ผลิกวสันต์เหนือชะตาลิขิต
สำนักตระกูลกง
การหาลือที่เลี่ยงมานานของสำนักในที่สุดผู้อาวุโสก็ไม่อาจนิ่งนอนใจได้อีกต่อไป เพราะเมื่อสองปีก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สายเลือดแห่งตระกูลกงล้มหายตายจากไปจากการแทรงแซงของอู๋เฟิง ถึงเวลาที่ต้องเลือกคู่ครองให้กับวัยเยาว์อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากกงหยวนจื่อ ผู้นำคนต่อไปของจื่อกงที่เข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัว
"พี่อยู่ๆผู้อาวุโสก็ของเรียกหาลือแบบนี้มันยังไงกัน" กงหยวนจื่อถามพี่ชาย
"ข้าก็ไม่รู้ ความคิดของผู้อาวุโสยากจะคาดเดาได้" กงซ่างเจวี่ยตอบน้องชายอย่างขบขัน เพราะรู้ว่ายังไงวันนี้ก็ต้องมาถึง
สองพี่น้องในชุดสีดำดูน่าเกรงขามก้ามเข้าสู่โถงใหญที่เบื้องหน้ามีประมุขและผู้อาวุโส จนไปถึงหัวหน้าสายซางกงก็มารออยู่ก่อนแล้วเช่นกัน
จากสถานะการณ์ตรงหน้าดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับทั้งสำนัก ทุกครั้งที่มีการรวมตัวกันโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าเช่นนี้มักมีเรื่องใหญ่รออยู่เสมอ
"ที่เรียกมากระทันอย่างนี้ ก็เพราะไม่อาจผลัดต่อไปได้อีก ท่านประมุขมีความเห็นเช่นไร" ผู้อาวุโสเสวี่ยถาม
"เห้อ~ ข้าเองก็ยื้อให้เจ้าได้จนถึงวันนี้ก็เพราะเห็นว่าเจ้าดูยังไม่รู้ความ แต่เมื่อผู้อาวุโสเสวี่ยเร่งข้าต่อหน้าแบบนี้ก็คงต้องรีบแล้วจริงๆ" กงจื่ออวี่ประมุขตระกูลกงครุ่นคิดอย่างหนัก
"นี่อย่าบอกนะว่าข้าจะมีน้องสาวเพิ่มมาอีกแล้วน่ะ" กงจื่อซางพูดอย่างกระตืนรือร้น
".." กงซ่างเจวี่ยเองก็ได้แต่ตบไหล่น้องชาย
"ข้าหรอ? นี่พวกท่านกำลังพูดถึงข้าหรอ?" กงหยวนจื่อเริ่มโวยวายด้วยความสับสน
"หยวนจื่อ" กงซ่างเจี๋ยวหันหน้าน้อยชาย "หัวหน้าสายสำนักตระกูลจะขาดทายาทไม่ได้" เขาตบไหล่น้องชายเบาๆ
"หัวหน้าสายก็ที่นี่กันหมดนี่ไง" กงหยวนจื่อตอบงงงง
"ตอนนี้สายจื่อกงเหลือผู้สืบทอดเพียงเจ้า หากเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าสายตรงจื่อกงจะขาดสะบั้นสร้างความเสียหายไม่น้อย" ผู้อาวุโสเสวี่ยอธิบายเหตุผลแก่ทุกคน
"กงหยวนจื่อ เจ้าได้เข้าพิธีสวมกวานไปร่วมสองเดือนแล้ว ควรพูดถึงเรื่องคู่ครองได้แล้ว" ผู้อาวุโสเยว่เอ่ยเสริมถึงประเด็นหลักในการถกเถียงวันนี้
"ทางผู้อาวุโสได้หาลือเรื่องเจ้าสาวของเจ้ากับข้าก่อนหน้านี้แล้ว หลังนางเข้าปักปั่นจะมีการส่งตัวเจ้าสาวมาที่ตระกูลกง เจ้าก็ควรเตรียมตัวให้พร้อม" กงจื่ออวี่ประมุขตระกูลเอ่ย
