์ตอบกลับวิว “เอาเวลาที่มายืนทำแก้มป่องที่ไม่สบอารมณ์กับเรารีบ ๆ ไปมหาวิทยาลัยจะดีกว่ามั้ยล่ะ…สายแล้วนะ” วิวตอบกลับแชมป์ “เราก็เรียนคลาสเดียวกันมั้ยล่ะ” แชมป์จึงมองบนแล้วตอบไปว่า “งั้นก็ไปซิ…รออะไรอยู่ล่ะ”

 

 

ทั้งสองคนเดินลงบันไดมาเรื่อย ๆ จนลงมาถึงหน้าหอ “นี่วิว…แกทำไรอยู่เนี้ยลงมาช้าจัง” เสียงของขิมเพื่อนสนิทวิวลอยมาแต่ไกล ขิมทำหน้าตกใจเล็กน้อยพร้อมเอามือแตะริมฝีปากบาง ๆ ก่อนจะพูดว่า “อ้าว…นั่นนายเมื่อวานนี้นี่ อยู่หอเดียวกันเหรอเนี้ยเราชื่อ ขิม นะ ฝากตัวด้วยนะ เธอแชมป์สินะใช่ป่ะ” แชมป์ตอบกลับขิม “ใช่” วิวรีบเดินเข้ามากอดแขนขิมแล้วพูดกับขิมว่า “ไปกันได้แล้ว”

 

วิวลากแขนขิมเดินห่างจากแชมป์ออกไปเรื่อยืๆ แชมป์ได้แต่ยืนเอามือเท้าเอวและมองอย่างครุ่นคิดก่อนจะเริ่มออกเดินไปยังทางมหาวิทยาลัย และแล้วแชมป์ก็เดินมาจนถึงมหาวิทยาลัยแชมป์มุ่งหน้าต่อไปยังคณะนิเทศทันที “ถึงคลาสเรียนสักที” แชมป์ถอนหายใจพร้อมบ่นกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องเรียนอย่างช้า ๆ แชมป์ได้กวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้อง แชมป์เดินมายังที่นั่งด้านหลังห้องและนั่งลงยังที่ที่ว่างอยู่ “นายอ่ะ…ชื่อแชมป์ใช่ป่ะ”

 

เสียงจากคนที่นั่งข้าง ๆ ได้ถามแชมป์ แชมป์จึงตอบกลับไป “ใช่” จากนั้นคนที่นั่งข้าง ๆ คนนั้นก็แนะนำตัวเอง “เราชื่อ เดล นะ เมื่อวานเราเห็นนายประจัญหน้ากับพี่ธีมพี่เฮดว้ากของคณะเราแล้ว เรานึกไม่ถึงนะเนี้ยว่าจะมีคนกล้าทำแบบนายอ่ะ” แชมป์จึงได้ตอบกลับไป “มันก็คนเราก็คนไม่มีอะไรต้องกลัวนี่นะ…แต่ต่อจากนี้ก็คงจะทน ๆ จนกว่ากิจกรรมมันจะจบ ๆ ไปนั่นแหล่ะ” เดลชี้ไปทางที่วิวนั่งอยู่พร้อมกับพูดว่า “ผู้หญิงคนนั้นที่เป็นประเด็นเมื่อวานชื่อวิวสินะ”

 

 

 

แชมป์จึงทำหน้าเหมือนคนเบื่อโลกแล้วตอบกลับไป “ใช่…แถมที่พีคกว่านั้นคือยัยนั่นดันอยู่หอเดียวกันกับเราซะด้วย” เดลทำหน้าตกใจไปชั่วขณะหนึ่งก่อนจะพูดว่า “นี่มันแค่บังเอิญ…หรือคนบนฟ้าเล่นตลกกันล่ะเนี้ย” แชมป์จึงยกแขนที่วางบนโต๊ะตั้งขึ้นพร้อมกับเท้าค้างก่อนจะตอบเดลกลับไปว่า “ก็ไม่รู้สินะ…แต่ที่รู้แน่ ๆ ชีวิตต่อจากนี้คงไม่สงบสุขแน่นอน”

 

จากนั้นอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้อง “นักศึกษาถึงเวลาเรียนแล้วเตรียมตัวซะ” รศ.ดร.วรรณวารี เยาวพงษ์พันธุ์ เป็นอาจารย์สอนวิชาการสื่อสารและยังเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของพวกเราอีกด้วย “อาจารย์ที่ปรึกษาเรานี่เหมือนเด็กน้อยเลยเน้อ ทั้งตัวเล็ก หน้าก็อ่อน แถมยังเป็นกันเอง ถ้าไม่อ่านชื่อนี่เราคิดว่าเพื่อนร่วมรุ่นแล้วนะเนี้ยนายคิดว่าไงล่ะ” เดลเอ่ยถามแบบกระซิบ “นายชอบอาจารย์เขารึไง” แชมป์กล่าว เดลทำหน้าตกใจไปชั่วขณะก่อนจะตอบแชมป์ว่า “จะเป็นแบบนั้นไปได้ไงล่ะ…เราไม่ได้คิดลึกอะไรขนาดนั้นหรอกหน่า” ตอนนี้แชมป์กำลังนั่งแอบมองวิวอยู่ ไม่มีใครรู้เลยว่าในใจแชมป์ตอนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่และแล้วการเรียนวิชาแรกจบลงไป

 

อาจารย์วรรณวารีก็ได้ฝากงานไว้ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เมื่ออาจารย์เดินออกไปแล้วก็ได้มีชายคนหนึ่งเดินสวนเข้ามาในห้อง ชายคนนี้มีลักษณะ ผิวขาว หน้าใส ไว้ผมทรงราวกับบอยแบนด์เกาหลี ใส่ชุดนักศึกษาและที่คอเขาก็มีสร้อยป้ายรุ่น เขาได้เดินมาหยุดอยู่ที่ตรงกลางด้านหน้าห้อง “พี่ชื่อแดนนะครับ…อยู่ปี 2 เมื่อวานพี่ติดอยู่ที่สภานักศึกษาเลยไม่ได้ร่วมชุมนุมเชียร์ของคณะเรา และวันนี้พี่จะเป็นคนนำว้ากแทนพี่ธีมเองครับ เนื่องจากพี่ธีมเฮดว้ากเขามีปัญหากับเรื่องเมื่อวานนิดหน่อย ยังไงพี่ก็ขอฝากตัวด้วยนะครับ”

 

พี่แดนแนะนำตัวเองอย่างสุภาพ จากเหตุการณ์ตรงหน้าทำให้ทุกคนถึงกับงงไปหมด บ้างก็ซุบซิบว่าทำไมไอ้หมอนี่ถึงต้องเดินมาแนะนำตัวถึงนี่ด้วย บ้างก็ซุบซิบกันไปว่าจะมีเรื่องอะไรกันมั้ยนะวันนี้ ขิมก็กระซิบกับวิวว่า “พี่ธีมคงจะงานเข้าไปแล้ว…ส่วนอีตานี่ถ้าเดินมาแนะนำตัวขนาดนี้เราว่าก็คงไม่เบาเหมือนกัน” วิวถอนหายใจเหือกใหญ่พร้อมกับพูดว่า “หวังว่าวันนี้เราคงจะไม่โดนอะไรอีกนะหัวจะปวด” ขิมยกมือขึ้นมาแตะไหล่วิวพร้อมกับพูดว่า “ก็คงไม่หรอกมั้งแก”

 

จากนั้นพี่แดนก็ได้หันไปทางประตูห้องแล้วก็ค่อย ๆ เดินจนออกจากห้องไป แชมป์ได้เดินมายังที่ ๆ วิวนั่งอยู่ ก่อนที่แชมป์จะได้ยื่นสิ่งของสิ่งหนึ่งให้กับวิว “นี่มัน~” วิวแสดงสีหน้าที่ตกใจ ปนกังวล ปนสงสัย สิ่งที่แชมป์ยื่นให้นั้นมาคือกระดาษป้ายชื่อของวิวที่ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเมื่อวานนั่นเอง แต่ในวันนี้มันกลับมาเป็นแผ่นกระดาษเต็มแผ่นเหมือนเดิมเพียงแต่มันมีทั้งรอยฉีกขาด รอยสก็อตเทปที่ติดรอบไปหมด “เราพยายามต่อมันเพื่อเอากลับมาคืนให้เธอ…และเราก็หวังว่าเธอจะรับมันคืนไปนะ”

 

แชมป์พูดโดยที่มองหน้าวิวตาไม่กระพริบพร้อมกับมือที่ยื่นกระดาษป้ายชื่อให้กับวิว “ทำไมถึงต้องทำขนาดนี้ด้วยอ่ะ…เธอมีเหตุผลอะไรเหรอที่ต้องทำถึงขนาดนี้?” วิวกล่าวถามพร้อมยื่นมือไปขว้าแผ่นกระดาษป้ายชื่อนั้น แชมป์ได้เดินจากวิวไปโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ แชมป์เดินกลับมานั่งยังที่เดิมและหันมองไปยังนอกหน้าต่าง ขณะเดียวกันวิวก็หันมามองแชมป์ด้วยท่าทีที่หลากหลายความคิด หลากหลายความรู้สึก “ที่อีตานั่นเก็บเศษกระดาษป้ายชื่อของแกไปเพราะแบบนี้เองเหรอเนี้ย”

 

ขิมหันไปมองทางแชมป์พร้อมกับพูดกับวิวไปด้วย “เราก็ไม่เข้าใจอีตานั่นจริง ๆ นะ” วิวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนและเบาบาง ขิมหันหน้ามาหาวิวอย่างช้า ๆ และจับที่กระดาษป้ายชื่ออย่างเบามือพร้อมกับพูดว่า “แล้วแกจะใช้มันมั้ย” วิวหันกลับมานั่งเหมือนเดิมและทำหน้าครุ่นคิดโดยที่ไม่ได้ตอบอะไรขิม ตอนนี้ขิมเองก็พอจะมองออกว่าตอนนี้วิวมีหลากหลายความคิดและหลากหลายความรู้สึก ขิมรับรู้ถึงความสับสนของเพื่อนตัวเองแต่สิ่งที่ขิมทำได้ตอนนี้คือนั่งมองอยู่ข้าง ๆ เท่านั้น

 

 

 

 

12.00 น.

 

 

“เที่ยงแล้วไปกินข้าวกันเถอะ…จะได้ไปล่าลายเซ็นต์กันต่อด้วย” เดลกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างดีใจ แต่แชมป์กลับทำหน้าไร้ซึ่งอารมณ์และตอบไปเพียงสั้น ๆ “อืม” ทั้งสองคนจึงลุกออกจากที่นั่งอย่างช้า ๆ ทั้งสองคนได้เดินจากห้องเรียนเพื่อไปยังโรงอาหารของมหาวิทยาลัย ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังเดินเพื่อไปยังโรงอาหารเดลก็ได้ถามกับแชมป์ว่า “เราสังเกตนายมาตั้งแต่มื่อเช้าแล้ว เรารู้สึกว่านายเหมือนมีอะไรในใจสักอย่างแต่ไม่คิดจะเล่าอะไรให้ใครฟัง นายคงจะมีนิสัยเย็นช้าเป็นทุนเดิมด้วยล่ะสินะ นายถึงดูเป็นคนตึง ๆ อยู่ตลอดเวลาน่ะ” แชมป์ยังคงเดินต่อไปเงียบ ๆ เดลจึงถามแชมป์ต่อไปว่า “เรื่องล่าลายเซ็นต์รุ่นพี่คณะเรานายจะเอายังไงอ่ะ”

 

 

 

 

 

แชมป์ค่อย ๆ หันไปมองหน้าเดลและตอบเดลไปว่า “ยังไม่ได้ขอลายเซ็นต์ใครอ่ะ…เผลอ ๆ จะไม่ทำให้ด้วย” เดลทำหน้าตกใจนิด ๆ และถามแชมป์กลับไปว่า “นายไม่กลัวโดนซ่อมหรือไง” แชมป์ตอบกลับเดลทันที “มันอยากซ่อมอะไรก็ให้มันซ่อมมาเหอะไม่แคร์อยู่แล้ว” ในที่สุดทั้งสองคนก็เดินมาจนถึงโรงอาหาร “นั่นมันพี่ธีมกับพี่หว่าหวานี่หว่า” เดลอุทานขึ้นมาพร้อมชี้ไปทางนั้น

 

แชมป์หันไปมองและบอกกับเดลว่า “สรุปจะกินข้าวหรือจะสนใจพวกมัน” เดลหันมาตอบแชมป์ด้วยสีหน้าฉงน “กินข้าวก็ต้องกิน…ลายเซ็นก็ต้องหานี่นะ” เดลทำท่าครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะพูดกับแชมป์ว่า “เราลองไปขอลายเซ็นสองคนนั้นดีกว่า” แชมป์ยกมือขึ้นมาจับไหล่เดลพร้อมกับพูดว่า “อย่าเสี่ยงเลย…เชื่อดิ” เดลหยิบสมุดและปากกาขึ้นมาเดลมุ่งหน้าเดินตรงไปโดยไม่ฟังคำเตือนของแชมป์เลยแม้แต่น้อย แชมป์ได้แต่ยืนส่ายหน้าไปมาอย่างเบื่อหน่าย

 

“พี่ธีม พี่หว่าหวาครับ ผมอยากจะขอลายเซ็นของพี่สองคนหน่อยครับ” ธีมมองหน้าเดลอย่างมีเลศนัยก่อนจะถามเดลว่า “คุณอยากจะได้ลายเซ็นต์ของผมแล้วคุณทำอะไรให้ผมได้บ้างครับ” เดลยื่นสมุดปากกามายังด้านหน้าพร้อมกับพูดว่า “พี่จะให้ทำอะไรพี่สั่งมาได้เลยครับ” ธีมเอื้อมมือรับสมุดจากมือของเดลมา แล้วธีมก็ค่อย ๆ เปิดสมุดดูลายเซ็นต์ของเดลก่อนจะถามเดลว่า “คุณแน่ใจนะ” เดลตอบกลับธีมอย่างทันที “ครับ”

 

 

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!