ตะวันลับขอบฟ้านับดาวกลับจากกองพลเจ้าตัวนั่งลงรับประทานอาหารค่ำกับพ่อแม่ของตัวเองเหมือนอย่างเคยก่อนจะขอตัวขึ้นห้องนอนทันทีเพราะเรื่องบางอย่างที่รบกวนจิตใจของเธอมาตลอดทั้งวัน แม้ว่าจะไม่ทำให้ว้าวุ่นจนไม่เป็นอันทำการทำงานอะไรแต่ก็เข้ามารบกวนจิตใจอยู่ทุกครั้งที่สมองว่างเว้นจากเรื่องงาน
" ถ้าใส่แหวนนี่เข้าไปอีกรอบเราจะย้อนกลับไปที่นั่นอีกรึเปล่านะ แล้ว..... "
" ถ้าไปโผล่ในห้องของผู้หญิงคนนั้นอีก แล้วเราถูกจับได้ขึ้นมาล่ะ! "
" เฮ้อ! แต่ไงก็เถอะอยากจะรู้จริงๆ ว่าผู้หญิงคนนั้นตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง จะอาละวาดจนห้องเละเทะไปหมดหรือว่าจะร้องไห้จนตาบวมไปแล้วรึเปล่านะ... "
" โอ๊ย ไม่เข้าใจตัวเองเลยโว้ย! "
นับดาวโวยวายกับตัวเองเจ้าตัวยีผมของตัวเองจนยุ่งเหยิงกับความไม่เข้าใจตัวเองนี้
" ใช่! เราก็แค่บังเอิญไปเจอเธอก็เท่านั้นเพราะฉะนั้นเราก็ไม่เห็นจะต้องสนใจเธอเลยนี่นา "
เจ้าตัวบอกกับตัวเองอย่างมุ่งมั่นก่อนจะเก็บกล่องกำมะหยี่สีแดงสดตัวปัญหากลับเข้าลิ้นชักไปและปิดมันลงจากนั้นก็ไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า
.
.
" ฮึก ฮึก! ฮื้อ..... "
เสียงสะอื้นร่ำไห้แสนเจ็บปวดแทบขาดใจของหญิงสาวร่างบางที่กำลังนอนร้องไห้อยู่บนเตียงดังเข้ามาในหูทันทีที่ร่างสูงปรากฏตัวยังห้องแห่งนี้ เขาแอบมองเธออยู่นอกเตียงที่มีผ้าม่านสีขาวบางกั้นเอาไว้และหลบอยู่หลังเสาที่ปลายเท้าของเธอ เฝ้ามองเธอด้วยความเห็นใจที่เห็นเจ้าตัวยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุดแม้ว่าจะผ่านพ้นวันมาแล้ว
" เฮ้อ~ " นับดาวถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบากับภาพตรงหน้าที่เห็น
" เวลาคนเราอกหักเนี่ยมันจะต้องมานอนร้องไห้เหมือนอย่างในซีรีส์จริงๆ งั้นเหรอ ไม่เห็นจะเข้าใจเลยโชคดีนะที่ฉันยังไม่เคยมีความรัก " ร่างสูงคิดในใจก่อนจะเผลอพูดออกมาเบาๆ
" เฮ้อ! แล้วนี่ฉัน โสดมานานเกินไปแล้วรึเปล่านะ..."
" อุ๊บ! " ร่างสูงรีบตะครุบปากของตัวเองทันทีที่รู้ว่าเผลอพูดออกไปเสียงดัง แล้วรีบหันดูคนที่กำลังนอนร้องไห้อยู่ว่าจะได้ยินกันหรือเปล่า
" นั่นใคร!! " เสียงแข็งถามขึ้นทันทีอย่างไม่สบอารมณ์หญิงสาวลุกขึ้นนั่งก่อนจะสอดส่องออกมานอกมุ้งมองหาต้นตอของเสียงพูดที่ได้ยินไม่ชัดว่าเป็นของใคร
" ซวยแล้วเรา! " นับดาวคิดในใจ
" แหวนบ้านั่นหายไปไหนอีกแล้วเนี่ย แล้วทำไมห้องมันมืดแบบนี้นะจะไปหาเจอได้ยังไงวะ " เจ้าตัวบ่นกับตัวเองอย่างร้อนรนก่อนจะมองหาแหวนโบราณวงนั้นที่มันหายไปจากนิ้วมือของเธอทุกที
" กูถามว่าใคร!!! " เสียงหวานตวาดลั่นเมื่อไม่ได้รับคำตอบอย่างที่ต้องการ เจ้าตัวสะบัดมุ้งเปิดออกแล้วชะโงกหน้าออกมาดูด้วยความหงุดหงิด
" ตายแน่! " นับดาวมองหาที่ซ่อนให้กับตัวเองแล้วก็ไม่พ้นฉากกั้นห้องอันเดิมเพราะในห้องแห่งนี้มันไม่มีที่อื่นให้เธอซ่อนได้เลย ไม่มีห้องน้ำตู้เสื้อผ้าหรืออะไรทั้งนั้นทั้งหีบใบใหญ่นั่นก็สั้นเกินกว่าที่คนตัวสูงอย่างเธอจะเข้าไปได้
" เพล้ง!!! " เสียงของตกดึงความสนใจขอร่างบางให้หันไปมอง
" อียิ้ม!! อีแย้ม!! นั่นพวกมึงรึ "
" กูบอกพวกมึงแล้วใช่รือว่าห้ามเข้ามาในห้องกู นี่พวกมึงอยากลองดีกับกูรึอีบ่าวชั่ว! "
งามจันทร์เอ่ยก่อนจะลงจากเตียงนอนไม้โบราณอย่างจีนของเธอ แล้วเดินกระแทกส้นไปยังจุดที่ได้ยินเสียงเพราะไม่ว่าเธอจะเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้รับการตอบรับกลับมาสักที
" กูเรียกหาพวกมึงมิได้ยินรึ! อยากจะโดนกูตบอีกสักทีสองทีกระมัง "
ร่างบางเดินมาหยุดอยู่ตรงท้ายห้องพร้อมกับกวาดสายตาไปจนถ้วนทั่ว แต่ก็หาได้พบเห็นผู้ใดไม่นอกเสียจากพานใส่เครื่องประดับของตัวเองที่ตกอยู่กับพื้น
" ซวยแล้ว! " นับดาวเหงื่อแตก เจ้าตัวกำลังยืนตัวลีบอยู่หลังฉากกั้นห้องเพื่อหวังว่าจะทำตัวให้เล็กที่สุดและไม่เป็นที่สังเกตของแม่หญิงผู้นั้น
" มิใช่อียิ้มอีแย้มงั้นรึ… " เสียงของร่างบางดังเข้ามาในหูพาให้ร่างสูงใจสั่น
" จะโดนจับได้ไหมวะตรู " เจ้าตัวได้แต่ร่ำร้องอยู่ในใจ
" แล้วผู้ใดกันอยู่ในห้องของข้าจงออกมาประเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้น… “ งามจันทร์เงียบไปครู่หนึ่งพร้อมกับกวาดมองอย่างหวาดระแวง
“ ข้าจักเรียกให้อ้ายอีพวกบ่าวมาจับไปเฆี่ยนเสียให้สิ้น "
เสียงที่ได้ยินพาให้นับดาวต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินว่าตัวเองอาจจะถูกเฆี่ยนถ้าโดนจับได้
แต่จากเงารางๆ ที่เห็นว่าเจ้าหล่อนกำลังตรงมาทางที่ตัวเองหลบอยู่นั้นนับดาวก็คงจะไม่มีทางเลือกอื่น นอกเสียจากจะต้องจับตัวเธอเอาไว้แล้วหาแหวนเจ้าปัญหานั่นให้พบเพื่อพาตัวเองออกไปจากที่นี่
" ข้าบอกให้ออกมามิได้ยินรึ!!! "
เสียงหวานตวาดลั่นขึ้นอีกครั้งด้วยความขัดใจร่างบางเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเป็นคนสั่งให้อียิ้มและอีแย้มลงไปจากเรือนด้วยตัวเองเพราะความรำคาญ และเพราะเหตุนั้นตอนนี้เธอจึงเป็นเพียงผู้เดียวที่อยู่บนเรือนเล็กนี่
" มึงอยากจักลองดีกับกูสินะถึงได้มิยอมออกมา ดี!! "
งามจันทร์หยุดเดินเจ้าตัวเหยียดยิ้มก่อนจะหันหลังกลับและบอกกับอีกฝ่ายว่าตนจะเรียกให้คนอื่นมาเอาตัวอีกฝ่ายออกมาเอง
" ถ้ามึงมิยอมออกมากูก็จักเรียกให้ไอ้พวกบ่าวมาเอาตัวมึงออกไป!! " หญิงสาวเหยียดยิ้มและตะโกนเรียกบ่าวของเธอทันที
" ไอ้อีผู้ใดอยู่ข้างนอกรีบขึ้นมาหาข้าประเดี๋ยวนี้!!! "
" เฮ้ย! " นับดาวร้องเสียงหลงด้วยความตกใจเมื่อแม่หญิงตรงหน้าทำอย่างที่พูดจริงๆ เธอรีบพุ่งออกมาจากฉากกั้นห้องแล้วเอามือข้างหนึ่งปิดปากของหล่อนเอาไว้ส่วนอีกข้างก็รั้งแผงอกเล็กของคนที่ตัวเล็กกว่าไว้แน่นก่อนจะลากให้ถอยหลังมาด้วยกัน
" อื้อ! อือๆๆ "
" อย่าดิ้นสิ ฉันไม่ทำร้ายเธอหรอกน่า " ร่างสูงบอกคนในอ้อมแขนก่อนที่เธอจะโดนคนตัวเล็กกว่าเล่นงานเข้าให้
" โอ๊ย!!! " มือเรียวรีบสะบัดออกอย่างแรง งามจันทร์กระทืบเท้าเขาเต็มรักและถีบหัวเข่าของอีกคนจนล้มตึง
" โอ๊ย! มันเจ็บนะ นี่เธอเล่นแรงไปแล้วนะยัยนางร้าย " ร่างสูงว่าอีกคนที่กำลังจดจ้องมาที่เธออย่างน่ากลัว
" อีไพร่!! มึงกล้าดีเยี่ยงไรมาจับเนื้อต้องตัวกู มึงเป็นผู้ใดกันมาอยู่ในเรือนแลในหอนอนกูได้เยี่ยงไร "
งามจันทร์มองหญิงสาวร่างสูงตรงหน้าของเธออย่างโมโหและรอคำตอบจากอีกฝ่ายว่าเขาเข้ามาอยู่ในหอนอนบนเรือนของเธอได้อย่างไร
" โอ้โหมาเป็นชุดเลยนะ! " นับดาวว่าก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปหาอีกคน
" มึงหยุดอยู่กรงนั้น! ใครให้มึงมายืนเทียบเสมอกู กูเป็นลูกคุณพระนายเลยหนามึงมิรู้รึ "
" รู้! “ นับดาวตอบกลับในทันที
" เมื่อเช้าพ่อเธอบอกแล้วตอนที่เธอกำลังตบตีคนอื่นเขาอยู่นั่นแหละ เป็นผู้หญิงแท้ๆ แต่ปากคอเราะรายจังเลยนะพูดมึงกูแบบนี้มันไม่เข้ากับหน้าสวยๆ นั่นเลยรู้ไหม " ร่างสูงยิ้ม เธอยิ้มให้อีกคนอย่างไม่เกรงกลัวก่อนจะเดินเข้าไปหาเรื่อยๆ อย่างใจเย็น
" กูบอกให้มึงหยุด! มิได้ยินรึอีไพร่!!! “
ร่างบางตะโกนใส่หน้าอีกคน เจ้าตัวค่อยๆ เดินถอยหลังหนีไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะออกห่างจากเขาโดยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกเขาต้อนไปที่เตียงของตัวเอง
" ชู่! " นับดาวเอานิ้วชี้แตะที่ปากของตัวเองให้ร่างบางตรงหน้าดูก่อนจะส่งยิ้มให้
" เธอเนี่ยชาติที่แล้วเกิดเป็นลำโพงรึไงฮะถึงได้ชอบแหกปากแบบนี้ไม่เจ็บคอบ้างรึไง อีกอย่างถ้าอยากจะด่าฉันก็ด่าเบาๆ น่ะเป็นไหม? "
" ถ้าเธอเสียงดังแบบนี้เดี๋ยวก็ได้แห่มากันทั้งบ้านหรอก ฉันยังหาของสำคัญไม่เจอเลยนะแล้วแบบนั้นฉันจะออกไปจากห้องเธอได้ยังไง "
" หุบปากอีไพร่! " งามจันทร์ตวาดคนตรงหน้าเสียงดังก่อนจะร้องเรียกหาคนอื่นอีกครั้ง
" ผู้ใดอยู่ข้างนอกบ้าง!!! "
" กูถามว่า... อื้อออ "
" ตุ๊บ! " ร่างบางเหลือกตาขึ้นด้วยความตกใจเธอจ้องมองสบตากับคนที่คร่อมอยู่บนตัวของเธอด้วยแววตาตื่นๆ พร้อมทั้งส่งเสียงอื้ออึงในลำคอเพราะถูกเขาใช้มือกดริมฝีปากเอาไว้จนแน่น
ทั้งคู่พากันล้มลงบนเตียงของงามจันทร์นับดาวคร่อมทับอีกคนทั้งตัว เขายกยิ้มขึ้นด้วยความชอบใจและแววตาเจ้าเล่ห์ร้ายกาจนั่นก็ยิ่งทำให้ร่างบางดิ้นออกมา
" อื้อ!!! " งามจันทร์ดิ้นจนสุดแรงเมื่อคนบนตัวเริ่มที่จะทำอะไรแผลงๆ เขาจับข้อมือทั้งสองของเธอพาดขึ้นเหนือหัวก่อนจะมัดเข้ากับเสาเตียงจนร่างบางดิ้นไม่หลุด
" อื้อ!!! อื้อๆๆๆ อื้อ!!! " นับดาวใช้ผ้าคลุมไหล่ที่วางอยู่ยัดเข้าไปในปากเล็กของร่างบางจนอีกฝ่ายพูดไม่ได้
" ฮ่าๆๆ ฉันฟังเธอไม่รู้เรื่องหรอกนะคุณนางร้าย แต่ถ้าเธออยากจะแหกปากละก็เชิญตามสบายเลยถ้าเธอเอามือออกจากหัวเตียงมาดึงผ้าออกจากปากตัวเองได้อะ " นับดาวยิ้ม เธอยืนยิ้มด้วยความพอใจกับผลงานตัวเองที่เห็นอีกคนกำลังดิ้นไปมาไม่หยุดและมองมาที่เธออย่างแค้นเคืองสุดขีด
" นี่ถ้าเธอปรี๊ดแตกควันออกหูขนาดนั้นระวังสมองเธอมันจะบึ้มเอานะ แต่ว่าตอนที่เธอโกรธเนี่ยถึงจะดูร้ายไปหน่อย แต่ฉันว่า.. มันเหมาะกับเธอมากกว่าตอนร้องไห้อีกนะ " ร่างสูงยิ้ม เขาหยิกแก้มนุ่มนั่นไปเบาๆ อย่างมันเขี้ยว และนั่นก็ยิ่งทำให้ร่างบางเหลือกตาด้วยความโมโห
" อื้อ!! อื้อๆๆๆๆๆ "
" โอ้ๆ ใจเย็นๆ โอเคเข้าใจแล้วงั้นขอเวลาฉันแป๊บหนึ่งแล้วกัน " นับดาวบอกอีกคนก่อนที่เธอจะวิ่งวุ่นไปทั่วห้องเพื่อหาของบางอย่าง
" อีไพร่นั่นมันคิดจักทำกระไรของมัน หรือมันคิดจักขโมยของรึ! " งามจันทร์มองหญิงสาวอีกคนที่กำลังเดินไปเดินมารอบๆ ห้องของเธอ
" อื้อออ อื้อๆๆๆ " (อีไพร่มึงปล่อยกูบัดเดี๋ยวนี้นะ)
เธอโวยวายใส่เขาไม่หยุดเพื่อจะเรียกอีกคนให้มาปล่อยเธอแต่อีกคนก็หาได้สนใจเธอแม้แต่น้อย
" เจอแล้ว! " นับดาวยิ้มจนแก้มปริก่อนจะเดินกลับไปหาร่างบางที่ดีดดิ้นอยู่บนเตียง แล้วโน้มตัวลงไปคร่อมทับเอาไว้
" เอาล่ะ ฉันเจอของที่ต้องการแล้วงั้นฉันจะช่วยเอาผ้าที่ปากเธอออกให้เพราะฉะนั้น! เชิญเธอแหกปากอย่างที่ชอบได้เลยไม่อย่างงั้น... เธอคงจะต้องนอนในสภาพถูกเชือกมัดกับเสาเตียงไปตลอดทั้งคืนแน่ "
ร่างสูงยิ้ม เขามองอีกคนที่กำลังจดจ้องมาปานจะบีบคอกันให้ตายอย่างชอบใจ ไหนจะคิ้วโก่งสวยที่ขมวดเขาหากันจนยุ่งเหยิงนั่นอีก นี่เขาบ้าไปแล้วรึเปล่านะถึงได้รู้สึกว่าการแกล้งอีกคนมันเป็นเรื่องสนุกขนาดนี้ และที่สำคัญกว่านั้น...
" ทำไมฉัน... ถึงกำลังมองว่าเธอน่ารักกันนะ "
นับดาวพึมพำออกมาอย่างไม่เข้าใจตัวเอง แต่มันก็ดังพอจะทำให้คนที่กำลังถูกเธอคร่อมอยู่หยุดดิ้นและมองมาที่เธอด้วยแววตาไม่เข้าใจเช่นกัน ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรังเกียจจนร่างสูงดูออก
" กำลังคิดว่าเราเป็นพวกชอบผู้หญิงด้วยกันอยู่ล่ะสิ แต่ว่า.... "
" บางทีที่เธอกำลังคิดอยู่เกี่ยวกับตัวฉัน มันอาจจะจริงก็ได้นะแม่หญิงผู้งดงามปานดวงจันทร์ แม่งามจันทร์.... "
นับดาวยิ้มเจ้าตัวสำรวจไปจนทั่วใบหน้ามนของอีกฝ่ายอย่างจงใจที่จะใช้สายตาหยาบคายในการแทะโลม ก่อนจะต้องประจักแก่ตาและใจตนเองว่าผู้หญิงตรงหน้าของเธอนี้งดงามสมกับชื่อของตัวเองมากแค่ไหน
" ช่างงดงามเสียยิ่งกว่าดวงจันทร์.. "
มือเรียวของร่างสูงค่อยๆ แตะขยับไปที่แก้มนวลของร่างบางอย่างเบามือ เขาจงใจอยากแกล้งอีกฝ่ายแม้ว่าร่างบางจะดีดดิ้นแค่ไหนก็ตาม แต่ก็คงจะไม่หลุดจากเชือกที่เขามัดอยู่ง่ายๆ
" ทั้งใบหน้าที่งดงาม ปลายคางรั้นๆ " เขาไล่นิ้วชี้เรียวยาวของตัวเองลากไล้จากแก้มนุ่มสู่ปลายคางสวยก่อนจะไล่ลงมาที่ลำคอขาว เหลือบมองสันกรามเล็กๆ ที่น่าขบกัดเบาๆ นั่น
" คอขาวๆ นี่ก็... "
" รู้ไหมถ้าฉันเป็นแวมไพร์ละก็... "
ร่างสูงยิ้มเขามองร่างบางอย่างจงใจแกล้ง
" เธอคงจะถูกฉันดูด อ่า~ ไม่สิพูดแบบนั้นความหมายมันจะสองแง่สองง่ามเกินไป จริงไหม? "
“ หึ! “ นับดาวกระตุกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจที่เห็นร่างบางตรงหน้ากำลังจ้องมองกันอย่างกินเลือดกินเนื้อ
" แผงอกเนียนๆ ที่น่าลูบไล้นี่ " มือเรียวลูบไล้ไปตามแผงอกขาวเนียนของอีกฝ่ายก่อนจะลากไล้ผ่านปมผ้าสีอ่อนที่ปิดบังหน้าอกของอีกคนอย่างจงใจ
" หน้าอกนุ่มๆ คู่นี้ " รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เผยออกมาให้กับอีกฝ่ายราวกับคนโรคจิตก่อนจะใช้สายตาเจ้าชู้นั่นแทะโลมหน้าอกของเธออย่างไม่ปิดบัง
เขาก้มลงจูบปมผ้าพันหน้าอกสีสวยนั่นพร้อมกับเผยอริมฝีปากออกงับมันเบาๆ และเหลือบสายตาเจ้าชู้ขึ้นมองอีกคนที่ถลึงตาขึ้นใส่กันอย่างขบขัน
" หรือจะเป็นหน้าท้องแบนราบที่ทั้งขาวทั้งเนียนทั้งนุ่มนี่ ก็หาได้น้อยหน้ากันเลยหนาแม่หญิง " ร่างสูงยิ้มเธอพูดล้อเลียนอีกคนด้วยภาษาของยุคนี้ก่อนจะใช้มือของตัวเองลูบไล้ไปทั่วหน้าท้องขาวของหล่อนจนลงมาถึงปมผ้านุ่งที่ปิดบังส่วนสำคัญของร่างบางเอาไว้พาให้เจ้าตัวต้องสะดุ้งและโวยวายออกมาจนตัวสั่น
" อื้อออ อื้อๆๆๆ อื้อ!!! " หญิงสาวดิ้นไปมาอย่างรุนแรงเพื่อหวังว่าจะหลุดออกจากพันธนาการของร่างที่กำลังคร่อมกันอยู่ แต่เมื่อไม่สามารถขยับออกจากอีกฝ่ายได้เธอจึงกระแทกหัวเข่าใส่ท้องเขาอย่างแรง
" อั๊ก! " นับดาวทิ้งตัวลงทับร่างของงามจันทร์อย่างหมดสภาพทันทีที่โดนกระแทกเข่าเข้าที่หน้าท้องของตัวเองอย่างไม่ทันตั้งตัว
" นี่เธอ.... ท้องฉัน " เจ้าตัวเอ่ยอย่างจุกๆ ก่อนจะคิดเอาคืนโดยการกดจมูกลงบนแก้มนุ่มขาวเนียนนั่นอย่างแรงไปหนึ่งที
" ฟอด! "
" อื้อ! อื้อๆๆๆ "
" อะไร? “
“ ไม่ต้องมาด่าฉันแล้วทำหน้าทำตาน่ากลัวแบบนั้นใส่กันเลยนะ คอยดูถ้าครั้งหน้าเธอถีบหรือเข่าศอกใส่ฉันอีกละก็… “
“ ฉันจะทำมากกว่าหอมแก้มเธอแน่ เข้าใจไหมแม่หญิงนางร้าย " ร่างสูงยิ้มกับอาการของอีกคนเขามองเธอที่ดีดดิ้นไปมาอย่างชอบใจ ก่อนจะรู้สึกสงสารเมื่อเจ้าตัวเริ่มจะโกรธจนหน้าแดงแล้ว
" อื้อๆๆๆ "
" โอเคๆ ฉันจะเอาผ้าที่ปากออกให้แล้วฉันก็จะไปจากที่นี่โอเคไหม อย่าทำหน้าดุนักสิเดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก แล้วก็ "
หญิงสาวยิ้มก่อนจะก้มลงไปกระซิบที่หูของร่างบางให้เจ้าตัวต้องร้องอื้ออึงอยู่ในลำคอไม่หยุด
" ไว้จะมาเล่นด้วยใหม่อีกนะ ดีไหม? "
" อีไพร่มึง!!!! " ทันทีที่ริมฝีปากสวยเป็นอิสระจากผ้าที่ยัดอยู่ร่างบางก็อ้าปากด่าเขาทันที
" ชอบจริงๆ เลยนะคำว่าไพร่เนี่ย เอาเถอะในยุคของฉันไม่เจ็บกับคำแค่นี้หรอกนะเพราะฉะนั้นก็เชิญเธอด่าตามสบายเลยก็แล้วกัน อีกอย่างดูเหมือนว่าฉันจะแก่กว่าเธอหลายปีนะแต่ก็ไม่คาดหวังให้เธอเรียกฉันว่าพี่หรอก แค่ฉันอยากเรียกเธอว่าน้องก็เท่านั้นเอง " นับดาวว่าเจ้าตัวยักคิ้วใส่อีกคนอย่างกวนๆ จนร่างบางขมวดคิ้วโมโหแล้วด่าเขากลับ
" มึงมิต้องมาเรียกกูว่าน้อง! อีไพร่สันดานชั่วอย่างมึงกูมิมีวันจักนับญาติกับคนจัญไรอัปรีย์อย่างมึง!!! "
" เธอเนี่ยชักจะปากร้ายขึ้นทุกทีแล้วนะ เฮ้อ.... "
" เอาเถอะก่อนที่เธอจะพ่นอะไรออกมามากกว่านี้ฉันว่าฉันไปก่อนดีกว่า เธอก็พยายามเข้านะเพราะถ้าเธอไม่พยายามเธอก็คงจะต้องนอนในสภาพนี้ไปทั้งคืนแน่ แต่จะว่าไปแบบนี้... มันก็เซ็กซี่ดีนะ "
ร่างสูงว่าเขาทิ้งท้ายเอาไว้ให้หญิงสาวโกรธมากขึ้นแม้จะไม่รู้ว่าเธอจะเข้าใจความหมายของคำว่าเซ็กซี่หรือเปล่าก็ตาม
" ไปล่ะ แล้วพรุ่งนี้เจอกันราตรีสวัสดิ์นะคะน้องงามจันทร์... "
" เดี๋ยวอีไพร่มึงกลับมาก่อน มึงกลับมาแก้มัดให้กูประเดี๋ยวนี้เชียว อีไพร่! อีไพร่กูบอกให้มึงกลับมาไง อีไพร!!!"
ร่างบางตะโกนตามหลังคนที่เข้าไปหลบอยู่หลังฉากกั้นห้องของเธอ
" หึ เสียงดีแบบนี้พรุ่งนี้เห็นทีคงจะต้องเอายาอมแก้เจ็บคอมาฝากซะแล้วมั้ง "
ร่างสูงส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะสวมแหวนวงเดิมกลับเข้าที่นิ้วนางข้างซ้ายของตัวเองแล้วปล่อยให้มันนำพาเขากลับมาที่ห้องนอนของตัวเองในช่วงเวลาปัจจุบัน
" เฮ้อ.... "
นับดาวทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของตัวเองทันทีที่กลับมาถึง ใบหน้าของเขามีแต่รอยยิ้มที่ไม่จางไปตั้งแต่อยู่ที่ห้องของร่างบาง
" งามจันทร์... "
เจ้าตัวเอ่ยเรียกชื่อของแม่หญิงคนสวยด้วยรอยยิ้มก่อนจะส่ายหัวในความปากร้ายของหล่อนที่เจอมาวันนี้
" เธอนี่มันปากร้ายจริงๆ เลยนะ และฉันเองก็คงจะเสียสติไปแล้วที่คิดว่าเธอน่ะเป็นคนน่ารักมากกว่าที่เห็น "
" หรือว่าฉันจะเป็นพวกโรคจิตจริงๆ กันนะ เพราะแบบนั้นฉันก็เลยยังไม่เคยมีแฟนกับเขาสักทีเหรอ "
" ไม่หรอกมั้ง? ฉันว่าฉันก็ปกติเหมือนคนอื่นๆ แหละ "
หญิงสาวพูดกับตัวเองอย่างสับสนเจ้าตัวเอาหน้าของตัวเองกลิ้งไปกลิ้งมาบนหมอนใบใหญ่ของตัวเองก่อนจะนอนหงายอย่างหมดแรง แล้วลุกขึ้นเดินออกมามองพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่ระเบียงห้องนอน
" ตกลงแล้ว เธอเป็นแม่หญิงที่..." ร่างสูงมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนยังจันทร์เสี้ยวดวงเล็กและอมยิ้มออกมา
" ร้ายกาจแค่ไหนกันนะงามจันทร์... "
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 25
Comments
Ánh sáng
สนุกมากค่ะ ต่อให้รู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา 🤪
2025-05-01
1