"แล้วนางเป็นใครกัน หญิงสาวในหุบเขาที่ถูกส่งตัวมา" กงหยวนจื่อถามอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้ใจจริงจะไม่ค่อยพอใจนัก
"เกรงว่าเจ้าจะไม่เคยพบนางที่หุบเขานี่หรอก" กงจื่ออวี่เอ่ยอย่างขบขัน
"สำนักตระกูลฟ่าน.. บุตรีแห่งสำนักตระกูลฟ่าน" ผู้อาวุโสเสวี่ยเอ่ยตบท้าย
"ข้าเคยได้ยินข่าวลือว่านางร่างกายไม่แข็งแรง ไม่น่าอยู่ได้ถึงวัยปักปั่นด้วยซ้ำ" กงหยวนจื่อถามด้วยความสงสัย หรือที่ได้ยินมาเป็นเพียงแค่ข่าวลือจริงๆกัน
"ก็เพราะแบบนั้น.. ถ้านางเข้าสู่วัยปักปิ่นได้จะถูกส่งตัวเข้าตระกูลกง เจาะจงเป็นเจ้าสาวของเจ้า.. จื่อกงที่ค้นคว้าสมุนไพร และครอบครองไป๋เฉ่าชุ่ย" กงซ่างเจวี่ยเอ่ยด้วยความสงบนิ่ง
"พวกท่านจะบอกว่าตระกูลฟ่านต้องการการคุ้มครองชีวิตลูกสาว เลยส่งนางมาเป็นเจ้าสาวข้างั้นหรอ แล้วข้า.. ไม่สิตระกูลเราจะได้อะไรจากเรื่องนี้กัน เสียเปรียบเห็นๆ" กงหยวนจื่อไม่สบอารมณ์ต่อเหตุการณเสียเปรียบตรงหน้า
"นั้นคือในกรณีที่ปักปิ่นได้สำเร็จ" ผู้อาวุโสเยว่เน้นย้ำคำพูดที่แฝงว่าหากนางสามารถรอดชีวิตถึงจะมีการแลกเปลี่ยนเกิดขึ้นต่างหาก ทำให้ทุกสายตาจับจ้องไปที่ฝั่งของผู้อาวุโส
"ตระกูลกงสามารถส่งองค์รักษ์หยกเหลือเข้าร่วมกลุ่มข่าวกรองลับตระกูลฟ่าน หน่วยข่าวกรองของตระกูลฟ่านเรื่องลื่อกันทั่วว่าเป็นสถานที่ที่สามารถได้ข้อมูลของทั่วทุกมุมแคว้น ทำถึงขนาดนี้เพียงเพื่อแลกการรักษาชีวิตบุตรึ ทางเราต่างหากที่ได้กำไร ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธข้อเสนอดีๆแบบนี้" ผู้อาวุโสเยว่ตอบด้วยสายตามุ่งมั่นในฐานะหมอคนหนึ่ง
"งั้นหรอ" แม้จะไม่พอใจในตัวเจ้าสาวแต่ข้อเเลกเปลี่ยนก็ถือว่าไม่เลว "ก็แค่คนไข้คนนึงที่ฐานพิเศษขึ้นมาหน่อย ข้าดูแลให้สบายได้อยู่แล้ว" กงหยวนจื่อกอดอกและยักไหล่ให้กับเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป
การหารือดูผ่านไปด้วยดีกงหยวนจื่อยอมรับคุณหนูตระกูลฟ่านเข้าจื่อกงในฐานะ 'เจ้าสาวจำเป็น' อันที่จริงสายตระกูลกงล้วนเลือกเจ้าสาวจากการส่งตัวเข้าตระกูลอยู่ก่อนแล้ว แต่ด้วยช่วงอายุที่ยังเยาว์เกินไปและเติบโตเคียงข้างพี่ชายแต่เพียงผู้เดียวจึงทำให้ไม่อาจเข้าใจหลักเหตุผลของการแต่งงานได้แบบง่ายๆ และมีปฏิกริยาต่อต้านอยู่เนืองๆ แต่ใครจะรู้ว่าการรับเจ้าสาวเจ้าเพียงคนเดียวจะสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งตระกูลกงตั้งแต่ก้าวแรกที่นางได้เข้าสู่สำนัก
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments